CHANEL Fine Jewelry - COCO CRUSH

ในปี 1906 ซึ่งเป็นเวลานานหลายปีก่อนที่จะก่อตั้งเฮาส์ Gabrielle Chanel (กาเบรียล  ชาเนล) ในวัยสาวได้ค้นพบลายควิลท์บนผ้าห่มสำหรับม้าของ Etienne Balsan (เอเตียน บัลซอง) คนรักของเธอและบนเสื้อแจ็คเก็ตของคนงานคอกม้า เธอหลงใหลในลวดลายกราฟิกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะนี้ จึงนำมาใช้ในการตกแต่งภายในและงานออกแบบแฟชั่นของเธอในช่วงทศวรรษ 1920

ในปี 2015 ดีไซน์ควิลท์เผยโฉมในรูปแบบที่ลํ้าค่าและสร้างสรรค์ที่สุด เมื่อ Chanel นำมาแปลงโฉมให้เป็นลวดลายบนทองคำและเปิดตัว COCO CRUSH คอลเลคชั่นเครื่องประดับแสนเพรียวบางที่เหมาะกับทุกโอกาส สำหรับหญิงสาวที่มีอิสระเสรีและครอบครองผลงานสร้างสรรค์เหล่านี้ เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จที่สำคัญและในโอกาสพิเศษ เช่นเดียวกับที่กาเบรียล ชาเนล  ใช้ผลงานนี้เพื่อแสดงออกถึงชีวิตของเธอในฐานะนักออกแบบผู้รักอิสระและทันสมัย

เส้นสายที่คมชัดบนพื้นผิวของทองคำดูนุ่มนวลขึ้นด้วยรูปทรงอันโค้งมน ลายเส้นที่ตัดกันได้รับการรังสรรค์ขึ้นอย่างประณีต เพื่อสร้างสรรค์ลายควิลท์ที่สอดประสานขึ้นมาใหม่ ความใส่ใจในรายละเอียดเห็นได้ชัดจากส่วนโค้งที่ขับเน้นเส้นสายอันเย้ายวนของอัญมณีที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการออกแบบ ผลงานสร้างสรรค์ที่ผสมผสานความแข็งแกร่งเข้ากับความเป็นผู้หญิง และส่วนโค้งเข้ากับเหลี่ยมมุม ทำให้ COCO CRUSH เป็นตัวแทนแห่งจิตวิญญาณของ Chanel

เพื่อเพิ่มประกายระยิบระยับเมื่อต้องแสง Chanel จึงได้รังสรรค์เบจโกลด์ เฉดสีที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อยกย่องความรักของ กาเบรียล ชาเนล ที่มีต่อเฉดสีอันอบอุ่น ซึ่งนำเธอมาพบกับความเข้มแข็งและการปกป้อง สีเบจยังเป็นสีของความสำเร็จครั้งแรกๆ ของเธออย่างผ้าทวีดของชุดสูท ผลงานนิตแวร์ และหนังของรองเท้าแบบทูโทน การใช้เบจโกลด์ 18k ของ COCO CRUSH สะท้อนถึงสัมผัสอันนุ่มนวลบนผิวกายและการเพิ่มความงดงามให้สีผิวด้วยสมดุลที่ละเอียดอ่อนของเฉดสี การสวมใส่เครื่องประดับตัวเรือนเบจโกลด์ไม่ได้เป็นเพียงการเลือกใช้โลหะมีค่าเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวเลือกที่แสดงออกถึงความเรียบหรู คุณภาพที่สมบูรณ์แบบ และเฉดสีที่เป็นเอกลักษณ์ของ Chanel อย่างแท้จริง

“สีแดงเป็นสีแห่งชีวิต ฉันรักสีแดง” Coco Chanel (โคโค่ ชาเนล) เคยกล่าวไว้

สำหรับ Chanel  การใช้สีแดงเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอที่จะทำให้ทุกอย่างสวยงามขึ้น ความสดใสของเฉดสีนี้ซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้สีดำและสีเบจ ช่วยขับเน้นให้ผลงานอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอโดดเด่นยิ่งขึ้น และปัจจุบันยังเป็นแรงบันดาลใจให้สตูดิโอสร้างสรรค์จิวเวลรี่ของ Chanel ให้นิยามใหม่ๆ แก่ COCO CRUSH อีกด้วย

