FRANCK MULLER Cintrée Curvex Ryoko Kaneta Dragon Limited Edition

เพื่อเฉลิมฉลองปีแห่งมังกร Franck Muller (แฟรงค์ มุลเลอร์) ภูมิใจนำเสนอ Cintrée Curvex Ryoko Kaneta Dragon Limited Edition (ซินทรี เคอร์เว็กซ์ เรียวโกะ คาเนตะ ดรากอน ลิมิเต็ด เอดิชัน ) โดยได้ร่วมมือกับศิลปินชื่อดังชาวญี่ปุ่น เรียวโกะ คาเนตะ (Ryoko Kaneta) ครั้งนี้แทนที่จะนำเสนอมังกร สัตว์แห่งตำนานในรูปแบบที่คุ้นเคย แต่แฟรงค์ มุลเลอร์ได้เลือกที่จะตีความสัตว์ประจำจักรราศีในปีนี้ขึ้นมาใหม่ได้อย่างน่าอัศจรรย์

เรือนเวลาสุดพิเศษนี้ วางจำหน่ายเฉพาะในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งมีจำนวนจำกัดเพียง 500 เรือน โดยได้สร้างสรรค์ขึ้นตามรอยความสำเร็จของผลงาน #FR2NCK MULLER Vanguard ซึ่งเผยโฉมในปีกระต่ายที่ผ่านมา ด้วยหน้าปัดอันโดดเด่นและดึงดูดใจจากการผสมผสานระหว่างประเพณีการประดิษฐ์นาฬิกาของสวิสและสตรีทแฟชั่นของญี่ปุ่น สำหรับในรุ่นใหม่ของปีนี้ได้สะท้อนถึงจิตวิญญาณเดียวกับรุ่นก่อนหน้า ที่เป็นมากไปกว่า “นาฬิกาจักรราศี” อีกหนึ่งรุ่น แต่ยังทำหน้าที่เป็นดั่งกระจกสะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งกาลเวลาที่เปิดกว้างมากขึ้นในการประดิษฐ์นาฬิกา ดังนั้น จึงมั่นใจได้ถึงความเชื่อมโยงสัมพันธ์ในระยะยาว

Franck Muller ได้ร่วมมือกับศิลปินชาวญี่ปุ่นชื่อดัง เรียวโกะ คาเนตะ ในการออกแบบเรือนเวลาใหม่นี้ ที่นำเสนอแนวคิดอันแปลกใหม่มาสู่มังกรแห่งตำนาน สัตว์สัญลักษณ์นี้ได้ถูกถ่ายทอดตามประเพณีในฐานะตัวแทนของความสง่าผ่าเผยและทรงอำนาจ ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง รุ่งโรจน์ และสุขภาพที่ดี จึงเป็นดั่งสัตว์สัญลักษณ์เชิงศิลป์ซึ่งตีความขึ้นใหม่ผ่านซีรีส์ของเด็กสาวที่ดูราวกับตุ๊กตาอันเป็นผลงานเอกลักษณ์ของคาเนตะ โดยในแต่ละจุดเชื่อมโยงระหว่างเครื่องหมายบอกเวลาของหลักชั่วโมงบนหน้าปัดนั้นยังมีความแตกต่างกันอย่างหลากหลาย และเป็นการเล่นซ้อนกันระหว่างองค์ประกอบหน้าปัดเหล่านี้ที่มอบให้นาฬิกามีลูกเล่นอันสนุกสนานอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งยังตัดกับบุคลิกอันสง่างามสไตล์นีโอคลาสสิกของตัวเรือน Cintrée Curvex (ซินทรี เคอร์เว็กซ์) ซึ่งคาเนตะได้เลือกใช้ในการตีความและถ่ายทอดภาพของเหล่า “มังกร” ที่สอดคล้องกับสุนทรียะความสวยงามของซินทรี เคอร์เว็กซ์ โดยตามมุมมองของศิลปินนั้น Cintrée Curvex มีคุณสมบัติอันโดดเด่นสูงสุดอยู่ที่องค์ประกอบของความโค้งที่ขยายสู่ทุก ๆ มิติของตัวเรือน และนี่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับเธอในการสร้างสรรค์รูปมังกรที่สัมพันธ์กับเครื่องหมายอินเด็กซ์ต่าง ๆ บนหน้าปัดเรือนเวลา

