Last updated: 14 ธ.ค. 2563 | 1421 จำนวนผู้เข้าชม |
ย้อนกลับไปยุคบุกเบิกราวปี 1874 แม้เพียเจต์ (Piaget) จะเป็นเพียงโรงงานผลิตชิ้นส่วนกลไกที่เริ่มต้นจากเวิร์คช็อปขนาดย่อมในโรงนาของครอบครัว แต่แบรนด์แทบไร้คู่ต่อสู้ – เพราะทุกชิ้นส่วนและกลไกคุณภาพสูงที่พัฒนาขึ้น ล้วนถูกกว้านซื้อโดยบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำในแถบ Swiss Jura เพื่อนำไปรังสรรค์เรือนเวลาของตนเองทั้งสิ้น จนกระทั่งปี 1943 หลานและบุตรชายของ Georges Edouard Piaget ผู้ก่อตั้ง ได้พาแบรนด์เข้าสู่การปฏิวัติครั้งสำคัญ โดยจดทะเบียนบริษัทในชื่อของ “เพียเจต์” และเริ่มผลิตเรือนเวลาภายใต้แบรนด์ของตนเองตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
โดยเฉพาะการรังสรรค์กลไกและเรือนเวลาที่มีความเพรียวบางเป็นพิเศษ ถือเป็นสิ่งที่เมซงยึดมั่นมาตลอดนับตั้งแต่เปิดตัวกลไก 9P ในปี 1957 ที่มีความหนาเพียง 2 มิลลิเมตร จนกลายเป็นนาฬิการะบบกลไกที่บางที่สุดในโลก ณ ขณะนั้น หรือจะเป็นกลไก 12P กลไกอัตโนมัติที่บางที่สุดในโลก ที่เปิดตัวในปี 1960 ด้วยความหนาเพียง 2.3 มิลลิเมตร
จนถึงปัจจุบัน เมซงรังสรรค์กลไกขึ้นภายในโรงงานของตนเองไปแล้วกว่า 50 คาลิเบอร์ โดยเกินกว่าครึ่งเป็นกลไกที่บางสุดขั้ว (Ultra-thin) ซึ่งมีมากถึง 35 กลไกเลยทีเดียว และเพื่อสร้างสถิติความบางอันเหลือเชื่ออย่างต่อเนื่อง ปี 2017 แบรนด์ยังได้ใส่ฟังก์ชั่นฟลายอิ้ง ตูร์บิญองที่สลับซับซ้อน โดยหลอมรวมเข้ากับชิ้นส่วนที่ทั้งบางและเบาเป็นพิเศษถึง 157 ชิ้น อีกด้วย
Piaget Infinitely Personal – The Personalisation Process
Personalisation หรือ การปรับแต่งเรือนเวลาในแบบฉบับของตัวเอง ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับแบรนด์ที่คร่ำหวอดในแวดวงนาฬิกามากว่า 146 ปี อย่าง เพียเจต์ เพราะตั้งแต่เปิดตัว "Style Selector" ครั้งแรกที่เพียเจต์ บูติค นิวยอร์ก ช่วงทศวรรษที่ 1960 นวัตกรรมดังกล่าวก็เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายเรื่อยมา
โดยลูกค้าสามารถเลือกรูปแบบของตัวเรือน วัสดุที่นำมาทำเป็นหน้าปัดและสายรัดข้อมือ หรือแม้แต่เทคนิคการฝังเพชร ผ่าน Look Book ที่เมซงคัดสรรไว้ ก่อนส่งต่อให้โรงงานเพียเจต์ในสวิตเซอร์แลนด์ผลิตเรือนเวลาในฝันที่คุณต้องการ – จากจุดเริ่มต้นในอดีต ส่งผลให้เพียเจต์ บูติคทั่วโลกนำนวัตกรรม "Style Selector" ไปใช้ เพื่อเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้อย่างเฉพาะเจาะจงมากที่สุด และนี่คือเหล่าชิ้นงานที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นหนึ่งเดียวกับตัวตนของผู้สวมใส่ อาทิ
I. Altiplano Fingerprint ปี 2005 ที่แพทเทิร์นการฝังเพชรบนพื้นหน้าปัดถอดรหัสมาจากลายนิ้วมือของลูกค้านั่นเอง
II. Piaget Polo Tourbillon Relatif ปี 2008 นาฬิกาเรือนแรกที่เมซงผสานเทคนิคลงยาและแกะสลักไว้ทั่วทั้งตัวเรือน ไม่ว่าจะเป็น พื้นหน้าปัด, ขอบตัวเรือน, ตัวเรือน และ ฝาหลัง
III. สร้อยคอคอลเลคชั่น Possession ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2020 ก็ใส่กิมมิคการแกะสลักเป็น Option ให้ลูกค้าเช่นกัน
จากความสำเร็จเรื่อยมาของ "Style Selector" ปัจจุบันเมซงจึงนำไปเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจในการพัฒนาโปรแกรม Personalisation ตัวใหม่อย่าง The Piaget Infinitely Personal Concept ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าคนสำคัญได้มีส่วนร่วมในการรังสรรค์ที่สุดแห่งเรือนเวลาถึง 2 รุ่นด้วยตนเอง อย่าง AUC หรือ อัลติพลาโน อัลติเมท คอนเซ็ปต์ (Altiplano Ultimate Concept) เรือนเวลาระบบกลไกที่บางที่สุดในโลก ที่สามารถรังสรรค์ได้มากกว่า 195,000 รูปแบบ
ขณะที่เพียเจต์ อัลติพลาโน ตูร์บิญอง (Piaget Altiplano Tourbillon) ปรับแต่งดีเทลได้อย่างน่าทึ่ง ทำให้ได้เรือนเวลาที่แตกต่างกันมากถึง 4 ล้านดีไซน์ โดยเมซงได้พัฒนา Configurator ของอัลติพลาโน ตูร์บิญอง ให้สามารถเลือกตัวเรือนได้ถึง 2 ขนาด (38 หรือ 41 มิลลิเมตร) ยิ่งไปกว่านั้นวงแหวนรอบตูร์บิญองของทั้ง 2 โมเดลก็ถือเป็นอีกซิกเนเจอร์ที่เหล่าเพียเจต์ โซไซตี้ให้ความสำคัญไม่แพ้ตัวเรือน เพราะนอกจากจะเลือกวัสดุหรือประดับเพชรได้แล้ว ยังสามารถสลักข้อความเฉพาะตัว (Personal Message) ได้อีกด้วย หรือจะเลือกซุกซ่อนไว้บริเวณฝาหลังก็สามารถทำได้ตามชอบใจ ส่วนสายหนังจระเข้ก็มีให้เลือกมากกว่า 25 แพทเทิร์น
สัมผัสเรือนเวลาและเครื่องประดับชั้นสูงจากเพียเจต์ (Piaget) ได้แล้ววันนี้ ณ เพียเจต์ บูติค โดย เอส ที ไดเมนชั่น ชั้น M สยามพารากอน โทร. 02-610-9678
21 เม.ย 2564