Last updated: 3 ก.ค. 2566 | 642 จำนวนผู้เข้าชม |
"Only Watch ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นในปี ค.ศ. 2005 และโรงงานของเราก็ได้ก่อตั้งขึ้นหลังจากนั้นเพียงสี่ปี คือในปี ค.ศ. 2009 เราทั้งคู่จึงเป็นเจเนอเรชันเดียวกัน เราเติบโตอย่างรวดเร็วและผลักดันซึ่งพรมแดนความเชี่ยวชาญในสาขาเฉพาะของเรา Hublot กับโลกของการประดิษฐ์นาฬิกาชั้นสูง และ Only Watch แห่งองค์การกุศล เมื่อใดก็ตามที่ Luc Pettavino ผู้ก่อตั้ง Only Watch ต้องการเรา เราก็พร้อมจะอยู่ตรงนั้น Hublot ไม่เคยละหน้าที่ด้านสังคมและการกุศล และจะไม่เป็นเช่นนั้น” Ricardo Guadalupe (ริคาร์โด กัวดาลูเป) / HUBLOT CEO
จักรกลทูร์บิญองกลาง หรือ Central Tourbillon สามารถตีความตามได้ถึงความตั้งใจของ Hublot ที่จะทำให้เครื่องบอกเวลาชั้นสูง หรือ Haute Horlogerie ได้กลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง หรือการนำเสนอรูปทรงกลมของนาฬิกา ที่อาจดูคล้ายกับภาพวาดดอกเดซีของเด็กที่เรียงรายด้วยกลีบดอกทั้ง 12 กลีบ โดยมีสีเขียวที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของความหวัง อย่างไรก็ตาม จุดแข็งของเรือนเวลา MP-15 Takashi Murakami Tourbillon Only Watch (เอ็มพี-15 ทาคาชิ มุราคามิ ทูร์บิญอง โอนลี่ วอทช์) คือความจริงที่ว่า ทุกคนจะได้เห็นผลงานนี้เป็นดั่งสัญลักษณ์ของสิ่งที่พวกเขาเห็นคุณค่า เสมือนดอกไม้ที่เบ่งบานรายล้อมด้วยคุณค่ามากมายเฉกเช่นสีสันอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความไฮเทคล้ำสมัย ความประณีตวิจิตร ความสนุกสนาน ความมีเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียว และสวยงามราวดั่งต้องมนตร์สะกด ... และในครั้งนี้ Haute Horlogerie (เครื่องบอกเวลาชั้นสูง) ได้มาบรรจบกับ Haute Joaillerie (เครื่องประดับอัญมณีชั้นสูง) ภายในนาฬิกาสุดสร้างสรรค์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Smiling flower (ดอกไม้ยิ้ม) อันเป็นไอคอนิกของ Takashi Murakami (ทาคาชิ มุราคามิ)
องค์ประกอบของดอกไม้คือศูนย์กลางผลงานสร้างสรรค์ของ Takashi Murakami ศิลปินชาวญี่ปุ่นคนนี้ได้สร้างชื่อเสียงจากจุด เริ่มต้นจนกลายมาสู่การเป็นหนึ่งในศิลปินอันเป็นที่ต้องการสูงสุดของโลก และเขาได้ร่วมเป็น Friend of Hublot (เฟรนด์ ออฟ อูโบลท์) นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2020 โดยหลากหลายผลงานสร้างสรรค์แห่งความร่วมมือกันนี้ล้วนผลิตขึ้นในซีรีส์จำนวนจำกัด โดย เฉพาะนาฬิการุ่นใหม่นี้ที่จำกัดยิ่งกว่า เพราะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น นอกจากเอกลักษณ์เพียงหนึ่งเดียวโดยธรรมชาติแล้ว(สร้างสรรค์ ขึ้นเพียงเรือนเดียวเท่านั้น) ยังมีความโดดเด่นของโครงสร้างตัวเรือน ซึ่งสิ่งที่ทำให้ MP-15 (เอ็มพี-15) นั้นแตกต่างไปจาก ผลงานอื่นๆ ที่โรงงานการผลิตแห่งนี้ได้เคยสร้างสรรค์มาตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี นั่นก็คือ การบรรจุด้วยกลไกทูร์บิญองกลาง หรือ Central Tourbillon นั่นเอง
