Last updated: 14 พ.ย. 2566 | 1361 จำนวนผู้เข้าชม |
URWERK (อูร์เวิร์ค) ร่วมฉลองครบรอบ 15 ปี PMT The Hour Glass ด้วยการนำเสนอผลงานนาฬิกาซีรีส์ใหม่อย่าง URWERK: UR-100V PMT The Hour Glass 15th Anniversary นาฬิกาประดับอัญมณีสุดพิเศษจำนวน 3 เรือน เปรียบเสมือนตัวแทนแห่งความร่วมมืออันดีงามตลอดทศวรรษที่ผ่านมา
URWERK เผยโฉมนาฬิกาสามเรือนที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก UR-100V PMT The Hour Glass 15th Anniversary สัญลักษณ์แห่งมิตรภาพที่ผสมผสานความร่วมมือมากกว่า 10 ปีที่ผ่านมา
สีน้ำเงิน ประดับประดาด้วยไพลิน ในเฉดสีรอยัลบลู เพื่อสื่อถึงความประทับใจที่ผู้ก่อตั้ง URWERK มีต่อความงดงามของประเทศไทย ที่ซึ่งเขามีโอกาสได้มาเยือนหลายต่อหลายครั้ง และยังตั้งใจสื่อถึงความสง่างามและความบริสุทธิ์ในคราวเดียวกัน
สีแดง สะท้อนซึ่งเปลวเพลิงแห่งอิสรภาพ ในฐานะแบรนด์นาฬิกาอิสระ ‘อิสรภาพ’ ย่อมมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะสิ่งนี้คือ จุดแข็งของแบรนด์ และยังเป็นดั่งเชื้อเพลิงที่ช่วยเติมเต็มพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์
สีเขียว สีแห่งความสงบสุข สื่อถึงความรู้สึกแรกที่ผู้ก่อตั้งแบรนด์ URWERK มาถึงแผ่นดินไทย ความรู้สึกเสมือนได้ก้าวเข้าสู่แหล่งพักพิงอันเงียบสงบและปลอดภัยยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำไม่รู้ลืม
แซฟไฟร์ ทับทิม มรกต ส่องแสงระยิบระยับ บนตัวเรือนของ UR-100V PMT The Hour Glass 15th Anniversary ทั้งสามผลงาน สะท้อนถึงการเดินทางก้าวข้ามผ่านกาลเวลาและห้วงอวกาศ แนวคิดทั้งสองถูกถ่ายทอดลงนาฬิกาเดียวกัน ดึงดูดประสาทสัมผัสการรับรู้อันละเอียดอ่อนแต่แฝงไว้ด้วยลูกเล่นของ “เวลาหรืออวกาศ” และ “นาทีหรือกิโลเมตร” การนำมาตรวัดทั้งสองส่วนมาหลอมรวมเข้าด้วยกัน เชื้อเชิญให้ร่วมชื่นชมเรื่องราวอันสุดประทับใจของการเดินทางบนท้องฟ้า นอกเหนือจากการแสดงเวลาชั่วโมงและนาทีผ่านเทคโนโลยีดาวเทียมแล้ว ด้วยมิติใหม่ของการแสดงเวลา การเคลื่อนที่ของเข็มนาทีหลังจากครบ 60 นาทีแล้ว จะหายไปและกลับมาอีกครั้ง โดยทำหน้าที่บอกหน่วยนับกิโลเมตร แปลมาตรวัดจากการเดินทางอันเงียบงันในจักรวาล การเคลื่อนที่ของโลกหมุนรอบแกนตัวเองในทุกๆ 20 นาที ซึ่งจะเดินทางประมาณ 555 กิโลเมตร นี่คือความเร็วของโลกที่หมุนรอบเส้นศูนย์สูตร ส่วนทางด้านตรงข้ามจะมาพร้อมมาตรวัดการหมุนของโลกรอบดวงอาทิตย์ ซึ่งมีค่าเท่ากับ 35,740 กิโลเมตรต่อ 20 นาที มาตรการนี้เป็นเครื่องเตือนใจในฐานะมวลมนุษยชาติ เวลาชั่วโมงและระยะทางกิโลเมตรที่ปรากฏ ล้วนมีความสำคัญ ดังนั้นนาฬิกานี้จึงมีชื่อเรียกว่า UR-100V “SpaceTime”
