ULYSSE NARDIN The Freak [X OPS]

Last updated: 14 ก.ย. 2566  |  1094 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ULYSSE NARDIN The Freak [X OPS]

นับตั้งแต่ปี 2001 ผลงาน Freak ได้ฉีกกฎเกณฑ์ของการผลิตนาฬิการะดับไฮเอนด์แบบดั้งเดิม ด้วยการเปิดตัวผลงานที่มาพลิกโฉมนาฬิกาชั้นสูงของสวิส แต่ยังคงรักษาบรรทัดฐานด้านสุนทรียศาสตร์ทางเทคนิค นำเสนอนาฬิกาที่ไม่มีหน้าปัด ไม่มีเข็ม และไม่มีเม็ดมะยม ยังคงเป็นผลงานนาฬิกากลไกจักรกลที่รังสรรค์ขึ้นโดยช่างนาฬิกาที่ชำนาญงานในการผลิต

ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา นาฬิการุ่น Freak ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการผลิตนาฬิกาแห่งศตวรรษที่ 21 และเป็นนาฬิกาเรือนแรกสำหรับนักสะสมแห่งสหัสวรรษ ปูทางไปยังจุดหมายแห่งความสำเร็จที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งทำให้มีแบรนด์นาฬิกาอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วนได้เดินตามรอยทางนับตั้งแต่นั้นมา ภาพลักษณ์ของการผลิตนาฬิกาจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป – เพราะว่าคือ The Freak

เรื่องราวของ The Freak ยังคงได้รับแรงผลักดันอย่างต่อเนื่อง ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม ทั้งวัสดุที่หลากหลายที่ไม่คาดคิดมาก่อน และในปี 2019 Ulysse Nardin ได้ก้าวข้ามแบบแผนของ Freak ที่แหกกฏด้วยการเปิดตัว Freak X เรื่องราวเป็นอย่างไรเหรอ? ยังคงไม่มีหน้าปัด ยังไม่มีเข็ม แต่มีเม็ดมะยม

สัญลักษณ์นอกกรอบที่แทนที่สัญลักษณ์นอกกรอบหรือไม่?

Freak X มุ่งเน้นไปที่นักสะสมรุ่นใหม่ รูปร่างของนาฬิกาถูกปรับทำให้เรียบง่ายขึ้น – เพิ่มเม็ดมะยม – แต่ก็ยังคงแสดงออกถึงการออกแบบนาฬิกาอะนาล็อกที่แปลกตา สะพานจักรกลยังคงทำหน้าที่เป็นเข็มนาฬิกา กลไกดังกล่าวยังถูกพัฒนา เช่น บาลานซ์วีลซิลิคอนน้ำหนักที่มีน้ำหนักเบาพร้อมนิกเกิลฟลายเวท
ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูแปลกตาอย่างเห็นได้ชัด สร้างความแตกต่างอีกครั้ง นี่คือผลงานที่ชวนให้หลงใหลได้ง่าย ๆ

THE FREAK [ X OPS ]
Goes into stealth mode

ณ งาน Watches and Wonders ที่เซี่ยงไฮ้ ทาง Ulysse Nardin ได้นำ Freak X มาปรับโฉม กลายเป็นผลงาน Freak [X OPS] เฉกเช่น "ปฏิบัติการ" ตัวเรือนไทเทเนียมเคลือบ DLC สีดำ ขอบตัวเรือนและเม็ดมะยมจากคาร์บอนไฟเบอร์ผสมสีเขียวกากี เข้าคู่กับสายนาฬิกา สื่อถึงแรงบันดาลใจแห่งการผจญภัยครั้งใหม่กับ Freak [X OPS]

วัสดุของตัวเรือนที่เป็นนวัตกรรมที่เคยใช้ในตัวเรือนของ Freak X Magma ที่มีส่วนผสมของคาร์บอนไฟเบอร์และอีพอกซีเรซินลายหินอ่อนสีแดง ที่นี่ส่วนผสมกับอีพอกซีเรซินสีเขียว

สีเขียวให้ความรู้สึกหรูหราแต่สบายๆ เสริมด้วยสายนาฬิกาผ้า ดึงดูดความสนใจของนักสะสมสายสปอร์ตและนักผจญภัย นาฬิกาชั้นสูงที่เหมาะกับทุกคน การออกแบบที่พลิกหลักการของระบบการบอกเวลาแบบดั้งเดิมให้กลายเป็นนาฬิกาข้อมือที่มีแนวคิดแหวกแนว

