Last updated: 14 มี.ค. 2566 | 463 จำนวนผู้เข้าชม |
เพื่อเป็นการฉลองจุดเริ่มต้นแห่งความร่วมมือ Daniel Arsham (แดเนียล อาร์แชม) ได้สร้างสรรค์งานศิลปะจัดวาง หรืออินสตอลเลชันอาร์ตในรูปแบบนาฬิกาแดด ขนาด 20 เมตร ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Hublot (อูโบลท์) โดยติดตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ของผืนหิมะแห่ง Zermatt (เซอร์แมท) ใน Schwarzsee (ชวาร์ซี) ณ ระดับความสูง 2583 เมตร
Hublot loves Daniel Arsham! ช่างผู้ผลิตนาฬิกาสวิสยังคงเดินหน้าแสวงหาซึ่งความเป็นที่หนึ่งและแตกต่าง โดยการประกาศต้อนรับศิลปินร่วมสมัยชาวอเมริกัน Daniel Arsham ผู้ทำงานอยู่ในมหานครนิวยอร์ก ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ Daniel เป็นที่รู้จักจากผลงานอันเปี่ยมด้วยพลังของเขา ซึ่งครอบคลุมทั้งสาขาจิตรกรรม ประติมากรรม ศิลปะจัดวางหรือ อินสตอลเลชัน (installation) และภาพยนตร์ โดยเขามักสำรวจถึงแนวคิดของเวลาผ่านผลงานทางศิลปะของเขาเองเสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านซีรีส์ผลงานอันโด่งดัง อย่าง Connecting Time (คอนเน็คติ้ง ไทม์) และ Hourglass (อาวร์กลาส) ที่เป็นไอคอนิกของเขา
เพื่อเริ่มต้นความร่วมมือครั้งใหม่และเพื่อเฉลิมฉลองความเชื่อมโยงอันเป็นนิรันดร์ระหว่างการประดิษฐ์นาฬิกา ศิลปะ และงานหัตถศิลป์ Daniel ได้เผยโฉมนาฬิกาแดด ขนาด 20 เมตร ขึ้นท่ามกลางภูมิทัศน์แห่งผืนหิมะของรีสอร์ทแห่งเทือกเขาสวิสอย่าง Zermatt และภายใต้เงาแสงของ Matterhorn (แมทเทอร์ฮอร์น) ยอดเขาอันเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีแห่ง Swiss Alps (สวิสแอลป์) โดยศิลปะจัดวางแบบชั่วคราวนี้มีชื่อว่า Light & Time (ไลท์ แอนด์ ไทม์) โดยใช้องค์ประกอบทางธรรมชาติเพื่อหลอมรวมรากเหง้าต่างๆ ของการแสดงเวลามาผสมผสานเข้ากับงานฝีมือภายใต้ศิลปะแห่งพรมแดน โดยศิลปะจัดวางที่มีฟังก์ชันของการวัดเวลากลางแจ้งนี้มีพื้นฐานมาจากแสงเงาที่ทอดผ่านอนุสาวรีย์แท่งหินสูงรูปทรงผลึกควอตซ์ ซึ่งเมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนโคจรในหนึ่งวัน แสงเงาที่ทอดผ่านโดยตัวชี้กลางจะทำหน้าที่แสดงเวลาบนหิมะซึ่งคราดรอยไว้ Arsham ยังได้ผสมผสานระหว่างรูปทรงและฟังก์ชันในการสร้างสรรค์นาฬิกาแดดจากองค์ประกอบทางธรรมชาติของ Swiss Alps โดยวิธีการนี้ หิมะและแสงได้หล่อหลอมเข้าด้วยกันเพื่อเชื่อมโยงจักรวาลแห่งผลึกและแสงของเขาเข้ากับมรดกและประวัติศาสตร์แห่งงานหัตถศิลป์การประดิษฐ์นาฬิกาของ Hublot นาฬิกาแดดนี้ยังได้ร่วมสะท้อนถึงภาษาการออกแบบของ Hublot และการผสมผสานสัญลักษณ์ต่างๆ ที่คุ้นเคย อาทิ สกรูอันโด่งดังซึ่งทำหน้าที่ยึดขอบตัวเรือนของนาฬิกา Big Bang (บิ๊ก แบง) โดยศิลปะอินสตอลเลชันนี้ยังมาพร้อมกับความพิเศษเหนือความคาดหมาย จากการที่จะสามารถมองเห็นได้เพียงเฉพาะจากยอดเขาเท่านั้น และเพื่อให้สามารถมองเห็นได้ ผู้ที่หลงใหลในศิลปะจะต้องใช้ลิฟต์สกีของ Zermatt เพื่อร่วมชื่นชมศิลปะชิ้นนี้