การตีความอันแปลกใหม่ของมังกรนี้ยังสะท้อนถึงปรัชญาการประดิษฐ์นาฬิกาของ Franck Muller ในการผลักซึ่งพรมแดนแห่งการสร้างสรรค์ผ่านการรังสรรค์สิ่งที่คุ้นเคยสู่วิถีที่แปลกใหม่อย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน เหมือนดังเช่นตัวอย่างมากมาย นับจากผลงานเรือนเวลา Master Banker (มาสเตอร์ แบงเกอร์) ที่ได้สร้างนิยามใหม่ให้กับความสลับซับซ้อนของการแสดงเวลาสองไทม์โซน จนถึงการเปิดตัวครั้งแรกของทูร์บิญองสามแกน (tri-axial tourbillon) ในผลงานเรือนเวลาสลับซับซ้อน อย่าง Revolution 3 (เรโวลูชัน 3)

ขณะที่ในกระบวนการเคลือบตกแต่งนั้นยังเป็นดั่งกระจกสะท้อนถึงสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของคาเนตะเช่นกัน ในฐานะศิลปินชั้นนำท่ามกลางเหล่าศิลปินเจเนอเรชันใหม่ คาเนตะได้พัฒนาสุนทรียะความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่นำเสนอถึงมุมมองอันหลากหลายของธรรมชาติผ่านสิ่งมีชีวิตเชิงมานุษยรูปนิยม โดยตัวละครเหล่านี้ได้แสดงออกผ่านสไตล์ “จิบิ” (“chibi”) ที่สะท้อนถึงการครอบงำของวัฒนธรรมป๊อบญี่ปุ่นเข้ากับสิ่งที่เรียกว่า “คาวาอี” (“kawaii”) หรือความน่ารัก ขณะเดียวกันก็ยังเป็นการสำรวจถึงปรัชญาญี่ปุ่นโบราณ อาทิ ชินโต (Shinto) กับความเชื่อที่ว่าเทพเจ้ามีอยู่ในทุก ๆ สิ่ง การเล่นกับสิ่งที่ตรงกันข้ามเดียวกันนี้ยังสามารถพบได้ในผลงานอื่น ๆ ของเธอเอง ซึ่งชวนให้หวนนึกถึงภาพวาดมังงะ (manga) กับความโดดเด่นของการให้เฉดอันละเอียดอ่อนบนภาพวาดที่มีทั้งความตื้นลึกและมิติ

สำหรับความร่วมมือกับ Franck Muller ในครั้งนี้ คาเนตะได้ดึงความเชื่อโบราณของเอเชียตะวันออกที่ให้ความเคารพว่ามังกรนั้นเป็นสัตว์แห่งเทพเจ้า และมอบพรให้กับโลกด้วยฝนสำหรับการเก็บเกี่ยวผลิตผลอันอุดมสมบูรณ์ และในครั้งนี้ เธอยังได้เลือกใช้การตีความอันเรียบง่ายยิ่งขึ้นและสง่างามมากขึ้นที่นับเป็นความหลากหลายของสไตล์ของเธอ โดยตัวละครเหล่านี้บนหน้าปัดเรือนเวลาส่วนใหญ่อยู่ในเฉดสีดำและขาว ตกแต่งด้วยเฉดสีฟ้าทะเลบนหนวดมังกร เพื่อมอบภาพที่เชื่อมโยงถึงบทบาทของมังกรในฐานะผู้นำพามาซึ่งสายฝน การเปรียบเปรยเหล่านี้ยังขยายไปสู่เครื่องหมายอินเด็กซ์ด้วยสีสันที่คล้ายกัน ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งจุดเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของมังกรที่มีต่อธาตุน้ำ ภาพสัญลักษณ์เหล่านี้ได้ขยายสู่หน้าปัดสีเทอร์ควอยซ์ซึ่งนำเสนอเฉดสีที่เข้ากันโดยการตกแต่งแล็กเกอร์ ขณะเดียวกันก็เล่นกับแสงผ่านลวดลายพื้นผิวแบบกิโยเช่ พร้อมทั้งสายนาฬิกาสีเทอร์ควอยซ์ที่โอบรับกับทุกองค์ประกอบเหล่านี้ได้อย่างงดงามสมบูรณ์แบบ

ผสมผสานเข้ากับความสง่าผ่าเผยของเรือนเวลามังกร ด้วยคุณสมบัติอื่น ๆ ที่คุ้นเคยอย่างดีของนาฬิกาซินทรี เคอร์เว็กซ์ แห่ง Franck Muller นับตั้งแต่ตัวเรือน Cintrée Curvex 5850 ซึ่งมีความโดดเด่นจากความโค้งอันซับซ้อนที่ทำให้เรือนเวลานี้เป็นมากไปกว่านาฬิการูปทรงตอนโนเรียบง่ายทั่วไป พร้อมทั้งเข็มชี้ทรงจอบและตัวเลขอารบิกที่มอบภาพอันสมดุลกลมกลืนให้กับนาฬิกาทั้งเรือน ขณะเดียวกันยังขับเคลื่อนด้วยขุมพลังของกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ MVT FM 2536-SC ที่มอบซึ่งระดับแห่งความไว้วางใจเชื่อถือได้ และทำให้เรือนเวลานี้คือสหายอันสมบูรณ์แบบสำหรับการสวมใส่คู่กายในชีวิตประจำวัน

