Last updated: 29 ก.ย. 2567 | 419 จำนวนผู้เข้าชม |
TAG Heuer Monaco Chronograph Racing Green กสานต่อมรดกทางการแข่งขันของ TAG Heuer และเป็นบทที่สองในเรื่องราวของ Racing Monaco โดยเข้าร่วมกับคอลเลกชัน TAG Heuer Monaco เพื่อเฉลิมฉลองให้กับเหล่ารถแข่ง และลวดลายสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ของรถเหล่านั้น โดยครั้งนี้เป็นการให้เกียรติกับสีอันเป็นสัญลักษณ์ของอังกฤษ
จิตวิญญาณแห่งการแข่งขันของ TAG Heuer Monaco
นาฬิกา TAG Heuer เป็นหนึ่งในนาฬิกาที่มีส่วนร่วมกับการแข่งขันมากที่สุดมาโดยตลอด และนาฬิกาในคอลเลกชัน TAG Heuer Monaco นั้น เป็นตัวแทนที่สมบูรณ์แบบของแนวคิดนี้ เมื่อแบรนด์เปิดตัวโมเดลนี้ในปี 1969 นาฬิการุ่นนี้ ได้ปฏิวัติวงการนาฬิกาด้วยการเป็นนาฬิกาโครโนกราฟกันน้ำ และตัวเรือนสี่เหลี่ยมเรือนแรกที่มีการขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre 11 อันล้ำสมัย และที่มากไปกว่าการออกแบที่โดดเด่น นาฬิการุ่น TAG Heuer Monaco ยังได้รับการตั้งชื่อตามประเทศโมนาโก ที่เคยเป็นเจ้าภาพของหนึ่งในสนามแข่งรถ Formula 1 ที่โด่งดังที่สุดในโลก ความสัมพันธ์นี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณของแบรนด์ และยังคงเป็นส่วนสำคัญในตัวตนของ TAG Heuer จนถึงทุกวันนี้
เมื่อพูดถึงนาฬิการุ่น TAG Heuer Monaco หลายคนอาจนึกถึงหนึ่งในนักแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค 70 นั่นก็คือ สตีฟ แม็คควีน เมื่อปี 1970 ขณะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Le Mans เอง สตีฟ แม็คควีน ผู้เป็นดาวแห่งวงการฮอลลีวูดในยุคนั้น ก็ได้เลือกสวมใส่เครื่องแบบของนักแข่งรถและนาฬิกาแบรนด์ TAG Heuer เหมือนกับ โจเซฟ ซิฟเฟิร์ต นักแข่งมืออาชีพและผู้ฝึกสอนส่วนตัวของเขา ซึ่ง ณ ตอนนั้น แม็คควีน มุ่งหวังที่จะถ่ายทอดบทบาทของนักแข่งรถที่แท้จริงออกมา และนั่นก็ทำให้เขาได้กลายเป็นตำนานด้านสไตล์อย่างรวดเร็ว โดยที่ได้สวมนาฬิการุ่น TAG Heuer Monaco อย่างภาคภูมิใจ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นาฬิการุ่น TAG Heuer Monaco ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยการผสมผสานวัสดุ เทคโนโลยี และองค์ประกอบการออกแบบใหม่ ๆ เข้าด้วยกัน ทำให้นาฬิการุ่นนี้กลายเป็นผลงานศิลปะอย่างแท้จริง จนกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของจิตวิญญาณอันล้ำสมัยของแบรนด์ และเวอร์ชันล่าสุดของนาฬิการุ่น TAG Heuer Monaco Chronograph Racing Green ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น นาฬิการุ่นนี้ยังคงแสดงความยกย่องที่มีต่อมรดกของการแข่งรถอันน่าทึ่ง และร่องรอยอันไม่อาจลบเลือนที่แบรนด์ได้ฝากไว้ในวงการนี้ต่อเนื่องจากนาฬิการุ่น TAG Heuer Monaco Chronograph Racing Blue ในปี 2023
เพื่อนคู่ใจในการแข่งขัน