“ผมได้เฝ้าดู Hublot และโปรเจกต์ต่างๆ ที่แบรนด์ให้การสนับสนุนโลกแห่งศิลปะร่วมสมัยที่น่าสนใจตลอดหลายปีที่ผ่านมา และชื่นชมในในความกล้าหาญแห่งการประดิษฐ์สร้างสรรค์นาฬิกา การออกแบบ และงานฝีมือ The Art of Fusion (ศิลปะแห่งการผสมผสาน) ถือเป็นหนึ่งในโปรเจกต์อันชาญฉลาดที่สุดของการประดิษฐ์นาฬิกา ผมรักในแนวคิดการรังสรรค์ของ Hublot รวมถึงอิทธิพลและวัสดุที่นำมาใช้ร่วมกันในการสร้างรูปทรงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียว แน่นอนว่ามันเป็นช่วงเวลาพิเศษที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Hublot Family (ครอบครัวอูโบลท์) และผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากกับโปรเจกต์นาฬิกาแดด Hublot x Daniel Arsham ใน Zermatt นี้ ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว ศิลปะอินสตอลเลชันร่วมสมัยนี้จะจับซึ่งบางสิ่งของชั่วขณะเวลาที่ผ่านไปที่เราเองสามารถรู้สึกและรับรู้ได้ แต่มันก็ยังคงอยู่อย่างเหนือกาลเวลา และสร้างซึ่งความทรงจำที่ส่งทอดผ่านการเดินทางของวินาที นาที ชั่วโมง และวันต่างๆ สำหรับผู้คนทึ่เดินหน้าขึ้นสู่ขุนเขาเพื่อชื่นชมมัน”
Daniel Arsham / Contemporary Artist and Hublot Ambassador
ปีนี้ถือเป็นปีสำคัญสำหรับ Daniel โดยเป็นการครบรอบ 20 ปี นับตั้งแต่ที่เขาได้รับรางวัล Gelman Trust Fellowship Award (เกลแมน ทรัสต์ เฟลโลว์ชิพ อวอร์ด) และชนะรางวัลอันทรงเกียรติ GNMH Award (จีเอ็นเอ็มเอช อวอร์ด) ซึ่งทำให้เขาเป็นที่สนใจในโลกแห่งศิลปะ นับตั้งแต่นั้นมา Daniel ได้กลายเป็นหนึ่งในศิลปินร่วมสมัยที่ทรงอิทธิพลสูงสุดและเป็นที่ต้องการตัวมากที่สุด เขาจบการศึกษาจากวิทยาลัย Cooper Union (คูเปอร์ ยูเนียน) ในนิวยอร์ก และได้จัดแสดงผลงานมาแล้วทั้งใน นิวยอร์ก ปารีส โตเกียว เซี่ยงไฮ้ ลอสแอนเจลิส และลอนดอน รวมถึงได้รับการยกย่องจากผู้ร่วมงานในอดีตของเขามากมาย อาทิ แฟชั่นดีไซเนอร์ Hedi Slimane (เอดี สลิมาน), ผู้อำนวยการศิลป์ของ Dior (ดิออร์) อย่าง Kim Jones (คิม โจนส์), Porsche (ปอร์เช่) และ Pokémon (โปเกมอน) งานของเขาเป็นที่รู้จักและในหมู่นักวิจารณ์ยังได้อธิบายไว้ว่าเป็นเสมือน ‘โบราณคดีร่วมสมัยแห่งตำนาน’ ที่ซึ่งเขาได้ใช้รูปทรงอันคุ้นเคย และปรับแต่ง หรือเปลี่ยนแปลงรูปทรงเหล่านั้นขึ้นมาใหม่
