Last updated: 17 ก.พ. 2566 | 479 จำนวนผู้เข้าชม |
Blancpain (บลองแปง) สานต่อการเฉลิมฉลองการครบรอบ 70 ปีของ Fifty Fathoms (ฟิฟตี้ ฟาธอมส์) จาก Rangiroa Atoll ในดินแดน French Polynesia สถานที่ปฏิบัติภารกิจ Tamataroa โดย Blancpain ได้เปิดหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของนาฬิกาดำน้ำแบบโมเดิร์นเรือนแรกด้วยการเปิดตัวนาฬิกาโมเดลใหม่ล่าสุดที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเชิงเทคนิคในการดำน้ำยุคปัจจุบัน อุปกรณ์ชิ้นนี้มีนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาร่วมกันระหว่าง Marc A. Hayek ประธานและซีอีโอของ Blancpain กับ Laurent Ballesta ผู้ก่อตั้งโครงการ Gombessa ภายใต้ชื่อ “Tech Gombessa” ซึ่งมีความสามารถในการจับเวลาดำน้ำได้นานถึงสามชั่วโมงเป็นครั้งแรก การเปิดตัวนี้ยังมีขึ้นเพื่อระลึกถึงการครบรอบ 10 ปีของโครงการ Gombessa ที่ Blancpain มีส่วนช่วยผลักดันในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งมาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นในปี 2013 นอกจากนั้นยังถือเป็นการเปิดตัวคอลเลคชั่นนาฬิกาดำน้ำไลน์ใหม่ของ Blancpain อีกด้วย
เมื่อ 70 ปีที่แล้ว เรือนเวลาระดับไอคอนนาม Fifty Fathoms ได้ถือกำเนิดขึ้น เรือนเวลาที่ปฏิวัติวงการและกลายเป็นนาฬิกาดำน้ำแบบโมเดิร์นเรือนแรกของโลกซึ่งถูกคิดค้นขึ้นโดย Jean-Jacques Fiechter ผู้หลงใหลในการดำน้ำแบบสคูบาและยังเป็นซีอีโอของ Blancpain ในขณะนั้น เขาเป็นดั่งผู้บุกเบิกในการวางกฏระเบียบของกิจกรรมดังกล่าวที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ทั้งยังมีความเข้าใจถึงความจำเป็นของการจับเวลาใต้ผืนน้ำ อุปกรณ์ที่เขาออกแบบขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของตนเองจึงเป็นที่ต้องการของกลุ่มคนที่มีความเกี่ยวข้องกับท้องทะเลจนกลายเป็นอุปกรณ์คู่กายของเหล่านักดำน้ำและผู้สำรวจมหามุทรชั้นนำมากมาย ด้วยเป้าหมายของ Fifty Fathoms ที่มุ่งเน้นไปในการยกระดับความปลอดภัย มันจึงมีส่วนอย่างมากในการพัฒนาวงการอีกทั้งยังส่งเสริมการค้นพบสิ่งใหม่ในโลกใต้ทะเล
ปี 2023 ถือเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองการครบรอบ 70 ปีของ Fifty Fathoms ทั้งยังเป็นภาพสะท้อนในการหวนกลับมาของการให้กำเนิดนาฬิกาที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรม ตั้งแต่ยุค 1950 เป็นต้นมา การดำน้ำมีวิวัฒนาการขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะเรื่องการยืดระยะเวลาในการดำน้ำ แม้ว่านาฬิกา Fifty Fathoms ในปี 1953 จะตอบโจทย์ความต้องการของ Jean-Jacques Fiechter