ด้วยนาฬิการุ่น TAG Heuer Monaco ที่เป็นตำนาน แบรนด์จึงได้ปูเส้นทางผ่านประวัติศาสตร์หลายทศวรรษ ที่ได้เชื่อมแบรนด์กับโลกของมอเตอร์สปอร์ตเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 จนถึงยุค 1960 นักแข่งรถต่างแข่งขันกันโดดเด่นด้วยสีและลวดลายเฉพาะของรถในแบบของประเทศตัวเอง มากกว่าที่จะเป็นสีของเดิมของรถหรือสีของผู้สนับสนุน ในแต่ละประเทศจะมีสีประจำชาติของตัวเอง สีแดงสดใสของอิตาลี สีขาวของเยอรมนีก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสีเงินภายหลัง และสีน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ของฝรั่งเศส ซึ่งได้ปรากฏใน นาฬิการุ่น Monaco Chronograph Racing Blue เมื่อปีที่แล้ว และสำหรับการเข้าสู่บทใหม่นี้คือสีเขียว Racing Green อันเป็นที่รู้จัก ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับการสร้างสรรค์นาฬิการุ่น TAG Heuer Monaco Chronograph Racing Green
ซึ่งสี Racing green เป็นเฉดสีที่เป็นที่รู้จักและเกี่ยวข้องกับวงการมอเตอร์สปอร์ตของอังกฤษที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน โดยรถคันแรกที่บันทึกว่าใช้สีนี้คือ Napier 50 ที่ชนะการแข่งขัน Gordon Bennett Cup ในปี 1902 ภายใต้การควบคุมของ Selwyn Edge ซึ่งนำไปสู่การเป็นเจ้าภาพการแข่งขันในปี 1903 โดยสหราชอาณาจักร ทีมแข่งรถสมัยใหม่และผู้ผลิตรถยนต์ที่มีชื่อเสียงของอังกฤษยังคงใช้เฉดสีนี้ในรูปแบบต่างๆ ทำให้มันกลายเป็นสีที่ได้รับการยกย่องในโลกของมอเตอร์สปอร์ตและเป็นแรงบันดาลใจให้กับนาฬิกาเรือนนี้
ทุกองค์ประกอบของนาฬิการุ่น TAG Heuer Monaco Chronograph Racing Green ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งที่เป็นประวัติศาสตร์ของอังกฤษ รวมถึงการใช้สีขาวและสีเหลืองเสริมด้วย และเพื่อสะท้อนธีมนี้ นาฬิการุ่นนี้จะมีหน้าปัดสีเงินขัดเงาแบบ Sunray เพื่อความหรูหราเหนือกาลเวลา ซึ่งย้ำเตือนให้นึกถึงแผงหน้าปัดในรถสปอร์ตของยุคปี 1920 และปี 1930 หน้าปัดประดับด้วยตัวสเกลเวลาชั่วโมงสีเงินที่ขัดเงาแปดจุด และจุดเครื่องหมายที่เคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® สีเขียวอ่อน 12 จุด ช่วยให้อ่านเวลาได้ง่าย และจุดที่โดดเด่นคือเครื่องหมาย Faceted Baton ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกามีแถบสีเหลืองสดใส ซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับเข็มชี้สีเหลืองตรงกลางของหน้าปัดโครโนกราฟ และเสริมด้วยสัมผัสสีเหลืองบนนาฬิกาเรือนนี้ หน้าปัดย่อยสีเขียวที่หรูหรา แสดงเฉดสีที่มีชีวิตชีวาแต่ซับซ้อน และเป็นเกียรติให้กับสี Racing green แบบดั้งเดิม มรดกยังถูกสะท้อนในนาฬิกานี้ที่มีตราโลโก้ Heuer อันเป็นประวัติศาสตร์ ซึ่งดึงดูดทั้งนักสะสมและผู้หลงใหลในนาฬิกา และด้วย DNA อันแท้จริงของ Monaco เม็ดมะยมจะอยู่ที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 1969