“เราหวังมาเสมอว่าวันนี้จะมาถึง! Daniel Arsham เป็นหนึ่งในผู้เปี่ยมด้วยพรสวรรค์และความคิดสร้างสรรค์อันน่าตื่นเต้นที่สุดแห่งโลกศิลปะร่วมสมัยในวันนี้ และเรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับเขาเข้าสู่ Hublot Family ในฐานะ Hublot Ambassador ด้วยผลงานอันน่าทึ่ง น่าตื่นเต้น และกล้าหาญของเขานั้น ถือเป็นการจับคู่อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับ Hublot และเข้าถึงซึ่งจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์นาฬิกาของเรา นั่นคือ การเป็นที่หนึ่ง มีเอกลักษณ์ และแตกต่าง เราไม่มีข้อสงสัยเลยว่านี่จะกลายเป็นความร่วมมืออันเปี่ยมด้วยประสิทธิผลอันยิ่งใหญ่ และเราไม่อาจอดใจรอที่จะได้สำรวจอนาคตร่วมไปกับ Daniel พร้อม Hublot และแฟนๆ ที่รักศิลปะ Hublot loves Daniel Arsham!”
Ricardo Guadalupe (ริคาร์โด กัวดาลูเป) / Hublot Ceo
Zermatt เป็นสถานที่ทางธรรมชาติที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับเปิดโลกแห่งความร่วมมือกันกับ Daniel เพราะเป็นเมืองของ Hublot! อย่างแท้จริง ด้วยเอกลักษณ์ของแผงไม้สไตล์ชาเลต์ของ Hublot Boutique Zermatt (อูโบลท์ บูติก เซอร์แมท) บรรยากาศอบอุ่น ในขณะที่รีสอร์ทแห่งนี้เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ของ Hublot และบอกเวลาด้วยนาฬิกาคล็อก Hublot และผู้มาเยือนยังสามารถใช้ลิฟต์เก้าอี้ความเร็วสูง Hublot-Express (อูโบลท์-เอ็กซ์เพรส) เพื่อไต่ระดับความสูง 954 เมตรขึ้นสู่สถานียอดเขา รวมถึงโอกาสอีกสี่ครั้ง นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 ที่ Hublot ได้เปิดตัวแนะนำนาฬิการุ่นพิเศษผลิตจำนวนจำกัด เพื่อร่วมฉลองสัมพันธภาพอันยิ่งใหญ่ที่เชื่อมโยงระหว่าง Hublot และ Zermatt ไว้ด้วยกัน
นอกจากนี้ ความเชื่อมโยงของ Hublot กับโลกแห่งศิลปะนั้นก็หยั่งรากลึกด้วยเช่นกัน โดยในปี ค.ศ. 2021 ทางแบรนด์ได้เฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของ ‘Hublot Loves Art’ และ Daniel Arsham ก็ได้ร่วมเป็นหนึ่งใน Hublot Family จากการเป็น Ambassadors ตัวแทนแห่งโลกแห่งศิลปะและดนตรี ร่วมไปกับผู้ทรงคุณวุฒิอีกมากมาย อาทิ Richard Orlinski (ริชาร์ด ออร์ลินสกี), Takashi Murakami (ทาคาชิ มุราคามิ), Maxime Plescia-Buchi (แม็กซิม เพลสเซีย-บุชชี), Lang Lang (หลาง หล่าง) และ Samuel Ross (ซามูเอล รอสส์)
About HUBLOT