นาฬิกาจักรกลเซ็นทรัล ทูร์บิญอง ครั้งแรกของ Hublot
นาฬิกา Central Tourbillon นี้ ถือเป็นตัวแทนของการผสมผสานแห่งศิลปะและงานออกแบบเครื่องบอกเวลา ด้วยแนวคิดที่ สะท้อนถึงการอุทิศตนของ Hublot ให้กับ Haute Horlogerie และโลกของ Takashi Murakami ซึ่งแน่นอนว่าแนวคิดนี้มี Haute Horlogerie เป็นดั่งศูนย์กลาง ทว่าไม่ใช่เพียงเท่านั้น แนวคิดนี้ยังแสดงให้เห็นว่าทูร์บิญอง ซึ่งเป็นหัวใจขับเคลื่อนของนาฬิกา คือตัวแทนของหัวใจของผู้ที่ได้ครอบครองเรือนเวลานี้จากการประมูลเพราะต้องการช่วยเหลือโครงการวิจัยเกี่ยวกับโรคกล้ามเนื้อเสื่อม สภาพ (Duchenne's disease) รวมไปถึงหัวใจของเด็กๆ ที่กำลังต่อสู้กับโรคนี้
การจินตนาการถึงผลงานชิ้นนี้ Takashi Murakami ได้ขออย่างชัดเจนให้นำ Central Tourbillon มาใช้ ซึ่งนับเป็นความท้าทายขีดข้อจำกัดเพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ของนาฬิกา Central Tourbillon เรือนแรกของ Hublot นับเป็นความท้าทายอันยากลำบาก เพราะต้องอาศัยความสลับซับซ้อนสูงในการแสดงเวลาชั่วโมงและนาทีที่ต้องจัดวางไว้ ณ ตำแหน่งศูนย์กลางเดียวกัน ซึ่งการรับข้อเสนออันแสนท้าทายของ Takashi Murakami ครั้งนี้ Hublot ต้องตัดสินใจอย่างเหมาะสมเพื่อให้สามารถผสานองค์ประกอบด้านสุนทรียะความสวยงามของ Central Tourbillon ให้เข้ากับความจำเป็นทางด้านเทคนิคได้อย่างสมบูรณ์
ภายใต้งานออกแบบนี้ จักรตั้งเข็ม (Cannon pinion) และเฟืองชั่วโมง (Hour wheel) จะต้องถูกหมุนไปรอบๆ ตัวรองรับทูร์บิญองเพื่อให้เกิดโครงสร้างแบบแกนร่วม ซึ่งสำเร็จได้โดยการใช้การใช้ระบบเซ็นทรัล ฟลายอิ้ง ทูร์บิญอง (central flying tourbillon) ที่ดูราวกับแขวนลอยอยู่กลางอากาศ เข็มชี้ทั้งสองเข็มที่เดินอยู่ภายใต้ของกรงทูร์บิญองทำหน้าที่แสดงเวลาชั่วโมงและนาที โดยทั้ง 2 เข็มนี้จะชี้เข้าหาเครื่องหมายบอกเวลาเรืองแสงทั้ง 12 ตำแหน่งรอบหน้าปัดที่สะท้อนถึงสีสันเฉพาะของผลงานรุ่นปี ค.ศ. 2023 ของ Hublot for Only Watch (อูโบลท์ ฟอร์ โอนลี วอทช์) และในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาสัดส่วนที่แม่นยำของการออกแบบอันเป็นที่รักของ Murakami ไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมวิจัยและพัฒนาของ Hublot (Hublot R&D) ต้องดำเนินตาม
ต้องขอบคุณกระปุกลานทั้งสองตัวที่ทำให้กลไกจักรกลไขลานด้วยมือของนาฬิกาเรือนนี้สามารถสะสมพลังงานสำรองได้นานถึง 150 ชั่วโมง (เกือบหนึ่งสัปดาห์เต็ม) ซึ่งนับเป็นคุณสมบัติหายากสำหรับนาฬิกาที่มีโครงสร้างพิเศษเช่นนี้ การติดตั้งแบบซีรีส์แต่บนระนาบเดียวของกระปุกลานเหล่านี้สามารถมองเห็นได้ผ่านทางฝาหลังของตัวเรือนซึ่งทำจากกระจกแซฟไฟร์ ทั้งหมด
ศิลปะร่วมสมัยแห่งกวีดอกไม้
