URWERK UR-102 “reloaded”

ไร้ซึ่งข้อกังขา ว่านี่คือคอลเลกชันที่ผู้คนเฝ้ารอคอยอย่างใจจดใจจ่อมากที่สุด ทั้งยังเป็นผลงานที่ไม่เพียงซับซ้อนสูงสุด แต่ยังพิเศษไม่เหมือนใครมากที่สุดเช่นกัน นอกจากนี้ ยังเป็นหนึ่งในผลงานที่ย้อนสู่จุดเริ่มต้นของการผจญภัย ณ จุดกำเนิดอย่างแท้จริง ด้วยนาฬิกา URWERK (อูร์เวิร์ก) รูปทรงกลม อีกทั้งยังไร้ซึ่งเข็มชี้ ที่มีเพียงจุดร่วมเดียวกันนั่นคือหน่วยการแสดงชั่วโมงที่เคลื่อนไปตามรางครึ่งวงกลม ย้อนหวนกลับสู่คอลเลกชันอันเลื่องลือของ 102 ซึ่งเปิดตัวในงาน Baselworld 1997 ที่ยังคงความทันสมัย หลังผ่านการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยให้รับกับยุคสมัยต่างๆ และในวันนี้ UR-102 “reloaded” (อูอาร์-102 “รีโหลดเด็ด”) ยังมาพร้อมการนำเสนอภายในเซ็ตกล่องบรรจุพิเศษ ที่ภายในประกอบด้วยผลงานสองเวอร์ชัน โดยเวอร์ชันหนึ่งมาพร้อมตัวเรือนไทเทเนียม และอีกเวอร์ชันเผยโฉมด้วยเฉดสีดำเอกลักษณ์ของ URWERK

“UR-102 เป็นมากกว่าสัญลักษณ์” Felix Baumgartner (ฟีลิกซ์ โบมการ์ตเนอร์) ช่างนาฬิการะดับมาสเตอร์และผู้ร่วมก่อตั้งของ URWERK กล่าว “โดยเป็นตัวแทนของการก้าวเข้าสู่ AHCI - Académie Horlogère des Créateurs Indépendants ของผม และเป็นตัวแทนของความร่วมมือครั้งแรกกับ Martin Frei (มาร์ติน ไฟร) ด้วยก้าวแรกๆ ของเราสู่โลกของการประดิษฐ์นาฬิกา สู่ความใฝ่ฝันแห่งอิสรภาพในการสร้างสรรค์แรกๆ ของเรา”

โดยในวันนี้ UR-102 ได้หวนคืนสู่โต๊ะทำงานสร้างสรรค์การประดิษฐ์นาฬิกาของ URWERK ในรูปแบบของผลงานล่าสุด UR-102 “reloaded” ที่ตลอดกว่าสองทศวรรษ นาฬิการุ่นนี้ได้เติบโตภายใต้ความเข้มแข็งและขนาด และในวันนี้ ได้พลิกโฉมสู่ตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 41 มม. อันสง่างาม เมื่อเปรียบเทียบกับขนาด 38 มม. ของเวอร์ชันดั้งเดิม ซึ่งแม้ว่าตัวเรือนจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ยังคงไว้ด้วยเอกลักษณ์และความน่าประทับใจแห่งภาพเหมือนดั่งที่เคย ส่วนเม็ดมะยมของรุ่นใหม่นี้ได้ผสานเข้ากับตัวเรือน รวมทั้งย้ายตำแหน่งมายัง ณ 4 นาฬิกา ขณะที่หูตัวเรือนเชื่อมสายมีขนาดใหญ่ขึ้น ชวนให้หวนนึกถึงโครงสร้างของตัวเชื่อมต่อต่างๆ บนดาวเทียมอวกาศ สปุตนิก (Sputnik) ทั้งความเข้มแข็ง รูปลักษณ์เชิงมุม และออกแบบขึ้นเฉพาะเพื่อให้สามารถสวมใส่ “เครื่องยนต์” นี้ไว้บนข้อมือได้อย่างสมบูรณ์ โดดเด่นด้วยฟอนต์ของเครื่องหมายหรือมาร์กเกอร์บอกชั่วโมงและนาทีที่ได้รับการออกแบบขึ้นใหม่ พร้อมด้วยข้อมูลใหม่ที่ปรากฏบนหน้าปัด องค์ประกอบเหล่านี้ ทำให้ UR-102 “reloaded” คือตัวแทนของการปฏิวัติอันแตกต่างอย่างกลมกลืนและสมบูรณ์แบบ