Hublot (อูโบลท์) เป็นบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาสวิส ที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1980 และมีฐานอยู่ในเมือง Nyon (นียง) นับจากผลงานเรือนเวลารุ่นแรกของ แบรนด์ บริษัทได้ทลายซึ่งหลักการพื้นฐานของการประดิษฐ์นาฬิกา โดยเลือกผสมผสานทองเข้ากับสายยางภายในตัวเรือนที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากช่องหน้าต่างของเรือ (หรือ hublot ในภาษาฝรั่งเศส) และเป็นที่มาของ The Art of Fusion (ศิลปะแห่งการผสมผสาน) ซึ่งได้ถือกำเนิดขึ้น โดยการผสมผสานของประเพณี นวัตกรรม งานฝีมือ โลกและผู้พรสวรรค์ในสาขาต่างๆ ที่หล่อหลอมกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งสุนทรียะความสวยงามและความโดดเด่นทางด้านเทคนิคของแบรนด์
เอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในปี ค.ศ. 2005 เมื่อนาฬิกา Big Bang (บิ๊ก แบง) ได้พิสูจน์ถึงองค์ความรู้อันมิอาจเทียบเคียงได้ในแง่ของความสลับซับซ้อน กลไกซึ่งผลิตภายในโรงงานของตนเอง และวัสดุอันล้ำสมัย ทั้ง คาร์บอน, ไทเทเนียม, เซรามิก และแซฟไฟร์ ที่ได้รับการพัฒนาบนนาฬิการุ่นนี้สู่ความเป็นที่สุดทางด้านเทคนิค
การบรรลุถึงคุณภาพระดับสูงอันน่าทึ่งที่นำมาใช้ในการประดิษฐ์รังสรรค์นาฬิกานี้ได้ถูกหล่อหลอมขึ้นภายใต้ปรัชญาอันแน่วแน่ของแบรนด์ นั่นคือ ‘Be First, Unique and Different’ (‘เป็นที่หนึ่ง มีเอกลักษณ์ และแตกต่าง’) และนำไปสู่การสร้างสรรค์คอลเลกชันอื่นๆ อย่างต่อเนื่องด้วยนวัตกรรมการออกแบบมากมาย ทั้งใน Classic Fusion (คลาสสิค ฟิวชั่น), Spirit of Big Bang (สปิริต ออฟ บิ๊ก แบง), Square Bang (สแควร์ แบง) และ Manufacture Pieces (แมนูแฟคเจอร์ พีซเซส) โดยผลงานเหล่านี้ได้ดึงระดับแห่งงานฝีมือขั้นสูงมาใช้ ทั้งในแง่ของวัสดุศาสตร์อันเป็นที่รักยิ่งของ Hublot (อาทิ Magic Gold (เมจิก โกลด์), เซรามิก และแซฟไฟร์ สีสันสดใส) ตลอดจนกลไกที่ผลิตขึ้นภายในโรงงานของตนเอง (เช่น กลไก Unico (ยูนิโค) โครโนกราฟ, Meca-10 (เมกา-10) และกลไกระดับแกรนด์คอมพลิเคชันอีกมากมาย อาทิ Tourbillon (ทูร์บิญอง), Cathedral Minute Repeater (คาธีดรัล มินิท รีพีทเตอร์) รวมถึงกลไกที่ผลิตขึ้นเฉพาะสำหรับ Manufacture Pieces)
โลกของ Hublot ยังขยายสู่หลากหลายความร่วมมืออันเปี่ยมด้วยพลัง ซึ่งรวมไปถึงโลกแห่งฟุตบอล ด้วย ‘Hublot Loves Football’ (‘อูโบลท์รักฟุตบอล’) ที่กลายเป็นสโลแกน ณ การแข่งขันกีฬาอันยิ่งใหญ่ที่สุดระดับโลก (เช่น FIFA World CupTM (ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ), Premier League (พรีเมียร์ ลีก), UEFA Champions LeagueTM (ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก), UEFA EUROTM (ยูฟ่า ยูโร)) รวมถึงผ่านเหล่าแอมบาสซาเดอร์ของแบรนด์ ความรักต่อฟุตบอลนี้ยังขยายต่อเนื่องไปยังโลกแห่งศิลปะ, งานออกแบบ, ดนตรี, กีฬา, อาหารสไตล์ไฟน์ไดนิ่ง และการแล่นเรือ ท้ายสุด กับความสัมพันธ์ของ Hublot กับโปรเจกต์ความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ ทั้งร่วมกับ SORAI (โซไร) และ Polar Pod (โพลาร์ พอด) ที่ล้วนสะท้อนถึงความเอาใจใส่ในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมของวันนี้ ผ่านเครือข่ายบูติกเกือบ 130 แห่งทั่วโลกที่ได้ร่วมแลกเปลี่ยนซึ่งความมุ่งมั่นศรัทธาอันแรงกล้าและคุณค่าของ Hublot พร้อมด้วยแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ Hublot.com
DANIEL ARSHAM
Daniel Arsham (แดเนียล อาร์แชม) เป็นศิลปินชาวนิวยอร์กผู้ซึ่งมีผลงานครอบคลุมทั้งวิจิตรศิลป์ สถาปัตยกรรม การแสดง และภาพยนตร์ โดยผลงานที่เป็นไอคอนิกของ Arsham นั้นได้หลอมรวมอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ผ่านการแสดงออกถึงการเปลี่ยนแปลงได้โดยง่ายและเปี่ยมด้วยพลังแห่งความโหยหา ที่มักค้นพบผ่านการอ้างอิงถึงช่วงขณะเวลาต่างๆ ของปลายศตวรรษที่ 20 โดยถ่ายทอดผ่านสิ่งประดิษฐ์อันทันสมัยและกายวิภาคของมนุษย์อันร่วมสมัย ผลงานของเขายังรังสรรค์ขึ้นจากวัสดุทางธรณีวิทยา อาทิ ทราย เซเลไนต์ และเถ้าภูเขาไฟ ที่วัสดุเหล่านี้ช่วยให้ชิ้นงานศิลปะต่างมีคุณลักษณะอันโดดเด่นและสวยงามซึ่งเกิดจากการตีความทางโบราณคดีและธาตุแห่งอนาคตที่ Arsham สนใจ
Arsham ได้จัดแสดงผลงานเดี่ยวมาแล้วมากมาย ทั้งใน Orange County Museum of Art, Musée Guimet, Paris, France; UCCA Center for Contemporary Art, Dune, China; MOCO Museum, Amsterdam, The Netherlands; HOW Museum, Shanghai, China; The Cranbrook Art Museum, Detroit, Michigan และ High Museum of Art, Atlanta, Georgia, USA ท่ามกลางอีกมากมาย ผลงานของ Arsham ยังได้ถูกนำไปจัดแสดง ณ National Gallery of Victoria Triennial, Melbourne, Australia; The Athens Biennale in Athens, Greece; Musée Fenaille, Rodez, Carré d’Art de Nîmes และ Paris La Défense, France; Frieze Sculpture, London, U.K.; The Athens Biennale in Athens, Greece และ Crystal Bridges Museum of American Art, Bentonville, Arkansas, SCAD Museum, Savannah, Georgia, Museum of Contemporary Art, Chicago, New Museum and MoMA PS1, New York, USA และอีกมากมาย
ติดตามข่าวสารได้ที่: @Hublot @Hublot_Bangkok @danielarsham #Hublot #HublotBangklok
7 ต.ค. 2567
8 ต.ค. 2567
26 ก.ย. 2567
16 ต.ค. 2567