GRAND SEIKO Caliber 9RB2

Last updated: 8 เม.ย 2568  |  406 จำนวนผู้เข้าชม  | 

GRAND SEIKO Caliber 9RB2

การแสวงหาความแม่นยําาระดับสูง ถือเป็นรากฐานสําคัญแห่งค่านิยมของ Grand Seiko มาโดย ตลอด การได้รับการรับรองมาตรฐานใหม่ อันได้แก่ U.F.A. ซึ่งย่อมาจาก “Ultra Fine Accuracy” (อัลตรา ไฟน์ แอคคิวเรซี) อันหมายถึง “ความแม่นยําระดับสูงเป็นพิเศษ” ของคาลิเบอร์ 9RB2 เป็นการ ยกระดับความแม่นยําให้สูงขึ้น เพราะระดับความแม่นยําของมาตรฐานนี้มิได้วัดเป็นเกณฑ์วินาทีต่อวัน ต่อ สัปดาห์ หรือต่อเดือน แต่วัดจากความแม่นยําของการทํางานตลอดระยะเวลา 1 ปี โดยกลไกต้องให้อัตรา ความแม่นยําในการทํางานที่น่าทึ่งถึงระดับไม่เกิน 20 วินาทีต่อปี หรือประมาณไม่เกิน 3 วินาทีต่อเดือน ซึ่งถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในการวัดระดับความแม่นยาของกลไกสําหรับนาฬิกาข้อมือที่ขับเคลื่อนด้วยสปริงลาน*

*ข้อมูล ณ เดือนเมษายน 2025 อ้างอิงจากการค้นคว้าของ Grand Seiko

กลไกระบบสปริงไดรฟ์ ซึ่งใช้คุณสมบัติของคริสตัลที่สั่นด้วยความถี่คงที่ควบคุมการล่วงผ่านของ เวลานั้น ปัจจัยภายนอก เช่น การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ความชื้น และแรงโน้มถ่วง อาจทําให้ความถี่ ของ คริสตัล ออสซิลเลเตอร์ เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งทําให้เกิดผลกระทบต่อการทํางานได้เล็กน้อย และเมื่อ เวลาผ่านไปเนิ่นนานก็อาจทําให้ความแม่นย่าเกิดความคลาดเคลื่อนขึ้นเล็กน้อยได้

ความแม่นยําาระดับไม่เกิน 20 วินาทีต่อปี ของคาลิเบอร์ 9RB2 กระทําได้โดยการพินิจพิจารณาถึง วิธีการผลิตและกระบวนการทํางานอย่างละเอียดถี่ถ้วนของ ควอตซ์ ออสซิลเลเตอร์ ที่ผ่านการบ่มเป็น ระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตภายในโรงงานของ Grand Seiko เอง และวงจรรวมสําหรับ ชดเชยอุณหภูมิที่ออกแบบขึ้นมาใหม่ และด้วยการใช้สวิตช์ควบคุมที่พัฒนาขึ้นใหม่ก็ช่วยลดความคลาดเคลื่อนของความแม่นยําอันเนื่องมาจากอายุการใช้งานหลังจากประกอบกลไกเข้ากับตัวเรือนแล้วให้หลงเหลือน้อยที่สุดกว่าที่เคยได้


รายละเอียดทางเทคนิค
กลไกการขึ้นลาน อัตโนมัติ สามารถขึ้นลานด้วยมือได้
ความแม่นยําา ±20 วินาทีต่อปี (ไม่เกิน ±3 วินาทีต่อเดือน)
พลังงานสํารอง ประมาณ 72 ชั่วโมง (3 วัน)
จํานวนทับทิม 34 ชิ้น
คุณลักษณะ: ออฟเซ็ต เมจิก เลเวอร์, สะพานจักรชิ้นกลางชิ้นเดียว, แสดงพลังงานสํารอง, แสดงวันที่

การบรรจุแบบผนึกสุญญากาศ ของ คริสตัล ออสซิลเลเตอร์ ที่คัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน
เช่นเดียวกับกลไกซีรี่ส์ 9RA กลไกคาลิเบอร์ 9RB2 ใช้กระบวนการบ่ม ควอตซ์ ออสซิลเลเตอร์ เป็นเวลานาน 3 เดือน และใช้วงจรรวมที่ใช้พลังงานต่ํามากในการชดเชยอุณหภูมิ โดยทั้งออสซิลเลเตอร์ และเซ็นเซอร์ถูกผนึกแบบสุญญากาศเพื่อลดความแตกต่างของอุณหภูมิให้เหลือน้อยที่สุด ความถี่ของควอตซ์ ออสซิลเลเตอร์ แต่ละชิ้นนั้นถูกวัดด้วยอุณหภูมิที่แตกต่างกันหลายระดับหลังจากที่ตัวเครื่องถูก ประกอบเข้ากับตัวเรือนนาฬิกาแล้ว โดยข้อมูลที่จําเป็นต่อการชดเชยอุณหภูมิจะถูกตั้งโปรแกรมไว้ที่วงจร รวม งใช้พลังงานต่ําา การสั่นของ คริสตัล ออสซิลเลเตอร์ นั้นไวต่อความผันผวนของอุณหภูมิ ดังนั้นคาลิ เบอร์ 9RB2 จึงรวมเซ็นเซอร์วัดอุณภูมิไว้ในวงจรรวมแบบพิเศษที่เรียกว่า ซิลิคอน-ออน-อินซูเลเตอร์ ไอซี (SOC-IC) ซึ่งรวบรวมข้อมูลอุณหภูมิถึง 540 ครั้งต่อวัน เพื่อทําการตรวจสอบอิทธิพลของการ เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิภายในวงจรรวม และชดเชยการเปลี่ยนแปลงในประสิทธิภาพของ ออสซิลเลเตอร์ นอกจากนี้การนํา คริสตัล ออสซิลเลเตอร์ และวงจรรวมไว้ในการบรรจุแบบผนึกสุญญากาศชิ้นเดียวกันจะ ช่วยลดความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างวงจรรวมและ คริสตัล ออสซิลเลเตอร์ ทําให้สามารถปรับตั้งอุณหภูมิได้ด้วยความแม่นยําระดับสูง อีกทั้งการติดตั้งสายไฟทั้งหมดที่เชื่อมต่อ คริสตัล ออสซิลเลเตอร์ เข้ากับวงจรรวมภายในการบรรจุแบบผนึกสุญญากาศนั้น นอกจากจะป้องกันวงจรรวมจากอิทธิพลของไฟฟ้าสถิตและแสงได้แล้ว ยังช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของความชื้นซึ่งส่งผลต่อการทํางานของกลไกได้ด้วย

