Last updated: 21 ธ.ค. 2561 | 1092 จำนวนผู้เข้าชม |
ว่ากันตามจริงแล้ว เรื่องราวของ โอเมก้า คอนสเตลเลชั่น ‘แมนแฮตตัน’ ต้องย้อนกลับไปยังปี ค.ศ. 1948 ซึ่งเป็นปีที่โอเมก้าเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี พร้อมกับเปิดตัวเรือนเวลารุ่น Centenary ซึ่งเป็นนาฬิกาข้อมือเรือนแรกที่กลไกได้รับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ ทั้งยังได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในเวลาเดียวกัน
จากเสียงตอบรับดังกล่าว โอเมก้าจึงอุทิศเวลาเพื่อสร้างสรรค์นาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่ที่เน้นความเที่ยงตรงในระดับโครโนมิเตอร์อย่างจริงจัง โดยนำกลไกที่ผ่านการทดสอบที่หอดูดาว Kew-Teddington ประเทศอังกฤษ ได้เป็นผลสำเร็จ ทั้งยังสร้างสถิติโลกครั้งใหม่ถึง 2 ครั้ง ในปี 1933 และ 1936 ตลอดจนกลไกที่ชนะการทดสอบความเที่ยงตรงอีก 6 ครั้งในช่วงระหว่างปีค.ศ. 1945 และ ค.ศ.1952 มาต่อยอดเป็นคอลเลคชั่น ‘คอนสเตลเลชั่น’ พร้อมกับเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปีค.ศ. 1952 นั่นเอง
นอกจากนั้น โอเมก้ายังประทับสัญลักษณ์หอดูดาวภายใต้ดวงดาวสุกสว่าง 8 ดวงเพื่อสื่อถึงความสำเร็จในอดีตทั้งหมดไว้ที่ฝาหลังนาฬิกาหลายต่อหลายรุ่นจนกลายเป็นที่จดจำเรื่อยมา ในปีค.ศ. 1982 โอเมก้าจึงตัดสินใจเปิดตัวคอนสเตลเลชั่นสำหรับสุภาพสตรีหรือในชื่อเล่นว่า ‘แมนแฮตตัน’ กับจุดเด่นที่ดีไซน์พิเศษอย่างกรงเล็บบนขอบตัวเรือน เพื่อผนึกกระจกคริสตัลแซฟไฟร์และเทคโนโลยีกันน้ำเข้าด้วยกัน เสริมความงามด้วยตัวเรือนทรงกระบอก เครื่องหมายแสดงเวลาบนขอบตัวเรือนและสายนาฬิกาตัดสลับระหว่างวัสดุสองชนิดที่ชวนหลงใหลไม่ซ้ำใคร
ปีค.ศ. 1995 โอเมก้าได้ปรับโฉมรุ่นนี้อีกครั้ง โดยออกแบบให้ภาพรวมดูนุ่มนวลและมีเส้นสายที่โค้งมนมากขึ้น แต่ยังคงเก็บดีไซน์กรงเล็บอันเป็นเอกลักษณ์ไว้อย่างครบครัน ที่สำคัญยังเป็นครั้งแรกที่ ซินดี้ ครอว์ฟอร์ด ซูเปอร์โมเดลระดับโลกและแบรนด์แอมบาสเดอร์ของโอเมก้าเข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบ
ถัดจากนั้นมาอีก 8 ปี โอเมก้าได้นำเสนอคอนสเตลเลชั่นโฉมใหม่ หรือในชื่อเล่นว่า Double Eagle พร้อมความพิเศษอย่าง การติดตั้งกลไก Co-Axial Chronometer Calibre 2500 ซึ่งเป็นกลไกรุ่นใหม่ที่ได้รับการยกระดับความเที่ยงตรงไปสู่มาตรฐานใหม่ ทั้งยังนำเสนอตัวเรือนขนาดใหม่ 31 มม. และปรับดีไซน์ให้มีขนาดใหญ่และหนักแน่นยิ่งขึ้น
เวลาล่วงเลยมาถึงปีค.ศ. 2009 โอเมก้าได้ปรับโฉมคอลเลคชั่นนี้ให้มีความล้ำสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะดีไซน์ของกรงเล็บ หน้าปัด เครื่องหมายบอกเวลา รวมถึงสายนาฬิกาที่มาในรูปแบบ mono-rang และบานพับสายแบบปีกผีเสื้อ ที่สำคัญยังออกแบบหน้าปัดให้มีความพิเศษด้วยสารเรืองแสงตัดกับเครื่องหมายบอกชั่วโมงประดับเพชรซึ่งต่างส่องแสงแพรวพราวราวกับดวงดาวบนฟากฟ้า
มาถึงรุ่นล่าสุดกับ โอเมก้า คอนสเตลเลชั่น ‘แมนแฮตตัน’ ที่โอเมก้าได้ปรับโฉมนาฬิกาคอลเลคชั่นนี้จนมีความงดงามเหนือกาลเวลา เริ่มตั้งแต่ดีไซน์ตัวเรือนบางลง ขณะที่ด้านข้างตัวเรือนและสายนาฬิกาได้รับการตกแต่งด้วยเทคนิคพิเศษที่ขัดด้านสลับกับขัดเงาจนเกิดเป็นความงามอันสมบรูณ์แบบ
ส่วนกรงเล็บอันเป็นเอกลักษณ์ก็ได้รับการตีความใหม่ให้เพรียวบางคล้อยตามกันไป แต่ยังคงเส้นสายที่ชัดเจนซึ่งเชื่อมโยงกับขอบตัวเรือนที่เรียวบางอย่างเหมาะสม เมื่อดีไซน์ทั้งหมดสอดรับกันทำให้มองเห็นหน้าปัดนาฬิกาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับการดีไซน์ตัวเลขโรมันบนขอบตัวเรือนให้บางลงเล็กน้อย แต่ยังสามารถดูเวลาอันเที่ยงตรงได้ชัดเจนเช่นเดิม ขณะที่เม็ดมะยมผ่านกระบวนการผลิตพิเศษจนเกิดเป็นร่องคล้ายพระจันทร์เสี้ยวซึ่งมอบทั้งความหรูหราและสง่างามในเวลาเดียวกัน
นาฬิการุ่นใหม่นี้ยังเพิ่มความน่าสนใจของหน้าปัดด้วยลวดลายและเฉดสีใหม่ถึง 7 สี อีกทั้งวัสดุตัวเรือนและสายนาฬิกาอีก 5 ทางเลือก เคียงคู่กับเข็มนาฬิการูปแบบสเกเลตันที่โปร่งแสงมองเห็นหน้าปัดได้ คู่กับเครื่องหมายแสดงเวลามีเหลี่ยมมุมงดงาม ซึ่งดีไซน์ของทั้งคู่ล้วนได้รับแรงบันดาลใจจากเส้นขอบฟ้าตัดกับอาคารสูงชะลูดในย่านแมนแฮตตันใจกลางนิวยอร์กนั่นเอง
ขณะที่ตัวเรือนมีให้เลือก 3 ขนาด ได้แก่ 25 มม. 28 มม. คู่มากับกลไก Omega Calibre 4061 พร้อมฝาหลังสลักสัญลักษณ์หอดูดาวและสายนาฬิกาแบบเดียวกับนาฬิกาคอนสเตลเลชั่น ปีค.ศ. 2009 และขนาดใหม่ 29 มม. พิเศษสุดด้วยสุดยอดกลไก Master Chronometer Calibre 8700/8701 ซึ่งได้รับการทดสอบความเที่ยงตรงจนเกิดเป็นมาตรฐานใหม่ที่แม่นยำที่สุด คู่มากับสายนาฬิกาแบบ Mid-Bar ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกาคอนสเตลเลชั่นรุ่นบุกเบิก ส่วนฝาหลังที่สลักสัญลักษณ์หอดูดาวและดวงดาว ถูกแทนที่ด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์เพื่อรับกับความหนาของกลไกที่เพิ่มขึ้นจนเกิดเป็นความสมดุลกับข้อมือสุภาพสตรีอย่างลงตัว
เมื่อรวมรายละเอียดใหม่ทั้งหมดของ โอเมก้า คอนสเตลเลชั่น ‘แมนแฮตตัน’ เข้าด้วยกัน ทำให้รุ่นนี้มีทางเลือกถึง 101 รุ่น ตอบสนองความต้องการของสุภาพสตรีที่มีความต้องการแตกต่างและสะท้อนตัวตนของตัวเองได้อย่างชัดเจน...ทั้งหมดคือเรื่องราวของดวงดาวแห่งความเที่ยงตรงที่กลับมาส่องแสงเปล่งประกายบนข้อมือสุภาพสตรีอีกครั้ง
พบกับนวัตกรรมชั้นเลิศและสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับไปกับโอเมก้าได้ที่ บูติคสาขาเซ็นทรัลเอ็มบาสซี โทร.02-160-5959, สาขาสยามพารากอน โทร.02-129-4878 และ สาขาดิ เอ็มโพเรียม โทร.02-664-9550
7 ต.ค. 2567
16 ต.ค. 2567
26 ก.ย. 2567
8 ต.ค. 2567