NEWS

ภาษาไทย เปรียบได้ดั่งท่วงทำนองจากสรวงสวรรค์ เสียงสูงต่ำของถ้อยคำในยามที่ถูกเอื้อนเอ่ยออกมานั้นได้รับการยกย่องว่ามีความไพเราะราวกับเสียงโน้ตดนตรี อีกทั้งยังมีสัมผัสคล้องจองซึ่งเกิดจากการผสมผสานพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ อันเป็นมรดกล้ำค่าแห่งอัจฉริยภาพของบรรพบุรุษไทยที่สั่งสมตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนานกว่า ๗๐๐ ปี

“Nature at Full Gallop” คือแนวคิดหลักประจำปี 2016 ของสุดยอดแบรนด์อย่าง Hermès ที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของ “ธรรมชาติ” ในฐานะแรงบันดาลใจชั้นเลิศและแหล่งวัตถุดิบหลักในการสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่ง Slim d’Hermès Pocket Panthère นาฬิกาพกรุ่นล่าสุดที่เพิ่งได้รับการเปิดตัวก็สะท้อนแนวคิดนี้ออกมาได้อย่างวิจิตรตระการตา

Fabergé เผยโฉม Lady Compliquee Peacock มาในตัวเรือนขนาด 38 มิลลิเมตร ตัวเรือนทำจากแพลตทินั่มประดับเพชรที่ขอบตัวเรือนถึง 54 เม็ด น้ำหนักรวมแล้วถึง 1.83 กะรัต หน้าปัดแกะสลักเป็นรูปนกยูงด้วยเปลือกหอยมุกสีขาวและทองคำขาว 18 กะรัต และหน้าปัดยังประกอบด้วยทองคำ 18 กะรัต ประดับเพชร 127 เม็ด พลอยทัวร์มาลีน 0.38 กะรัต และพลอยซาวอไรท์อีก 57 เม็ด เม็ดมะยมทำจากแพลตทินั่ม กระจกทำจากคริสตัลแซฟไฟร์ป้องกันรอยขีดข่วน เข้าคู่สวยงามมาพร้อมกับสายหนังจระเข้แท้สีขาว

เปิดศักราชใหม่กับปี 2016 ด้วยงานนาฬิกาสุดยิ่งใหญ่อลังการที่รวบรวมนาฬิกาหลากหลายแบรนด์จัดแสดงโชว์ภายใต้งาน Salon International De La Haute Horlogerie Geneve หรือ SIHH ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และนาฬิกาที่วันนี้จะนำมาเสนอผู้อ่านก็มีหลากหลายแบรนด์ด้วยกัน

Oris ร่วมมือกับองค์กรเพื่อการอนุรักษ์ท้องทะเลออสเตรเลียเพื่อปกป้องและอนุรักษ์แนวปะการัง โดยผลิตนาฬิการุ่น Oris Great Barrier Reef Limited Edition ll ออกมาด้วยตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 46 มิลลิเมตร กันน้ำได้ถึงระดับ 500 เมตร หน้าปัดเคลือบด้วยเซรามิกสีดำขัดเงากัน กลไกที่โดดเด่นที่สุดของนาฬิกาเรือนนี้คือ นวัตกรรมหน้าต่างแสดงวันในสัปดาห์ ที่ผ่านวงแหวนด้านหน้าปัด ในการออกแบบนาฬิกา Oris ได้แรงบันดาลใจมาจากท้องทะเล แต่ยังให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่นการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมหัวล็อคสายแบบบานพับที่มีสมอนิรภัย และกลไกเลื่อนปรับสายที่พัฒนาเข้าคู่กับสายยาง ทำให้นาฬิกาสำหรับนักประดาน้ำรุ่นนี้มีความปลอดภัยสูง และง่ายต่อการสวมใส่ หรือถอดจากชุดประดาน้ำ ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 2000 เรือนเท่านั้น

