SEIKO Watchmaking 110th Anniversary

Last updated: 8 ม.ค. 2566  |  468 จำนวนผู้เข้าชม  | 

SEIKO Watchmaking 110th Anniversary

ประวัติศาสตร์ของ Seiko เริ่มต้นขึ้นในปี 1881 เมื่อ Kintaro Hattori (คินทาโร ฮัตโตริ) ได้เปิดร้านของตัวเองขึ้นในย่าน Ginza (กินซ่า) เพื่อซ่อมและขายนาฬิกา ต่อมาในปี 1892 เขาเปิดโรงงานที่เรียกว่า Seikosha (ไซโกชะ) เพื่อผลิตนาฬิกาภายใต้ชื่อของเขาเอง จากนั้น 20 ปีผ่านไป นาฬิกาได้กลายเป็นสิ่งที่อยู่คู่กายของสุภาพบุรุษ เขาจึงเริ่มหันมาพัฒนานาฬิกาข้อมือซึ่งถือว่าเป็นของใหม่สำหรับในช่วงเวลานั้น และในปี 1913 บริษัทของเขาได้เปิดตัว Laurel (ลอเรล) นาฬิกาข้อมือเรือนแรกของญี่ปุ่นออกสู่ตลาด และจากนั้น Seiko ก็ได้เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการผลิตนาฬิกาด้วยการนำนวัตกรรมที่มีความล้ำหน้าสำหรับอุตสาหกรรมผลิตนาฬิกามาใช้ในการสร้างสรรค์เรือนเวลา รวมถึงการเปิดตัวนาฬิกาข้อมือที่ขับเคลื่อนด้วยกลไกควอตซ์เรือนแรกในปี 1969 นับว่าเป็นการพลิกโฉมหน้าวงการผลิตกลไกนาฬิกาด้วยการนำนวัตกรรมที่โดดเด่นอย่าง Spring Drive (สปริง ไดรฟ์) มาผสมผสานเข้ากับการผลิตกลไกนาฬิกา ณ เวลานั้น โดยเปิดตัวออกมาในปี 1999

และในปี 2023 Seiko เตรียมเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษในการครบรอบ 110 ปีของการผลิตนาฬิกาข้อมือเรือนแรกผ่านเรือนเวลารุ่นพิเศษ สัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาจากแรงบันดาลใจของเรือนเวลารุ่นดั้งเดิมอย่าง Laurel ที่เปิดตัวในปี 1913

นาฬิการุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากรูปทรงของ Laurel รุ่นดั้งเดิมในทุกรายละเอียด ตัวเรือนทรงกลมถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยความพิถีพิถันเพื่อคงไว้ซึ่งความสง่างามของเรือนต้นแบบ แต่ภายในมีการใช้กลไกอัตโนมัติรุ่นใหม่ที่มีความทันสมัยขับเคลื่อนการทำงาน อีกทั้งยังคงรูปแบบของตัวเลขอารบิก เข็มสีฟ้าทุกเข็มสร้างเป็นทรงวินเทจย้อนยุค และเม็ดมะยมทรงหัวหอมที่มีขนาดใหญ่ล้วนแล้วแต่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากรุ่นดั้งเดิมทั้งสิ้น เพื่อให้ความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับความรุ่งโรจน์ของวันวาน อีกสิ่งหนึ่งที่เหมือนกับรุ่นดั้งเดิมในปี 1913 คือ หน้าปัดกระเบื้องเคลือบลงยาสีขาวบริสุทธิ์แบบเอนาเมลที่ถูกรังสรรค์ใหม่อย่างประณีตสวยงาม โดดเด่นเหนือกาลเวลา ทั้งหมดเป็นผลงานของ Mitsuru Yokosawa (มิตซึรุ โยโกซาวะ) ช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ และทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่ทุ่มเทกับทุกรายละเอียดเพื่อให้ได้ผลงานมาสเตอร์พีซขึ้นมา

กลไกอัตโนมัติรุ่นใหม่ รหัส 6R27 ประสิทธิภาพสูงของ Seiko มาพร้อมกับมาตรวัดแสดงระดับพลังงานสำรองที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา และมีหน้าปัดย่อยในการแสดงวันที่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา กระจกแซฟไฟร์ทรงกล่องยกสูงหรือ Boxed-Shaped เคลือบสารกันการสะท้อนแสงด้านใน มอบความชัดเจนในการมองเห็นรายละเอียดที่อยู่บนหน้าปัดไม่ว่าจะมองจากมุมไหน

Seiko Presage Limited Edition รหัส SPB359J นาฬิการุ่นพิเศษสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 110 ปีในการผลิตนาฬิกาข้อมือของ Seiko (Seiko Watchmaking 110th Anniversary) ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 2,500 เรือนทั่วโลก

อีกผลงานคือ นาฬิกาดำน้ำรุ่นใหม่จาก Seiko Prospex ซึ่งได้รับการสร้างสรรค์โดยมีแรงบันดาลใจมาจากมรดกทางการออกแบบและเทคโนโลยีอันโดดเด่นของ Seiko เอง