เรื่องราวเบื้องหลังของ Ulysse Nardin มีความเชื่อมโยงกับการสำรวจและความเชี่ยวชาญชำนาญ ในช่วงเริ่มต้น บริษัทได้สร้างโครโนมิเตอร์ให้กับนักเดินเรือนทางทะเล ผู้บุกเบิกและจัดหาเครื่องมือนำทางที่เป็นนวัตกรรมชั้นเลิศให้กับกองทัพเรือชั้นนำของโลกหลายประเทศ จิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกแบบเดียวกันนี้อยู่ภายในนาฬิกา Freak [X OPS] ที่รวบรวมความหลงใหลในการค้นหาโลกใหม่และการแสดงออกที่สอดรับกับแนวคิดที่กลายเป็นที่ยอมรับ

หัวใจที่ขับเคฃื่อนนาฬิกาคือกลไกไขลานอัตโนมัติ UN-230 ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่าง UN-118 และ UN-250 สุดยอดไฮเทคที่ทำให้ Freak Vision มีรูปลักษณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน พร้อมประสิทธิภาพที่สามารถกันน้ำได้ลึก 50 เมตร

Take Over
The FREAK [ X OPS ] is highly technical

ไม่มีหน้าปัด
โดยปกติแล้ว นาฬิการะบบกลไกจะซ่อนการทำงานไว้ใต้หน้าปัด แต่ Freak [X OPS] ไม่มีหน้าปัด การเคลื่อนที่จะเหมือนกับเข็มนาที ในขณะที่เวลาชั่วโมงจะแสดงผลผ่านจานหมุนที่อยู่ใต้กลไก

ไม่มีเข็ม
Freak [X OPS] แหวกแนวไม่มีทั้งเข็มใหญ่และเข็มเล็ก แต่ทูร์บิญองแบบหมุนในวงโคจรหนึ่งชั่วโมงกลับกลายเป็นเข็มนาที และเข็มชั่วโมงจะถูกแทนที่ด้วยตัวชี้บนจานหมุน การออกแบบที่ท้าทาย แต่กลับอ่านค่าเวลาได้อย่างง่ายดาย

หนึ่งในประเภท
Freak [X OPS] มาพร้อมขอบตัวเรือนที่ผลิตจากคอมโพสิตคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาพิเศษของ Ulysse Nardin ซึ่งเป็นวัสดุที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปแบบที่ผิดปกติของเหล็กดามัสกัส ที่เปิดตัวในปี 2019 ผลิตโดยการทอเส้นใยคาร์บอนด้วย (ในกรณีนี้) อีพอกซีสีเขียว เรซินทำให้มีรูปลักษณ์สามมิติดูมีเอกลักษณ์ หนึ่งเดียวไม่เหมือนใคร

ชั่วโมงแห่งความมืด
Freak [X OPS] ขับเคลื่อนด้วยกลไก UN-230 ซึ่งเป็นกลไกไขลานอัตโนมัติที่สามารถสำรองพลังงานได้ 72 ชั่วโมง กลไกชุดนี้มีบาลานซ์วีลและเฟืองที่ผลิตจากซิลิคอนถูกแขวนไว้ด้วยสะพานจักรกลที่ทำหน้าที่เป็นเข็มนาที สะพานชุดที่สองทำหน้าที่เป็นเข็มชั่วโมง

แสงสีเขียว
ขีดแสดงค่าเวลาชั่วโมงและนาทีเคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® สีเขียวกากีที่เข้ากัน ซึ่งจะเรืองแสงเป็นสีเขียวในสภาวะแสงน้อย

The Original Freak, A Freak Event
การมาเยือนของ FREAK 20 ปีที่ผ่านมา กำลังใจของ Ulysse Nardin

ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 การฟื้นฟูการผลิตนาฬิกาของสวิสกำลังดำเนินไปด้วยดี ผู้ประกอบการชาวสวิสจำนวนหนึ่งได้หันมายึดเอาจิตวิญญาณแห่งประเพณีการผลิตนาฬิการูปแบบใหม่ ซึ่งค้นพบความเคารพต่อมรดกและคุณภาพของอุตสาหกรรม และเริ่มกระบวนการสร้างภาคส่วนขึ้นมาใหม่ซึ่งในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 ได้ถูกกลบโดยเทคโนโลยีของกลไกควอตซ์จากจากผู้ผลิตนาฬิกาประเทศอื่นๆ

Mr.Rolf Schnyder ผู้มีวิสัยทัศน์คนหนึ่งที่มองเห็นศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดของนาฬิกาจักรกล เขาต้องการนำมรดกและชื่อเสียงของ Ulysse Nardin ให้หวนกลับคืนมา ด้วยแนวความคิดของนาฬิกาข้อมือร่วมสมัยที่สร้างสรรค์อย่างมีชีวิตชีวาให้กับผู้ชื่นชอบนาฬิการุ่นใหม่