Audemars Piguet เผยโฉม Royal Oak Chronograph ตัวเรือนนาฬิกามาพร้อมความสปอร์ตขนาด 41 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 2385 มาพร้อมระบบจับเวลาและ 3 หน้าปัดย่อยตามแบบฉบับของปรมาจารย์แห่งวงการนักออกแบบนาฬิกาอย่าง Gerald Genta ที่ได้ดีไซน์ไว้ในช่วงต้นยุค 70 พร้อมช่องหน้าต่างแสดงวันที่ ณ ตำแหน่ง 4 นาฬิกา และบอกวินาทีที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา

Breitling เผยโฉม Avenger Bandit นาฬิกาที่เปรียบเสมือนจิตวิญญาณแห่งการบินกองทัพเรือบนข้อมืออย่างแท้จริง โดยตัวเรือนมาในขนาด 45 มิลลิเมตร กลไกอัตโนมัติโครโนกราฟ Calibre Breitling 13 เสริมกำลังแห่งการปกป้องด้วยองค์ประกอบรายล้อมอันสมบูรณ์แบบ ทั้งงานตกแต่งขัดด้านซาตินที่ช่วยขจัดแสงสะท้อนอันไม่พึงประสงค์ในระหว่างปฏิบัติภารกิจสำคัญ ขณะที่หน้าปัดโดดเด่นด้วยสีเทา และหน้าปัดย่อยที่ไล่มาในโทนสีเดียวกัน บรรจุตัวเลขบอกชั่วโมงด้วยสไตล์ฉลุที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการบินอันทรงพลัง เติมเสน่ห์ด้วยการติดตั้งกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ป้องกันการกระแทก พร้อมเคลือบสารเรืองแสงทำให้อ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจน สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 300 เมตร กระชับข้อมือด้วยตัวพับล็อคสายไทเทเนี่ยมผสมผสานด้วยพื้นยางล้ำสมัยบนด้านในที่สัมผัสกับข้อมือ ขณะที่ด้านนอกประกบด้วยผ้าไฟเบอร์สุดไฮเทค ได้รับประกาศนียบัตรรับรองความเที่ยงระดับโครโนมิเตอร์ จาก COSC

Tag Heuer และ Autavia Cup ชวนผู้ชูื่นชอบนาฬิกา Heuer Vintage รุ่น Autavia โหวตดีไซน์นาฬิกา Heuer Autavia ที่ทา่ นชอบเพื่อมารีเอ็ดดิชั่นอีกครั้ง โปรเจ็คนี้ใครที่หลงรักนาฬิกาแนววินเทจของ Heuer หรือคอนักสะสมไม่ควรมองข้าม

นับเป็นอีกหนึ่งคอลเลคชั่นที่น่าหลงใหลที่สุดของแบรนด์กับเรือนเวลาแห่งการสร้างสรรค์ครั้งใหม่กับคอลเลคชั่น The Alexandre C Collection ที่สวมใส่แบบเข้าคู่ทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ตัวเรือนนาฬิกาถูกสร้างสรรค์ด้วยสเตนเลสสตีลชั้นดี โดดเด่นด้วยสายเคเบิ้ลไขว้อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์ สำหรับรุ่นของสุภาพสตรี มีให้เลือกในแบบหน้าปัดสีขาวมุกมาเตอร์ ออฟ เพิร์ล ที่มาพร้อมขีดบอกเวลาด้วยเพชรเม็ดงาม ขอบตัวเรือนส่องประกายระยิบระยับจากเพชรเม็ดงามนับร้อย รับกับโทนสีเย็นของสายเคเบิ้ลที่ทำจากสเตนเลสสตีลเงางาม สำหรับสไตล์สุภาพบุรุษ จะโดดเด่นด้วยการประทับโลโก้ Charriol รอบตัวเรือนหน้าปัด มาในกลไกควอตซ์มีให้เลือกทั้งแบบเป็นขีดบอกเวลาขัดเงาทั้งหมด หรือดีไซน์ผสมผสานระหว่างขีดบอกเวลาแบบเส้นที่มาพร้อมเลขโรมัน 4 ตัว ประทับอยู่บนหน้าปัดขัดเงาแบบกิโยเช่ (guilloche) สีเงินเงางาม ก่อให้เกิดเป็นนาฬิกาคู่ในอุดมคติ สำหรับทุกคู่รัก หรือสามีภรรยา ที่สามารถสวมใส่พร้อมกันเพื่อแสดงออกถึงความเป็นหนึ่งเดียว

