URWERK UR-150 Scorpion

URWERK พลิกโฉมกลไกบอกเวลาผ่านระบบดาวเทียมอันมีเอกลักษณ์ ด้วยการนำเสนอกลไกชุดใหม่ที่ออกแบบอย่างน่าทึ่ง UR-150 Scorpion นำเสนอในตัวเรือนโค้งมน แต่อย่าให้รูปลักษณ์ที่เรียบง่ายมาหลอกคุณได้: ภายใต้ UR-150 นี้กลับซ่อนกลไกอันทรงพลังไว้ดั่งเหล็กในของสัตว์ดุร้ายที่ถูกกระตุ้นภายในเสี้ยววินาที

หนึ่งในคำขวัญที่สร้างชื่อเสียงและน่าจดจำของมูฮัมหมัด อาลี และเป็นเคล็ดลับสู่ความสำเร็จ คือ ‘โบยบินเหมือนผีเสื้อ แต่ต่อยหนักเหมือนผึ้ง’ ซึ่งคำกล่าวนี้สามารถสะท้อนถึงผลงานล่าสุดของ URWERK ได้อย่างชัดเจน นั่นคือนาฬิกา UR-150 นาฬิกาที่ทั้งบินและต่อยหนัก... แต่ในแบบของแมงป่อง ด้วยแรงบันดาลใจจากชื่อเล่นของนาฬิกาและเหล็กในของแมงป่อง สะท้อนถึงทิศทางการเคลื่อนที่ของเข็มนาทีในแบบ 240° ที่คล้ายกับหางของแมงป่องที่เตรียมท่าพร้อมจู่โจม สัญลักษณ์นี้ยังขยายความไปถึงเข็มนาทีรีโทรเกรด ที่พร้อมปลดปล่อยพลังเมื่อเปลี่ยนเวลาในแต่ละชั่วโมง....รวดเร็วและดุดัน

ฉลามหัวฆ้อน, แมงมุมทารันทูล่า, งูจงอาง, และแมงป่อง: URWERK ได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งมีชีวิตที่ดุร้าย “เรายังคงเลือกชื่อเล่นของสัตว์ต่างๆ มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบผลงานของเราอีกครั้ง โดยเฉพาะแมงป่องที่เป็นสัตว์น่ากลัว – แต่การออกแบบ UR-150 กลับดูเรียบง่าย สะท้อนเอกลักษณ์ที่แท้จริงของ URWERK... ซึ่งแรงบันดาลใจที่ดุดันนี้กลับขัดแย้งกับรูปแบบของนาฬิกาที่ดูเยือกเย็นและสงบ” Felix Baumgartner ช่างนาฬิการะดับปรมาจารย์และผู้ร่วมก่อตั้ง URWERK กล่าวพร้อมกับเสียงหัวเราะ “เราเลือกที่จะทำตามแนวทางที่สุดขั้ว เพราะเราไม่ธรรมดาหรือมีเหตุผล”

UR-150 มาพร้อมกับเข็มโอเพ่นเวิร์คขนาดใหญ่ซึ่งทำหน้าที่บอกเวลาปัจจุบัน ผ่านปลายเข็มโค้งเหนือแทร็คนาที เมื่อครบ 60 นาที เข็มจะกระโดดตีกลับไปยังตำแหน่งศูนย์และเริ่มต้นนับเวลาใหม่ ในขณะเดียวกันการแสดงเวลาชั่วโมงระบบดาวเทียมจะหมุนรอบแกน– โดยการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นภายในเวลาเพียง 1/100 วินาที