นับเป็นครั้งแรกที่ทองคำพร้อมลายเส้นที่ตัดกันถูกจับคู่กับทับทิมสีเข้ม เฉดสีที่สดใสของทับทิมประดับอยู่ในช่องของจี้รูปตัว C หรือเปล่งประกายตรงกลางตัว O บนสร้อยข้อมือ ตัวอักษร C และ O สะกดเป็นคำว่า C.O.C.O. เมื่อสวมคู่กันที่ข้อมือ บนใบหู หรือบนเนินอก การผสมผสานนี้เป็นการเชิญชวนให้เล่นกับสีสันและเอกลักษณ์ของคอลเลคชั่นที่ถือกำเนิดขึ้น เพื่อยกย่องความเบาสบาย ตำนานบทใหม่ในเรื่องราวอันลํ้าค่าของ COCO CRUSH และเป็นโอกาสในการถ่ายทอดทัศนคติที่มุ่งมั่นของ Chanel อีกครั้งโดยผ่านความเปิดกว้างของคอลเลคชั่นและวิธีการสวมใส่ที่หลากหลาย

ต่อมา COCO CRUSH ได้เสริมแต่งคอลเลคชั่นด้วยตัวเรือนอันลํ้าค่าที่ประดับเพชรทั้งวงแบบ Pavé Setting (การฝังจิกไข่ปลา) ที่พิเศษสุดของ COCO CRUSH ด้วยการจัดเรียงเพชรให้เต็มแน่นทั้งวงซึ่งช่วยส่งเสริมความงดงามของลายควิลท์แบบโค้งมนด้วยประกายแวววาวของเพชร พร้อมขับเน้นความสอดคล้องและรูปทรงเรขาคณิตของเส้นสาย

ในเดือนมกราคม 2025 สตูดิโอสร้างสรรค์ไฟน์จิวเวลรี่ของ Chanel ได้รังสรรค์เทคนิคการจัดเรียงเพชรแบบ Pavé Setting ขึ้นมาใหม่สำหรับ COCO CRUSH เพื่อตกแต่งเส้นทแยงมุมของลายควิลท์ เพชรทำให้ลายเส้นที่ตัดกันเปล่งประกาย แม้ว่าเพชรทั้งหมดจะดูเหมือนกระจัดกระจายอยู่บนทองคำอย่างเป็นธรรมชาติ แต่แท้จริงแล้วเป็นภาพลวงตาที่ถูกสร้างขึ้นอย่างแม่นยำด้วยความเชี่ยวชาญของช่างอัญมณีและช่างประดับเพชร การจัดเรียงเพชรแบบ Pavé Setting ที่แปลกใหม่และโดดเด่นนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดวิธีการสวมใส่เครื่องประดับนี้ในรูปแบบใหม่ๆ อย่างแน่นอน

สร้อยคอและสร้อยข้อมือประดับทับทิมรุ่นใหม่ รวมถึงแหวนและกำไลข้อมือประดับเพชรช่วยเพิ่มความสมบูรณ์แบบให้กับ คอลเลคชั่น และมอบตัวเลือกการสวมใส่ที่หลากหลาย จุดเด่นของ COCO CRUSH คือการเป็นเครื่องประดับที่สวมใส่ได้อย่างอิสระ เช่นเดียวกับการที่กาเบรียล ชาเนล เลือกเสื้อผ้าและสร้อยคอโดยไม่ถูกจำกัดด้วยกระแสนิยมหรือแฟชั่น จิวเวลรี่ของ COCO CRUSH สามารถปรับให้เข้ากับทุกช่วงเวลาของชีวิต สร้อยข้อมือที่จับคู่กันได้อย่างสนุกสนานด้วยสีทองหลากหลายเฉด แหวนขนาดต่างๆ บนนิ้ว และต่างหูแบบห่วงที่สวยงามเสมอไม่ว่าจะสวมใส่เพียงชิ้นเดียวหรือสวมแบบเอียร์คัฟฟ์

การสวมใส่เครื่องประดับ COCO CRUSH จึงเป็นการแสดงออกถึงสไตล์ในแบบที่อิสระที่สุดพร้อมกับยกย่องความลํ้าค่า และเป็นเหตุผลที่ทำให้ COCO CRUSH เป็นแก่นแท้ของ Chanel อย่างแท้จริง