Last updated: 4 ธ.ค. 2566 | 1311 จำนวนผู้เข้าชม |
40 ปีของ G-SHOCK ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงอดีตเท่านั้น แต่ยังพิสูจน์ถึงจิตวิญญาณอันยาวนานในด้านความแกร่ง นวัตกรรม และความเข้มแข็งของแบรนด์ ในตลอดทั้งปีนี้ได้มีการเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี ครอบคลุมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยป๊อปอัพทัวร์ที่พาทุกคนไปค้นพบรากเหง้าแห่งความแกร่งเริ่มจากที่สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และจบลงด้วยการงานอีเว้นท์ยิ่งใหญ่แห่งปี “SHOCK THE WORLD” ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
กำเนิดความแกร่ง
นาฬิกา G-SHOCK เป็นที่ชื่นชอบของคนทุกรุ่นด้วยความแกร่ง ทนและดีไซน์ลงตัว กำเนิดครั้งแรกจากแนวคิดของ Kikuo Ibe หัวหน้านักออกแบบของ Casio ในยุคนั้น ด้วยเหตุบังเอิญเมื่อเขาทำนาฬิกาที่พ่อให้ตกพื้นและแตกเป็นชิ้นๆ เขาจึงให้คำมั่นที่จะสร้างนาฬิกาซึ่งทนทานต่อแรงกระแทกขึ้นมา และเกิดเป็นผลงานที่สร้างคลื่นลูกใหญ่ให้กับวงการ
ในปี 1981 สมาชิก 3 คนของ Project Team Tough มุ่งมั่นที่จะทำให้วิสัยทัศน์ของอิเบะกลายเป็นจริง ทีมงานพยายามพัฒนานาฬิกาตามแนวคิด 'Triple 10' ที่มีความทนทานต่อการตกจากที่สูง 10 เมตร กันน้ำได้ 10 บาร์ (100 เมตร) และมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่อย่างน้อย 10 ปี โดยอิเบะได้คิดค้นรูปแบบของ "โมดูลลอยตัว" เมื่อเขาเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกระดอนลูกบอลในสวนสาธารณะ โครงสร้างนวัตกรรมนี้ใช้วิธีแขวนโมดูลไว้ด้วยจุดสัมผัสเพียงไม่กี่จุด และให้การป้องกันแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องใช้วัสดุดูดซับแรงกระแทกมากเกินไป หลังจากทดสอบต้นแบบมากกว่า 200 ชิ้น ในที่สุด นาฬิกา G-Shock DW-5000C 2 รุ่นแรกคือ DW-5000C-1A สีดำและสีแดง และสีดำ ก็เปิดตัวในเดือนเมษายน 1983
40 ปีในวันนี้กับงานฉลองสุดยิ่งใหญ่
G-SHOCK กลายเป็นนาฬิกาที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักกิจกรรมกลางแจ้ง ผ่านการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และปีนี้ก็เป็นปีแห่งการครบรอบ 40 ปีของ G-SHOCK (1983-2023) ซึ่ง Casio ได้จัดเตรียมงานฉลองหลักไมล์สำคัญอย่างยิ่งใหญ่ตลอดทั้งปี
นับจากปี 2008 เป็นต้นมา Casio G-SHOCK มักจะมีการเฉลิมฉลองวาระพิเศษในการครบรอบในทุก 5 ปีของพวกเขา ด้วยนาฬิการุ่นพิเศษ และอีกสิ่งที่จะต้องมีตามมาด้วยก็คือ การจัดอีเวนท์ที่เรียกว่า G-SHOCK! Shock the world ซึ่งเป็นงานเฉลิมฉลองที่ G-SHOCK เพื่อรำลึกถึงประวัติศาสตร์อันยาวนาน นวัตกรรม และมรดกอันยาวนานของแบรนด์
