เปิดศักราชใหม่กับปี 2016 ด้วยงานนาฬิกาสุดยิ่งใหญ่อลังการที่รวบรวมนาฬิกาหลากหลายแบรนด์จัดแสดงโชว์ภายใต้งาน Salon International de la Haute Horlogerie Genève หรือ SIHH ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และนาฬิกาที่วันนี้จะนำมาเสนอผู้อ่านก็มีหลากหลายแบรนด์ด้วยกัน
A. LANGE & SÖHNE
ความทะเยอทะยานที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ทำให้ A. Lange & Söhne มุ่งมั่นที่จะเพิ่มคุณค่าให้กับวงการประดิษฐ์เครื่องบอกเวลาด้วยผลงานการสร้างสรรค์ที่เป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมนาฬิกา
Concept
เมื่อทีมนักออกแบบและช่างนาฬิกาของ A. Lange & Söhne เริ่มออกแบบและผลิตนาฬิกาของยุคใหม่ พวกเขายังคงยึดมั่นและปฏิบัติตามวัฒนธรรมการประดิษฐ์นาฬิกาแบบดั้งเดิม รวมถึงดำเนินตามวิถีทางจากวิสัยทัศน์ที่ยึดถือกันมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งแบรนด์จนถึงปัจจุบัน นั่นคือ การสร้างสรรค์นาฬิกาที่ดีที่สุดในโลก
Saxonia Moon Phase
ตัวเรือนขนาด 40 มิลลิเมตร ฝาหลังแซฟไฟร์เผยให้เห็นกลไกขึ้นลานอัตโนมัติที่มาพร้อมฟังก์ชั่นแสดงวิถีโคจรของดวงจันทร์บนหน้าปัดย่อยแสดงวินาทีที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และช่องหน้าต่างแสดงวันที่ขนาดใหญ่พิเศษที่ 12 นาฬิกา ทั้งยังมีความสามารถในการสำรองพลังงานได้ยาวนานถึง 72 ชั่วโมง มีให้เลือกในรุ่นตัวเรือนทองคำขาว คู่กับสายหนังจระเข้สีดำ และทองคำชมพูกับสายหนังจระเข้สีน้ำตาลแดง
AUDEMARS PIGUET
Audemars Piguet ได้ผลักดันวิศวกรรมการผลิตนาฬิกาและงานฝีมือให้ไปสู่การแสดงออกที่กล้าหาญยิ่งกว่าด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีสุดจี๊ดเข้ากับเทคนิคกว่า 140 ปีในการประดิษฐ์นาฬิกา และการออกแบบที่ร่วมสมัย
Concept
ในปีนี้ Audemars Piguet นำเสนอผลงานภายใต้แนวคิด “Icons & Legends” เพื่อเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงความกล้าหาญของโรงงานแห่งนี้ ด้วยเรือนเวลาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคนิคและเทคโนโลยีสุดล้ำที่ซ่อนอยู่ภายใต้งานศิลปะแบบร่วมสมัย
Royal Oak Double Balance Wheel Openworked
ตัวเรือนสตีลขนาด 41 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยหน้าปัดสเกเลตันเปลือยให้เห็นความงดงามและซับซ้อนของกลไกขึ้นลานอัตโนมัติที่ทำงานด้วยบาลานซ์คู่ สามารถสำรองพลังงานได้ 45 ชั่วโมง มาพร้อมสายสร้อยข้อมือสตีล
BAUME & MERCIER
Baume & Mercier ร่วมเฉลิมฉลองให้กับความทรงจำในช่วงเวลาแห่งความเชี่ยวชาญ ความรัก และความสุขของแบรนด์ซึ่งเป็นที่จดจำไปตราบนานเท่านาน
Concept
ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งแบรนด์เมื่อ 186 ปีที่แล้ว การสร้างสรรค์ผลงานของ Baume & Mercier เป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นถึงความทรงจำแห่งความสุขอันเปี่ยมล้นไปด้วยคุณค่าและประวัติศาสตร์ของแบรนด์ และนั่นทำให้เรือนเวลาของ Baume & Mercier เปล่งประกายไปด้วยความกระตือรือร้นในความสำเร็จกล้าหาญหรือเรียบง่าย ลุ่มลึกหรือสดใส ต่างก็เป็นประสบการณ์ซึ่งมาพร้อมกับเรือนเวลาและถูกจารึกไว้ที่หัวใจที่ไม่มีวันลืม ในปี 2016 นี้ Baume & Mercier ได้เฉลิมฉลองให้กับความทรงจำแห่งความสุขทั้งหมดของแบรนด์ด้วยผลงานการสร้างสรรค์ใหม่ในงาน SIHH
Clifton Chronograph Complete Calendar
ตัวเรือนสตีลขนาด 43 มิลลิเมตร มาพร้อมกลไกจักรกลขึ้นลานอัตโนมัติโครโนกราฟ แสดงวัน เดือน และวันที่ผ่านทางหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา แสดงวิถีโคจรของดวงจันทร์และแสดงเวลาแบบ 24 ชั่วโมงบนหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 6 และ 9 นาฬิกา ตามลำดับ มาพร้อมสายหนังจระเข้สีดำ หรือสายสร้อยข้อมือสตีล
CARTIER
กว่า 160 ปี ที่ศาสตร์การประดิษฐ์เรือนเวลาชั้นสูงและศาสตร์แห่งอัญมณีชั้นเลิศได้เขียนประวัติศาสตร์ให้กับ Cartier และในวันนี้ก็ถึงเวลาที่แบรนด์จะทำให้โลกทั้งสองได้มาบรรจบกันเป็นหนึ่งเดียว
Concept
ในปีนี้ Cartier ได้นำคำจำกัดความแบบดั้งเดิมมาตีความใหม่ โดยการผสมผสานทักษะในการประดับตกแต่งด้วยอัญมณีชั้นสูงเข้ากับเครื่องบอกเวลาอันซับซ้อน แล้วถ่ายทอดผ่านความคิดสร้างสรรค์อันเกิดจากแรงบันดาลใจ และจินตนาการที่ไร้ขอบเขตจนกลายเป็นสุดยอดเรือนเวลาอันทรงคุณค่า
Tourbillon Mystérieux Azuré pendant watch
นาฬิกาจี้ประดับอัญมณีที่ได้แรงบันดาลใจจากผีเสื้อกลางคืน โดดเด่นด้วยกรงตูร์บิยองที่ลอยอยู่บนช่องหน้าปัดสีดำแบบเยื้องศูนย์กลาง ตัวเรือนทองคำขาวประดับเพชร พลอยศรีลังกา ไพลิน และนิลเต็มพื้นที่ทั้งบนหน้าปัด ตัวเรือน และสายสร้อยคอ ขับเคลื่อนด้วยกลไกขึ้นลานอัตโนมัติ นาฬิกาจี้ประดับอัญมณีชิ้นพิเศษชิ้นนี้มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
GREUBEL FORSEY
Greubel Forsey ผลิตนาฬิกาโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อกำหนดทิศทางให้กับประว้ติศาสตร์นาฬิการ่วมสมัย ผลงานการสร้างสรรค์ของแบรนด์จึงเต็มเปี่ยมไปด้วยเทคนิคชั้นสูง นวัตกรรม และความเป็นนิรันดร์
Concept
ในปีนี้ Greubel Forsey ได้ร่วมกำหนดทิศทางให้กับนาฬิการ่วมสมัยอีกครั้งกับความเรียบง่ายของเครื่องบอกเวลาที่มีการใช้เทคนิค และความซับซ้อนให้น้อยลง แต่เหมาะกับชีวิตประจำวันและเข้าถึงได้มากขึ้น
Signature I
ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ Greubel Forsey กับผลงานการสร้างสรรค์กลไกไขลานด้วยมือให้เป็นหัวใจในการขับเคลื่อนนาฬิกาแบบ 3 เข็ม โดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์ด้วยบาลานซ์วีลดีไซน์เฉพาะตัวของแบรนด์ และหน้าปัดทองคำทำสีเงินบนตัวเรือนขนาด 41.4 มิลลิเมตร มาพร้อมศักยภาพในการสำรองพลังงานนาน 54 ชั่วโมง และมีผลิตในตัวเรือนแพลตทินั่ม และทอง จำนวนจำกัด 33 เรือน และ 33 เรือน สำหรับตัวเรือนสตีล (สั่งจองล่วงหน้าเท่านั้น)
