Girard Perregaux Tourbillon with Three Flying Bridges – Aston Martin Edition

Last updated: 1 มิ.ย. 2564  |  955 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Girard Perregaux Tourbillon with Three Flying Bridges – Aston Martin Edition

นาฬิการุ่นแรกที่ถือกำเนิ ดจากการประกาศความร่วมมือเป็นพั นธมิตรเมื่อเร็วๆ นี้ ระหว่าง Girard-Perregaux ( Girard-Perregaux ) และ Aston Martin (แอสตัน มาร์ติน) ได้เผยโฉมขึ้นแล้ว ภายในผลงานรุ่น Tourbillon with Three Flying Bridges – Aston Martin Edition กับการผนึกรวมเป็นหนึ่ งของความเชี่ยวชาญในการประดิษฐ์ สร้างสรรค์นาฬิกาของ Girard-Perregaux เข้ากับองค์ความรู้เฉพาะหนึ่ งเดียวแห่งความหรู หราและสมรรถนะของ Aston Martin ทั้งสองแบรนด์ได้แสดงออกถึ งความหลงใหลในงานฝีมืออันประณี ตและการทำงานร่วมกัน รวมถึงแลกเปลี่ยนซึ่งความเข้ าใจอย่างแท้จริงถึงหั วใจของงานออกแบบ วัสดุ และเทคโนโลยี ซึ่งในผลงานรุ่นล่าสุดนี้ยังได้ ร่วมเฉลิมฉลองให้กับนาฬิกาพก Three Bridges อันเป็นไอคอนิกจากศตวรรษที่ 19 ภายใต้วิถีอันร่วมสมั ยและเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดแม้ จุดที่เล็กที่สุด รวมไปถึงสายนาฬิกาซึ่งเป็ นสายใหม่ที่เปิดตัวขึ้นครั้ งแรกในโลก โดยนำเสนอด้วยหนังวัวสีดำ พร้อมคุณสมบัติของยางอัลลอย หรือ Girard-Perregaux Rubber Alloy ที่เป็นนวัตกรรมการฉีดแทรกเข้ ากับยางด้วยไวท์โกลด์ ภายใต้งานออกแบบของสายซึ่งตั้ งใจรังสรรค์ขึ้นเพื่อชวนให้ หวนนึกถึงเหล่ารถสปอร์ตเรซิ่ งหรูของ Aston Martin ในอดีต พร้อมทั้งยกระดับซึ่งประเพณีของ Girard-Perregaux ที่รุ่นนี้ยังเล่นกับสัดส่ วนและรูปทรงด้วยทักษะความเชี่ ยวชาญ ซึ่งมอบความประทับใจแห่งสุนทรี ยะความสวยงามได้อย่างมาก



 ตัวเรือนขนาด 44 มิลลิเมตรของ Tourbillon with Three Flying Briges - Aston Martin Edition ขึ้นรูปมาจากไทเทเนียม เกรด 5 โลหะผสมอันแข็งแกร่งทนทานและไม่ ทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหรื อแพ้ ที่เลือกสรรโดย Aston Martin ด้วยคุณสมบัติเด่นของความมีน้ำ หนักเบา และยังหุ้มด้วยการเคลือบดำด้ วยเทคนิค DLC มอบภาพลักษณ์ของนาฬิกาอันลึกลั บแบบสเตลท์ (stealth) อย่างแท้จริง และที่น่าสนใจคือกลุ่มแร่ ไทเทเนียมนั้นถูกค้ นพบในสหราชอาณาจักรซึ่งเป็นบ้ านเกิดของ Aston Martin นับย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1791 โดยนักบวชชาวอังกฤษ William Gregor (วิลเลียม เกรเกอร์) ในปีเดียวกับที่ Girard-Perregaux ได้ก่อตั้งขึ้น