สำหรับปีนี้ ในวาระครบรอบ 40 ปี G-SHOCK ได้จัดงานนี้ขึ้นทั่วโลกตลอดทั้งปี สำหรับเอเชีย งานมีขึ้นที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในวันที่ 2 เดือนธันวาคม และทาง Casio Thailabd และ CMG ได้เชิญสื่อมวลชนชาวไทยได้มีโอกาสเข้าเป็นส่วนหนึ่งในงานนี้ด้วย
หลังจากเดินทางจากไทยมาถึงบาหลี เริ่มต้นทริปกับงานเลี้ยงรับรองในช่วงเย็น ซึ่งคุณ Kikuo Ibe บิดาของ G-SHOCK ได้บินจากญี่ปุ่นมาร่วมงานและทักทายบรรดาผู้ร่วมงาน ก่อนที่ร่วมเล่นเกมเป่ายิ้งฉุบ เพื่อหา 3 ผู้โชคดีในงานรับหนังสือ Brand Book ที่ทาง G-SHOCK จัดทำร่วมกับ Rizzolini Publication พร้อมกับลายเซ็นของคุณ Ibe ถือเป็นการวอร์มอัพที่สุดแสนประทับใจก่อนที่จะพบกับอีเวนต์จริงในวันที่ 2 ธันวาคมช่วงเย็น
SHOCK THE WORLD in Bali
ก่อนที่งาน G-SHOCK! Shock The World จะเริ่มขึ้นในช่วงเย็นของวันที่ 2 ธันวาคมที่ Potato Head Resort เป็นช่วงเวลาของ Press Conference ที่บรรดาผู้บริหารของ Casio ได้ออกมาพบปะกับบรรดาสื่อมวลชนที่เดินทางเข้ามาร่วมงานจากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และต้องบอกว่าเป็นงานแถลงข่าวที่ฮิปที่สุดเท่าที่เคยเจอมาเลยก็ว่า
ทิศทางและความเปลี่ยนแปลงของ G-SHOCK เห็นได้ชัดเจนมาตั้งแต่ราวๆ ทศวรรษที่ 2010 เมื่อนาฬิกาพี่น้องในตระกูล GA อย่าง GA110 และ GA100 เปิดตัวออกมา และส่วนตัวแล้วถือว่าเหมือนกับเป็นการเปลี่ยนผ่านที่ทำให้ G-SHOCK แปลงร่างจากการเป็น Tool Watch มาสู่ Fashion Watch และเติบโตไปพร้อมกับวัฒนธรรม Street มาโดยตลอด
ในงานแถลงข่าวเราได้เห็น Product Champion ตัวใหม่ของพวกเขานั่นคือ GA2100 ที่เปิดตัวในปี 2019 ซึ่งจะเป็นตัวไดร์ฟยอดขายตลอดช่วงทศวรรษหน้า และกลายมาเป็นเหมือนกับโมเดลหลักที่มีส่วนร่วมในทุกเวอร์ชันใหม่ของนาฬิกาที่จะเปิดตัว ทั้งรุ่นธรรมดาและรุ่นพิเศษ
เอ็ดวิน ยัป ฮอสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป ในเครือเซ็นทรัลรีเทล (กลาง) และ คริสกับพลอย หอวัง
Nakajima Yoshinori - Managing Director ของ Casio Marketing (Thailand) Co., Ltd. กับเหล่าคนดัง
คอลเล็กชั่นใหม่ที่จะถูกเปิดตัวออกมาตลอดช่วงเดือนธันวาคมจนถึงช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 ก็จะมีทั้ง High end Line Up ที่เด่นๆ ก็เช่น GW-B5600CD ซึ่งเป็นนาฬิกาในคอลเล็กชั่น Galapagos ซึ่งจะมีด้วยกัน 3 รุ่นย่อยและนำรายได้ส่วนหนึ่งของการขายมอบให้องค์กร Charles Darwin Foundation