"สำหรับผม นาฬิกามีมิติทางปรัชญาที่ชัดเจน เสมือนการจำลองสถานการณ์บนโลกทั้งทางกายภาพและเชิงนามธรรม หน้าปัดดูเหมือนเส้นศูนย์สูตรที่เคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ได้เปลี่ยนรูป" Martin Frei หัวหน้าฝ่ายออกแบบและผู้ร่วมก่อตั้ง URWERK กล่าว และ Felix Baumgartner ช่างนาฬิการะดับมาสเตอร์และผู้ร่วมก่อตั้ง URWERK ยืนยันว่า “เวลา ที่เปลี่ยนแปลงและการหมุนของโลก ทางแบรนด์ได้นำความคิดนี้มาพัฒนากลไกที่ควบคุมโดยแกนสามส่วน พารามิเตอร์ที่ทำหน้าที่ควบคุม จึงเรียกว่า Space-Time”
ใต้โดมกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ของ UR-100V บรรจุกลไก URWERK Caliber 12.01 ซึ่งทำหน้าที่ขับเคลื่อนการแสดงเวลาชั่วโมงผ่านระบบดาวเทียม การแสดงค่าเวลาผ่านตัวเลขที่เข้าใจง่าย เคลื่อนที่จาก 0 ถึง 60 นาที โดยชิ้นส่วนประกอบนี้ผลิตจากอะลูมิเนียมพ่นทรายและพ่นอโนไดซ์ด้านหลัง สกรูทรงกลมแซทเทิลไลท์แต่ละตัวเคลือบพื้นผิวแบบซาติน ชิ้นส่วนรับสัญญาณดาวเทียมถูกติดตั้งอยู่บนสะพานจักรกลทองเหลืองแบบพ่นทรายและเคลือบด้วยรูทีเนียมอีกชั้น โครงสร้างที่ปิดส่วนบอกเวลาทำจากอะลูมิเนียมพ่นทราย กลไกขึ้นลานอัตโนมัติของ UR-100V รับพลังงานจากโรเตอร์ทรงใบพัด Windfänger ที่สามารถส่งพลังได้จากการหมุนแบบสองทิศทาง
ความสวยงามของตัวเรือน UR-100V ชวนให้หวนนึกถึงความหลังอันน่าประทับใจ แน่นอนว่าเรื่องราวเหล่านี้ทำให้ผู้ชื่นชอบ URWERK นึกถึงสุนทรียศาสตร์ของนาฬิกาจากแบรนด์อิสระในยุคแรก ๆ “ในช่วงปลายยุค 90 ทางแบรนด์ได้เปิดตัวนาฬิกา UR-101 และ UR-102 โดยทาง UR-100V การออกแบบค่อนข้างจะ 'Back to the Future' ของแบรนด์” Martin Frei กล่าวว่า “เราได้ทบทวนองค์ประกอบบางอย่างจากการออกแบบแรกสุดของแบรนด์และแยกโครงสร้างตามแนวทางที่ทางแบรนด์สนใจ ตัวเรือน UR-100V เป็นการพัฒนาโครงสร้างตัวเรือนของ URWERK ที่มาพร้อมโดมสเตนเลสสตีลของรุ่นในอดีตที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นมาใหม่ด้วยรูปแบบที่ดูโปร่งสบายตาผลิตจากกระจกแซฟไฟร์ ความสมบูรณ์แบบถูกตอกย้ำด้วยความแข็งแกร่งทนทานของตัวเรือนไทเทเนียมและสเตนเลสสตีล ซึ่งหลายคนมักตั้งคำถามถึงการกำหนดสัดส่วนให้ดูสมมาตร การออกแบบของผมจึงเล่นกับรูปทรงและสัดส่วนเพื่อท้าทายสายตาของผู้ที่พินิจนาฬิกาเรือนนี้อย่างละเอียด”
เกี่ยวกับ URWERK