            ส่วนกระจกแซฟไฟร์ทรง 'กล่อง' ที่จัดวางอยู่ด้านหน้า เช่นเดียวกับด้านหลังของนาฬิ กายังดึงดูดให้แสงส่องเรื องรองสู่ภายในตัว-เรือน จึงช่วยเสริมซึ่ งความสามารถในการอ่านค่าเวลาได้ อย่างชัดเจน ส่วนกลไกนั้นเลี่ยงที่จะใช้แท่ นเครื่อง แต่เป็นการติดตั้งไว้ระหว่างแผ่ นกระจกแซฟไฟร์ทั้งสองแผ่น จึงดูคล้ายกับกำลังลอยอยู่ กลางอากาศ ขณะที่สะพานจักรสามชิ้นซึ่งเป็ นสัญลักษณ์ไอ-คอนิกของ Girard-Perregaux ได้แผ่ขวางไปบนหน้าปัด และสร้างรูปขึ้นจากไทเทเนียม พร้อมทั้งเคลือบ PVD สีดำ รวมถึงมุมต่างๆ ผ่านการขัดเงา ส่วนงานออกแบบคงอุทิศให้กับเรื อนเวลาด้วยภาพลักษณ์ ของความบางเบาดุจอากาศ และมอบภาพอันน่าทึ่งของชิ้นส่ วนกลไก ที่โดยปกติแล้วจะถูกซ่อนไว้ จากการมองเห็น จากการที่ Girard-Perregaux มีประวัติศาสตร์ความเชี่ยวชาญอั นยาวนานในการสร้างสิ่งที่ไม่ อาจมองเห็นให้สามารถมองเห็นได้ เหมือนดังเช่นในตัวอย่างของรุ่ นนี้ที่ท้าทายกับทุกความเสี่ยง โดยการสร้างสรรค์นาฬิกาซึ่งมี กลไกที่ปรากฏให้เห็นเสมือนกำลั งลอยอย่างไร้น้ำหนักภายในตัวเรื อน ซึ่งบรรลุผลสำเร็จได้โดยการตั ดส่วนของกลไกด้านหลังออก จึงดูเหมือนไร้ซึ่งแท่นเครื่อง และสร้างภาพลวงตาของกลไกที่ดู ราวกับกำลังลอยอยู่ภายในตัวเรื อนนาฬิกา นับเป็นคุณลักษณะเด่นเฉพาะตัวที่ กลายมาเป็นชื่อซึ่งเรียกขานกั นว่า 'Flying Bridges'



ส่วนกรงของทูร์บิญองซึ่งจั ดวางอยู่ในส่วนล่างของหน้าปัด ออกแบบด้วย lyre-shaped คุณลักษณะที่พบได้ในนาฬิกาทูร์ บิญองรุ่นต่างๆ ของบริษัทย้อนกลับไปตั้งแต่ ศตวรรษที่ 19 พร้อมทั้งเข็มชี้ทำให้เป็นสีน้ำ เงินที่เพิ่มเข้ามาในกรงทูร์บิ ญองซึ่งทำหน้าที่แสดงวินาทีต่ อเนื่อง ขณะที่กรงทูร์บิญองเองซึ่งวั ดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางได้เพียง 10 มม. ประกอบด้วยชิ้นส่วนถึง 79 ชิ้น และมีน้ำหนักรวมอยู่ที่เพียง 0.25 กรัม เป็นน้ำหนักที่เบาอย่างน่าทึ่ง เพื่อช่วยลดการใช้พลังงาน กระปุกลานซึ่งติดตั้งอยู่ ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา เป็นแบบเปลือยโปร่ง มองเห็นบางส่วนของเมนสปริง และไมโคร-โรเตอร์ไวท์โกลด์ ที่วางตำแหน่งอยู่ใต้กระปุ กลานและสร้างพลังงานให้กั บเมนสปริง ทั้งยังแตกต่างไปจากนาฬิ กากลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติส่ วนใหญ่ ที่ไมโคร-โรเตอร์นี้ไม่บดบังหรื อเป็นอุปสรรคต่อการมองเห็นการขั บเคลื่อนของกลไก ขณะที่ชื่อของ Aston Martin ได้แกะสลักไว้บนขอบข้างแนวตั้ งของไมโคร-โรเตอร์ และเติมด้วยการเคลือบสารเรื องแสงสีขาวที่ปรากฏเป็นแสงเรื องสีฟ้าภายใต้สภาวะแสงน้อยหรื อแสงจำกัด เช่นเดียวกันกับเครื่องหมายหลั กบอกเวลาและเข็มชี้ที่ผ่ านการเคลือบด้วยสารเรืองแสงสี ขาว และเป็นอีกครั้งที่ปล่อยแสงเรื องสีฟ้าในที่มืดสลัวหรือแสงน้อย