ไทม์เม็กซ์ นำเสนอ Timex Men Expedition Metal Scout เรือนนาฬิกาที่ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยดีไซน์คลาสสิกเรียบง่าย แรงบันดาลใจมาจากทหารหาญในสมรภูมิ มีความแข็งแกร่งทนทานด้วยตัวเรือนโลหะชั้นเยี่ยม ตัวเรือนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มิลลิเมตร พร้อมอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจนและแม่นยำด้วยกลไกควอตซ์คุณภาพสูงที่ขับเคลื่อนเข็มปลายแหลมรูปทรงดินสอ เสริมเสน่ห์สะดุดตาชวนมองด้วยเข็มวินาทีทรงลูกศรเคลือบสีสันสดใส และเติมเต็มความสมบูรณ์ด้วยการแสดงตัวเลขวันที่ผ่านช่องหน้าต่าง ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบไฟแสงสว่างหน้าปัด อินดิโกล ไนท์-ไลท์ (INDIGLO® Night-Light) ลิขสิทธิ์เฉพาะของ Timex ที่ทำให้สามารถอ่านค่าเวลาบนหน้าปัดได้อย่างชัดเจนในความมืดอีกด้วย โดยมีให้เลือก 3 รูปแบบ ได้แก่ ตัวเรือนสีเทาเงิน หน้าปัดสีดำ เข็มวินาทีสีส้ม สวมคู่กับสายหนังสีดำ เวอร์ชั่นที่สองมาในมาดเข้มขรึมแฝงความร้อนแรงในตัวเรือนเคลือบสีดำ เข็มวินาทีสีแดง สวมคู่กับสายไนล่อนลายตารางสีแดง-ดำ และเวอร์ชั่นสุดท้ายตัวเรือนเคลือบสีดำ เข็มวินาทีสีฟ้า สวมคู่กับสายไนล่อนลายตารางสีฟ้า-ดำ

Admiral’s Cup AC-One 45 Tides เป็นหนึ่งในสุดยอดนาฬิกาที่สามารถบ่งบอกการวัดระดับกระแสน้ำได้ทุกเวลา ไม่ว่าจะน้ำขึ้นหรือน้ำลง เนื่องจากอิทธิพลที่ส่งผลต่อระดับน้ำทุกวันจะขึ้นอยู่กับระยะห่างของดวงจันทร์กับโลก ซึ่งสามารถประมาณค่าความสูงของระดับน้ำ และความแรงของกระแสน้ำได้ด้วย ตัวเรือนทำจากวัสดุไทเทเนียม ที่ยังคงเอกลักษณ์รูปแบบสปอร์ตทันสมัยทรง 12 เหลี่ยม โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีแดง และสำรองพลังงานได้ 42 ชั่วโมง มาพร้อมกับสายยางวัลคาไนท์สีแดงได้อย่างลงตัว

Orient เผยโฉมเรือนเวลาสุดคลาสสิค World Limited Edition Sun & Moon มาพร้อมความโดดเด่นของหน้าปัดสีแชมเปญที่ถูกรังสรรค์ให้ดูมีมิติ ด้วยการทับซ้อนของพื้นที่หน้าปัด 3 ชั้น บอกเวลาสุดคลาสสิคเป็นเลขโรมัน บริเวณช่องหน้าต่างแสดงสัญลักษณ์พระอาทิตย์และพระจันทร์เพื่อแสดงช่วงเวลากลางวันและกลางคืนในตำแหน่ง 10 นาฬิกา รวมถึงช่องหน้าต่างแสดงวัน และวันที่ กระจกหน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์ นอกจากนี้ยังเพื่มความหรูหราเหนือระดับด้วยขอบหน้าปัดสีทอง เข้าคู่มากับสายหนังสีชาร์โคลบราวน์