จากกรงทูร์บิญอง เครื่องหมายบอกเวลา ตลอดไปจนถึงกลีบดอกไม้ แฟนๆ ผู้หลงใหลในกวีแห่งสีสันของ Takashi Murakami จะได้ชื่นชมเสน่ห์นี้กับผลงาน MP-15 จากภายในจรดภายนอก กลีบดอกไม้ทั้ง 12 กลีบล้วนได้รับการประดับตกแต่งอย่างเต็มเปี่ยมไปด้วยอัญมณีล้ำค่าถึง 444 เม็ด มอบซึ่งความสดใสและสุนทรียะแห่งความสนุกสนาน เฉกเช่นดอกไม้จริง กลีบดอกเหล่านี้ได้ถูกจัดวางด้วยมุมเอียงเข้าสู่ศูนย์กลางของกลไก ขณะที่การใช้สีที่ชัดเจนและโดดเด่นนั้นยังเป็นตัวแทนของ Only Watch 2023 ซึ่งแนวคิดนี้ไม่เพียงมอบซึ่งมิติของการไล่เฉดสีรุ้งแบบทั่วไป แต่ยังเป็นการเล่นกับความสว่างของเฉดสีและความแวววาวเป็นประกายของอัญมณี เหมือนกับเด็กที่กำลังเล่นดินสอสี สร้างสรรค์เป็นชิ้นงานอันสดใสของศิลปะร่วมสมัย (Superflat Art) บนข้อมือ
ทว่า ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพื่อสะท้อนถึงจักรวาลของ Murakami อย่างแท้จริง ภายใต้กระจกแซฟไฟร์โค้งแบบโดมของนาฬิกา MP-15 Only Watch เรือนนี้ยังเผยให้เห็นการแกะสลักด้วยเลเซอร์อันประณีตที่ถ่ายทอดภาพของรอยยิ้มกว้างและเติมเต็มความสมบูรณ์ด้วยดวงตาที่ยิ้มแย้มทั้งสองดวง ผลงานอันเปี่ยมด้วยสีสันนี้ได้มอบซึ่งการเข้าถึงสู่จินตนาการอันมีชีวิตชีวาของ Takashi Murakami โดยพลังอันสว่างสดใสของนาฬิกานี้ก็เปรียบเหมือนดั่งบทกวีสู่ความมหัศจรรย์ของเด็กๆ อันน่าทึ่ง และความอยากรู้อยากเห็นอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของพวกเขา
ผลงานสำหรับนักสะสม ศิลปะการเขียนลายมือเฉพาะตัว (Calligraphy) ที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยมือของ Takashi Murakami
ศิลปะการเขียนลายมือเฉพาะตัวที่มาพร้อมกับ MP-15 นั้น คือ ผลงานสร้างสรรค์และของขวัญสุดพิเศษจาก Takashi Murakami สำหรับผู้ที่ได้ครอบครอง ซึ่งคงไม่มีใครจะสามารถอธิบายได้ดีไปกว่า Takashi Murakami เอง “ผมตัดสินใจที่จะนำการเขียนลายมือนี้กลับมาอีกครั้ง แม่ของผมเคยหลงใหลในศิลปะแขนงนี้เป็นอย่างมาก และผมเองก็เคยใช้เวลาเรียนศิลปะนี้มาแล้วหลายคลาส นับตั้งแต่ห้าขวบจนถึงอายุสิบเจ็ดปี ซึ่งผมพัฒนาไปสู่ระดับที่สูงมาก และเคยได้ไปถึงระดับที่ 7 ซึ่งเทียบเท่ากับการเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอน แต่เมื่อผมเข้าโรงเรียนศิลปะ การฝึกเขียนลายมือของผมก็ห่างหายไป แต่แม่ของผมก็ยังคงพูดถึงมันทุกครั้งที่ผมพูดคุยกับเธอ! ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะหวนคืนสู่ศิลปะแขนงนี้อีกครั้ง โดยการทำงานบนกระดาษกรองกาแฟที่ใช้แล้ว ซึ่งเป็นฐานที่ดีอย่างมากให้กับน้ำหมึก และนี่เองที่ทำให้ผมสามารถสร้างสรรค์ศิลปะการเขียนลายมือที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ในชื่อ “Time of Rainbow” (“ไทม์ ออฟ เรนโบว์”) ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาหนึ่งเดียวที่ผมได้ออกแบบร่วมกับ Hublot for Only Watch 2023 นี้
About HUBLOT
Hublot (อูโบลท์) เป็นบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาสวิส ที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1980 และมีฐานอยู่ในเมือง Nyon (นียง) นับจากผลงานเรือนเวลารุ่นแรกของแบรนด์ บริษัทได้ทลายซึ่งหลักการพื้นฐานของการประดิษฐ์นาฬิกา โดยเลือกผสมผสานทองเข้ากับสายยางภายในตัวเรือน พร้อมด้วยงานออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากช่องอากาศวงกลมของเรือ (หรือ hublot ในภาษาฝรั่งเศส) อันเป็นที่มาของ Art of Fusion (ศิลปะแห่งการผสมผสาน) ที่ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยการผสมผสานของประเพณี นวัตกรรม งานฝีมือ โลกสาขาต่างๆ และพรสวรรค์ด้านอื่นๆ ที่หล่อหลอมกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งสุนทรียะความสวยงามและความโดดเด่นทางเทคนิคของแบรนด์
