BLANCPAIN Inside the manufacture

Blancpain หนึ่งในแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1735 และยังคงสร้างสรรค์ผลงานอันยอดเยี่ยมออกมาอย่างต่อเนื่อง แม้ปัจจุบันจะรวมเข้ามาอยู่ในกลุ่มของ Swatch Group แต่จิตวิญญาณดั้งเดิมของแบรนด์ที่เริ่มต้นจาก Jehan-Jacques Blancpain ช่างนาฬิกาแห่งหมู่บ้าน Villeret ยังคงได้รับการสืบทอดมาพร้อมการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน Blancpain รังสรรค์ผลงานนาฬิการะดับสูงทั้งในแบบคลาสสิกที่งามสง่าในวิถีดั้งเดิม เสริมด้วยความซับซ้อนอันน่าอัศจรรย์ ในคอลเลกชั่น Villeret, นาฬิกาที่เปี่ยมด้วยงานศิลป์อันเป็นเลิศที่สร้างความตื่นตาตื่นใจเสมอกับ Metiers d'Art รวมถึงนาฬิกานาฬิกาดำน้ำโมเดิร์นเรือนแรกของโลกซึ่งมีอายุครบ 7 ทศวรรษในปีนี้อย่าง Fifty Fathoms และนาฬิกานักบินอย่าง Air Command กับนาฬิกาสำหรับผู้หญิงที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อให้สะท้อนความเป็นผู้หญิงได้อย่างโดดเด่นอย่าง Ladybird ซึ่งเป็นคอลเลกชั่นหลักๆ ทุกผลงานสร้างสรรค์ล้วนอยู่บนพื้นฐานที่สะท้อนผ่านมอตโตของแบรนด์ Innovation is our Tradition และรังสรรค์จากโรงงานและเวิร์กช้อปสองแห่ง ที่ตั้งอยู่ในบริเวณหุบเขา Vallée de Joux ซึ่งเปรียบเหมือนซิลิคอนวัลเลย์ของอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกา โรงงานแห่งแรกอยู่ใน Le Sentier และอีกแห่งอยู่ใน Le Brassus ซึ่งห่างกันไม่มากนัก ความครบถ้วนสมบูรณ์ในด้านการผลิต ทำให้ Blancpain เป็นหนึ่งในไม่กี่แบรนด์บนโลกที่ผลิตทุกชิ้นส่วนของนาฬิกาที่โรงงานของตัวเอง

สถานที่การผลิตทั้งสองแห่งของ Blancpain แบ่งเป็นเวิร์กช้อปใน Le Sentier และ The Farm ในเมือง Le Brassus เป็นเวิร์กช้อปที่ Louis-Elysée Piguet ตั้งขึ้น เพื่อสร้างสรรค์นาฬิกากลไกซับซ้อน หนึ่งในนั้นก็คือ Merveilleuse ซึ่งเป็นนาฬิกากลไกซับซ้อนที่สุดในยุคนั้น และสร้างชื่อเสียงให้กับเขา ซึ่งแม้แต่ผู้ผลิตนาฬิการายใหญ่ในเจนีวานำกลไกที่รังสรรค์จากเวิร์กช้อปแห่งนี้ไปประกอบนาฬิกาที่ขายในชื่อแบรนด์ต่างๆ ปัจจุบัน สถานที่แห่งที่สองนี้ก็ยังคงเป็นพื้นที่ในการสร้างสรรค์กลไกซับซ้อนสูง พร้อมๆ กับการรังสรรค์งานเชิงศิลป์อันเป็นเลิศ

อาคารทันสมัยขนาดใหญ่ของเวิร์กช้อปทันสมัยใน Le Sentier เป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนของชุดกลไกพื้นฐาน น่าเสียดายที่เราไม่สามารถถ่ายภาพข้างใน แต่บอกเล่าถึงประสิทธิภาพของการผลิตให้ฟังผ่านตัวอักษรแทน ภายในเวิร์กช้อปแห่งนี้แบ่งออกเป็นแผนกต่างๆ แบ่งเป็น T0, T1 และ T2 ซึ่งมีพนักงานกว่า 700 คน ทำงานในทุกขั้นตอนของการผลิตนาฬิกา ตั้งแต่แนวคิดเริ่มต้นสู่การออกแบบชุดกลไก และการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ทั้งชิ้นส่วนกลไก ตัวเรือน รวมไปถึงการทดสอบในแต่ละขั้นตอนที่เต็มไปด้วยเข้มงวด เพื่อให้ได้ชิ้นส่วนที่มีความสมบูรณ์แบบอันจะส่งผลต่อการทำงานของกลไกทั้งชุด และแผนกบริการหลังการขายก็อยู่ในอาคารแห่งนี้เช่นเดียวกัน