คอลเลคชั่น Traditionnelle ผู้ซึ่งพิสูจน์ถึงสัมพันธภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างศิลปะและงานประดิษฐ์ฝีมือ ครั้งนี้กลับมาพร้อมกับเผยโฉมเวอร์ชั่นเรือนเวลาสำหรับสุภาพสตรี Traditionnelle Small Mode มาในตัวเรือนขนาด 33 มิลลิเมตร ประดับแวววาวเจิดจรัสเต็มพื้นที่ด้วยความงามของเพชรเจียระไนกลมหลายร้อยเม็ด พลังขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานด้วยมือ คาลิเบอร์ 1400 รูปทรงโค้งกลมมนของตัวเรือน ประดับด้วยพรมแห่งอัญมณีล้ำค่า 608 เม็ด ขณะที่เพชรเจียระไนกลมหนึ่งเม็ด หนัก 0.06 กะรัต ประดับโดดเด่นบนยอดเม็ดมะยมไขลานเซาะร่อง ร้อยลงตัวด้วยสายหนังจระเข้มิสซิสซิปเปียนซิส สีน้ำเงินไนท์บลู สร้างสรรค์เป็นภาพที่ตัดกันและเสริมความสวยงามแวววาวของเพชรได้เป็นอย่างดี รวมถึงผสานด้วยงานตกแต่งบนหัวเข็มขัดแบบหมุดทำจากทองคำขาว 18 กะรัต ประดับด้วยเพชรเจียระไนกลมอีก 17 เม็ด นอกจากนี้ยังผ่านการประทับด้วยตราอันทรงเกียรติ Hallmark of Geneva แสดงให้เห็นถึงงานออกแบบที่พิสูจน์ฝีมืออันล้ำเลิศสูงสุด

น้องใหม่แห่งบ้านตระกูล M-Series ต้อนรับศักราชใหม่แห่งปี 2016 กับคอลเลกชั่น SEVENFRIDAY M1/03 โดดเด่นด้วยแรงบันดาลใจจากระบบเครื่องยนต์และดีไซน์งานออกแบบผลิตภัณฑ์ภาคอุตสาหกรรม SEVENFRIDAY M1/03 นี้ พร้อมจะกลับมาเขย่าหัวใจคนรักและนักสะสมนาฬิกากลไกอีกครั้ง กับคุณภาพและดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวล้ำสมัย คุ้มค่า สมราคาและการรอคอยของทุกคนแน่นอน

Gucci เปิดตัวนาฬิกาคอลเลคชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ U-Play Special Thailand Edition เพื่อต้อนรับปีวอกโดยรังสรรค์ขึ้นเพื่อประเทศไทยโดยเฉพาะ คอลเลคชั่นพิเศษนี้มาพร้อมความโดดเด่นด้วยโทนสีแดงที่ขอบหน้าปัด เปล่งประกายความเป็นแบรนด์แฟชั่นระดับโลกด้วยสัญลักษณ์ตัว G ไขว้บนหน้าปัดสีเงิน พร้อมโลโก้ของแบรนด์ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ตอกย้ำความพิเศษด้วยการคล้อง Dog Tag Charm สลักรูปลิงนำโชค อันเป็นสัญลักษณ์ของความปราดเปรียวว่องไว มาพร้อมตัวอักษร “ ไทยแลนด์” ที่ด้านหลัง เข้าคู่กับสายหนังปั๊มลายกุชชี่ ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 50 เรือนเท่านั้น