และนักดำน้ำมากประสบการณ์ในช่วงเวลานั้นได้ แต่ ณ ตอนนี้ความต้องการที่มีต่อการจับเวลาใต้น้ำได้เปลี่ยนไปเนื่องจากความสามารถในการอยู่ใต้น้ำที่นานขึ้นเป็นเวลาหลายชั่วโมง ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นโดยตรงกับประธานและซีอีโอของ Blancpain ที่เป็นนักดำน้ำสคูบาตัวยง ทั้งยังเป็นผู้ที่คุ้นเคยกับการดำน้ำแบบระบบวงจรปิด (closed-circuit) มาเป็นเวลาหลายปี เขาจึงตัดสินใจที่จะลงมือออกแบบอุปกรณ์ชิ้นพิเศษร่วมกับ Laurent Ballesta นักดำน้ำ ช่างภาพ และนักชีววิทยาทางทะเลโดยได้รับเอาคุณสมบัติอันล้ำค่าจากนาฬิกา Fifty Fathoms ปี 1953 มารวมเข้ากับประสบการณ์โดยตรงของตนเอง โดยมีเป้าหมายในการบรรลุความต้องการของกลุ่มสุดยอดนักดำน้ำ อาทิ เหล่าสมาชิกของทีมสำรวจ Gombessa ที่งานวิจัยของพวกเขาต้องเกี่ยวข้องกับการดำน้ำลึกภายใต้ระยะเวลาที่ยาวนาน ทั้งนี้ด้วยการสนับสนุนของ Blancpain นักดำน้ำลึกเหล่านี้จึงได้รวมตัวกันในการปฏิบัติภารกิจที่จะกินระยะเวลาหลายปีในชื่อ Tamataroa ซึ่งถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อศึกษาพฤติกรรมของฉลามหัวค้อนใหญ่ (Sphyrna mokarran) ใน French Polynesia นำโดยคณะกรรมการที่ล้วนเป็นนักดำน้ำลึกที่มี Marc A. Hayek และ Laurent Ballesta รวมอยู่ด้วย ทั้งนี้การเฝ้าสังเกตุการณ์ และการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไปด้วยวิธีการดำน้ำเชิงเทคนิคบริเวณ Rangiroa Atoll โดยมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการดำเนินการตามมาตรการการจัดการเพื่อการอนุรักษ์
ด้วยเหตุการณ์นี้เองจึงนำมาสู่การเปิดตัวครั้งแรกของนาฬิกาเรือนใหม่ล่าสุดจากคอลเลคชั่น Fifty Fathoms นาม Tech Gombessa ที่ถูกออกแบบให้สามารถจับเวลาดำน้ำได้ยาวนานถึง 3 ชั่วโมงหรือจนกระทั่งออกจากการดำน้ำแบบอิ่มตัว (saturation system) นาฬิกาเรือนนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดยสองนักดำน้ำเมื่อ 5 ปีที่แล้วและผ่านการทดสอบมาอย่างโชกโชน ในปี 2019 หลังจากผ่านช่วงเวลา 1 ปีในการกำหนดแนวคิด Blancpain เริ่มขั้นตอนในการพัฒนาโดยเริ่มต้นจาก 2 องค์ประกอบหลักได้แก่ กลไก และขอบหน้าปัดจับเวลาหมุนได้ทิศทางเดียว ทั้งนี้ขอบหน้าปัดจับเวลาของ Fifty Fathoms Tech Gombessa มีสเกลจับเวลา 3 ชั่วโมงซึ่งแตกต่างจากขอบหน้าปัดจับเวลาของนาฬิกาดำน้ำทั่ว ๆ ไป โดยมันทำงานควบคู่กับเข็มพิเศษซึ่งจะเดินครบหนึ่งรอบภายในระยะเวลา 3 ชั่วโมง ปลายเข็มมีสีสันและวัสดุเช่นเดียวกับมาร์กเกอร์บนขอบหน้าปัดที่มีการเคลือบสารเรืองแสงสีขาวพร้อมการเปล่งแสงสีเขียว ระบบการทำงานดังกล่าวนี้ถูกคิดค้นขึ้นเป็นครั้งแรกในโลกและจดสิทธิบัตรร่วมกันโดย Marc A. Hayek และ Laurent Ballesta โดยมันถือเป็นหัวใจสำคัญของกลไกขึ้นลานอัตโนมัติรหัส 13P8 ที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมทั้งในด้านความเที่ยงตรงและความแข็งแกร่งซึ่งช่วยให้ Fifty Fathoms เป็นที่สุดแห่งนาฬิกาดำน้ำมาเป็นเวลาถึง 70 ปี