แต่เพื่อที่จะทำเช่นนั้นได้ เขาจำเป็นต้องมีตัวอย่างของนาฬิกาที่มีภาพลักษณ์ที่ชัดเจนและขยายพลังใหม่ในการผลิตนาฬิกาของสวิส ความทะเยอทะยานที่เพิ่มขึ้นของ Ulysse Nardin คือแรงพลักดันทางด้านการออกแบบที่พุ่งพรวดที่จะเขย่าวงการและเบนความสนใจของกลุ่มผู้ซื้อนาฬิกากลไกรุ่นใหม่ เบื้องหลัง ที่ทาง Mr.Schnyder กำลังทำงานร่วมกับ Dr.Ludwig Oechslin ช่างนาฬิกาอัจฉริยะเพื่อรังสรรค์นาฬิการูปแบบใหม่ ที่จะไม่มีหน้าปัด ไม่มีเข็ม และไม่มีเม็ดมะยม ซึ่งผลงานนั้นจะมีชื่อเรียกเดียวเท่านั้น คือ Freak

การเปิดตัวในปี 2001 ได้เขย่าวงการ ไม่เพียงแต่การออกแบบและกลไกที่แหวกแนวเท่านั้น (การตั้งเวลาถูกกำหนดโดยการหมุนขอบตัวเรือนและและการสะสมพลังงานจะทำได้โดยการหมุนผ่านด้านหลังตัวเรือน) ผลงาน Freak ยังเป็นนาฬิกาสวิสเรือนแรกที่มีกลไกไขลานที่ทำจากส่วนประกอบในการผลิตนาฬิกาแบบใหม่: ซิลิคอน. ซิลิคอนมีน้ำหนักเบาและยืดหยุ่น ไม่มีการเสียดสี มีคุณสมบัติต้านทานสูง ช่วยทำให้มีความทนทานสูง ปัจจุบันการใช้ซิลิคอนในการผลิตนาฬิกาถือเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อถึงช่วงเปลี่ยนผ่านของสหัสวรรษ นับเป็นการปฏิวัติครั้งใหม่ ที่นาฬิกา Freak เป็นรายแรก

และผลงานนาฬิการุ่นอื่นๆ ก็เผยโฉมตามมาในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา นาฬิกา Freak ได้ปรากฏตัวในรูปแบบต่างๆ มากมาย และยังถูกใช้เป็นผลงานในการทดสอบเทคโนโลยีขั้นสูงอีกด้วย แต่ในใจมันยังคงเหมือนเดิม นั่นคือ Freak

Back in Time
ในช่วงสองทศวรรษ นาฬิกา Freak ได้พัฒนาการออกแบบนาฬิกาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนี้คือลำดับนาฬิการุ่นต่างๆ

2001
FREAK [2001]


Freak รุ่นแรกในปี 2001 ถือเป็นผลลัพธ์ในการผลิตนาฬิการะดับไฮเอนด์ของสวิส นอกจากจะไม่มีหน้าปัด ไม่มีเข็มนาฬิกา และไม่มีเม็ดมะยมแล้ว นาฬิกาเรือนนี้ยังเป็นนาฬิการะบบกลไกเรือนแรกในประวัติศาสตร์ที่ใช้วงล้อฟันเฟืองทำจากซิลิคอน ปัจจุบัน ซิลิคอนถือเป็นเรื่องปกติในการผลิตนาฬิกา แต่ Freak เป็นผู้บุกเบิกเริ่มต้น

2007
FREAK [DIAMONSIL]


Ulysse Nardin ยังคงถือว่า Freak เป็นดั่งเครื่องมือทดสอบนวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง DIAMonSIL ซึ่งเป็นซิลิคอนเคลือบผงเพชรที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ได้เพิ่มคุณประโยชน์ด้านประสิทธิภาพให้กับกลไกนาฬิกา ซึ่งยังคงใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน

2010
FREAK [DIAVOLO]


การเปลี่ยนแปลงรุ่นต่อรุ่นของ Freak มาพร้อมกับ Freak Diavolo การเปิดตัวทูร์บิญองแบบหมุนครั้งที่สอง คราวนี้เป็นทูร์บิญองแบบ “Flying” ซึ่งทำให้กลไกเคลื่อนที่จากขอบด้านในของตัวเรือน ชื่อนี้ได้มาจากกระสวยสีแดงที่กักเก็บพลังงานสำรองซึ่งสามารถมองเห็นได้ผ่านฝาหลัง

