Last updated: 7 มี.ค. 2568 | 375 จำนวนผู้เข้าชม |
เจนีวา, 15 มกราคม 2025 – ในวันเสาร์ที่ 25 มกราคม เวลา 13.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น ธงเขียวได้โบกสะบัด เสียงกึกก้องคำรามของเครื่องยนต์ คือจุดเริ่มต้นของการแข่งขัน Rolex 24 At DAYTONA ในปีนี้ การแข่งรถระยะเวลา 24 ชั่วโมงที่มีชื่อเสียงนี้เชิญชวนให้บรรดานักขับรถแข่งมาร่วมเดินทางไปบนเส้นทางที่ขับเคลื่อนด้วยความแกร่งและการแสวงหาความเป็นเลิศอย่างไม่หยุดยั้ง ตลอดระยะเวลากว่าหกทศวรรษ Rolex ได้เฉลิมฉลองความมุ่งมั่นของนักขับรถแข่งและทีมงาน ที่พยายามทลายขีดจำกัดด้านสมรรถนะของรถแข่งบนสนามแข่ง Daytona International Speedway® โดยในปี 1992 ผู้ผลิตนาฬิกาสวิสได้ยกระดับความสัมพันธ์ด้วยการเป็นผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขัน (Title Sponsor) อย่างเป็นทางการ
ส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นระยะยาวของ Rolex ต่อกีฬามอเตอร์สปอร์ต คือการสนับสนุนนักขับรถแข่งมาตลอดหลายรุ่น และในสุดสัปดาห์หน้า Jamie Chadwick (เจมี แชดวิก) ซึ่งเป็น Rolex Testimonee จะรับหน้าที่เป็น Grand Marshal ของการแข่งขันระยะเวลา 24 ชั่วโมงนี้ และจะประกาศคำสั่งยอดนิยม “Drivers, start your engines” ให้นักขับทุกคนสตาร์ทเครื่องยนต์ Chadwick ซึ่งกำลังจะเข้าร่วมการแข่งขันในรายการ European Le Mans Series 2025 กล่าวว่า “นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ทำหน้าที่ Grand Marshal ของการแข่งขัน Rolex 24 At DAYTONA และในฐานะที่เป็นตัวแทนของ Rolex และกีฬามอเตอร์สปอร์ต ฉันตั้งตารอที่จะได้เข้าร่วมในประวัติศาสตร์และชมการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่นี้ ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้มีส่วนร่วมและหวังว่าจะได้เข้าร่วมแข่งในสนาม Daytona ในอนาคตด้วย” Frank Kelleher (แฟรงค์ เคลเลเฮอร์) ประธาน สนามแข่งรถ Daytona International Speedway® ได้กล่าวชื่นชมนักขับชาวอังกฤษผู้นี้ในโอกาสที่เธอรับหน้าที่ Grand Marshal ว่า “Jamie Chadwick เป็นตัวแทนที่แท้จริงของมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก และเป็นตัวแทนที่สมบูรณ์แบบในการทำหน้าที่ Grand Marshal เธอคว้าแชมป์ในการแข่งขันตั้งแต่ครั้งแรกๆ และยังช่วยส่งเสริมความหลากหลายในกีฬามอเตอร์สปอร์ตมาตลอดอาชีพของเธอ”
ในปี 2025 Rolex ได้กระชับความสัมพันธ์กับกีฬามอเตอร์สปอร์ตและการแข่งขัน Rolex 24 At DAYTONA ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ด้วยการเป็นนาฬิกาอย่างเป็นทางการ (Official Timepiece) ให้กับ International Motor Sports Association (IMSA) Scott Pruett นักแข่งที่เคยชนะการแข่งขันรายการนี้ถึง 5 ครั้ง และได้รับการยกย่องใน Hall of Fame ของ IMSA ได้กล่าวแสดงความรู้สึกว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นมากกับความร่วมมือระหว่าง Rolex และ IMSA มันเป็นความรู้สึกส่วนตัวของผม เพราะผมใช้เวลาตลอดอาชีพของผมในการแข่งใน IMSA Championship ซึ่งรวมถึงรายการ Rolex 24 At DAYTONA และพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อคว้าชัยให้ได้นาฬิกา Rolex จากการแข่งขัน ทั้งนี้ Rolex และ IMSA มีความมุ่งมั่นร่วมกันในการสืบทอดตำนานอันเกรียงไกรของการแข่งรถ และเป็นผู้นำที่มุ่งมั่นในการขับเคลื่อนกีฬามอเตอร์สปอร์ตให้ก้าวไปข้างหน้า” IMSA ในฐานะองค์กรรับรองการแข่งขัน โดยมี การแข่งขัน Rolex 24 At DAYTONA เป็นกิจกรรมที่สำคัญที่สุด มีความมุ่งมั่นในการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้าง การแข่งขันคลาสสูงสุดของ IMSA คือ Grand Touring Prototype (GTP) เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงสิ่งนี้ นั่นคือ การส่งมอบนวัตกรรมที่ก้าวข้ามสนามแข่งไปอีกขั้น
ROLEX 24 AT DAYTONA 2025 เปิดเวทีฤดูกาลการแข่งขันสุดเร้าใจ
ในปีนี้ จิตวิญญาณของการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบเห็นได้จากการกลับมาของผู้ผลิตรถแข่งและทีมชั้นนำ ซึ่งเป็นการย้ำถึงความก้าวหน้าที่ต่อเนื่องและการพัฒนาอันยิ่งใหญ่ของการแข่งขันประเภทนี้ หลังจากคว้าธงตาหมากรุกในรายการ Rolex 24 At DAYTONA 2024 รถแข่ง Porsche 963 หมายเลข 7 ของทีม Porsche Penske Motorsport คาดว่าจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวอีกครั้งในสนามแข่งขันสุดโหดที่มีรถแข่งเข้าร่วมการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 61 คัน รวมถึงรถ Cadillac V-Series.R หมายเลข 31 จาก Whelen Cadillac Racing ซึ่งคว้าอันดับที่สองในปีที่ผ่านมา
ความสัมพันธ์อันยาวนานของ Rolex กับสนาม Daytona งอกงามขึ้นตั้งแต่ทศวรรษ 1930 และนับเป็นเวลาเกือบศตวรรษแล้วที่ Sir Malcolm Campbell ได้สร้างสถิติความเร็วทางบกระดับโลกหลายครั้งที่ Daytona Beach โดยขับรถ Bluebird และสวมนาฬิกา Rolex Oyster อยู่บนข้อมือ การเป็นพันธมิตรในประวัติศาสตร์นี้ได้วางรากฐานให้กับความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนของ Rolex กับมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งมี Oyster Perpetual Cosmograph Daytona เป็นสัญลักษณ์แห่งความแม่นยำและประสิทธิภาพ โดยตามประเพณีนี้ ผู้ชนะในการแข่งขัน Rolex 24 At DAYTONA 2025 จะได้ขึ้นรับถ้วยและได้รับนาฬิกา Daytona ที่มีการสลักพิเศษเพื่อเป็นเกียรติแก่นักแข่งและเฉลิมฉลองชัยชนะจากบททดสอบแห่งความพยายามของมนุษย์ ในการพูดคุยถึงความสัมพันธ์ของแบรนด์กับการแข่งขัน Rolex 24 At DAYTONA Tom Kristensen (ทอม คริสเทนเซน) ผู้เป็น Rolex Testimonee และผู้ชนะ 9 สมัยจากรายการ 24 Hours of Le Mans กล่าวถึงความสัมพันธ์ของ Rolex กับ Rolex 24 At DAYTONA ว่า “Rolex ได้เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันนี้ตั้งแต่แรกๆ และความสัมพันธ์นี้เป็นเหมือนการจับคู่ที่เหมาะสมลงตัว ระหว่างทั้งสองนั้นมีมรดกอันยิ่งใหญ่ ที่ทั้งสองฝ่ายจะยังสนับสนุนซึ่งกันและกันต่อไปตลอดการเดินทางนี้”
ROLEX และมอเตอร์สปอร์ต
ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของ Rolex กับกีฬามอเตอร์สปอร์ต ย้อนกลับไปถึงความสำเร็จของ Sir Malcolm Campbell ในการทำลายสถิติโลกความเร็วทางบกในทศวรรษ 1930 เมื่อเขากลายเป็นนักขับรถแข่งคนแรกที่สามารถทลายอุปสรรคความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมง (483 กิโลเมตร/ชั่วโมง) ด้วยรถยนต์ Bluebird ของเขา ตั้งแต่นั้นมา การสนับสนุนจาก Rolex ก็เติบโตมากขึ้น ครอบคลุมไปถึงบุคคลที่ได้รับการยกย่องการแข่งขันชิงแชมป์รถยนต์ทางเรียบที่มีชื่อเสียง และรายการแข่งขันที่สำคัญต่างๆ ความสัมพันธ์นี้ครอบคลุมถึงการแข่งขันรายการ FIA World Endurance Championship (WEC), International Motor Sports Association (IMSA) และการแข่งขันที่ถือเป็นรายการแข่งรถยนต์ทางเรียบที่ท้าทายที่สุดสามรายการ (Triple Crown of Endurance Racing) ได้แก่ Rolex 24 At DAYTONA, 12 Hours of Sebring และ 24 Hours of Le Mans ตลอดระยะเวลาเกือบสามทศวรรษ Rolex ยังได้สนับสนุนการแข่งขันรถยนต์คลาสสิกที่เต็มไปด้วยความสง่างาม ความงดงาม และประเพณี รวมถึงงาน Pebble Beach Concours d’Elegance®, The Quail, A Motorsports Gathering, Rolex Monterey Motorsports Reunion และ Goodwood Revival ซึ่ง Rolex ได้ต้อนรับ Sir Jackie Stewart ตำนานแห่งวงการมอเตอร์สปอร์ต เข้าสู่ครอบครัว Testimonees ในปี 1968 และตั้งแต่นั้นมา ก็มีบุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงเข้าร่วมเป็นสมาชิกในครอบครัวด้วย เช่น Tom Kristensen ผู้ชนะการแข่งขัน 24 Hours of Le Mans ถึง 9 สมัย Mark Webber แชมป์รายการ FIA World Endurance ปี 2015 และผู้ชนะ Grand Prix™ อีกหลายรายการ รวมไปถึงและ Jenson Button แชมป์ FIA Formula 1® Drivers’ World Champion ปี 2009 ซึ่งปัจจุบันกำลังแข่งขันในกีฬามอเตอร์สปอร์ตทางเรียบ และในปี 2022 Rolex ก็ได้ต้อนรับ Jamie Chadwick นักขับรถแข่งหญิงที่มีความโดดเด่น ผู้ชนะการแข่งขัน Indy NXT และแชมป์ W Series สามสมัย เข้าสู่ครอบครัว RolexTestimonee
เกี่ยวกับ ROLEX
กิตติศัพท์ด้านคุณภาพและความเชี่ยวชาญที่เหนือชั้น
Rolex คือผู้ผลิตนาฬิกาแบบบูรณาการอย่างอิสระจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นครเจนีวา ซึ่งแบรนด์มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านความเชี่ยวชาญและคุณภาพของผลิตภัณฑ์อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเลิศ ความสง่างาม และคุณค่าอันทรงเกียรติ กลไกนาฬิกา Oyster Perpetual และ Perpetual ผ่านการรับรองจาก COSC ก่อนเข้าสู่การทดสอบอย่างเข้มข้นภายในองค์กรเพื่อพิสูจน์ความเที่ยงตรง ประสิทธิภาพ และความทนทานสูงสุด การรับรองสถานะ Superlative Chronometer สามารถสังเกตได้จากตราสัญลักษณ์สีเขียว เพื่อเป็นการรับประกันว่านาฬิกาทุกเรือนผ่านการทดสอบเฉพาะโดย Rolex ภายในห้องปฏิบัติการของแบรนด์ตามเกณฑ์อันเข้มงวดที่กำหนดขึ้น ซึ่งจะได้รับการประเมินโดยองค์กรอิสระจากภายนอกอยู่เป็นระยะ เพื่อให้มั่นใจว่า Rolex ยังคงเป็นมาตรฐานสูงสุดแห่งเรือนเวลา
คำว่า ‘Perpetual’ ที่ปรากฏอยู่บนนาฬิกา Rolex Oyster ทุกเรือนนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่คำที่สลักอยู่บนหน้าปัดนาฬิกา หากแต่หมายถึงปรัชญาที่หล่อหลอมวิสัยทัศน์และค่านิยมของบริษัทเข้าไว้ด้วยกัน Hans Wilsdorf (ฮันส์ วิลส์ดอร์ฟ) ผู้ก่อตั้งบริษัท ได้บ่มเพาะแนวคิดของความเป็นเลิศอย่างยั่งยืน ที่ผลักดันให้เกิดการพัฒนาก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ และเป็นจุดกำเนิดของนวัตกรรมการผลิตนาฬิกาที่สำคัญของ Rolex อีกมากมาย อาทิ รุ่น Oyster นาฬิกาข้อมือรุ่นแรกของโลกที่กันน้ำได้ ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 1926 และกลไกไขลานอัตโนมัติ Perpetual rotor ที่ Rolex คิดค้นขึ้นในปี 1931 ทั้งนี้ Rolex ได้จดสิทธิบัตรมาแล้วกว่า 600 ฉบับตลอดช่วงประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของแบรนด์ ที่โรงงานทั้งสี่แห่งในสวิตเซอร์แลนด์ แบรนด์ได้ออกแบบ พัฒนา และผลิตชิ้นส่วนสำคัญของนาฬิกาเอง นับตั้งแต่การหล่อส่วนทองอัลลอย การประกอบกลไก การประดิษฐ์ด้วยฝีมือเชิงช่าง การประกอบตัวเรือน และการเก็บรายละเอียดของกลไก ตัวเรือน หน้าปัด และสายนาฬิกา นอกจากนี้ Rolex ยังมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องที่จะมีส่วนร่วมในการสนับสนุนผลงานด้านศิลปะและวัฒนธรรม กีฬา การสำรวจ ตลอดจนบุคคลผู้ทุ่มเทในการแสวงหาแนวทางเพื่ออนุรักษ์โลกใบนี้อีกด้วย
12 มี.ค. 2568
12 มี.ค. 2568
12 มี.ค. 2568
12 มี.ค. 2568