Last updated: 31 ส.ค. 2564 | 929 จำนวนผู้เข้าชม |
"ความเที่ยงตรงแม่นยำสร้างซึ่งพลังเสมอ
และการจับวัดเวลานั้นอยู่คู่เคียงกับการพิชิตซึ่งความเร็วเสมอเช่นกัน
เวลาจึงเป็นเพียงสิ่งเดียวที่สำคัญ"
Mr. Ulysse Nardin ได้ก่อตั้งบริษัทขึ้นในเมืองเลอโลค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ค.ศ. 1846 ด้วยชื่อของเขาที่ประทับบนนาฬิกาจนทุกวันนี้ เขาและทายาทผู้สืบทอด Paul-David Nardin ร่วมเดินหน้าสร้างชื่อเสียงอันโดดเด่นในฐานะช่างนาฬิการะดับมาสเตอร์ของการประดิษฐ์รังสรรค์นาฬิกา Marine chronometers สำหรับกองทัพเรือชื่อดังต่างๆ ทั่วโลก ทั้งยังคว้าชัยชนะจากการแข่งขันด้านความล้ำเลิศของเครื่องบอกเวลามากมาย รวมถึงได้รับคำสั่งซื้ออุปกรณ์อันจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางทางทะเล เขาได้เดินหน้าส่งมอบผลงานการประดิษฐ์คิดค้นของตนให้กับกองทัพเรือ กว่า 50 กองทัพ รวมถึงสถาบันที่มุ่งศึกษาถึงรูปร่างและพื้นผิวโลก ตลอดจนหอสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์อีกมากมาย และนั่นทำให้บรรดานาฬิกาพกโครโนมิเตอร์ของ Ulysse Nardin นั้นได้รับการยกย่องและเป็นที่ตามหาสูงสุดโดยเหล่านาวิกโยธินและกัปตันพ่อค้าจากทั่วโลก
ประวัติศาสตร์ทางทะเลอันโดดเด่นนี้ยังได้นำทางมาสู่การสร้างสรรค์นาฬิการุ่นไอคอนิก อย่าง Marine Chronometer ด้วยการแสดงออกอย่างสูงสุดถึงสมรรถนะทางเทคนิคและงานออกแบบอันทันสมัย และในปี ค.ศ. 2017 เรายังได้เห็นผลงานนาฬิกาโครโนมิเตอร์เจเนอเรชั่นใหม่ที่รังสรรค์ขึ้นสำหรับยุคสมัยใหม่ นั่นคือ Ulysse Nardin Marine Torpilleur ที่ตั้งชื่อตามเรือเร็วขนาดเล็กในยุคแรกๆ ด้วยความคล่องตัวและรวดเร็วที่ทำให้มั่นใจว่าสามารถเอาชนะในเชิงกลยุทธ์เหนือบรรดาเรือที่มีขนาดใหญ่กว่า และนี่คือเรือนเวลาสำหรับนักสำรวจร่วมสมัย ด้วยเวอร์ชั่นที่เบากว่าและบางกว่านาฬิการุ่นไอคอนิกอย่าง Ulysse Nardin Marine Torpilleur นี้รังสรรค์ขึ้นสำหรับเหล่านักสำรวจผู้มีจิตวิญญาณอิสระอย่างแท้จริง
นาฬิกา Chronometry ที่จำเป็นต้องอาศัยทักษะสูงสุดจากทุกๆ การสร้างสรรค์ผลงานเครื่องบอกเวลานี้ได้กลายเป็นพรมแดนอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียวของ Ulysse Nardin นับตั้งแต่ปี 1846 โดยเดินตามรอยประเพณีความเชี่ยวชาญในการประดิษฐ์นาฬิกาที่สืบทอดมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัท จวบจนกระทั่งในช่วงศตวรรษที่ 18 นาฬิกา Marine chronometer ซึ่งมีความเที่ยงตรงแม่นยำที่เพียงพอสำหรับใช้ในการเดินทางสำรวจระยะไกลได้ผ่านบททดสอบแรกๆ ของการเป็นอุปกรณ์สำหรับนำทางการเดินเรือ ที่ ณ เวลานั้น นาฬิกาเหล่านี้ได้ทำหน้าที่เป็นเสมือนอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นในการหาลองจิจูด ซึ่ง ณ เวลานั้น Deck Chronometer ถือเป็นอุปกรณ์จำเป็นในฐานะเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ซึ่งทำหน้าที่เหมือนกับ GPS หรือระบบเรดาร์สำหรับเรือรบ