IWC
กว่า 140 ปี แห่งความมุ่งมั่นในการทุ่มเทเพื่อถ่ายทอดประเพณีดั้งเดิมของศิลปะแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาจักรกล ทำให้ IWC มีการเติบโตอย่างมีทิศทางและจุดยืนที่ชัดเจน
Concept
ในปีนี้ IWC ได้ขยายความยิ่งใหญ่ของคอลเลคชั่น Pilot Watch โดยการเพิ่มความหลากหลายให้กับคอลเลคชั่นเพื่อให้น่าดึงดูด และมีความสง่างามมากขึ้น แต่ไม่ละทิ้งวัฒนธรรมและประเพณีของการประดิษฐ์นาฬิกาจักรกลแบบดั้งเดิมของแบรนด์
Pilot’s Watch Perpetual Calendar Digital Date-Month Spitfire
ตัวเรือนสตีลขนาด 46 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไกขึ้นลานอัตโนมัติโครโนกราฟ มาพร้อมฟังก์ชั่นเพอร์เพทชวน คาเลนดาร์ที่แสดงปีอธิกสุรทินได้อย่างถูกต้องแม่นยำจนถึงวันที่ 1 มีนาคม 2100 และฟังก์ชั่นจับเวลาที่แสดงผลแบบอนาล็อกบนหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา แสดงผลวันที่และเดือนในแบบดิจิตอลด้วยตัวเลขขนาดใหญ่ มีศักยภาพในการสำรองพลังงานถึง 68 ชั่วโมง มาพร้อมสายหนังลูกวัวสีน้ำตาลจาก Santoni
JAEGER-LECOULTRE
Jaeger-LeCoultre เป็นผู้นำในด้านนวัตกรรม โดยแบรนด์ได้ใช้การผลิตแบบดั้งเดิมในการสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมกลไกที่มีความซับซ้อน และรังสรรค์เป็นเรือนเวลาชั้นสูงที่มีความร่วมสมัย
Concept
ในปีนี้ Jaeger-LeCoultre เฉลิมฉลองให้กับวาระครบรอบ 85 ปี ของคอลเลคชั่นนาฬิกา Reverso ด้วยการนำเสนอผลงานการสร้างสรรค์ใหม่ล่าสุด โดยยังคงไว้ซึ่ง DNA และเอกลักษณ์เฉพาะเพื่อแสดงความเคารพต่อเรือนเวลาอันเป็นตำนานนี้
Reverso Tribute Gyrotourbillon
ตัวเรือนแพลตทินั่มขนาด ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานด้วยมือ พร้อมศักยภาพในการสำรองพลังงาน 40 ชั่วโมง หน้าปัดสีเงินด้านหน้าแสดงชั่วโมง นาที กลางวัน/กลางคืน และตูร์บิยองแบบหลายแกนที่ลอยอยู่กึ่งกลางหน้าปัดแสดงวินาที หน้าปัดสเกเลตันด้านหลังเปลือยให้เห็นความงดงามของกลไก แสดงเวลาอ้างอิงแบบ 24 ชั่วโมง หรือโซนเวลาที่สอง เติมเต็มด้วยสายหนังจระเข้สีดำ ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 75 เรือน
Montblanc
ด้วยความมุ่งมั่นในการแสวงหาคุณภาพและความเป็นเลิศ ทำให้ Montblanc ตั้งข้อกำหนดที่เข้มงวดในด้านของความเชี่ยวชาญ และยึดมั่นในประเพณี เพื่อที่จะร่วมสร้างประวัติศาสตร์ให้กับอุตสาหกรรมด้วยผลงานการสร้างสรรค์ที่สมบูรณ์แบบ
Concept
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับวาระครบรอบ 110 ปี และยุคสมัยแห่งการค้นพบในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 กับการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก Montblanc จึงขอใช้โอกาสพิเศษนี้เปิดตัวเรือนเวลารุ่นใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในคอลเลคชั่น 4810