นอกเหนือจากการผลิตชิ้นส่วนแล้ว เวิร์กช้อปแห่งนี้ยังผลิตเครื่องมือที่ใช้ในการผลิตด้วย โดยใช้เครื่องในการผลิตที่แยกออกจากเครื่องมือผลิตชิ้นส่วนทั่วไป เครื่องมือเหล่านี้ใช้ในการตัดชิ้นส่วนต่างๆ ที่ใช้ประกอบเป็นชุดกลไก ซึ่งถ้าชุดกลไกหนึ่งมีชิ้นส่วน 200 ชิ้น ก็ต้องมีเครื่องมือ 300 ชิ้นในการผลิตเช่นกัน เพราะ Blancpain ผลิตเครื่องมือตัดเองเป็นส่วนใหญ่ จากส่วนการผลิตเครื่องมือ เราเดินต่อมายังแผนการตัดชิ้นส่วนที่มีเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีแกนหมุนหลายแกนภายใน ซึ่งได้รับการตัดโปรแกรมไว้สำหรับตัดชิ้นส่วน เคาะ และเจาะชิ้นส่วนกลไกที่ทำจาก brass ด้วยความแม่นยำสูง และในแผนก Ebauches ก็ใช้เครื่องจักรในการตัดแท่นเครื่อง สะพาน สปริง คันดยกและส่วนประกอบที่ทำด้วยโลหะ เครื่องจักรเหล่านี้ได้รับการควบคุมและดูแลโดยช่างที่มีความขำนาญ ในขณะที่แผนกกลึงในเวิร์กช้อปเผยให้เห็นการผลิตโรเตอร์หรือตุ้มเหวี่ยงที่ผลิตจากทองคำสำหรับกลไกอัตโนมัติ ซึ่งโรเตอร์ของ Blancpain ส่วนใหญ่ทำด้วยทองคำ ยกเว้นนาฬิกา Ladybird ที่ใช้โรเตอร์แพลทินัม ซึ่งผลิตจากที่นี่เช่นเดียวกัน

จากโรงงานใน Le Sentier มุ่งหน้าสู่ The Farm ตามที่ชาว Blancpain เรียกขาน ซึ่งเป็นเวิร์กช้อปใน Le Brassus ที่อยู่ไม่ไกลกันเท่าไร เวิร์กช้อปแห่งนี้มีอายุเก่าแก่ย้อนไปได้ถึงปี 1859 เป็นที่ซึ่ง Louis-Elysée Piguet สร้างขึ้นเพื่อเป็นเวิร์กช้อปสำหรับการผลิตกลไกซับซ้อน ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงสืบทอดความตั้งใจแรกเริ่มไว้ โดยเป็นเวิร์กช้อปสำหรับเหล่าช่างนาฬิการะดับปรมาจารย์ที่สร้างสรรค์กลไกซับซ้อนสูงของ Blancpain เช่น กลไกตีบอกเวลา minute repeater, กลไกจับเวลาพร้อมกันสองรายการของ split-second chronographs, กลไก tourbillon และ carrousel รวมไปถึงกลไกปฏิทินร้อยปี perpetual calendar

ในชั้นแรกของเวิร์กช้อปแห่งนี้ มีผลงานนาฬิการุ่นต่างๆ ให้ชมพร้อมกับเรื่องราวของแบรนด์ ความสวยงามสะท้อนผ่านการตกแต่งภายในด้วยไม้ธรรมชาติ ที่ให้ความรู้สึกสงบและงามสง่าในเวลาเดียวกัน ทั้งยังเผยความซับซ้อนของการแสดงชิ้นส่วนกว่า 740 ชิ้นของนาฬิกา 1735 Grand Complication ที่ผลิตขึ้นในปี 1991 จัดวางในตู้ไม้แยกแต่ละชิ้นส่วนพร้อมแว่นขยายให้ดูกันอย่างเต็มตาถึงความประณีตในแต่ละชิ้นส่วนที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม

ในส่วนของแผนกกลไกซับซ้อนจะถูกแบ่งอยู่ในแผนกต่างๆ ของ Tourbillon Atelier ที่ซึ่งทำให้เราได้เห็นผลงานซับซ้อนที่เป็นเลิศ และมีเพียง Blancpain เท่านั้นที่นำสองกลไกอย่าง tourbillon และ carrousel มาผสานรวมกันไว้บนนาฬิกาเรือนเดียว ซับซ้อนน่าพิศวง เที่ยงตรงและงดงามสุดอัศจรรย์อย่างแท้จริง ช่างนาฬิการะดับปรมาจารย์ยังบอกด้วยว่า ความท้าทายที่สุดไม่ใช่การประกอบชิ้นส่วน tourbillon แต่เป็นการปรับตั้งชุดกลไกนี้ให้ทำงานผสานกับกลไกจักรกลหลัก ซึ่งต้องผ่านการคำนวณอย่างแม่นยำในทุกตำแหน่งการปรับตั้งทั้ง 6 ตำแหน่ง เพื่อให้กลไกทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำที่สุด

เวิร์กช็อปแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ของเหล่าช่างนาฬิการะดับเทพที่รับหน้าที่สร้างกลไกซับซ้อนเท่านั้น แต่ยังมีแผนก Métier d’Arts ที่ทำหน้าที่ตกแต่งพื้นหน้าปัดและชิ้นส่วนต่างๆ ด้วยเทคนิคเชิงศิลป์หลากหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นงานแกะสลักบนชิ้นส่วนกลไกและพื้นหน้าปัด งานเคลือบสีลงยาอีนาเมลที่มีเทคนิคย่อยๆ อีกหลายแขนง หรืองานจุลจิตรกรรมของภาพวาดย่อส่วนขนาดเล็ก ที่สำคัญคือทุกผลงานสร้างสรรค์ด้วยมือของช่างศิลป์เฉพาะทางที่มีอยู่เพียงไม่กี่คนที่จะมีความชำนาญชั้นสูงเช่นนี้ ในหลายชิ้นงานนั้นเป็นการสั่งทำพิเศษจากลูกค้าคนสำคัญ และก็ทำให้กลายเป็นผลงานที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก