Last updated: 12 มี.ค. 2568 | 344 จำนวนผู้เข้าชม |
เรือนเวลา โอเรียนท์ สตาร์ แบรนด์นาฬิกาดังจากประเทศญี่ปุ่นเปิดตัวนาฬิกาใหม่ด้วยกันทีเดียวถึง 3 รุ่นรับต้นปี 2025 ให้กับเหล่าบรรดาแฟนคลับได้สะสม สำหรับสาวกจะจดจำแบรนด์ โอเรียนท์ สตาร์ ได้ว่าคือ เรือนเวลาชั้นเยี่ยมที่รังสรรค์โดยช่างฝีมือชาวญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 1951 การสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยี รวมถึงการออกแบบเรือนเวลาอันงดงาม ทักษะแบบดั้งเดิมในการสร้างงานฝีมืออันประณีต ตลอดมาจนถึงปัจจุบันตามความเชื่อที่ว่า “Capture Your Gaze” ดึงดูดสายตาของคุณ และวันนี้ก็เช่นกัน
ที่ โอเรียนท์ สตาร์ ได้เปิดตัวเรือนเวลา 3 ซีรีส์ใหม่! ภายใต้คอลเลคชั่น คอนเทมโพรารี่ สีเอิร์ทโทน จากแรงบันดาลใจในสีสันความงามของธรรมชาติรอบตัว มาสู่สีสันดีไซน์ใหม่ที่เป็นดั่งแรงดึงดูดให้ทุกสายตาจับจ้องมาที่ข้อมือคุณ โดยนาฬิกาทั้ง 3 รุ่นใหม่มีรายละเอียดที่โดดเด่นแตกต่างกันไปดังนี้
ORIENT Star M34 Avant-garde F8 Skeleton ความหรูหราแห่งทะเลทราย
Orient Star เผยโฉมนาฬิกาสองรุ่นใหม่เรือธงในซีรีส์ M34 Avant-garde F8 Skeleton จากคอลเลคชั่น คอนเทมโพรารี เอ็มสามสิบสี่ ที่หลอมรวมเอาความเชี่ยวชาญและประสิทธิภาพอันสูงสุดเข้าไว้ด้วยกัน นาฬิการุ่นใหม่นี้นำเสนอมาในสไตล์ที่หนักแน่นกับสองรูปแบบทั้งตัวเรือนสีดำออลแบล็ค และรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นสีทองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหรูหรา
โดยเรือนเวลารุ่นพิเศษ ลิมิเต็ดอิดิชั่น นั้นนำเสนออย่างโดดเด่นภายใต้ธีม “ความหรูหราแห่งทะเลทราย” หรือ “Desert Luxury” ที่สัมผัสได้ถึงความหรูหราแบบประกายสีทองของเม็ดทรายผสานไปกับไลฟ์สไตล์ชีวิตในเมือง ด้วยหน้าปัดที่เปิดให้เห็นการทำงานของกลไกภายในอย่างมีเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยหัวสกรูทรงหกเหลี่ยม พร้อมตัวเรือนและเม็ดมะยมที่ล้วนถูกแต่งแต้มด้วยสีทองเพื่อเพิ่มความแตกต่าง โดยสายนาฬิกาไนลอนสีกากีที่เดินขอบด้วยหนังสีเหลืองนั้นช่วยให้ดูหนักแน่นและแข็งแกร่งอันเป็นภาพสะท้อนทั้งหมดของดีไซน์ สำหรับรุ่นพิเศษ! ลิมิเต็ดอิดิชั่นนี้จะผลิตขึ้นเพียงแค่ 300 เรือนเท่านั้น โดยนำเข้าประเทศไทยเพียง 25 เรือน และในรุ่นออลแบล็คนั้น (Ref.RE-BZ0004B) มาในรูปแบบตัวเรือนและสายสีดำสนิท ที่สะท้อนภาพความแข็งแกร่งของเนื้อโลหะ โดยทั้งตัวเรือนและสายนาฬิกาผสมผสานเข้ากับเส้นสายที่เฉียบคมกันได้อย่างลงตัว พร้อมโครงสร้างหน้าปัดแบบซ้อนทับกันสองชั้นที่ฉลุให้เห็นถึงการทำงานภายในซึ่งช่วยให้รู้สึกถึงความล้ำสมัยจากรุ่นออลแบล็คนี้ โดยนาฬิกาทั้งสองรุ่นใหม่นี้นำเสนอมาในสไตล์ที่หนักแน่นและเต็มเปี่ยมไปด้วยความหรูหราผ่านกลไกของเครื่องอัตโนมัติที่เที่ยงตรงด้วยผลจากการเลือกใช้ “จักรเหล็กซิลิคอน”เอกสิทธิที่มีเพียงหนึ่งเดียวจากโอเรียนท์ สตาร์
โอเรียนท์สตาร์ได้ผูกตัวเองไว้กับนาฬิกาในรูปแบบสเกเลตันที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่แสดงออกถึงการเป็นผู้ผลิตนาฬิกาจักรกลอย่างแท้จริง นาฬิกาซีรีส์ อาวองต์การ์ด สเกเลตัน (Avant-garde Skeleton) ได้รับความนิยมด้วยดีไซน์ที่ตื่นตาตื่นใจเปิดเผยให้เห็นถึงการทำงานของกลไกภายในที่ก้าวล้ำและให้ความเที่ยงตรง M34 เป็นชื่อเรียกคอลเลคชั่นของแบรนด์โอเรียนท์สตาร์ ที่มีไลน์อัพหลากหลายโดยได้มาจากตัวย่อของรหัสหมู่ดาวเพอร์ซิอุสหรือกลุ่มฝนดาวตก จากการมุ่งมั่นในเรื่องของเทคโนโลยีจึงทำให้ M34 Avant-garde F8 Skeleton ได้รับการยอมรับว่าเป็นเรือนเวลาหนึ่งในระดับไอคอนของคอลเลคชั่นนี้
M34 Avant-garde F8 Skeleton ทั้งสองรุ่นนี้ทำงานบอกเวลาด้วยชุดกลไกอัตโนมัติ Calibre F8F64 ที่มีหัวใจสำคัญอย่างจักรเหล็กซิลิคอนควบคุมการปล่อยพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพอยู่ภายใน พื้นผิวตัวเครื่องได้รับการขัดแต่งด้วยลวดลาย เจนิวา สตริปส์ (Geneva Stripes) และเว้นช่องว่างในบางส่วนเพื่อให้สีน้ำเงินของจักรเหล็กซิลิคอนเปิดเผยสู่สายตาในบริเวณตำแหน่งหกนาฬิกา จักรเหล็กซิลิคอนนี้ได้รับการพัฒนาและผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและแม่นยำซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรสำหรับประเทศญี่ปุ่นและนานาชาติ เครื่อง F8F64นี้สามารถสะสมพลังงานสำหรับการบอกเวลาได้นานสูงสุดที่ 60 ชั่วโมงพร้อมค่าความแม่นยำที่ +15 วินาที ถึง -5 วินาทีต่อวัน สำหรับนาฬิการุ่นออลแบล็ค ราคาจำหน่ายอยู่ที่เรือนละ 87,000 บาท และรุ่นพิเศษ!ลิมิเต็ดอิดิชั่น “Desert Luxury” อยู่ที่เรือนละ 89,000 บาท
ORIENT STAR “Layer Skeleton” สองรุ่นใหม่จากกลิ่นอายแห่ง เมดิเตอร์เรเนียน
โอเรียนท์สตาร์เพิ่มนาฬิกาสองรุ่นใหม่ให้กับซีรีส์ เลเยอร์ สเกเลตัน (Layer Skeleton) ที่อยู่ภายใต้คอลเลคชั่น คอนเทมโพรารี่
โดยนาฬิกาสองรุ่นล่าสุดในซีรีส์นี้เลือกใช้สีที่สดใหม่ในขณะที่เพิ่มเติมกลิ่นอายในแบบเมดิเตอร์เรเนียนไว้บนหน้าปัดเพื่อแสดงออกถึงบรรยากาศและความซับซ้อนของชายฝั่ง ความสวยงามของการผสมผสานกันระหว่างสีเข้มและอ่อนจากดีไซน์หน้าปัดแบบสองชั้นที่สร้างให้เกิดมิติความลึกยิ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกสบายๆ ในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนออกมาได้อย่างชัดเจน
โดยรุ่นปกตินั้นหน้าปัดจะมาในโทนสี “แชมเปญ โกลด์” ที่ชวนให้ประทับใจจากความสวยและสง่างามเป็นดั่งตัวแทนของแสงอาทิตย์บริเวณชายฝั่ง และในรุ่นที่เป็นลิมิเต็ดอิดิชั่นหน้าปัดสี “มินต์กรีนท์” ชวนให้นึกถึงสายลมที่สดชื่นบนผืนมหาสมุทรสีฟ้า ทั้ง 2 สีใหม่ของโอเรียนท์สตาร์ ซีรีส์ เลเยอร์ สเกเลตัน นั้นทำให้เรือนเวลาทั้งคู่ดูเหมาะกับการเป็นไอเท็มที่ลงตัวสำหรับการแต่งกายสไตล์ซัมเมอร์นี้
สำหรับ Layer Skeleton นั้นได้เริ่มต้นซีรีส์ด้วยแรงบันดาลใจที่ได้มาจากชุดสูทและรูปแบบหน้าปัดที่ซ้อนกันสองชั้นรวมถึงช่องหน้าต่าง semi-skeleton รูปทรงลูกน้ำหรือเพรสลี่ย์ (paisley) และหน้าปัดแสดงพลังงานคงเหลือที่เจาะช่องไว้ตรงกลางเผยให้เห็นเครื่องที่ทำงานอยู่ภายในซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้หน้าปัดโดยรวมมีความสวยงาม โดยเรือนเวลาหน้าปัดสีแชมเปญโกลด์นั้นจับคู่มากับสายหนังแท้สีเทา ในขณะที่รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นหน้าปัดสีมินต์กรีนนั้นมาพร้อมสายนาฬิกาสตีล (SUS316L) แบบห้าข้อที่มีระยะของแต่ละข้อที่สั้นเพื่อเพิ่มความกระชับขณะที่สวมใส่
นาฬิกาสองรุ่นใหม่นี้ได้รับการบรรจุเครื่องอัตโนมัติที่ผลิตขึ้นเองภายในโรงงานของ Orient Star รหัส F6F44 สามารถสะสมพลังงานสูงสุดที่ 50 ชั่วโมงและให้ค่าความเที่ยงตรงสูงที่ +25 วินาทีถึง – 15 วินาทีต่อวัน สีของหน้าปัดใหม่และแถบแสดงพลังงานสำรองอันเป็นเอกลักษณ์ของโอเรียนท์สตาร์นั้นช่วยเพิ่มความมีสไตล์ให้กับกลไกการบอกเวลาที่มีความซับซ้อนสูงของซีรีส์ Layered Skeleton นี้ นาฬิการุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นมาพร้อมกับหมายเลขประจำตัวเรือนสลักอยู่บริเวณขอบของฝาหลังที่กรุกระจกใสช่วยเพิ่มความรู้สึกพิเศษให้กับนาฬิกา สำหรับราคาจำหน่ายของนาฬิกา โดยเรือนปกติหน้าปัดสี “แชมเปญ โกลด์” จะอยู่ที่เรือนละ38,000 บาท และ รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นหน้าปัดสี “มินต์กรีน”จะอยู่ที่เรือนละ 39,000 บาท
Orient Star “Contemporary Date” เรือนเวลารุ่นใหม่ 4 สีเอิร์ทโทนสุดละมุน
Orient Star นาฬิการุ่นใหม่ภายใต้ชื่อรุ่น “Contemporary Date” ต่อยอดความนิยมจากสีดั้งเดิมสู่ 4 สีรุ่นใหม่ที่มาในโทนสีหน้าปัดแบบเอิร์ธโทนจากคอลเลกชั่น Contemporary สีสันอันวิจิตรบรรจงนี้เพิ่มเสน่ห์ให้กับนาฬิการุ่นนี้ ซึ่งโดดเด่นด้วยมาตรวัดแสดงพลังงานสำรองและสไตล์ในแบบร่วมสมัย นอกจากเข็มนาฬิกาแบบสามเข็มตามการออกแบบดั้งเดิม นาฬิการุ่น “Contemporary Date” ยังมีการแสดงวันที่ตรงบริเวณตำแหน่ง 3 นาฬิกาและการแสดงพลังงานสำรองอันเป็นเอกลักษณ์ของ Orient Star ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกาอีกด้วย นาฬิกาซีรีส์นี้ได้รับความนิยมมาอย่างเนื่องจากการเป็นนาฬิกาอเนกประสงค์ที่เหมาะสำหรับสวมใส่ในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือลำลอง
Orient Star “Contemporary Date” มาพร้อมหน้าปัด 4 สีใหม่ที่แตกต่างจากรุ่นก่อนๆ ด้วยการใช้โทนสีที่ให้สัมผัสที่ดูนุ่มนวลของสีเอิร์ธโทน นำเสนอทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีเขียวของใบไม้ (Leaf) สีคอปเปอร์ที่สื่อถึงทรายในทะเลทราย (Sand) สีฟ้าอ่อนที่ชวนให้นึกถึงสายน้ำใสราวกับคริสตัล (Water) และสีเทาที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของหิน (Rock) ความมีสไตล์ที่ลงตัวของนาฬิการุ่นนี้สร้างขึ้นจากการใช้สีสันของสีที่มีความอิ่มตัวน้อยลง (Desaturation) และเฉดสีเหล่านี้ทำให้นาฬิการุ่นนี้มีเสน่ห์เพิ่มขึ้นอีกขั้น คุณสมบัติอีกประการของนาฬิการุ่น “Contemporary Date” สีเอิร์ธโทนนี้คือ คุณภาพระดับสูงที่ได้จากกระจกแซฟไฟร์เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน ตัวเรือนดีไซน์เฉียบที่ผสมผสานระหว่างการขัดแบบแฮร์ไลน์และผิวกระจกและสายนาฬิกาสเตนเลสสตีล SUS316L นาฬิกาทุกเรือนมาพร้อมเครื่องอัตโนมัติ in-house คาลิเบอร์ F6N43 ซึ่งมีความเที่ยงตรงสูงและให้ค่าความคลาดเคลื่อนอยู่ที่ +25 วินาทีถึง –15 วินาทีต่อวัน สำรองพลังงานได้ 50 ชั่วโมง จึงทำให้ Orient Star “Contemporary Date” เป็นนาฬิกาที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน สีเอิร์ธโทน และความล้ำสมัยของสีสันบนขนาดตัวเรือน 38.5 มิลลิเมตรที่ช่วยให้สวมใส่สบาย ความเป็นนาฬิกาคุณภาพสูง มีความเที่ยงตรงและราคาที่จับต้องได้ จึงทำให้นาฬิการุ่นนี้เป็นนาฬิกาที่น่าดึงดูดใจสำหรับการใช้งานได้ง่ายในชีวิตประจำวันของใครหลายคน สำหรับราคาจำหน่ายนาฬิการุ่น “Contemporary Date”จะอยู่ที่เรือนละ 29,000 บาท (ทุกสี)
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02-255-8822 หรือทางเฟสบุ๊ก ORIENT STAR
https://www.facebook.com/orientstarwatch.th พร้อมทั้งทางร้านค้าตัวแทนจำหน่ายนาฬิกา ORIENT STAR ทั่วประเทศ
และเคานเตอร์นาฬิกา ORIENT ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทุกสาขา
#Orient
#PrideOfThailand
#AnewMilestoneOfQualityDefinition
12 มี.ค. 2568
12 มี.ค. 2568
12 มี.ค. 2568