พลังแห่งการสร้างสรรค์ครั้งใหม่นี้สะท้อนผ่านพื้นผิวของหน้าปัดที่เป็นเสมือนภาพของธารน้ำแข็งขั้วโลกที่รวมตัวกันจนกลายเป็นภูมิทัศน์และทิวทัศน์ทะเลของอาร์กติกและแอนตาร์กติกอันมีเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่สร้างชื่อเสียงให้กับนาฬิกาของ Seiko ในด้านความทนทานและการใช้งาน เมื่อนักผจญภัยและนักวิจัยทั้งหลายต่างสวมใส่นาฬิกาของ Seiko ในขณะออกเดินทางเพื่อสำรวจขั้วโลกเหนือและใต้ ในช่วงทศวรรษที่ 1960 และ 1970

ตัวเรือนถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยอ้างอิงรูปทรงของนาฬิกาดำน้ำรหัส 6105-8000 ที่เปิดตัวในปี 1968 นาฬิกาเรือนนี้มาพร้อมเส้นสายของตัวเรือนที่เน้นความโค้งมนและมีเม็ดมะยมที่ในตำแหน่ง 4 นาฬิกา ซึ่งถือเป็นงานออกแบบที่มีอยู่ในนาฬิกาดำน้ำระดับตำนานหลายต่อหลายรุ่นของ Seiko

อีกสิ่งที่โดดเด่นคือนาฬิการุ่นนี้มาพร้อมกับสายสตีลแบบ 5 แถว ( 5 end links) พร้อมบานพับสายที่ได้รับการออกแบบให้ล็อกได้อย่างแน่นหนา ทั้งยังสามารถขยายขนาดของสายได้ในกรณีที่จะต้องใช้งานร่วมกับชุดดำน้ำ นอกจากนี้ ในเซ็ตยังมีสายถักพิเศษเพิ่มมาอีกเส้น โดยได้รับการผลิตจากวัสดุโพลีเอสเตอร์ที่ทำมาจากขวดพลาสติกที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิล ซึ่งเป็นอีกสิ่งที่แสดงถึงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและการดำเนินธุรกิจที่อยู่บนพื้นฐานของแนวคิดแห่งความยั่งยืน

สภาพสุดขั้วของการผจญภัย ทั้งท่ามกลางแสงแดดที่แผดเผาจนไปถึงการใช้งานใต้น้ำที่มีแรงดันสูง และยังมั่นใจได้ถึงความรู้สึกสบายเมื่อได้สวมใส่นาฬิกาบนข้อมือ อีกทั้งเทคนิคการถักทอลวดลายพิเศษนี้ยังสร้างความยืดหยุ่นให้กับสาย และมีช่องว่างให้อากาศสามารถไหลผ่านได้

กลไกจักรกลคาลิเบอร์ 6R35 เป็นกลไกอัตโนมัติที่ทำงานด้วยความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง ให้พลังงานสำรองนาน 70 ชั่วโมง ตัวเรือนและสายสแตนเลสสตีลเคลือบผิวซูเปอร์ฮาร์ดเพิ่มความแกร่ง กระจกแซฟไฟร์เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนที่พื้นผิวด้านใน เพื่อการอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจนในทุกองศา หลักชั่วโมงทั้ง 12 ตำแหน่งและชุดเข็มเคลือบสารเรืองแสงลูมิไบร์ท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความชัดเจนสูงสุดแม้ในที่แสงน้อยหรือที่มืด

นาฬิการุ่นนี้เป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ Save the Ocean ที่สะท้อนถึงพันธกิจของ Seiko Prospex ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล และรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในคอลเลคชันนี้ ได้นำไปร่วมสนับสนุนการดำเนินงานขององค์การกุศลที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทะเลและท้องมหาสมุทร สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการต่างๆ ที่มุ่งเน้นด้านการดูแลทะเลและมหาสมุทรได้ที่ www.seikowatches.com/global-en/products/prospex/special/110th_savetheocean/index

ผลงานเรือนเวลาการสร้างสรรค์ที่สะท้อนความงามแห่งภูมิทัศน์ของขั้วโลก Seiko Watchmaking 110th Anniversary Seiko Prospex Save the Ocean Limited Edition รหัส SPB333J สนนราคาจำหน่ายที่ 54,000 บาท ผลิตจำนวนจำกัด เพียง5,000 เรือนทั่วโลก

นาฬิกาทั้งสองรุ่นเริ่มวางจำหน่ายพร้อมกันในวันที่ 11 มกราคม 2023 ที่ไซโก บูติก เซ็นทรัลแกรนด์ พระราม9 และ เคาท์เตอร์ไซโก ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ, ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือสามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ Seiko Online boutique: www.seikoboutiquethailand.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-255-1245 ต่อ 888

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้