ฟังก์ชั่นรีโทรเกรดของนาฬิการุ่นนี้คล้ายกับฟังก์ชั่นที่เคยพัฒนาสำหรับนาฬิกากลไกออโตมาตอน: ฟลายอิ้งคาราเซลที่ควบคุมการบอกเวลาชั่วโมงระบบดาวเทียมทั้งสามแกน หมุนไปตามเส้นทางที่กำหนดโดยแคม ซึ่งแคมนี้ควบคุมการเคลื่อนที่ของคารูเซลอย่างแม่นยำในเวลา 60 นาที เมื่อเข็มชั่วโมงถึงตำแหน่ง '60' ที่แสดงด้วยตัวเลขสีเขียว สปริงของ URWERK จะทำการกระตุ้นการทำงานของกลไกที่รวดเร็วดั่งสายฟ้า: เข็มนาทีรีโทรเกรดจะกระโดด 240° ขณะที่ดาวเทียมชั่วโมงจะหมุนพร้อมกัน 270° "เหมือนกับการเรียงตัวของดวงดาวที่สมบูรณ์แบบ หรือพายุที่เพอร์เฟคท์" Felix Baumgartner กล่าว "การขับเคลื่อนผ่านดาวเทียมทั้งหมด นำทางเข็มชั่วโมง และให้ทุกองค์ประกอบทำงานได้อย่างแม่นยำในจังหวะที่ถูกต้อง ทางแบรนด์ได้ออกแบบกลไกระบบดาวเทียมใหม่ โดยใช้ล้อและเฟืองที่ลอยอยู่ระหว่างดาวเทียมกับกลไกหลัก ทำหน้าที่ถอดรหัสและควบคุมการทำงานตามแคม ถูกแทนที่ด้วยอุปกรณ์ 'คลาสสิก' ที่ใช้กากบาทมอลทีส พร้อมระบบแคมและแร็คที่ต้องพัฒนาสปริงที่มีคุณสมบัติเฉพาะขึ้นมา จำเป็นต้องผลิตภายในเวิร์กช็อปของแบรนด์เอง เพื่อให้กลไกที่เปลี่ยนตำแหน่งอย่างรวดเร็วนั้นสามารถแสดงค่าได้อย่างแม่นยำ โดยทางแบรนด์ได้เพิ่มช่องห่างระหว่างตัวเลข 60 และ 0 เป็นสองเท่า” เขากล่าวสรุป

การแสดงค่านาทีของนาฬิกา UR-150 ได้รับการออกแบบให้กว้างขึ้นเพื่อความท้าทาย โดยเปลี่ยนจากมุมปกติ 120 องศา มาเป็นมุมโค้ง 240° จำเป็นต้องพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่มีอยู่แม่นยำถือเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาความเที่ยงตรง เพื่อบรรลุถึงคำว่า ‘Perfect Storm’ ระบบรีโทรเกรดในรุ่นนี้นับเป็นความท้าทายที่สุดที่ URWERK เคยสร้างขึ้น โดยมีน้ำหนักที่หนักที่สุดเท่าที่เคยมีมา ความเร็วและแรงเฉื่อยที่พิถิพิถัน ส่งผลให้ต้องพัฒนากลไกควบคุมพลังงานชุดใหม่ ความสำเร็จทางเทคนิคนี้เกิดขึ้นได้ด้วยการติดตั้งชิ้นส่วนควบคุมความเร็วเข้ากับฟลายวีลของ UR-150 ซึ่งชิ้นส่วนนี้ปกติแล้วจะถูกใช้เพื่อควบคุมลำดับการตีฆ้องของกลไก minute repeater ในกรณีนี้ ตัวควบคุมมีหน้าที่ทำให้การกลับสู่ตำแหน่งเริ่มต้นของเข็มนาทีรีโทรเกรดเป็นไปอย่างราบรื่น

กลไกขึ้นลานอัตโนมัติเป็นหนึ่งในนวัตกรรมอันโดดเด่นของนาฬิกา UR-150 มาพร้อมกับชุดใบพัดคู่ที่ออกแบบได้อย่างชาญฉลาด ทำหน้าที่ควบคุมความเร็วของโรเตอร์ อีกทั้งยังทนทานต่อแรงกระแทกได้อย่างดี Felix Baumgartner อธิบายว่า “วัตถุประสงค์ของใบพัดคู่คือการลดทอนแรงกระแทกที่เกิดขึ้นกับโรเตอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อแกนกลางของกลไก”

