LIMELIGHT GALA, THE MAGIC OF BEING EXTRAORDINARY PART II

Last updated: 29 ก.ค. 2563  |  1869 จำนวนผู้เข้าชม  | 

LIMELIGHT GALA, THE MAGIC OF BEING EXTRAORDINARY  PART II

อัพเดทเรือนเวลาครึ่งปีหลังกับคอลเลคชั่น ไลม์ไลท์ กาล่า จาก เพียเจต์ ที่นอกจากจะเก๋แปลกตาแบบเลเวลอัพ แต่ละเรือนยังแฝงศาสตร์ที่เมซงเชี่ยวชาญไว้อย่างครบครันไม่ว่าจะเป็น

 ศาสตร์แห่งการทำทอง (The Art of Gold)

เพียเจต์ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่เมซงที่เชี่ยวชาญในการคิดค้นเทคนิคเพื่อนำเสนอประกายงามของวัสดุล้ำค่าอย่าง 'ทองคำ' ให้ดูเจิดจรัสมากที่สุด ดังลวดลายที่ปรากฏบนสายรัดข้อมือของคอลเลคชั่น ไลม์ไลท์ กาล่า ที่แบรนด์บ่มเพาะความเชี่ยวชาญมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 ซึ่งแรงบันดาลใจของแพทเทิร์นต่างๆ มักถ่ายทอดต้นแบบมาจากธรรมชาติ ตลอดจนความมหัศจรรย์อื่นๆ อีกมากมาย 

· PIAGET LIMELIGHT GALA PRECIOUS SAPPHIRE GRADIENT (Ref.G0A45163)   ตัวเรือนขนาด 32 มิลลิเมตร ทำจากไวท์โกลด์ที่ผสานศาสตร์แบบดั้งเดิมอย่าง 'Palace Décor' ไว้ทั้งบนสายนาฬิกาและและพื้นหน้าปัด


 ขณะที่การแสวงหาอัญมณีสีที่เข้ากับเรือนเวลาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก็ถือเป็นอีกความท้ายทายอันดับต้น ๆ ที่เพียเจต์ให้ความสำคัญเช่นกัน และเพื่อผลลัพธ์ที่พึงพอใจที่สุด การสำรวจหินสีล้ำค่าจำนวนมหาศาลจึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากสีจะตรงกับความต้องการแล้ว ขนาดและคุณภาพระดับสูงก็ต้องอยู่บนมาตรฐานที่เมซงรับรองด้วยเช่นกัน

 เพื่อเสริมประกายงามให้ดูเด่นขึ้นอีกขั้น แบรนด์เลือกนำเสนออัญมณีด้วยเทคนิค 'Serti Descendu' ในสไตล์แบบโอเพ่นเวิร์ค โดยร้อยเรียงแต่ละเม็ดอย่างพิถีพิถันด้วยมือ ซึ่งเทคนิคดังกล่าวช่วยเพิ่มทั้งพื้นที่แสงตกกระทบ และยังเผยให้เห็นความงามของอัญมณีเม็ดใหญ่ได้ชัดเจนกว่าการฝังลงไปในเนื้อทองแบบที่ใช้ทั่วไปในปัจจุบัน

 · PIAGET LIMELIGHT GALA PRECIOUS SAPPHIRE GRADIENT (Ref.G0A45363) กับขอบตัวเรือนประดับแซฟไฟร์สีน้ำเงินบริลเลียนต์คัตรวม 22 เม็ด (ราว 4.01 กะรัต) ที่โอบล้อมหน้าปัดมุกสีขาวไว้อย่างเข้ากัน เข้าคู่สายหนังจระเข้สีน้ำเงินเข้ม ผลิตจำกัดเพียง 88 เรือน

ศิลปะการเล่นแสง (The Art of Light)

นอกจากความเชี่ยวชาญในการใช้ 'ทองคำ' แล้ว เมซงยังหลอมรวมประกายงามอันไร้ที่ติจากอัญมณีและนวัตกรรมทางด้านดีไซน์ ซึ่งล้วนเป็นทักษะชั้นเลิศที่เหล่าช่างนาฬิกาและจิวเวลรี่บ่มเพาะและส่งต่อมากว่า 140 ปี ไว้อีกด้วย อาทิ
·PIAGET LIMELIGHT GALA PRECIOUS ROSE GOLD (Ref.G0A45161) 
หนึ่งในเรือนเวลาที่รังสรรค์โดยใช้เทคนิค 'Serti Descendu' ประดับเพชรบริลเลียนต์คัตรวม 57 เม็ด (ราว 4.01 กะรัต) มาพร้อมสายรัดข้อมือสีแดงเบอร์กันดี ที่ตัดกับความขาวบริสุทธิ์ของพื้นหน้าปัดมุกได้อย่างลงตัว

ต่อด้วย 3 สุดยอดเรือนเวลาชั้นสูง PIAGET LIMELIGHT GALA HIGH-JEWELLERY กับดีไซน์โดดเด่นของหน้าปัดรูปไข่ประดับเพชรระยิบระยับ ที่แต่ละเม็ดถูกฝังอย่างประณีตด้วยเทคนิค Snow Setting ขณะที่สายรัดข้อมือ ขาตัวเรือนและรอบหน้าปัดรายล้อมด้วยอัญมณีทรงมาร์คีส์ ช่วยเสริมภาพรวมให้ดูเก๋แปลกตากว่าดีไซน์ยุคก่อน