TAG Heuer Monaco Chronograph Racing Green ขับเคลื่อนด้วยกลไกโครโนกราฟอัตโนมัติ Calibre 11 ที่อยู่ในตัวเรือนไทเทเนียมเกรด 2 ที่ผ่านการพ่นทราย ทำให้นาฬิกามีทั้งความแข็งแรงและเบาสบาย เหมาะสำหรับความรู้สึกแบบสปอร์ต และมีฝาหลังแซฟไฟร์ที่สามารถมองเห็นกลไกภายในของนาฬิกาได้ นาฬิการุ่น TAG Heuer Monaco Chronograph Racing Green มาพร้อมสายรัดนาฬิกา สีเขียวแบบเจาะรู ซึ่งสะท้อนถึงความงดงามในสไตล์ของสุภาพบุรุษชาวอังกฤษ สายถูกยึดด้วยตัวล็อคพับที่ทำจากไทเทเนียม พร้อมมีตราโลโก้ Heuer ฝาหลังมีการสลักคำว่า "ONE OF 1000" ตามจำนวนการผลิตจำกัดเพียง 1,000 เรือนทั่วโลก พร้อมนำเสนอในกล่องบรรจุภัณฑ์สีดำที่ออกแบบมาเป็นพิเศษพร้อมรายละเอียดเสริมด้วยสีเหลืองที่สดใส เพื่อให้เป็นนาฬิกาอันสมบูรณ์แบบ สำหรับสุภาพบุรุษนักขับผู้สมบูรณ์แบบ
เกี่ยวกับ TAG Heuer
TAG Heuer ก่อตั้งขึ้นในปี 1860 โดย Edouard Heuer (เอดูอารค์ ฮอยเออร์) ในเทือกเขาฌูรา (Jura Mountains) ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นแบรนด์นาฬิกาหรูที่เป็นส่วนหนึ่งของ LVMH Moet Hennessy Louis Vuitton SE (“LVMH”) กลุ่มสินค้าหรูหราชั้นนำระดับโลก TAG Heuer มีฐานการผลิตอยู่ทีเมือง La Chaux-de-Fonds (ลาโช-เดอ-ฟง) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีฐานการผลิตทั้งหมด 4 แห่ง มีพนักงานจำนวน 1,900 คน และดำเนินธุรกิจใน 139 ประเทศ ผลิตภัณฑ์ของ TAG Heuer มีจำหน่ายทางออนไลน์ที่ www.tagheuer.com สำหรับบางประเทศ และผ่านทางบูติกที่มีอยู่ 260 บูติก และจุดจำหน่าย 2,300 แห่งทั่วโลก นำโดย Julien Tornare (จูเลียน ทอร์นาเร) – CEO ของ TAG Heuer
ตลอดระยะเวลา 164 ปีของ TAG Heuer ได้แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของการผลิตนาฬิกาไสตล์อวังกาศอย่างแท้จริง และความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งรวมถึงเฟืองแกว่ง (oscillating pinion) ในนาฬิกากลไกระบบจับเวลาในปี 1887 นาฬิกา Mikrograph (ไมโครกราฟX ในปี 1916 กลไกจับเวลาโครโนกราฟอัตโนมัติชุดแรกของโลก คาลิเบอร์ 11 ที่สร้างสรรค์ขึ้นในปี 1969 และนาฬิกาสมาร์ทวอชท์สุดหรูเรือนแรกในปี 2015 ปัจจุบัน คอลเลกชั่นหลักของแบรนด์ประกอบด้วย 3 ตระกูลระดับไอคอนที่ออกแบบโดย Jack Heuer (แจ็ค ฮอยเออร์) ประกอบด้วย TAG Heuer Carrera Monaco และ Autavia และนาฬิกาสไตล์ร่วมสมัยในคอลเลกชั่น TAG Heuer Link, Aquaracer, Formula 1 และ Connected
ตามคำขวัญของ TAG Heuer ทีว่า “Don’t Crack Under Pressure” (ไม่หวั่นไหว แม้อยู่ภายใต้แรงกดดัน) ทั้งพันธมิตรและแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์ที่โดดเด่นล้วนแสดงออกถึงความหลงใหลในกิจกรรมและมีความสามารถสูง
19 ธ.ค. 2567
20 ธ.ค. 2567