Grand Seiko เสนอผลงานการสร้างสรรค์ระดับสูงด้วยรุ่น Credor Spring Drive Minute Repeater นาฬิกาเรือนแรกของ Grand Seiko ที่มีฟังก์ชั่น Minute Repeater ที่ตีบอกเวลาด้วยเสียงได้ละเอียดถึงระดับนาที ตัวเรือนขนาด 42.8 มิลลิเมตร วัสดุทำจากทองคำชมพูประกอบด้วยชิ้นส่วนไม่น้อยกว่า 660 ชิ้น สามารถมองเห็นกลไกทั้งหมดผ่านกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ทั้งฝาหน้าและฝาหลัง และยังเพิ่มลูกเล่นสุดพิเศษคือ กลไกสปริงไดรฟ์ ที่บอกเวลาอย่างเงียบสนิทและต่อเนื่องโดยปราศจากเสียง ผสานกับเทคโนโลยี “ Silent Governor “ซึ่งอาศัยความหนืดของอากาศ มาควบคุมอัตราความเร็วจังหวะการตีของฆ้อง ทำให้การแสดงเวลาแม่นยำและปราศจากเสียงกลไก ทั้งนี้ยังทำให้เสียงตีระฆังบอกนาทีดังก้องกังวานได้อย่างเต็มที่ สำรองพลังงานได้ 72 ชั่วโมง เข้าคู่มากับสายหนังจระเข้สุดหรู ประกอบด้วยบานพับล็อกทองคำชมพู

Blancpain ต้อนรับเดือนแห่งความรักเอาใจสุภาพสตรี ด้วยเรือนเวลาทองคำขาวสุดหรู รุ่น The ladybird Saint Valentine’s Day 2016 ขนาด 21.5 มิลลิเมตร ล้อมรอบด้วยเพชรขนาด 0.5 กระรัต หน้าปัดเปล่งประกายสวยงามด้วยเพชรและทับทิมสีชมพูรังสรรค์ขึ้นเป็นรูปหัวใจ ตัวเลขบอกเวลาทำจากเพชรน้ำงามที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา 3 นาฬิกา 6 นาฬิกา และ 9 นาฬิกา มาพร้อมกับสายหนังสีขาว เพิ่มเสน่ห์ให้กับนาฬิกาเรือนสวยด้วยจี้แผลงศรรูปหัวใจที่ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยด้วยทับทิมสีชมพูรูปหัวใจ และเพชรตรงปลายลูกศรที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 99 เรือนเท่านั้น

BVLGARI เผยพรีวิวนาฬิการุ่นใหม่ของปี 2016 ซึ่งล้วนเป็นผลงานที่ผสมผสานกับจักรวาลแห่งการสร้างสรรค์ ผสานความเชื่อมโยงระหว่างความเชี่ยวชาญในวัสดุล้ำค่าของตนกับความเที่ยงตรงแม่นยำของการประดิษฐ์นาฬิกาสวิส

Oris ได้ผลิตนาฬิการุ่นเฉลิมพระเกียรติ Oris Princess of Thailand Calibre 111 Limited Editions สร้างสรรค์ขึ้นด้วยเฉดสีน้ำเงินอมม่วง สีที่เป็นตัวแทนแห่งความสง่างามมาพร้อมแถบแสดงพลังงานสำรอง และตัวเลขแสดงวันที่และวินาที ปกป้องหน้าปัดด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ เคลือบสารกันแสงสะท้อนด้านใน ตัวเรือนมีขนาด 43 มิลลิเมตร ทรงคุณค่าที่ขอบฝาหลังโดยสลักคำว่า “The Celebrations of Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn’s 5th Cycle Birthday Anniversary 2015” พร้อมหมายเลขประจำตัวเรือน ฝาหลังเปลือยเผยกลไกการทำงานที่ยอดเยี่ยม มีให้เลือกทั้งแบบตัวเรือนสเตนเลสสตีล เข้าคู่มากับสายหนังจรเข้แท้สีน้ำเงินเข้ม ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัด เพียง 60 เรือน และตัวเรือนโรสโกลด์ 18 กะรัต รับกับ สายหนังจรเข้สีน้ำตาลเข้ม ผลิตเพียง 5 เรือน สำหรับประเทศไทยเท่านั้น ทั้งสองแบบบรรจุในกล่องผ้าไหมสีน้ำเงินอมม่วงงามหรู พร้อมประทับตราพระราชสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา

Chris Hemsworth ดาราหนุ่มเจ้าเสน่ห์ชาวออสเตรเลีย ผู้มีดีกรีความฮ็อตพุ่งกระจายจนได้เป็นขวัญใจฮอลลีวูดคนใหม่ การันตีด้วยตำแหน่ง “Sexiest Man Alive” ประจำปี 2014 ซึ่งจัดอันดับโดยนิตยสาร People ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาเพิ่งจะได้รับการเปิดตัวในฐานะทูตสันถวไมตรีนานาชาติคนล่าสุดของสุดยอดแบรนด์นาฬิกาสวิสอย่าง TAG Heuer

Rado แนะนำคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด Rado Centrix สำหรับสุภาพสตรี หรูหราโดดเด่นด้วยเพชรน้ำงาม กลไกอัตโนมัติ ETA 2671 ฝาหลังเป็นสเตนเลสสตีลพร้อมกระจกแซฟไฟร์คริสตัลทั้ง 2 ด้าน มีฟังก์ชั่นแสดงวันที่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ข้อสายนาฬิกาทำจากวัสดุไฮเทคเซรามิกสีขาว มีคุณสมบัติป้องกันรอยขีดข่วน น้ำหนักเบา ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และสามารถปรับอุณหภูมิได้ตามผิวหนังช่วยเพิ่มความสบายสูงสุดแก่ผู้สวมใส่ อีกทั้งยังมีตัวล็อคแบบ 3 ทบที่ทำจากวัสดุไทเทเนียมที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง มีให้เลือก 3 สี ทั้งสีโรเดียม สีเยลโลว์โกลด์ และทองคำสีกุหลาบ สำรองพลังงานได้ 38 ชั่วโมง

Charriol เปิดตัวรุ่นเพิ่มเติมของ St-Tropez™35 อันโด่งดังและเป็นที่นิยมสำหรับสุภาพสตรี ตัวเรือนนาฬิกาขนาด 35 มิลลิเมตร มาพร้อมหน้าปัดขัดเงาที่ถูกบรรจงและแกะสลักจากวัสดุสเตนเลสสตีลชั้นดี โดดเด่นด้วยสายเคเบิ้ลไขว้อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Charriol หน้าปัดหรูหราประกายมุกที่มาพร้อมการประดับด้วยดีไซน์มูนเฟสที่สามารถเลือกได้ระหว่างเพชรรูปพระจันทร์เต็มดวงหรือดีไซน์พระจันทร์เสี้ยวระยิบระยับ เพิ่มทางเลือกหลากหลายสไตล์ไม่ซ้ำใครโดยมีให้เลือก2สี ทั้งสีทองและทองคำสีกุหลาบ

สุดยอดนวัตกรรมแห่งเวลาระดับไฮเอนด์ Grand Seiko Spring Drive Chronograph Limited Edition คอลเลคชั่นล่าสุดที่ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมฉลอง Seiko ในโอกาสครบรอบ 55 ปี โดดเด่นด้วยระบบกลไก Spring Drive ที่ผสานการทำงานของระบบจักรกลอัจฉริยะ คาลิเบอร์ 9R96 ที่สามารถรักษาความเที่ยงตรงในตัวเองได้ ตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียม ขอบตัวเรือนเซรามิกสีดำ มีความทนทานแต่น้ำหนักเบา งามสง่าด้วยหน้าปัดสีน้ำเงินเข้ม กระจกฝาหลังรังสรรค์ด้วยคริสตัลแซฟไฟร์เปลือยเผยให้เห็นกลไกด้านหลังที่ประดับด้วยเหรียญรูปสิงโตสีทองทำจากทองคำ 18 k อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความเที่ยงตรง ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 400 เรือนทั่วโลก