เหนืออื่นใด รุ่นนี้ยังได้สร้างความโดดเด่นเฉพาะตัวขึ้นด้วยนวัตกรรมและงานออกแบบอันบริสุทธิ์และชัดเจน “นับตั้งแต่เริ่มต้น เราตัดสินใจอย่างมุ่งมั่นที่จะให้ความสำคัญกับการแสดงชั่วโมงแบบการโคจร (wandering hour) ที่เป็นเส้นทางการสร้างสรรค์ของเรา” มาร์ติน ไฟร ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์และผู้ร่วมก่อตั้งของ URWERK กล่าว “ในสมุดวาดภาพร่าง ผมเริ่มต้นด้วยการร่างภาพงานออกแบบแรกๆ ขึ้นเพียงไม่กี่จุด ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นดั่งฐานให้กับงานของเรา และมากไปกว่าเพียงความกระตือรือร้นในการทำงาน แต่เรายิ่งรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุข” เขาเล่าย้อนกลับไป “โดยใน อูอาร์-102 แนวคิดของเราคือการถ่ายทอดตัวแสดงเวลาที่มีลักษณะคล้ายดั่งวัตถุท้องฟ้า และเลือกความโดดเด่นของ สปุตนิก ที่เป็นดาวเทียมปัญญาประดิษฐ์ดวงแรกที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยวิถีโคจรของตัวชี้ชั่วโมงของเรานั้นจะเดินไปตามรางครึ่งวงกลม นับจากนาทีที่ 0 (การขึ้น) จนถึงนาทีที่ 30 (ท้องฟ้า) และหายไป ณ นาทีที่ 60 (การลง) และเหมือนกับ สปุตนิก ที่ ‘วัตถุ’ แห่ง อูอาร์-102 ของเรานั้นทำจากโลหะเงาวาว ซึ่งมอบการสะท้อนราวกับกระจกเงาของวัตถุต่างๆ ขณะที่เคลื่อนผ่านเส้นทางของมัน”

UR-102 “reloaded” ยังคงรักษาไว้ซึ่งพลังแห่งการสะท้อนนี้ รวมถึงคุณลักษณะหลักๆ UR-102 โดย ฟีลิกซ์ โบมการ์ต-เนอร์ กล่าวต่อว่า “สีน้ำเงินของ UR-102 ดั้งเดิมนั้นมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่เราต้องการรักษาไว้ ซึ่ง ณ เวลานั้น เราต้องการให้งานออกแบบของเรามีสีสัน และนึกไปถึงเฉดสีน้ำเงินเปลวเพลิงสำหรับตัวเรือนของผลงาน ด้วยเหตุนี้ เราจึงใช้อโนไดซ์อลูมิเนียมเข้มข้นและสว่างอันชวนหลงใหล และหากคุณพินิจลงภายใน UR-102 “reloaded” โดยเฉพาะเวอร์ชันไทเทเนียมใกล้ๆ มากขึ้นแล้ว ก็จะสังเกตเห็นว่ารางนาทีนี้มีสีน้ำเงินแบบเดียวกัน ขณะที่คุณลักษณะเด่นๆ ซึ่งกระจายตัวไปในตำแหน่งต่างๆ เหล่านี้ได้สร้างความชัดเจนของสายเลือดอันบริสุทธิ์และมีเอกลักษณ์ของ UR-102 “reloaded” เช่นเดียวกันกับบนเม็ดมะยมของ UR-102 “reloaded” “โดยเราออกแบบขึ้นใหม่ และย้ายเม็ดมะยมไปเล็กน้อย โดยการย้ายตำแหน่งของเม็ดมะยมนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นภายในช่องเปิดสำหรับการอ่านค่าเวลา ที่ไม่ได้เป็นรูปครึ่งวงกลมสมบูรณ์อีกต่อไป แต่ ‘ช่องหน้าต่าง’ นี้กลับกว้างขึ้นด้วยขอบแบบลาดเอียงลง ซึ่งมอบทั้งภาพลักษณ์อันทรงพลังและสดใหม่มากยิ่งขึ้น” มาร์ติน ไฟร กล่าวเสริม

UR-102 “reloaded” นำเสนอภายในเซ็ตกล่องบรรจุพิเศษที่ผลิตขึ้นจำนวนจำกัดเพียง 25 เซ็ต โดยประกอบด้วยผลงานสองเวอร์ชันของ “ไทเทเนียม” (“Titanium”) และ “แบล็ก” (“Black”) ราคาเซ็ตละ CHF 56,000 (สวิสฟรังก์ / ไม่รวมภาษี)