ปี 2021 แบรนด์ Ulysse Nardin ในฐานะผู้ครองชัยชนะแห่งมิติเวลาหรือ Chronometry นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1846 พร้อมเปิดตัวแนะนำกองทัพเรือนเวลาใหม่ของ Marine Torpilleur (มารีน ทอร์พิลเลอร์) รวม 7 รุ่น เพื่อร่วมถ่ายทอดถึงเรื่องราวแห่งความเชี่ยวชาญและเทคนิคการสร้างสรรค์เครื่องบอกเวลาชั้นสูงที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน 175 ปีของแบรนด์ ทั้งการสร้างสรรค์เทคโนโลยีซิลิเซียม, ทูร์บิญองและตำนานแห่งดาราศาสตร์ รวมถึงโครโนกราฟ งานลงยาภายในห้องปฏิบัติการของตนเองและงานออกแบบสร้างสรรค์ ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญลักษณ์แห่งความล้ำเลิศของเรา
นาฬิกา Marine Torpilleur ซึ่งเปิดตัวในปี ค.ศ. 2017 ถือเป็นตัวแทนแห่งรากเหง้าและประวัติศาสตร์ของ Ulysse Nardin ที่ได้ร่วมสมทบอยู่ในครอบครัวเรือนเวลาอันมีชื่อเสียงโด่งดังของนาฬิกาโครโนมิเตอร์ในคอลเลกชั่น Marine นับจากศตวรรษที่ 19 เมื่อเหล่านักสำรวจได้ออกเดินทางสู่ห้วงมหาสมุทรพร้อมด้วยนาฬิกาโครโนมิเตอร์บนดาดฟ้าเรือของพวกเขา นาฬิกาที่ในวันนี้ยังคงเป็นตัวแทนถึงนวัตกรรมและพลังสร้างสรรค์อันเปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์สู่อนาคต อย่าง Marine Torpilleur และเพื่อเฉลิมฉลองห้วงเวลาสำคัญในโอกาสครบรอบ 175 ปี Ulysse Nardin ได้ขยายผลงานจากคอลเลคชั่น Marine Torpilleur ให้กว้างขวางยิ่งขึ้นด้วยกลไกใหม่สองชุด รวมถึงความสลับซับซ้อน จักรกลโครโนกราฟ และหน้าปัดลงยา นาฬิการุ่นใหม่ทุกรุ่นผลิตในจำนวนจำกัด โดยประดับลายเซ็นของ Chronometry since 1846 ไว้บนหน้าปัดย่อยแสดงวินาทีที่ 6 นาฬิกา และหน้าปัดย่อยแสดงนาทีที่สว่างขึ้นเมื่อเทียบกับคอลเลกชั่นหลัก
โดยนาฬิกา 7 รุ่นใหม่ของ Marine Torpilleur เปิดตัวภายในงาน Geneva Watch Days ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองหลวงแห่งการประดิษฐ์สร้างสรรค์นาฬิกาสวิส นาฬิกา Marine Torpilleur นับเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่แห่ง Ulysse Nardin เช่นเดียวกับปรัชญาแห่งความล้ำเลิศและการเสาะแสวงหาซึ่งความเที่ยงตรงแม่นยำอย่างไม่สิ้นสุด ที่ยังคงโอบล้อมและธำรงรักษาไว้โดยผู้ผลิตนาฬิกาสวิสแห่งเมืองเลอโลค และลาโช-เดอ-ฟง ตราบจนวันนี้
อุปกรณ์อันเที่ยงตรงแม่นยำทั้ง 7 เรือนล้วนมีรหัสของนาฬิกา Marine Chronometer ในอดีต เช่น ขอบตัวเรือนเซาะร่อง ตัวเลขโรมัน และหน้าปัดย่อยคู่ แต่ละรุ่นติดตั้งเอปเคปเมนท์ซิลิเซียม มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและมีดีไซน์ของตนเอง โดยสืบทอดมรดกและรหัสแห่งประวัติศาสตร์ของแบรนด์ โดยมี Marin Torpilleur Blue Enamel ผลงานระดับไอคอนของคอลเลกชั่น ที่ประกอบด้วย Panda, Moonphase หน้าปัดสีขาว, Moonphase หน้าปัดสีน้ำเงิน, Chronograph หน้าปัดสีขาว, Chronograph หน้าปัดสีน้ำเงิน และ Tourbillon Grand Feu Enamel (หน้าปัดสีดำ) ในตัวเรือนทองโรสโกลด์ ประกอบด้วยสายหนังจระเข้ ซึ่งทุกรุ่นยังรองรับกับสาย R-strap ทำจากอวนตกปลารีไซเคิล นาฬิกาแต่ละเรือนจึงมีความโดดเด่นเฉพาะตัวเฉกเช่นเดียวกับผู้สวมใส่ และพร้อมจะอยู่เคียงข้างไปกับเหล่าสาวก Ulysses ยุคใหม่ ณ จุดสูงสุดแห่งการเดินทางบนท้องทะเลอันแสนวิเศษของพวกเขาผ่านทุกๆ การผจญภัยอันยิ่งใหญ่ของชีวิต
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ PMT The Hour Glass
29 พ.ย. 2567
3 ธ.ค. 2567
3 ธ.ค. 2567
29 พ.ย. 2567