Bulova ผู้นำด้านแบรนด์นาฬิการะดับโลกเฉลิมฉลองความสำเร็จโดยสร้างสรรค์นาฬิการุ่นพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เนื่องในโอกาสที่แบรนด์นาฬิกา Bulova ได้เป็นผู้ตรวจสอบเวลาอย่างเป็นทางการให้กับทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยนาฬิการุ่นพิเศษนี้มีชื่อเรียกว่า Treble Collection มาพร้อมตัวเรือนขนาด 42.5 มิลลิเมตร ประกอบไปด้วยนาฬิกาหน้าปัดดำ-น้ำเงินโลโก้น้ำเงิน 63B189 หน้าปัดดำโลโก้แดง 65B165 และนาฬิกาแมนยูหน้าปัดเงินโลโก้ดั้งเดิมของทีมแมนยูแดง-เหลือง 63B195 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในรุ่น Percheron Collection ตัวเรือนสเตนเลสสตีล มาพร้อมกลไกอัตโนมัติ เพิ่มความเท่ด้วยสายหนังสีดำเพื่อสอดคล้องกับรูปทรงสปอร์ตของเรือนนาฬิกาสำหรับแฟนปีศาจแดง

Longines นำนาฬิการุ่นที่เคยผลิตให้ทหารพลร่มของอังกฤษในยุคทศวรรษที่1940 กลับมาผลิตใหม่ในนาม Longines Heritage Military COSD มาในตัวเรือนสตีลขนาด 40 มิลลิเมตร บรรจุเครื่องนาฬิกากลไกขึ้นลานอัตโนมัติL619.2 หน้าปัดสีโอปอลีนมีแถบนาทีแบบเรลเวย์แทร็คล้อมรอบ ตรงกลางห น้าปัดด้านบนมีสัญลักษณ์หัวลูกศรขนาดใหญ่ มีตัวเลขอารบิกสีดำและมีสเกล 24 ชั่วโมงประกอบ ตัดด้วยเข็มบอกเวลาสีน้ำเงิน เคลือบสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนว่าเพื่อให้ผู้ใช้สามารถอ่านค่าเวลาได้ในทุกสภาพแสง มีให้เลือกสวมใส่ด้วยสายแบบนาโต้สีคากิและสายหนังสีดำ

Franck Muller ถ่ายทอดรายละเอียดอันสง่างามผ่านเรือนเวลารุ่น Vanguard Lady ขนาดตัวเรือน 44 มิลลิเมตร ภายในบรรจุด้วยกลไกอัตโนมัติ โดดเด่นด้วยหน้าปัดพิมพ์ลวดลายรัศมีดวงอาทิตย์ ตกแต่งด้วยตัวเลขนูนสีชมพูและสีขาว ซึ่งสะท้อนความเป็นผู้หญิงและสร้างความสมบูรณ์ให้กับงานออกแบบตัวเรือนสไตล์สปอร์ตแต่คงความเป็นผู้หญิงได้อย่างแท้จริงผ่านความสง่างามที่เป็นเอกลักษณ์ จับคู่ลงตัวลงตัวด้วยสายยางต้นตำรับ หรือสายหนังเย็บตะเข็บสีชมพูหวานที่เข้ากันกับเม็ดมะยมไขลานสีชมพู มีให้เลือกทั้งในตัวเรือนสเตนเลสสตีลและทองคำชมพู

Corum เผยโฉมเรือนเวลาอันประณีตรุ่น Admiral’s Cup Ac-One 45 Chronograph เครื่องกลไกอัตโนมัติ Co116 ฟังก์ชั่นโครโนกราฟจับเวลาได้ 30 นาที และสำรองพลังงานได้ 42 ชั่วโมง ตัวเรือนสตีลขนาด 45 มิลลิเมตร หน้าปัดไม้สักที่ประดิษฐ์มืออย่างประณีตด้วยรูปทรง 12 เหลี่ยม พร้อมพิมพ์ภาพสีธงสัญลักษณ์ทางทะเลบนขอบหน้าปัดสีดำ มีบ่าป้องกันเม็ดมะยมสตีลเคลือบพีวีดีสีดำ ขอบฝาหลังไทเทเนียมกันน้ำได้ลึกถึง 300 เมตร มาคู่กับสายหนังสีดำเคฟลาร์แบบ “แมด แม็กซ์”

ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบวันเกิด 200 ปีของ เฟอร์ดินานด์ อดอล์ฟ ลังเงอ ผู้ก่อตั้งประวัติศาสตร์การประดิษฐ์นาฬิกาอันเที่ยงตรงด้วยการเชิดชูเกียรติภูมิของเขา ผ่านเรือนเวลารุ่นรำลึกใน 1815 200th Anniversary F.A.Lange มาในตัวเรือนขนาด 40 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานด้วยมือในคาลิเบอร์ L051.1 ซึ่งมอบการสำรองพลังงานได้นาน 55 ชั่วโมง หน้าปัดเงินแท้ที่เติมเต็มความประณีตด้วยพื้นผิวลาย Argentè-Grainé จากทองฮันนีโกลด์ พร้อมแกะสลักหมายเลขประจำตัวเรือนด้วยมือ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์เฉพาะของรุ่น ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 200 เรือนเท่านั้น

Vacheron Constantin เผยโฉมเรือนเวลาเวอร์ชั่นล่าสุด Malte Tourbillon High Jewellery ที่มาพร้อมสายสร้อยข้อมือประดับเพชรบาแก็ตต์ประกายระยิบระยับถึง 1,170 เม็ด เพื่ออุทิศให้กับความสวยงามอันลุ่มลึกของงานหัตถศิลป์ จึงรังสรรค์เรือนเวลาทั้งหมดด้วยมือโดยใช้เทคนิคการประดับอัญมณีแบบไร้ร่องรอยการฝัง ตัวเรือนนาฬิกามีขนาด 38 มิลลิเมตร บรรจุด้วยกลไกคาลิเบอร์2795 สร้างความโดดเด่นให้กับหัวใจสำคัญและความสวยงามของเรือนเวลาโดยการแสดงชั่วโมงและนาทีเป็นแบบเยื้องศูนย์กลาง ยึดสายด้วยตัวพับล็อคที่ทำจากทอง ฝาหลังเป็นกระจกคริสตัลแซฟไฟร์สามารถชื่นชมการทำงานของกลไกนี้ได้ ด้วยการตกแต่งอันประณีตวิจิตรของเรือนเวลารุ่นนี้นอกจากจะทอประกายแสงระยิบระยับภายใต้ความโปร่งแสงของเพชรน้ำงามแล้ว ยังคงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตามแบบนาฬิกาชั้นสูงอีกด้วย

ผลงานการสร้างสรรค์ล่าสุดของ Panerai ในรุ่น Lo Scienziato Radiomir 1940 Tourbillon GMT Oro Rosso – 48 mm. เรือนเวลาที่มาพร้อมความสวยงามน่าทึ่งและคุณสมบัติทางเทคนิคอันน่าประทับใจ ตัวเรือนขนาด 48 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานด้วยมือ P.2500/S พร้อมด้วยฟังก์ชั่น GMT กับเข็มชี้กลางซึ่งแสดงเวลาไทม์โซนที่สอง และการแสดงกลางวัน/กลางคืนที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา และหน้าปัดวินาทีเล็ก ที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา โดดเด่นด้วยความซับซ้อนของงานสเกเลตันภายใน พร้อมด้วยตูร์บิยอง เรกูเลเตอร์ ซึ่งทำให้เรือนเวลานี้ล้ำเลิศ โดยเฉพาะการหมุนของกรงตูร์บิยอง ซึ่งหมุนด้วยความเร็วพิเศษหนึ่งรอบภายใน 30 วินาที แทนที่จะเป็น 60 วินาทีตามประเพณีทั่วไป และยังหมุนบนแกนตั้งฉาก แทนที่จะเป็นแกนขนานไปกับบาลานซ์วีล โครงสร้างพิเศษนี้ช่วยในการชดเชยความคลาดเคลื่อนต่างๆที่เกิดจากอิทธิพลของแรงโน้มถ่วง สวยงามในแบบเรียบง่ายด้วยสายหนังจระเข้สีดำ และหัวเข็มขัดแบบบานพับทำจากทองคำแดงขัดเงา สำรองพลังงานได้นานถึง 6 วัน