เอกลักษณ์เฉพาะนี้ยังได้ถูกเสริมความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในปี ค.ศ. 2005 เมื่อนาฬิกา Big Bang (บิ๊ก แบง) ได้พิสูจน์ถึงองค์ความรู้อันมิอาจเทียบเคียงได้ในแง่ของความสลับซับซ้อน กลไกซึ่งผลิตภายในโรงงานของตนเอง และวัสดุอันล้ำสมัย ทั้ง คาร์บอน, ไทเทเนียม, เซรามิก และแซฟไฟร์ ที่ได้รับการพัฒนาบนนาฬิการุ่นนี้สู่ความเป็นที่สุดทางเทคนิค
การบรรลุถึงคุณภาพระดับสูงอันน่าทึ่งที่นำมาใช้ในการประดิษฐ์รังสรรค์นาฬิกานี้ได้หล่อหลอมภายใต้ปรัชญาอันแน่วแน่ของแบรนด์ นั่นคือ ‘Be First, Unique and Different’ (‘เป็นที่หนึ่ง มีเอกลักษณ์ และแตกต่าง’) และนำไปสู่การสร้างสรรค์คอลเลกชันอื่นๆ อย่างต่อเนื่องด้วยนวัตกรรมการออกแบบมากมาย ทั้งใน Classic Fusion (คลาสสิค ฟิวชั่น), Spirit of Big Bang (สปิริต ออฟ บิ๊ก แบง), Square Bang (สแควร์ แบง) และ Manufacture Pieces (แมนูแฟคเจอร์ พีซ) โดยผลงานเหล่านี้ได้ดึงระดับแห่งงานฝีมือขั้นสูงมาใช้ ทั้งในแง่ของวัสดุอันเป็นที่รักยิ่งของ Hublot (อาทิ Magic Gold (เมจิก โกลด์), เซรามิกสีสดใส และแซฟไฟร์) ตลอดจนกลไกที่ผลิตขึ้นภายในโรงงานของตนเอง (เช่น กลไกโครโนกราฟ Unico (ยูนิโค), Meca-10 (เมกา-10) และกลไกระดับแกรนด์คอมพลิเคชั่นอีกมากมาย อาทิ Tourbillon (ทูร์บิญอง), Cathedral Minute Repeater (คาธีดรัล มินิท รีพีทเตอร์) รวมถึงกลไกที่ผลิตขึ้นเฉพาะสำหรับ Manufacture Pieces)
โลกของ Hublot ยังขยายสู่หลากหลายความร่วมมืออันเปี่ยมด้วยพลัง ซึ่งรวมไปถึงโลกแห่งฟุตบอล ด้วย ‘Hublot Loves Football’ (‘อูโบลท์รักฟุตบอล’) ที่กลายเป็นสโลแกน ณ การแข่งขันกีฬาอันยิ่งใหญ่สูงสุดระดับโลก (เช่น FIFA World CupTM (ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ), Premier League (พรีเมียร์ ลีก), UEFA Champions LeagueTM (ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก), UEFA EUROTM (ยูฟ่า ยูโร)) รวมถึงผ่านเหล่าแอมบาสซาเดอร์ของแบรนด์ ความรักต่อฟุตบอลนี้ยังขยายต่อเนื่องไปยังสาขาแห่งศิลปะ, งานออกแบบ, ดนตรี, กีฬา, สไตล์แห่งอาหารไฟน์ไดนิ่งและการแล่นเรือ ท้ายสุด กับความสัมพันธ์ของ Hublot ภายในโครงการความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ ทั้งร่วมกับ SORAI (โซไร) และ Polar Pod (โพลาร์ พอด) ที่ล้วนสะท้อนถึงความเอาใจใส่ในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมของวันนี้ โดยผ่านเครือข่ายบูติกเกือบ 130 แห่งทั่วโลกที่ได้ร่วมแลกเปลี่ยนซึ่งความมุ่งมั่นศรัทธาอันแรงกล้าและคุณค่าของ Hublot พร้อมด้วยแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ Hublot.com
21 พ.ย. 2567
21 พ.ย. 2567
22 พ.ย. 2567
22 พ.ย. 2567