GCW-B5000UN กับความน่าตื่นตาตื่นใจด้วยการนำคาร์บอนมาใช้ในการผลิตตัวเรือน สาย หรือแม้กระทั่งบานพับสาย ซึ่งเมืองไทยกำลังจะเข้ามาจำหน่ายในเดือนธันวาคมนี้กับราคา 82,000 บาท โดยถือเป็นหนึ่งในคอลเล็กชั่นฉลอง 40 ปีของ G-SHOCK-MTG-B3000CXD นาฬิการุ่นพิเศษฉลองปีมังกรทอง ซึ่งจะมีทั้งรุ่นสายยาง และสายโลหะที่เป็นสีทองทั้งเรือน
และที่ขาดไม่ได้คือ Session ทึ่คุณ Kikuo Ibe ออกมาเล่าถึงเรื่องราวต่างๆ ของเขาพร้อมวีดีโอที่พาย้อนกลับไปเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ที่เขาในวัยหนุ่มที่อยู่ในช่วงของความท้อแท้ แต่ก็ไม่ยอมแพ้…และหลังจากนั้นก็คือ ประวัติศาสตร์ ที่มาพร้อมกับวลีที่เป็นสโลแกนติดตัวของคุณ Ibe คือ Never Give Up
ในช่วงเดียวกันนี้ เขาได้นำเสนอนาฬิกาที่เป็น Dream Project # 2 และเป็นเรื่องราวที่ชวนปวดหัวเหมือนกับที่เขาเคยเจอเมื่อ 40 ปีที่แล้ว เพราะจะต้องจะผลิต G-SHOCK ที่เป็นตัวเรือนแบบทองคำ 18K นั่นคือรุ่น G-D001 และเป็น One of G-SHOCK ที่จะนำเข้าสู่กระบวนการประมูลเพื่อระดมทุนส่งมอบให้องค์กรการกุศล โดยกระบวนการผลิตและการออกแบบจะมี AI เข้ามาช่วยทำงาน และรุ่นนี้จะมากับกล่องที่มีไฟ LED ซึ่งจะช่วยชาร์จนาฬิกาที่ใช้โมดุลรหัส 5740 แบบ Tough Solar
รวมถึงการเปิดตัวผลผลิตที่เป็น NFT ที่จะมีการจำหน่ายในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ โดยเป็นคอลเล็กชั่น Virtual G-Shock NFT คือ VGA-001 และ VGA-002 โดยจะอยู่ใน Ethereum blockchain และเป็น Limited Edition ที่ขายจนถึงวันที่ 17 ธันวาคม
แน่นอนว่า งานนี้ถือเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ถูกจัดขึ้นโดยรวบรวมเอาบรรดาสื่อมวลชนและคนดังจากประเทศในแถบอาเซียนเข้ามาร่วมแจมกัน ซึ่งทั้งหมดมีราวๆ 700 กว่าชีวิต และโดยรอบถือว่าให้ความสบายและชิลล์ ในการเดินดูนาฬิการุ่นต่างๆ และพัฒนาการของ G-SHOCK ในการสร้างสรรค์เรือนเวลาตลอดช่วง 40 ปีที่ผ่านมาท่ามกลางกลิ่นอายทะเลรอบเกาะบาหลี ก่อนที่จะเริ่มงาน G-SHOCK! Shock The World ในช่วง 18.45 น.ด้วย 2 ศิลปิน คือ Warren และ Nikki และหลังจากนั้นก็ถึงเวลาของช่วง DJ ที่รันต่อเนื่องไปจนถึงงานเลิก
ถือเป็นอีกอีเวนต์ที่ยอดเยี่ยม ครบรสทั้งสำหรับคนรักนาฬิกา และสายตื๊ดๆ ที่ชอบดนตรี…
แล้วพบกันใหม่อีก 5 ปีข้างหน้า
4 ต.ค. 2567
24 ต.ค. 2567
3 ต.ค. 2567
13 พ.ย. 2567