เมื่อขอบหน้าปัดจับเวลา และกลไกลงตัวแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการออกแบบตัวเรือนให้เหมาะสมต่อการใช้ในการดำน้ำลึก โจทย์ในการออกแบบนั้นชัดเจนนั่นคือ นาฬิกา Fifty Fathoms Tech Gombessa ต้องมีหน้าตาแบบ Fifty Fathoms แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความแตกต่างที่แสดงให้เห็นถึงความเป็น ‘เทค’ ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นความท้าทายอย่างมาก เหล่านักออกแบบของ Blancpain จึงเลือกใช้ขอบหน้าปัดจับเวลาเซรามิคแทนที่จะใช้ขอบแซฟไฟร์อย่างทุกครั้ง อีกทั้งยังตัดสินใจทำให้มันมีความโค้งที่มากกว่าและเอียงลงเข้าหาหน้าปัดที่กรุด้วยคริสตัลซึ่งช่วยขจัดความผิดเพี้ยนในการมองเห็น อีกทั้งเพื่อช่วยในการอ่านค่าให้ได้ชัดเจนที่สุดในความมืดจึงเลือกใช้งานหน้าปัดแบบใหม่ที่เรียกว่า absolute black หรือสีดำสนิทที่สามารถดูดซับแสงได้เกือบ 97% ในขณะที่หลักชั่วโมงถูกรังสรรค์ขึ้นจากวัสดุเรืองแสงทรงกล่องสีส้มที่เปล่งแสงสีฟ้า ซึ่งเป็นสีที่เลือกไว้ใช้สำหรับการบอกชั่วโมงและนาทีจึงมีความแตกต่างจากสีที่เอาไว้ใช้บอกข้อมูลสำหรับการจับเวลาดำน้ำนั่นเอง
ตัวเรือนทำจากไทเทเนียมเกรด 23 ซึ่งเป็นเกรดที่ Blancpain เพิ่งนำมาใช้กับนาฬิกาของตนเองเมื่อไม่นานมานี้ วัสดุดังกล่าวยังสามารถเรียกได้อีกแบบว่า เกรด 5 ELI (extra low interstitials) ซึ่งถือเป็นไทเทียมที่มีความบริสุทธิ์ที่สุดที่มีอยู่ มีคุณสมบัติโดดเด่นทางด้านความแข็งแกร่ง ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ และมีน้ำหนักเบาจึงช่วยให้สวมใส่สบายจนแทบจะไม่รู้สึกถึงการมีนาฬิกาขนาด 47 มม.อยู่บนข้อมือ ทั้งยังมีวิธีการยึดตัวเรือนแบบใหม่ของ Blancpain ซึ่งยึดจากตรงกลางด้านในผ่าน central lugs เข้ากับสายนาฬิกาให้เป็นหนึ่งเดียวกัน นาฬิกามีขีดความสามารถในการกันน้ำระดับ 30 บาร์ (ประมาณ 300 เมตร) พร้อมฮีเลียมวาล์ว โดยในขณะที่มีการดำน้ำแบบอิ่มตัวภายในห้องปรับความดัน ฮีเลียมจะสามารถซึมเข้าไปภายในนาฬิกาได้ ดังนั้นในขณะที่ทำการคลายความดันเพื่อขึ้นสู่ผิวน้ำ การคลายวาล์วจะช่วยในการไล่ฮีเลียมออก (การปรับดังกล่าวไม่ส่งผลใด ๆ ต่อความสามารถในการกันน้ำของตัวนาฬิกา) สำหรับการขึ้นลานและการตั้งเวลานั้นทำผ่านการหมุนเม็ดมะยมที่ควบคุมทั้งการปรับเข็มชั่วโมง เข็มนาที และเข็มจับเวลาดำน้ำในคราวเดียว ตัวเม็ดมะยมเป็นแบบขันเกลียวพร้อมคราวน์การ์ดล้อมที่มาในดีไซน์ทรงสี่เหลี่ยมคางหมูเข้ากับรูปทรงของ lugs
