THE ANATOMY OF BEAUTY ® By Vacheron Constantin

นิทรรศการ The Anatomy of Beauty ® จัดขึ้นบนชั้น 4 ของพิพิธภัณฑ์ โดยแบ่งออกเป็น 3 ห้องให้สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างกันในมิติที่หลากหลายของแบรนด์ ประกอบด้วยห้องประวัติศาสตร์ Our Heritage: A Legacy as Precious as Time, ห้องกายวิภาคแห่งความงาม The Anatomy of Beauty®" และห้อง Science and Complications โดยได้รับเกียรติจาก Mr. Christian Selmoni - ผู้อำนวยการฝ่าย Heritage & Style มาร่วมให้ความรู้

สำหรับห้องแรก Our Heritage: A Legacy as Precious as Time ได้นำผู้ชมร่วมเดินทางย้อนเวลาไปกับผลงานจากอดีตนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งแบรนด์ในปี 1755 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงศตวรรษที่ 19 ช่วงเวลาแห่งความเฟืองฟูของอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกา ความแม่นยำของนาฬิกามารีนโครโนมิเตอร์ที่สร้างสรรค์เพื่อการเดินทางในทะเลของเหล่าช่างนาฬิการะดับปรมาจารย์ได้รับการรับรองจากราชสำนักต่างๆ กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการท่องไปในทะเลกว้าง อันเป็นการเดินทางข้ามซีกโลกประเภทแรกๆ ที่ก่อให้เกิดการค้าระหว่างประเทศ กลไกจักรกลซับซ้อนทางดาราศาสตร์ที่ย่อจากนาฬิกาในหอระฆังให้มีขนาดเล็กลงจนพกพาได้ ความแม่นยำของนาฬิกาที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่วัสดุต่างๆ ที่นำมาใช้ผลิตนาฬิกาก็ได้รับการขัดเกลาตกแต่งอย่างสวยงามประณีต

ห้องที่สองเป็นห้องที่เรียกว่า The Anatomy of Beauty ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของนิทรรศการในครั้งนี้ นั่นเป็นเพราะ Vacheron Constantin นับเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการขัดแต่งและการสร้างสรรค์ลวดลายอย่างยิ่ง อันเป็นที่มาของกายวิภาคสุดประณีตในนาฬิกาทุกเรือนทั้งบนตัวเรือน หน้าปัดและสาย ที่แบรนด์มีเทคนิคมากมายนำมาใช้กับนาฬิการุ่นต่างๆ อย่างเช่น ตัวเรือนของนาฬิกาในหลายรุ่นเผยให้เห็นถึงการตกแต่งด้วยงานแกะสลัก การขัดพื้นผิวทั้งเงาและปัดด้าน หรือการประดับตกแต่งด้วยอัญมณีล้ำค่า โดยแบรนด์ยังได้พัฒนาการเจียระไนเพชรแบบ flame-cut ดีไซน์พิเศษขึ้นมาเฉพาะของแบรนด์ที่เคยเผยให้เห็นบนผลงานรุ่นพิเศษในคอลเลกชั่น Metiers d'Art รวมถึงการตกแต่งหน้าปัดที่สุดวิจิตรของคอลเลกชั่นนี้ที่มีทั้งการลงยา แกะสลัก การตัดต่อลาย งานประติมากรรมย่อส่วนนูนต่ำและนูนสูง และเทคนิคการขัดแต่งลายด้วยเครื่องจักรโบราณในลวดลายกิโยเช่หลายหลายแบบแผน ที่มีช่างเพียงไม่กี่คนสามารถทำได้ และหนึ่งในนั้นก็คือช่างฝีมือเยี่ยมของ Vacheron Constantin

มาถึงห้องแสดงห้องที่ 3 ที่เรียกว่าห้อง Science and Complications เป็นอีกหนึ่งห้องที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจอย่างยิ่ง โดย Vacheron Constantin ได้ร่วมมือกับ Cityshake Art Studio สตูดิโอศิลปะแห่งนวัตกรรม ถ่ายทอดความซับซ้อนของกลไกทั้ง 5 กลไกผ่านงานศิลปะดิจิทัลที่สามารถสื่อถึงบทบาทและความงามจากระดับมหภาคและจุลภาค แบรนด์ได้คัดเลือก 5 กลไกซับซ้อนอันประกอบด้วยกลไกทูร์บิญอง (Tourbillon), เวลาสปริท-เซกัลด์ โครโนกราฟ (Split-second Chronograph), กลไกเรโทรเกรดหรือเข็มกวาดตีกลับ (Retrograde), กลไกปฏิทินร้อยปี (Perpetual Calendar) และกลไกตีบอกเวลาด้วยเสียงของมินิท รีพีทเตอร์ (Minute Repeater)

นิทรรศการนี้จัดขึ้นที่ ArtScience Museum พิพิธภัณฑ์รูปทรงดอกบัวที่โดดเด่นเป็นสง่าใจกลางสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 16 ตุลาคมถึง 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ถ่ายทอดความงามล้ำค่าระหว่างศิลปะการตกแต่งและเทคนิคเชิงจักรกลในโลกแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาชั้นสูง