ALBA Sportive

ALBA Sportive
‘The Color of Planet’
‘Planet’ หรือ ‘ดาวเคราะห์’ กลุ่มดาวในระบบสุริยจักรวาลที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ด้วยแรงโน้มถ่วง ซึ่งเรามักคุ้นชื่อกันดีทั้ง 8 ดวง ได้แก่ ดาวพุธ (Mercury) ดาวศุกร์ (Venus) โลก (Earth) ดาวอังคาร (Mars) ดาวพฤหัสบดี (Jupiter) ดาวเสาร์ (Saturn) ดาวยูเรนัส (Uranus) และดาวเนปจูน (Neptune) ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีสีสันความสวยงาม ของแต่ละดาวที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยของสสารที่มีอยู่ของดาวแต่ละดวง นอกเหนือจากนั้นในแต่ละดวงดาวยังมีความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับตำนานของเทพเจ้าแห่งโอลิมปัสเหมือนกับที่นำเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์หลายๆเรื่องอีกด้วย

ด้วยความมหัศจรรย์แห่งสีสันที่น่าค้นหาและความโดดเด่นของดาวแต่ละดวงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ALBA จึงได้หยิบยกเรื่องราวความสวยงามของดวงดาวและเหล่าทวยเทพในระบบสุริยะจักรวาล มาเป็นแรงบันดาลใจของคอลเลกชันใหม่นี้

Mercury (ดาวพุธ)
นอกจากจะอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดแล้ว ยังมีขนาดที่เล็กมากที่สุดอีกด้วย เนื่องจากเป็นดาวเคราะห์ที่มีสีเทาและรอยบุ๋มมากมายจากการโดนอุกาบาตพุ่งชน จึงดูคล้ายกับดวงจันทร์ และเป็นตัวแทนของเทพ Hermes (เฮอเมส) หรือเทพเจ้าแห่งการค้าและกำไร พ่อค้า และนักเดินทาง

Venus (ดาวศุกร์)
ดาวศุกร์เป็นวัตถุท้องฟ้าซึ่งสว่างรองลงมาจากดวงจันทร์ ที่มนุษย์สามารถมองเห็นได้ในตอนหัวค่ำทางทิศตะวันตก เรียกว่า "ดาวประจำเมือง" หรือเห็นในตอนเช้ามืดทางทิศตะวันออก เรียกว่า "ดาวประกายพรึก" หรือ "ดาวรุ่ง" เราจะสามารถมองเห็นดาวศุกร์ได้เป็นสีออกเทา เนื่องจากเรามองเห็นเพียงเมฆจากกรดกำมะถันที่ปกคลุมดาวอยู่เท่านั้น และดาวศุกร์ยังเป็นตัวแทนของเทพ Aphrodite (อโฟไดท์) เทพีแห่งความรักและความงามอีกด้วย

Earth (โลก)
หากมองจากอวกาศ เราสามารถมองเห็นได้ทั้งสีเขียว ขาว และน้ำเงิน ที่ได้จากทั้งผืนป่า หมู่เมฆ และมหาสมุทร ซึ่งโลกของเรานั้นเป็นวัตถุทางดาราศาสตร์เพียงหนึ่งเดียวที่ทราบว่ามีสิ่งมีชีวิต และก่อกำเนิดเมื่อประมาณ 4,500 ล้านปีก่อน และโลกยังมีเทพที่ควรจะรู้จักกันในชื่อว่า Tellus Mater or Terra Mater (“Mother Earth”) ที่เรียกกันในสมัยโรมันโบราณ ซึ่งถือเป็นเทพีแห่งโลก

Mars (ดาวอังคาร)
มักถูกเรียกว่า "ดาวแดง" เพราะมีออกไซด์ของเหล็กบนพื้นผิวมาก โดยพื้นผิวคล้ายคลึงกับทั้งหลุมอุกกาบาตบนดวงจันทร์ ภูเขาไฟ หุบเขา และทะเลทราย ซึ่งถือเป็นดาวดวงที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาว่าอาจจะเคยมีสิ่งมีชีวิต หรือสามารถเป็นดาวดวงใหม่ในการอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตในอนาคตได้ ดาวตัวแทนเทพ Ares (แอรีส) หรือเทพเจ้าแห่งสงคราม

Jupiter (ดาวพฤหัส)
นับเป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ใช้ระยะเวลาหมุนรอบตัวเองที่ค่อนข้างสั้น จึงมีรูปทรงแป้น และมีสีเหลืองออกส้ม ร่องรอยที่เด่นชัดที่สุดบนดาวพฤหัสบดีคือ จุดแดงใหญ่ ซึ่งเป็นพายุหมุนที่มีขนาดใหญ่กว่าโลก ซึ่งตามตำนานเทพปกรณัม ดาวพฤหัสได้ถูกเรียกว่า Zeus (ซีอุส) ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของเทพเจ้าแห่งเทือกเขาโอลิมปัส

 Saturn (ดาวเสาร์)
ดวงดาวที่สามารถมองเห็นวงแหวนโดยรอบได้อย่างชัดเจน โดยวงแหวนของดาวเสาร์ประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กจำนวนมากนับไม่ถ้วน ส่วนใหญ่เป็นน้ำแข็ง มีบางส่วนที่เป็นฝุ่นและสสารอื่น มีสีออกนวลๆ ดาวเสาร์ถูกตั้งชื่อตามเทพโรมันแห่งการเกษตรอย่าง Cronos (โครนอส)

 Uranus (ดาวยูเรนัส)
เนื่องจากแกนชั้นนอกของดาวที่เต็มไปด้วยแอมโมเนียและมีเทน ทำให้เรามองดาวยูเรนัสมีลักษณะเป็นสีฟ้า และยูเรนัสยังเป็นชื่อที่ตั้งตามเทพเจ้าที่เก่าแก่แห่งสวรรค์หรือในชื่อไทยคือ ดาวมฤตยู

 Neptune (ดาวเนปจูน)
เนื่องจากองค์ประกอบหลักของบรรยากาศผิวนอกเป็น ไฮโดรเจน ฮีเลียม และมีเทน สีของดาวเนปจูนจึงมีสีออกน้ำเงิน และยังเป็นตัวแทนของเทพ Poseidon (โพไซดอน) เทพเจ้าแห่งท้องทะเลด้วยเช่นกัน

ALBA Sportive ‘The Color of Planet’ นาฬิการะบบควอตซ์ หน้าปัดลวดลาย 3D และไล่เฉดสีของดาวเคราะห์ทั้ง 8 ดวง บนขนาดหน้าปัด 42 มม. มาพร้อมตัวเรือนและสายที่ผลิตจากวัสดุสเตนเลสสตีล พร้อมประสิทธิภาพการกันน้ำเทียบเท่า 100 เมตร (10 บาร์) สนนราคาเรือนละ 3,900 บาท พร้อมวางจำหน่ายในวันที่ 1 ธันวาคม 2024 ที่ เคาน์เตอร์อัลบา ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ALBA Kiosk ฟิวเจอร์ ปาร์ค รังสิต และตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

Follow us:
Website: https://albathailand.com/
Instagram: @Alba_Thailand
Line Official: @Albathailand
TikTok: @Albathailand.com

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-255-1245-50 ต่อ 888
#ALBAThailand #ALBAbySEIKO #Albawatch #Japanwatch #Thereflectionofjapan