4810 ExoTourbillon Slim 110 Years Edition Asia
ตัวเรือนทองคำขาวขนาด 42 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยภาพทวีปเอเชียที่บรรจงสร้างสรรค์ด้วยมืออย่างประณีตที่ด้านบนของหน้าปัด และตูร์บิยองที่มีระบบหยุดวินาทีอย่างรวดเร็ว หรือที่เรียกว่า ExoTourbillon ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ สามารถสำรองพลังงานได้ 50 ชั่วโมง มาพร้อมสายหนังจระเข้สีดำ ผลิตจำนวนจำกัด 38 เรือน
OFFICINE PANERAI
Officine Panerai มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาและสร้างสรรค์กลไกของตนเองจนกลายเป็นหนึ่งในสุดยอดผู้นำทางด้านนวัตกรรม และเมื่อผสานเข้ากับรูปทรงคลาสสิกของการออกแบบในแบบอิตาลี และฝีมืออันประณีตในการผลิตนาฬิกาของสวิส ผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นสุดยอดผลงานที่สร้างสรรค์เพื่ออนาคต
Concept
ในปีนี้ Officine Panerai ขอต่อยอดให้กับคอลเลคชั่นต่างๆ ด้วยเรือนเวลารุ่นใหม่ที่ยังคงใช้แรงบันดาลใจจากเรือนเวลาวินเทจแบบดั้งเดิมของแบรนด์ แต่เพิ่มเติมด้วยสุดยอดนวัตกรรมเทคโนโลยีอันล้ำเลิศแห่งอนาคต
Lo Scienziato Luminor 1950 Tourbillon GMT
ตัวเรือนไทเทเนียมขนาด 47 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานด้วยมือแบบสเกเลตันที่ประกอบขึ้นจากจานและบริดจ์ที่ผลิตจากไทเทเนียม มีฟังก์ชั่นแสดงโซนเวลาที่สองแบบ 24 ชั่วโมง และกลางวัน/กลางคืนบนหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ภายในหน้าปัดย่อยที่ 9 นาฬิกา แสดงการหมุนของกลไกตูร์บิยอง สามารถสำรองพลังงานได้ 6 วัน หรือ 144 ชั่วโมง มาพร้อมสายหนังจระเข้สีแอนทราไซต์ ผลิตจำนวนจำกัด 150 เรือน
PARMIGIANI
Parmigiani แบรนด์นาฬิกาที่สร้างขึ้นจากความเชื่อมั่นในงานฝีมือทางด้านการบูรณะและคืนคุณค่าทางศิลปะให้กับเรือนเวลาล้ำค่ำอันเป็นมรดกของสวิสภายใต้ประเพณีดั้งเดิมของศาสตร์การประดิษฐ์นาฬิกาชั้นสูง
Concept
ในปีนี้ Parmigiani ขอเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 20 ปี ด้วยเรือนเวลารุ่นพิเศษอันเป็นภาพที่ดีที่สุดที่แสดงให้เห็นถึงปรัชญาของแบรนด์ และยังคงกระโดดไปข้างหน้าอย่างน่าประทับใจด้วยเรือนเวลารุ่นใหม่ที่มีความพิเศษและซับซ้อน
Tonda Chronor Anniversaire
เรือนเวลารุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นในวาระครบรอบ 20 ปีของแบรนด์ ตัวเรือนขนาด 42.10 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานโครโนกราฟรุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นจากทองคำสีกุหลาบ เป็นการผสานฟังก์ชั่นโครโนกราฟแบบวินาทีแยกเข้ากับวันที่ขนาดใหญ่ซึ่งแสดงผ่านช่องหน้าต่างที่ 12 นาฬิกา สามารถจับเวลาแบบ 30 นาที และ 12 ชั่วโมงได้อย่างแม่นยำถึง 1/10 วินาที และสำรองพลังงานได้ 65 ชั่วโมง สายหนังจระเข้จาก Hermès สามารถเลือกหน้าปัดสีขาวจับคู่กับสายสีน้ำตาล หรือหน้าปัดสีน้ำเงินคู่กับสายสีดำ ผลิตจำนวนจำกัดในแบบตัวเรือนทองคำขาว และทองคำสีกุหลาบ แบบละ 25 เรือน