การใช้สวิตช์ควบคุมเป็นครั้งแรก สําหรับกลไก สปริงไดรฟ์
ด้วยการทําความเข้าใจลักษณะเฉพาะที่เกิดจากความเครียดเล็กน้อยที่ยังคงเหลืออยู่หลังจาก คริสตัลได้รับการบ่มเทียมในโรงงานของ Grand Seiko ซึ่งทําให้สามารถชดเชยความคลาดเคลื่อนเล็กน้อยในความถี่ของการสั่นได้ด้วยการบ่มแบบอนาคตแล้ว กลไกคาลิเบอร์ใหม่นี้ ถือเป็นครั้งแรกที กลไก สปริงไดรฟ์ มีสวิตช์ควบคุม งสามารถทําการปรับแก้ไขความคลาดเคลื่อนของความแม่นยําาที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานานได้เมื่อนํานาฬิกาเข้ารับการซ่อมบํารุง

การได้มาซึ่งความแม่นยําระดับสูงและดีไซน์ที่กะทัดรัด
เพื่อสร้างกลไกให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ําซึ่งช่วยเพิ่มความสบายให้กับการสวมใส่ ตลับลานเดี่ยวขนาดบางและ เมจิก เลเวอร์ แบบใหม่ที่มากับล้อหมุนแบบออฟเซ็ตจากจุดศูนย์กลางของกลไกจึงถูกพัฒนาขึ้น มา กลไกนี้จึงมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำและสามารถให้พลังงานสํารองได้นานถึงประมาณ 72 ชั่วโมง และเช่นเดียวกับซีรี่ส์ 9RA ความแข็งแรงของกลไกคาลิเบอร์นี้มอบความมั่นใจด้วยโครงสร้างสะพานจักร กลางแบบชิ้นเดียว และด้วยรูปร่างที่บางและมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่มากของกลไกคาลิเบอร์นี้ ท ให้เกิดกลไกขนาดเล็กที่สุดของซีรี่ส์ 9R เพื่อให้บรรจุไว้ในตัวเรือนที่มีขนาดเล็กลงได้ โดยใช้ตัวเรือนที่มี ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 37 มิลลิเมตร

การตกแต่งกลไกที่สะท้อนถึงความงามตามธรรมชาติของชินชู
การตกแต่งชิ้นส่วนภายนอกของคาลิเบอร์ 9RB2 ถูกกระทําอย่างพิถีพิถันและสะท้อนถึงความงามตามธรรมชาติของถิ่นกําาเนิด นั่นก็คือ ชินชู พื้นที่อันเป็นที่รู้จักกันดีในจังหวัดนากาโน่ ดีไซน์การ ตกแต่งเหล่านี้ได้รับแรงบันดาลใจจากน้ําค้างแข็งที่ปกคลุมต้นไม่ในช่วงฤดูหนาวของภูมิภาคที่เต็มไปด้วยภูเขาแห่งนี้ คุณลักษณะที่สะดุดตาของน้ําค้างแข็งเหล่านี้ คือ แสงเรืองรองสะกดสายตาที่ครอบคลุม ไปทั่วพื้นที่ โดยเปล่งออกมาจากชั้นของนํ้าค้างแข็งซึ่งมีพื้นผิวขรุขระอย่างมีเสน่ห์ ดีไซน์ของสะพานจักร นําเสนอลักษณะของน้ําค้างแข็งและตกแต่งด้วยการเคลือบผิวทรายให้เกิดโทนสีกลาง ๆ นํามาซึ่งแสงเรืองรองที่ดูสงบและสง่างาม ส่วนแนวขอบของสะพานจักรก็เปล่งแสงอย่างคมชัดด้วยการจับแสงจากทุก ทิศทางเพื่อเน้นให้เห็นถึงความสดใสอย่าง เล็กของดีไซน์ ขณะที่โรเตอร์ถูกออกแบบให้มีการสลัก ข้อความ “Ultra Fine Accuracy” เพื่อบ่งบอกถึงความแม่นยําในระดับ U.F.A.

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

RADO Caption Cook

18 เม.ย 2568

BOUCHERON

18 เม.ย 2568

CITIZEN Tsuyosa

17 เม.ย 2568

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้