Last updated: 17 ธ.ค. 2567 | 278 จำนวนผู้เข้าชม |
GRAND SEIKO เปิดตัวนาฬิกา รุ่นพิเศษ Asia Pacific Limited Edition (Washi)
ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวาชิ กระดาษสาญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
16 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เอเชียแปซิฟิก - จังหวัดอิวาเตะแหล่งที่ตั้งของแกรนด์ ไซโก สตูดิโอ ชิสุกุอิชิ (Grand Seiko Studio Shizukuishi) ศิลปะงานฝีมือญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมคือความภาคภูมิใจอันยาวนานที่ได้รับการอนุรักษ์โดยช่างฝีมือ รวมถึงศิลปะกระดาษสาแบบวาชิ ซึ่งมีประวัติสืบทอดทำกันมาถึง 800 ปี โดยช่างฝีมือที่ผลิตกระดาษวาชิ เทคนิคอันเป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น วาชิ (Washi) ซึ่งแต่เดิมทำจากโคโซ (ต้นหม่อน) ถูกนำมาใช้เป็นกระดาษสาบนโคมไฟ และเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งภายใน ดังที่เห็นได้จากฉากโชจิ โดยศิลปะวาชิเป็นการถ่ายทอดความละเอียดอ่อนและสะท้อนถึงความงามญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
เป็นเวลาหลายศตวรรษที่วัฒนธรรมญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับแสงและเงา นาฬิการุ่น SBGJ283 สะท้อนถึงความงามแบบญี่ปุ่นด้วยหน้าปัดสีขาวนวลแวววาวบนลวดลายกระดาษแบบวาชิ ช่วยให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับการปฏิสัมพันธ์ของแสงและเงาบนลวดลายอันละเอียดอ่อน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการรังสรรค์ของ Grand Seiko ทุกเรือน ในขณะที่เข็ม GMT สีแดงสะท้อนให้เห็นถึงผลไม้สีแดงของ Kozo ซึ่งตัดกับพื้นหน้าปัดสีอ่อนได้อย่างสวยงามลงตัว
นาฬิกาลิมิเต็ดเอดิชั่นรุ่นนี้ผลิตจำนวน 150 เรือนทั่วโลก เพิ่มเติมด้วยสายที่มีพร้อมให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกกับสายหนังสีน้ำตาลเย็บตะเข็บด้านข้างด้วยด้ายสีชมพูซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากช่อดอกไม้ตัวเมียของต้นหม่อน นาฬิกาเรือนนี้มาในเคสดีไซน์แบบ 44GS ที่ผลิตขึ้นจากวัสดุ Ever Brilliant Steel ติดตั้งด้วยกลไกการขับเคลื่อนระบบ Hi-beat 36000 Calibre 9S86 ที่ให้ความแม่นยำ +5 ถึง -3 วินาทีต่อวัน พร้อมฟังก์ชัน GMT การออกแบบรุ่นดั้งเดิมของตัวเรือน 44GS เริ่มเมื่อปี 1967 ซึ่งเป็นการวางรากฐานของภาษาการออกแบบของ (Grand Seiko Style) ด้วยการนำอุดมคตินี้มาตีความแบบสมัยใหม่ ปัจจุบันได้นำมาประยุกต์ใช้การออกแบบพื้นผิวกระจกที่เรียบและปราศจากการบิดเบือนของเงาสะท้อนบนตัวเรือนรุ่น SBGJ283 และด้วยกลไก Calibre 9S86 นาฬิกาเรือนนี้สามารถบอกเวลาได้สองประเทศพร้อมกัน: โดยสามารถปรับตั้งเข็มแบบ 24 ชั่วโมงไปยังเวลาของเขตเวลาที่ต่างออกไปได้โดยไม่กระทบต่อความแม่นยำในการบอกเวลาของนาฬิกา
ตัวเรือนและสายทำจาก Ever-Brilliant Steel ที่ต้านทานต่อการกัดกร่อนได้มากที่สุด ซึ่งเป็นโลหะผสมสแตนเลสที่มีค่า PREN (Pitting Resistance Equivalent Number) สูงกว่าเกรดสตีลที่ใช้ในนาฬิการะดับไฮเอนด์ส่วนใหญ่ถึง 1.7 เท่า
นาฬิการุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นนี้จะวางจำหน่ายเฉพาะที่บูติกของ Grand Seiko และร้านค้าปลีกที่ได้รับอนุญาตทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2568
Grand Seiko ก่อตั้งขึ้นในปี 1960 และสร้างชื่อเสียงอย่างยาวนานในฐานะแบรนด์นาฬิกาหรูชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ในปี 2010 Grand Seiko เริ่มขยายกิจการไปตลาดโกลบอลพร้อมเดินหน้าถ่ายทอดความภูมิใจผ่านเรือนเวลาสู่สายตาผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาทั่วโลก
Grand Seiko เป็นหนึ่งในผู้ผลิตนาฬิกาแบบครบวงจรเพียงไม่กี่รายในโลก ที่มีความโดดเด่นในกระบวนการผลิตนาฬิกาแบบอินเฮ้าส์ ซึ่งประกอบด้วยการพัฒนาชิ้นส่วนกลไก การออกแบบ การผลิต การประกอบเครื่อง และการปรับแต่งกลไกทั้งหมดนี้ได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันเพื่อรักษามาตรฐานคุณภาพสูงสุด
นาฬิกา Grand Seiko เป็นศิลปะและต้นแบบของงานฝีมือชั้นครูที่เน้นย้ำถึงทักษะและความชำนาญของช่างทักษะสูงที่ปรับแต่งนาฬิกาทุกเรือนอย่างพิถีพิถันด้วยมือภายในสตูดิโอประเทศญี่ปุ่น นาฬิกาทุกเรือนได้ออกแบบการผลิตตามองค์ประกอบหลักของ Grand Seiko Style ที่ประกอบด้วย ความแม่นยำ ความชัดเจน ความทนทาน และความสะดวกในการใช้งาน
Grand Seiko เป็นนาฬิกาที่เน้นความเรียบง่ายหรูหรา ผลงานฝีมืออันประณีตที่สะท้อนถึงสุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่นเป็นการสร้างสรรค์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ทำให้ Grand Seiko ดูโดดเด่นและสง่างาม
17 ธ.ค. 2567
17 ธ.ค. 2567