“เราไม่ได้พยายามที่จะนำเสนอเวอร์ชันใหม่ของความสลับซับซ้อนสูงสุดที่มีอยู่เดิม” ฟีลิกซ์ โบมการ์ตเนอร์ (Felix Baumgartner) ช่างนาฬิกามาสเตอร์และผู้ร่วมก่อตั้งอูร์เวิร์ก กล่าว
“นาฬิกาของเราล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียว ด้วยเพราะแต่ละรุ่นนั้นจำเป็นต้องอาศัยซึ่งความพยายามในการออกแบบอย่างทุ่มเท ซึ่งนั่นสร้างให้ผลงานเหล่านี้เป็นดั่งของหายากและมิอาจประเมินค่าได้ โดยเป้าหมายของเราคือการก้าวไปเหนือกว่าขอบฟ้าแห่งประเพณีของการประดิษฐ์นาฬิกา”
การออกแบบสไตล์ดั้งเดิมของนาฬิกาอูร์เวิร์ก แต่ละรุ่นนั้นได้เซ็นลายมือไว้โดยหัวหน้านักออกแบบ มาร์ติน ไฟร (Martin Frei) อีกหนึ่งผู้ร่วมก่อตั้งของแบรนด์
“ผมมาจากโลกที่ซึ่งความคิดสร้างสรรค์นั้นเป็นอิสระอย่างไร้ขีดจำกัดโดยสิ้นเชิง ผมไม่ได้กั้นขีดความสามารถไว้โดยข้อจำกัดทางประเพณีการประดิษฐ์นาฬิกา และดังนั้น ผมจึงสามารถได้รับแรงบันดาลใจอย่างอิสระจากมรดกทางวัฒนธรรมของผมเอง”
แม้ว่า URWERK เป็นบริษัทใหม่ที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1997 ทว่า ได้สร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในฐานะนักบุกเบิกท่ามกลางช่างนาฬิกาอิสระ บริษัทจึงเปรียบตนเองเสมือนสตูดิโอของช่างฝีมือ ที่ซึ่งหลอมรวมความเชี่ยวชาญในประเพณีการประดิษฐ์นาฬิกาที่ผสมผสานร่วมกับการสร้างสไตล์อันล้ำสมัย ในฐานะบริษัทผลิตนาฬิกาอันทันสมัยและซับซ้อนที่ไม่เคยปรากฏหรือมีมาก่อน และยังคงรักษาไว้ซึ่งเกณฑ์ความต้องการสูงสุดของการประดิษฐ์สร้างสรรค์นาฬิกา ทั้งการออกแบบและวิจัยอย่างอิสระ ด้วยวัสดุอันก้าวหน้าล้ำยุค และงานตกแต่งด้วยมืออันประณีต
ชื่อ URWERK (อูร์เวิร์ก) ได้มาจากเมืองโบราณ อูร์ของชาวเคลเดีย (Ur of the Chaldees) ในเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อราว 6,000 ปีในอดีตกาล ที่ซึ่งชาวสุเมเรียน (Sumerians) ได้อาศัยและเป็นสถานที่ถือกำเนิดของการสร้างหน่วยของเวลาขึ้นครั้งแรก โดยอ้างอิงจากเงาที่พาดผ่านอนุสรณ์ของเมือง ขณะที่ อูร์ (Ur) ในภาษาเยอรมันนั้นยังหมายถึงดึกดำบรรพ์หรือดั้งเดิม และ Werk หมายถึงความสำเร็จหรือจักรกล ดังนั้น อูร์เวิร์ก (URWERK) จึงสามารถแปลความได้เช่นกันในฐานะกลไกดั้งเดิม ที่อุทิศให้กับเจเนอเรชันต่างๆ ของเหล่าช่างนาฬิกา ผู้ซึ่งผลงานของพวกเขาได้มอบผลลัพธ์เป็นสิ่งที่เรารู้จักกันอย่างดีในวันนี้ ในฐานะเครื่องบอกเวลาชั้นสูง (Haute Horlogerie) หรือการประดิษฐ์นาฬิกาชั้นยอด
21 พ.ย. 2567
21 พ.ย. 2567
21 พ.ย. 2567
21 พ.ย. 2567