Patrick Pruniaux ผู้อำนวยการบริหารใหญ่ของ Girard-Perregaux เผยว่า “เราดีใจที่ได้เป็นพันธมิตรร่ วมกับ Aston Martin และสร้างความเชื่อมั่นให้กับที มของพวกเขาด้วยเรือนเวลาอันเป็ นไอคอนิกสูงสุดของเราอย่างแท้ จริง พร้อมทั้งส่งมอบซึ่งมุมมองอั นสดใหม่ในเครื่องบอกเวลาชั้นสูง ซึ่งแทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกั บการทำงานร่วมกับพันธมิตรอื่นๆ ในการตีความใหม่ให้กับนาฬิกา Three Bridges ของเรา อย่างไรก็ดี ในโอกาสพิเศษเช่นนี้ เราได้มอบข้อยกเว้น และอุทิศอย่างตั้งใจให้กั บความก้าวหน้าล้ำสมัยด้ านงานออกแบบของ Aston Martin


“เมื่อมองงานออกแบบของ Aston Martin แล้ว คุณจะสังเกตเห็นผลงานกระจังหน้ าอันโดดเด่นของผู้ผลิตรถหรูแห่ งนี้ ซึ่งมีให้เห็นครั้งแรกในรุ่น DB Mark III ช่วงปลายยุค 50s เช่นเดียวกับจมูกช่องลมและชุดด้ านข้างกระโปรงที่พบได้ในรถรุ่ นสมัยใหม่ของบริษัทที่ล้วนเป็ นองค์ประกอบทางฟังก์ชั่น และตั้งใจผลิตขึ้นเพื่อปรับปรุ งประสิทธิภาพการระบายอากาศ และเสริมภาพลักษณ์ความโดดเด่ นโดยภาพรวมทั้งหมดของรถแต่ละคัน

“ที่ Girard-Perregaux เราได้แลกเปลี่ยนซึ่งปรัชญาเดี ยวกันนี้ ตัวอย่างเช่น เมื่อเมซงเปิดตัวนาฬิกา Tourbillon with Three Bridges ที่กลายเป็นตำนานของวันนี้เมื่ อปี ค.ศ. 1867 ถือเป็นการเปลี่ยนรูปให้กับองค์ ประกอบทางฟังก์ชั่นทั้งสามองค์- ประกอบนี้ไปสู่คุณสมบัติแห่ งความสวยงามอันเย้ายวนดึงดูดใจ และแสดงให้เห็นถึงการเข้าถึงซึ่ งหัวใจหลักที่เรานั้นยั งคงนำมาประยุกต์และใช้ในทุกวั นนี้ และในที่สุด สัมพันธภาพครั้งล่าสุดนี้ก็ได้ มอบซึ่งบทใหม่อันน่าหลงใหลให้กั บประวัติศาสตร์อันยาวนาน 230 ปีของ Girard-Perregaux เช่นกัน”


ขณะที่ Marek Reichman รองประธานบริหารและผู้ อำนวยการบริหารใหญ่ของ Aston Martin กล่าวเสริมว่า “ความท้าทายอันยิ่งใหญ่สูงสุดที่ เราเผชิญกับการออกแบบเรื อนเวลาใหม่รุ่นนี้คือเรื่ องของขนาด อย่างที่ใครก็อาจนึกภาพตามออก เพราะเราจำเป็นต้องพิจารณาถึ งเส้นสายและสัดส่วนบนขนาดที่เล็ กกว่าอย่างมากของนาฬิกาข้อมือ เมื่อเทียบกับสิ่งเราคุ้ นเคยและใช้ในอาณาจั กรการออกแบบของยนตรกรรม แต่นั่นก็สะท้อนถึงงานออกแบบที่ ดีก็คืองานออกแบบที่ดี ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาหรือรถยนต์ หลักการเหล่านี้ก็ยังคงเหมือนกั น ผมรู้สึกดีใจกับผลลัพธ์อันสมบู รณ์แบบของนาฬิกา และขอแสดงความยินดีกับทุกๆ คนที่ได้ร่วมทำงานในโปรเจ็กต์นี้ เพราะความร่วมมือครั้งนี้ได้สร้ างสรรค์ซึ่งเรือนเวลาอั นสวยงามอย่างที่สุด”

Tourbillon with Three Flying Bridges - Aston Martin Editionซึ่งผลิตขึ้นในจำนวนจำกั ดเพียง 18 เรือน จะมีจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลก ณ ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็ นทางการและที่ได้รับการแต่งตั้ งของ Girard-Perregaux ทุกแห่ง


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้