2018
FREAK [VISION]


การเปลี่ยนแปลงอีกขั้นหนึ่งมาพร้อมกับผลงาน Freak Vision ซึ่งเป็นคอลเลกชั่นแรก Freak ที่มีระบบขึ้นลานอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีบาลานซ์วีลขนาดใหญ่พร้อมไมโครเบลดที่ทรงตัว และการส่งพลังงานที่คงที่ นวัตกรรมนี้ได้รับการจดสิทธิบัตรสามรายการรวมอยู่ใน Freak Vision

2019
FREAK [X]


Freak ดั้งเดิมได้ทำลายแบบแผนเก่าๆ แต่ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา ได้กำหนดรูปแบบขึ้นมาใหม่อย่างต่อเนื่อง ทางแบรนด์ต้องการสร้าง Freak ที่เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น ช่างนาฬิกาของ Ulysse Nardin ได้ปรับกลไกให้เรียบง่ายขึ้น และเพิ่มเม็ดมะยมเพื่อปรับตั้งค่าเวลา ถือเป็นต้นแบบของ Freak รุ่นต่อไป

2022
FREAK [S]


The Freak นั้นเป็นการพัฒนาทางด้านเทคนิค แต่ทำให้ดูสนุกยิ่งขั้น นั้นเป็นที่มาของ Freak S ที่ออกแบบกลไกที่เคลื่อนไหวแบบหมุนที่ดูเหมือน "ยานอวกาศที่มีเครื่องปฏิกรณ์คู่" เบื้องหลังความสวยงามคือล้อบาลานซ์สปริงสองวงที่เชื่อมโยงกับดิฟเฟอเรนเชียลเพื่อเพิ่มประสิทธภาพในความแม่นยำ

2023
FREAK [ONE]


การพัฒนาปรับรูปแบบครั้งใหม่กับผลงาน Freak ONE ซึ่งรับการออกแบบที่ดูลงตัว มาพร้อมหลักการเดียวกัน ที่ไม่มีหน้าปัด ไม่มีเข็ม และเม็ดมะยมดังเดิม นำเสนอในตัวเรือนไทเทเนียมเคลือบ DLC สีดำและสีโรสโกลด์เท่านั้น ควบคุมการทำงานด้วยแฮร์สปริงซิลิคอนและเอสเคปเมนต์ที่เคลือบด้วย DIAMonSIL นาฬิกา Freak ONE มาพร้อมระบบการขึ้นลานอัตโนมัติ Grinder® ที่สามารถสำรองพลังงานได้ 90 ชั่วโมง

About Ulysse Nardin
Ulysse Nardin เป็นผู้ผลิตที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมหาสมุทร ผลิตนาฬิกาขั้นสูงสำหรับนักสำรวจที่แสวงหาอิสรภาพ ก่อตั้งโดย Mr. Ulysse Nardin ในปี 1846 บริษัทที่มีชื่อเสียงในด้านการเชื่อมโยงกับท้องทะเล: โครโนมิเตอร์สำหรับเดินเรือทางทะเลเป็นหนึ่งผลงานนาฬิกาที่ได้รับรางวัลและความไว้วางใจในการออกแบบมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

Ulysse Nardin ผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมและการใช้วัสดุไฮเทค เช่น ซิลิเซียม เป็นหนึ่งในผู้ผลิตแบบบูรณาการเพียงไม่กี่รายที่มีความเชี่ยวชาญภายในการผลิตส่วนประกอบและกลไกที่มีความเที่ยงตรงแม่นยำสูง โดยในปี 2001 เมซงได้เปลี่ยนโฉมหน้าของการผลิตนาฬิกาแบบร่วมสมัยด้วยการเปิดตัว Freak รุ่นแรก

เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นที่มีต่อสภาพแวดล้อมทางทะเล Ulysse Nardin จึงได้สนับสนุนการอนุรักษ์มหาสมุทรโดยมุ่งเน้นไปที่สองประเด็นหลัก: การส่งเสริมการรีไซเคิลเพื่อลดมลพิษจากพลาสติกในทะเล และพัฒนาความรู้ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการอนุรักษ์ฉลามซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของมหาสมุทร

ปัจจุบัน ในเมือง Le Locle และ La Chaux-de-Fonds ของสวิตเซอร์แลนด์ Ulysse Nardin ยังคงทุ่มเทให้กับการค้นคว้าหาความสมบูรณ์แบบในการผลิตนาฬิกาในสี่คอลเลกชัน ซึ่งได้แก่ Marine, Diver, Blast และ Freak
ในปี 2022 Ulysse Nardin และ Girard-Perregaux ได้รวมกลุ่มก่อตั้งโรงงานผลิตนาฬิกาอิสระที่รังสรรค์เครื่องบอกเวลาชั้นสูง


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้