Cintrée Curvex Ryoko Kaneta Dragon Limited Edition ผลิตขึ้นแบบเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และจะมีจำหน่ายในจำนวนจำกัดพิเศษเพียง 500 เรือน ราคาโดยประมาณ 18,000 ดอลลาร์สิงคโปร์

สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมของ Franck Muller Asia Pacific ได้ทางออนไลน์ที่ www.franckmuller-asiapacific.com และโซเชียลมีเดีย @franckmuller_asiapacific (Instagram) และ @FranckMullerAsiaPacific (Facebook)

เกี่ยวกับ House of Franck Muller
House of Franck Muller (เฮาส์ ออฟ แฟรงค์ มุลเลอร์) ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1992 โดยช่างนาฬิกาชั้นครู Franck Muller ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตนาฬิกาและนักธุรกิจ Vartan Sirmakes (วาร์ทัน เซอร์เมกส์) เป็นหนึ่งในบริษัทนาฬิกาอิสระที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในการประดิษฐ์เรือนเวลาร่วมสมัย โดยแฟรงค์ มุลเลอร์ เลื่องชื่อด้านความประณีตในการสร้างสรรค์กลไกจักรกลสุดพิเศษที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน และส่วนใหญ่ยังนับเป็นนวัตกรรมกลไกเอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ที่พัฒนาและผลิตขึ้นภายในโรงงาน ณ หมู่บ้าน Genthod (เกนท์ออด) ของเมืองเจนีวา หรือที่รู้จักกันในชื่อ Watchland (วอทช์แลนด์) ด้วยความสำเร็จจากการเปิดตัวผลงานที่นับเป็นครั้งแรกของโลกและสิทธิบัตรมากกว่า 50 ฉบับ แฟรงค์ มุลเลอร์ได้สร้างสีสันด้วยประดิษฐกรรมเวลาชิ้นเอกของโลก ที่ได้รับความชื่นชมจากผู้คนที่สนใจและหลงใหลในเรือนเวลา รวมถึงคนดังจากทั่วโลก เช่นเดียวกับผลงานการออกแบบอันเป็นตัวแทนสะท้อนถึงความก้าวหน้า ล้ำสมัยทางเทคนิคซึ่งมอบไว้ให้กับประวัติศาสตร์การประดิษฐ์เรือนเวลาชั้นสูง

เกี่ยวกับ เรียวโกะ คาเนตะ
Ryoko Kaneta (เรียวโกะ คาเนตะ) เกิดในจังหวัดอิบารากิของญี่ปุ่น ในปี ค.ศ. 1991 และจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปะและออกแบบโยโกฮามา (Yokohama University of Art and Design) ในปี ค.ศ. 2014 คาเนตะได้ใช้แรงบันดาลใจจากปรัชญาญี่ปุ่นโบราณ (Ancient Japanese Philosophy) และผลงานศิลปะของเธอนั้นมักแสดงออกถึงการมีอยู่ของเทพเจ้า ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ และองค์ความรู้ที่อยู่เหนือไปกว่าจิตใจของมนุษย์ ภาพวาดของเธอมีเอกลักษณ์ของวิวทิวทัศน์อันชวนฝันและเต็มไปด้วยวิถีชีวิตของผู้คนในรูปแบบขนาดใหญ่ ซึ่งล้วนเป็นการเฉลิมฉลองการมีอยู่ในช่วงเวลาสั้น ๆ ของธรรมชาติ ขณะที่ยังเน้นย้ำถึงความเปราะบางของเวลา ปรากฏการณ์ของสภาพอากาศ และการเปลี่ยนถ่ายของฤดูกาลอันน่าอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เทคนิคที่เธอใช้นั้นเป็นเทคนิคสีอครีลิกอันละเอียดอ่อน ขณะเดียวกัน คาเนตะยังได้รับอิทธิพลในการสร้างสรรค์งานมาจากโรงเรียนตระกูลช่าง Rinpa (รินปะ) และ Kano (คาโน) ที่เป็นการเข้าถึงการวาดภาพผ่านสายตาของวรรณกรรมญี่ปุ่นโบราณซึ่งถ่ายทอดไว้ด้วยฉากต่าง ๆ ของธรรมชาติ