UR-150 ยังนำเสนอแนวทางศิลปะใหม่ ด้วยชื่อเรียก ‘Scorpion’ ที่ดูดุดันนั้นตัดกันกับความเรียบง่ายที่เห็นได้ชัดจากการออกแบบนาฬิการุ่นนี้ แนวทางที่ผสานความแตกต่างเริ่มต้นจากการเปิดตัวคอลเลคชัน 100: "ถือเป็นขั้นตอนแห่งวิวัฒนาการ" Martin Frei ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์และผู้ร่วมก่อตั้ง URWERK อธิบาย "ทางแบรนด์ชอบเล่นกับเส้นสาย และสนุกกับการนำความโค้งมนมาอยู่เคียงข้างกับมุมเหลี่ยม นาฬิการุ่นนี้ ตัวเรือนและกระจกแซฟไฟร์มีรูปทรงที่คล้ายกัน ซึ่งก็คือทรงกลม ในขณะที่เข็มนาทีก็ใช้เส้นโค้งแบบเดียวกันอย่างกลมกลืน"

เมื่อมองจากด้านข้าง รูปแบบนาฬิกา UR-150 จะโค้งมน โดยตัวเรือนและกระจกแซฟไฟร์ขยายเส้นสายต่อเนื่องจากความโค้งของสายนาฬิกาในแนวเดียวกัน โอบรัดกระชับกับข้อมือ ความโค้งนี้ไม่ได้หยุดแค่ที่ตัวเรือนเท่านั้น แต่ยังขยายไปถึงกลไกภายใน โดยเข็มแสดงเวลามีรูปทรงที่ลาดเอียงเหมือนกัน “นาฬิกา UR-150 นี้ สามารถอ่านเวลาได้อย่างง่ายดายระหว่างสวมใส่ได้โดยไม่ต้องบิดข้อมือ การมองหน้าปัดนาฬิกาโดยตรงจะเห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดและการจัดวางตำแหน่งต่างๆ ความลงตัวระหว่างเส้นโค้งของตัวเรือนกับกลไกที่ทรงพลังและดูมีชีวิตชีวาของนาฬิกา UR-150” Martin Frei กล่าว “ผมไม่สนใจความกลมกลืน” เขาอธิบายเพิ่มเติมด้วยน้ำเสียงที่เชื่อมั่นว่า "ความงามสามารถปรากฏขึ้นผ่านการผสมผสานระหว่างรูปแบบที่ต่างกันได้"

ภายในตัวเรือนนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดนี้ URWERK ได้ติดตั้งกลไกการแสดงเวลาชั่วโมงดาวเทียมที่พัฒนาขึ้นอย่างล้ำสมัย โดย UR-150 มอบประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นเมื่อเวลาชั่วโมงเปลี่ยนผ่านอย่างโดดเด่น “เหมือนกับการสั่นสะเทือนในสเปซไทม์อย่างต่อเนื่อง” Martin Frei กล่าวเสริม “ช่วงที่เข็มตีกลับนั้นมีความพิเศษมาก เราสูญเสียหรือได้เวลากลับคืนมาหรือไม่? สำหรับ URWERK ชื่นชอบในช่วงเวลาที่รอคอยและเฝ้ามอง – ซึ่งดูเป็นธรรมชาติ ขณะที่เข็มนาทีเดินไปอย่างช้า ๆ ไม่มีมาตรแสดงค่าวินาที และเข็มนาทีจะตีกลับไปยังจุดเริ่มต้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง

นาฬิกา UR-150 นำเสนอ 2 รุ่นพิเศษ อย่าง Iron และ Dark โดยผลิตจำนวนจำกัดรุ่นละ 50 เรือน