ไม่มีพื้นที่ส่วนใดที่ไม่ถูกใส่ใจในการดีไซน์ซึ่งนั่นรวมไปถึงด้านหลังของเรือนเวลา บริเวณพื้นที่ของตัวเรือนชิ้นกลางมีลักษณะเป็นมุมเอียงซึ่งแตกต่างจากลักษณะกลมมนทรง ‘อ่าง’ ของ Fifty Fathoms ในโมเดลอื่น ๆ รอยบากที่ใช้สำหรับขันสกรูยังได้รับการปรับปรุงใหม่แต่ก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่งเช่นเดิม มีตุ้มเหวี่ยงสีแอนทราไซต์ประทับโลโก้ Gombessa Expeditions ที่โดดเด่นด้วยรูปทรงทันสมัยพร้อมการเปิดช่องขนาดใหญ่ 3 ช่องไว้สำหรับชื่นชมการทำงานของกลไก สายยางสีดำใช้การขันกสรูเพื่อยึดกับขาของตัวเรือนที่มีการเสริมความแข็งแรงด้วยไทเทเนียมด้านใน ทำให้มั่นใจว่าสายจะอยู่ในรูปทรงที่ถูกต้องในระยะยาว อีกทั้งยังมีสายสำหรับต่อความยาวในกรณีสวมใส่นาฬิกาบนชุดดำน้ำ หัวเข็มขัดล็อคสายมีความกว้างพิเศษและพินที่ถูกต้องตามหลักสรีรศาสาตร์ได้ถูกออกแบบขึ้นเพื่อเสริมการยึดนาฬิกาไว้กับข้อมือและเพื่อให้ง่ายต่อการรัดสายส่วนต่อ
นาฬิกา Fifty Fathoms Tech Gombessa มาในกล่อง Peli™ แบบพิเศษที่สามารถกันน้ำและกันกระแทก ทั้งยังนำไปใช้ใส่อุปกรณ์ชนิดอื่นได้เนื่องจากสามารถจัดสรรพื้นที่ภายในได้เอง บรรจุทั้งตัวนาฬิกา สายส่วนขยาย ที่ใส่นาฬิกาแบบพกพา แว่นขยาย เซ็ตชุดการแบ่ง และอุปกรณ์สำหรับตัดเพื่อจัดพื้นที่ภายในกระเป๋าตามความต้องการ
รายละเอียดทุกอย่างของนาฬิกา Tech Gombessa ดูเหมือนจะรวมกันได้อย่างราบรื่นไร้ที่ติ แต่แท้จริงแล้วมันผ่านการปรับแต่งมานับครั้งไม่ถ้วนซึ่งล้วนเกิดมาจากการทดสอบในสถานการณ์จริงที่ Marc A. Hayek ได้สวมใส่เรือนเวลาโปรโตไทป์หลายเวอร์ชั่นในการดำน้ำของเขา เช่นเดียวกับ Laurent Ballesta และเหล่านักดำน้ำของทีมสำรวจ Gombessa ซึ่งได้ทดสอบนาฬิการุ่นนี้ตลอดขั้นตอนของการพัฒนา โดยเรือนโปรโตไทป์ทั้งหมด 4 เวอร์ชั่นถูกทดสอบบนข้อมือของเหล่านักสำรวจใต้ทะเลเป็นระยะเวลาเกือบ 50 วันที่ระดับความลึกระดับ 120 เมตรระหว่างภารกิจ Gombessa V และ Gombessa VI ที่เกิดขึ้นในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนปี 2019 และ 2021 ตามลำดับ โดยทั้ง 2 ภารกิจมีการนำทั้งการดำน้ำแบบอิ่มตัวพร้อมวิธีการดำแบบวงจรปิดมาใช้เป็นครั้งแรกซึ่งเหล่านักดำน้ำได้ผ่านการใช้ชีวิตภายในห้องปรับความดันขนาด 5 ตารางเมตรตลอดเดือน อีกทั้งยังออกมาด้านนอกเพื่อสำรวจท้องทะเลทุก ๆ วันจึงมีโอกาสได้ทดสอบฮีเลียมวาล์วหลายเวอร์ชั่นอีกด้วย