โดยทรงมาร์คีส์นี้ถือเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของเมซง เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสมีประสงค์ให้ช่างฝีมือเจียระไนเพชรทรงใหม่ที่สะท้อนถึงรอยยิ้มงดงามของมาดามอันเป็นที่รักอย่าง 'Marquise de Pompadour' ซึ่งปัจจุบันซิกเนเจอร์คัตเลื่องชื่อดังกล่าว ยังคงมอบประกายงามได้อย่างแตกต่างและชวนหลงใหลเช่นเคย

· PIAGET LIMELIGHT GALA HIGH-JEWELLERY ทั้ง 3 เรือนมาในขนาด 28x23 มิลลิเมตร;

(Ref.G0A45170) ประดับเพชรทั้งตัวเรือน ทั้งแบบบริลเลียนต์คัต และ ทรงมาร์คีส์ รวมทั้งสิ้น 364 เม็ด
(ราว 12.42 กะรัต)

(Ref.G0A45171) ผสานความงามระหว่างเพชรและแซฟไฟร์สีน้ำเงินทรงมาร์คีส์

(Ref.G0A45168) ประดับเพชรรวม 237 เม็ด มาพร้อมสายซาตินหรูสีน้ำเงิน

 ศาสตร์แห่งสีสัน (The Art of Colour)

หากพูดถึงเรื่องสี...มนต์เสน่ห์แห่งท้องฟ้าสีครามถือเป็นหนึ่งในโทนซิกเนเจอร์ที่แบรนด์นิยมหยิบมาถ่ายทอดเป็นชิ้นงานนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะหน้าปัดอเวนเจอรีนสีน้ำเงินเข้ม ที่ชวนให้ระลึกถึงหมู่ดาวระยิบระยับบนท้องฟ้า

ชื่อของ อเวนเจอรีน 'Aventurine' มาจากภาษาอิตาลี 'Avventura' ซึ่งก็คือ 'Adventure' ที่สื่อถึงการค้นพบ อเวนเจอรีนโดยบังเอิญในช่วงศตวรรษที่ 17 ระหว่างกระบวนการผลิตแก้วที่โรงงานบนเกาะมูราโน่ เมืองเวนิส โดยปัจจุบันสีน้ำเงินของอเวนเจอรีน เกิดจากการเติม Copper Oxide ลงไปในแก้วนั่นเอง
· PIAGET LIMELIGHT GALA PRECIOUS AVENTURINE GLASS ตัวเรือนไวท์โกลด์ โดดเด่นด้วยหน้าปัดอเวนเจอรีนสีน้ำเงินเข้มที่เข้าคู่สายหนังจระเข้สีเดียวกัน; 

(Ref.G0A45162) ตัวเรือนขนาด 32 มิลลิเมตร ประดับเพชรบริลเลียนต์คัตรวม 63 เม็ด (ราว 1.76 กะรัต ขณะที่ (Ref.G0A45152) มาในขนาด 26 มิลลิเมตร ประดับเพชรบริลเลียนต์คัตรวม 57 เม็ด (ราว 0.87 กะรัต) ทั้ง 2 รุ่นผลิตจำกัดเพียง 300 เรือน

(Ref.G0A45180) ตัวเรือนขนาด 32 มิลลิเมตร ประดับเพชรบริลเลียนต์คัตรวม 57 เม็ด (ราว 4.80 กะรัต) ด้วยเทคนิค 'Serti Descendu' ผลิตจำกัดเพียง 200 เรือน

ปิดท้ายด้วยความสง่างามแบบที่ใครก็ยากจะลอกเลียนกับ เรือนเวลาชั้นสูงที่มาพร้อมหน้าปัดประดับอัญมณีหายาก อย่าง แบล็คโอปอล ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องปรากฏการณ์แห่งสีสันที่ทอประกายนับไม่ถ้วนยามต้องแสง ไม่ว่าจะเป็น สีเหลือง สีเขียว สีน้ำเงิน สีส้ม และ สีแดง โดยอัญมณีล้ำค่านี้พบได้เฉพาะแถบออสเตรเลีย และ เอธิโอเปีย เท่านั้น

ซึ่งแบล็คโอปอลที่มีถิ่นกำเนิดในออสเตรเลีย ถูกค้นพบครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 19  ขณะที่หินล้ำค่าจากเอธิโอเปียเพิ่งถูกค้นพบเมื่อประมาณ 15 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น ปัจจุบันแบล็คโอปอลที่เมซงนำมาใช้คัดสรรจากแหล่งคุณภาพในออสเตรเลีย โดยเม็ดนี้เก็บรักษาไว้กว่า 5 ปีเพื่อรอประดับบนชิ้นงานที่คู่ควร


· Piaget Limelight Gala High Jewellery Black Opal (Ref.G0A45007)  โดดเด่นด้วยหน้าปัดแบล็คโอปอลหายาก ประดับแซฟไฟร์บริลเลียนต์คัต สีน้ำเงิน รวม 86 เม็ด (ราว 5.51 กะรัต) และแซฟไฟร์ทรงมาร์คีส์ เฉดสีอื่น ๆ อีกกว่า 58 เม็ด (ราว 6.23 กะรัต) ไล่โทนสีจากเหลืองไปส้ม ก่อนปิดท้ายด้วยทับทิม 14 เม็ดงาม ที่เสริมให้ผลงานชิ้นนี้สมบูรณ์แบบมากที่สุด

#PiagetLimelightGala

#ShareYourExtraordinary

สัมผัสเรือนเวลาและเครื่องประดับชั้นสูงจากเพียเจต์ (Piaget) ได้แล้ววันนี้ ณ เพียเจต์ บูติค โดย เอส ที ไดเมนชั่น ชั้น M สยามพารากอน โทร. 02-610-9678

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้