PIAGET
ด้วยความเชี่ยวชาญในการผสมผสานเทคโนโลยีความบางเข้ากับศิลปะการตกแต่งอัญมณีที่มีมากว่า 140 ปี ทำให้เรือนเวลาของ Piaget เป็นผลงานการสร้างสรรค์อันล้ำค่าที่มีทั้งความหรูหรา และสง่างาม
Concept
Piaget ฉลองครบรอบ 40 ปีให้กับกลไกควอตซ์เครื่องแรกที่แบรนด์ผลิตขึ้นในปี 1976 ด้วยเรือนเวลารุ่นใหม่ที่มาพร้อมกลไกไฮบริดเครื่องแรกของแบรนด์ และเอาใจสุภาพสตรีด้วยความงามอันเจิดจรัสจากงานฝีมือชั้นเลิศ
Altiplano 38 mm “Art & Excellence” métiers d’art
ตัวเรือนทองคำขาวขนาด 38 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยงานตกแต่งหน้าปัดจากเทคนิคการประดับไม้ และการประดับไม้กับเปลือกหอยมุกเป็นภาพดอกกุหลาบ (Marquetry) สร้างสรรค์ขึ้นโดย Rose Saneuil ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานที่มีความบางเป็นพิเศษ ขอบตัวเรือนประดับเพชร 78 เม็ด เติมเต็มความงามให้สมบูรณ์แบบด้วยสายหนังจระเข้สีขาว ผลิตจำนวนจำกัดแบบละ 18 เรือน
RICHARD MILLE
Richard Mille แบรนด์นาฬิกาที่สร้างขึ้นจากความกล้าหาญและมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคนิค และมีชื่อเสียงในด้านของการสร้างความประหลาดใจให้กับอุตสาหกรรมด้วยนวัตกรรมวัสดุจนเป็นที่ยอมรับในฐานะของผู้ผลิตเรือนเวลาแห่งอนาคต
Concept
ปีนี้ Richard Mille ได้สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับโลกแห่งเรือนเวลาชั้นสูงด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีล่าสุดซึ่งตอกย้ำความเป็นผู้บุกเบิกของแบรนด์
RM67-01 Automatic Extra Flat
ครั้งแรกในโลกของนาฬิกาทรงถังเบียร์ที่ผสานเข้ากับความบางเป็นพิเศษ ตัวเรือนไทเทเนียมขนาด 47 x 39 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติแบบสเกเลตันที่ผลิตจากไทเทเนียม มีโรเตอร์แพลตทินั่มและระบบไขลานทางเดียวที่ใช้บอลล์แบริ่งเซรามิก กลไกจึงมีความบางเพียง 3.6 มิลลิเมตร มีฟังก์ชั่นการแสดงชั่วโมง นาที และวันที่ แสดงตัววัดค่าการทำงานที่ตำแหน่ง 2 นาฬิกา สามารถสำรองพลังงานได้ประมาณ 50 ชั่วโมง มาพร้อมสายยางสีดำ
ROGER DUBUIS
Roger Dubuis ก่อตั้งขึ้นโดยมีความปรารถนาที่จะแสดงออกถึงความเป็นเลิศทางด้านการประดิษฐ์นาฬิกาได้อย่างมีอิสระ พวกเขาจึงเป็นแบรนด์เดียวที่ชิ้นส่วนทั้งหมดของนาฬิกาได้รับการรับรอง Poinçon de Genèva
Concept
ในปีนี้ Roger Dubuis ได้เปิดสปอร์ตไลท์ไปยังนาฬิกาสำหรับสุภาพสตรี โดยยกให้ปีนี้เป็นปีของ Velvet Diva และตอกย้ำความเป็นผู้บุกเบิกของสถาปัตยกรรมร่วมสมัยแบบสเกเลตัน ด้วยนวัตกรรมวัสดุใหม่ในเรือนเวลา Excalibur