นาฬิกา Fifty Fathoms Tech Gombessa ได้กลายเป็นเรือนเวลาสำหรับปฏิบัติภารกิจของกลุ่มนักดำน้ำทีม Gombessa เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ความต้องการสุดหินได้อย่างครบถ้วน การเปิดตัวนาฬิการุ่นนี้เพื่อเป็นเกียรติแก่การครบรอบ 70 ปีของ Fifty Fathoms และยังเป็นการครบรอบ 10 ปีแห่งความร่วมมือระหว่าง Blancpain และ Laurent Ballesta ซึ่งโครงการ Gombessa ของเขาได้ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 2013 ที่ Blancpain เข้ามามีส่วนร่วมในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดตัวไลน์ใหม่ภายใต้ชื่อ Fifty Fathoms Tech สำหรับนาฬิกา Blancpain ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นเพื่อการดำน้ำเชิงเทคนิคนั่นเอง
เกี่ยวกับ Fifty Fathoms
เปิดตัวครั้งแรกในปี 1953 Fifty Fathoms คือนาฬิกาดำน้ำรูปแบบโมเดิร์นเรือนแรกที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยนักดำน้ำเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการสำรวจโลกใต้ทะเล มันถูกเลือกใช้โดยนักดำน้ำรุ่นบุกเบิก และเหล่าทหารเรือชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลกในฐานะอุปกรณ์จับเวลาระดับมืออาชีพ ด้วยประสิทธิภาพในการกันน้ำ ระบบปะเก็นสองชั้นบริเวณเม็ดมะยม กลไกขึ้นลานอัตโนมัติ หน้าปัดสีเข้มที่ตัดกันอย่างชัดเจนกับสารเรือนแสงที่หลักบอกเวลา ขอบจับเวลาหมุนได้ทิศทางเดียว และคุณสมบัติในการป้องกันสนามแม่เหล็ก ทำให้ Fifty Fathoms กลายเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้สำหรับนักดำน้ำในการปฏิบัติภารกิจใต้ผืนทะเล
คุณลักษณะที่สำคัญเหล่านี้ทำให้ Fifty Fathoms กลายเป็นดั่งแม่แบบแห่งนาฬิกาดำน้ำของวงการ และแม้จะเต็มไปด้วยข้อพิสูจน์นานับประการจากในอดีตแต่ก็พร้อมที่จะมองไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่ นั่นทำให้ Fifty Fathoms รุ่นยุคปัจจุบันเลือกใช้กลไกสมัยใหม่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งและความเที่ยงตรง มันเต็มไปด้วยนวัตกรรมเชิงเทคนิคอันหลากหลายที่ได้รับมาจากประสบการณ์อันโชกโชนทางด้านการดำน้ำของ Blancpain ความเสี่ยง และความจำเป็นอย่างยิ่งยวด
Fifty Fathoms มีบทบาทอย่างใหญ่หลวงต่อการพัฒนาการดำน้ำแบบสคูบาและการค้นพบโลกใต้สมุทร รวมทั้งทำให้ Blancpain เชื่อมต่อกับกลุ่มบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับท้องทะเลได้อย่างใกล้ชิด ความสัมพันธ์นี้ยังถูกพัฒนาให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 70 ปี Fifty Fathoms คือแรงขับเคลื่อนที่ทำให้เกิดพันธสัญญาแห่งการอนุรักษ์ท้องทะเลของ Blancpain
21 พ.ย. 2567
22 พ.ย. 2567
21 พ.ย. 2567
21 พ.ย. 2567