Black Velvet
ตัวเรือนคาร์บอนขนาด 36 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยขอบตัวเรือนประดับทัวร์มาลีน 66 เม็ด รอบหน้าปัดคาร์บอนสีดำ เข้ากันได้ดีกับสายซาตินสีฟ้า ขับเคลื่อนด้วยกลไกขึ้นลานอัตโนมัติที่ปรับแต่งอย่างประณีตใน 5 ตำแหน่ง มีศักยภาพในการสำรองพลังงาน 48 ชั่วโมง มาพร้อมการรับรอง Poinçon de Genèva ผลิตจำนวนจำกัด 88 เรือน
VACHERON CONSTANTIN
Vacheron Constantin สร้างประวัติศาสตร์จากการเดินทางเพื่อเผยให้โลกได้เห็นถึงความเป็นเลิศของศาสตร์การประดิษฐ์นาฬิกาชั้นสูง
Concept
ในปีนี้ Vacheron Constantin ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมด้วยเรือนเวลาที่มีความซับซ้อนที่สุดในโลก และการกลับมาอีกครั้งด้วยงานออกแบบใหม่ กลไกใหม่ แต่ยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณอันเข้มข้นของคอลเลคชั่น Overseas ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อนักเดินทางของศตวรรษที่ 21
Reference 57260
ครั้งแรกกับนาฬิกาพกที่มีความซับซ้อนที่สุดในโลก ขับเคลื่อนด้วยกลไกที่มีความซับซ้อนสูงถึง 57 กลไก ที่มาจากต้นแบบในการพัฒนาที่แตกต่างกันถึง 85 ต้นแบบ และได้รับการคุ้มครองถึง 10 สิทธิบัตร อาทิเช่น ฟังก์ชั่นเพอร์เพทชวล คาเลนดาร์, ปฏิทิน Judaic, โครโนกราฟแบบแยกวินาทีและวินาทีถอยหลังแบบคู่ และโหมดตั้งปลุกกลางคืน เป็นต้น แสดงค่าความซับซ้อนอย่างสง่างามและสามารถอ่านค่าได้ง่ายทั้งที่ด้านหน้าและด้านหลังของนาฬิกา เติมเต็มการออกแบบอันกลมกลืนด้วยกรอบเงาและเส้นสายอันสมบูรณ์แบบด้วยตัวเรือนทองคำขาว ได้รับการรับรอง Hallmark of Geneva ผลิตตามยอดสั่งซื้อพิเศษเท่านั้น
VAN CLEEF & ARPELS
Van Cleef & Arpels ผู้ผลิตเครื่องบอกเวลาประดับอัญมณีชั้นสูงที่ถือกำเนิดขึ้นจากความรัก ผลงานของแบรนด์จึงเป็นดั่งการประพันธ์บทกวีที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านความคิดสร้างสรรค์ และความประณีตที่น่าหลงใหล
Concept
ในปีนี้ Van Cleef & Arpels แสดงให้โลกได้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ ความเชี่ยวชาญ และคุณภาพที่พัฒนาขึ้นอีกระดับผ่านทางการสร้างสรรค์เครื่องประดับที่สามารถบอกเวลาได้ในคอลเลคชั่น Poetic Complications
Lady Arpel Ronde des Papillons
ตัวเรือนทองคำขาวขนาด 38 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไกขึ้นลานอัตโนมัติที่มาพร้อมฟังก์ชั่นชั่วโมงกระโดดถอยหลัง speed minute และโมดุลภาพเคลื่อนไหวซึ่งกำลังรอสิทธิบัตรที่พัฒนาขึ้นสำหรับแบรนด์โดยเฉพาะ สามารถสำรองพลังงานได้ 40 ชั่วโมง โดดเด่นด้วยงานแกะสลัก และภาพวาดแสดงความสดใสของท้องฟ้าที่สามารถเคลื่อนไหวได้บนหน้าปัดเปลือกหอยมุก ขับด้วยขอบตัวเรือนประดับเพชร ฝาหลังสลักลวดลายสะท้อนเรื่องราวของหน้าปัด เติมเต็มเรื่องราวให้สมบูรณ์ด้วยสายหนังจระเข้ขัดเงาสีเทาถ่าน