Last updated: 18 ธ.ค. 2567 | 227 จำนวนผู้เข้าชม |
ด้วยความเคารพต่อปรัชญา ‘Art of Fusion’ ของ Hublot ศิลปินและนักออกแบบผู้เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์อย่าง Samuel Ross ได้ยกระดับความคิดสร้างสรรค์ไปอีกขั้น ผ่านผลงานที่รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน ผสมผสานวัสดุและสีสันอันโดดเด่นเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวในผลงานรุ่นใหม่ Hublot Big Bang Tourbillon Carbon SR_A by Samuel Ross ที่เปิดตัวในงาน Miami Art Week และเป็นการสะท้อนแนวคิดอันล้ำสมัยที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
ตลอดระยะเวลา 44 ปี ที่ทาง Hublot (อูโบลท์) ได้มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันขีดจำกัดทั้งทางด้านเทคนิคและความสวยงามของนาฬิกา สร้างสมดุลระหว่างความเชี่ยวชาญในการผลิตนาฬิกาและวิสัยทัศน์แห่งอนาคต ผลงานของ Hublot โดดเด่นในแบบร่วมสมัย ความสำเร็จเหล่านี้เกิดขึ้นจากการวิจัยทางด้านวัสดุศาสตร์และการร่วมมือกับศิลปินและนักออกแบบชั้นนำระดับโลก ซึ่ง Samuel Ross (ซามูเอล รอสส์) ได้ผสานสององค์ประกอบนี้เข้าด้วยกันอย่างน่าทึ่ง
ศิลปินและนักออกแบบ Samuel Ross ได้สร้างสรรค์ผลงานที่มีเอกลักษณ์ผ่านผลงานศิลปะและการออกแบบทางด้านสถาปัตยกรรมที่มีรูปแบบเฉพาะตัว นับตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ A-Cold-Wall* ในปี 2015 และ SR_A ในปี 2019 Ross ได้บุกเบิกแนวทางการออกแบบที่มีอัตลักษณ์ พร้อมนำเสนอความร่วมมือในเชิงสร้างสรรค์ต่างๆ อีกทั้งยังสร้างฐานผู้ชื่นชอบผลงานที่มีรสนิยมคล้ายคลึงกัน ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นจากการนำเสนอมุมมองใหม่ของคนรุ่นมิลเลนเนียลในสินค้าลักชัวรี่ ผ่านศิลปะและแฟชั่นของสตูดิโอ SR_A ในยุโรป ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปีเดียวกันกับที่เขาได้รับรางวัล Hublot Design Prize
ในปี 2020 เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 40 ปีของแบรนด์ Samuel Ross ได้เผยโฉมประติมากรรม REFORM ที่กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับการออกแบบ Big Bang Tourbillon Samuel Ross (บิ๊ก แบง ทูร์บิญอง ซามูเอล รอสส์) นาฬิการุ่นแรกที่เกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง Samuel Ross และ Hublot ซึ่งผลงานรุ่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความรักในสีสันและรูปทรงเรขาคณิตของ Ross โดยเฉพาะอย่างยิ่งความชื่นชอบร่วมกันใน ‘การผสมผสานวัสดุที่แตกต่าง’ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญของ Hublot
จากนาฬิการุ่นแรกได้ปูทางสู่นาฬิกา Big Bang Tourbillon Carbon SR_A by Samuel Ross (บิ๊ก แบง ทูร์บิญอง คาร์บอน เอสอาร์_เอ บาย ซามูเอล รอสส์) ที่เปิดตัวในงาน Miami Art Week โดยหลังจากที่ได้นำเสนอนาฬิกาในเฉดสีส้มและสีเขียวไปในปีก่อนๆ ศิลปินผู้นี้ได้ทำการเลือกใช้วัสดุใหม่และแนะนำให้เห็นถึงความหลากหลายของเฉดสีซึ่งในครั้งนี้เน้นไปที่สีน้ำเงิน
ผลงานรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ยังคงเอกลักษณ์ของตัวเรือน Big Bang (บิ๊ก แบง) ที่โดดเด่นด้วยขนาด 44 มม. และหนา 13.75 มม. ลวดลายรังผึ้งในเฉดสีเทาแบบใหม่ที่ครอบคลุมไปถึงกลไกภายใน สะดุดตาด้วยขอบตัวเรือนแบบทูโทน -- พื้นผิวด้านบนขัดด้านแบบซาติน และพื้นผิวขัดเงาไมโครบลาสต์ทางด้านข้าง -- เสริมรายละเอียดด้วยเข็มนาฬิกาและมาร์กเกอร์บอกเวลาที่มาในโทนสีน้ำเงินสองเฉด คือสีน้ำเงินเข้มและสีน้ำเงินอ่อน โดยเฉดสีน้ำเงินอ่อนยังได้ถูกนำมาใช้ตกแต่งส่วนที่ครอบเม็ดมะยม ขอบตัวเรือนด้านข้างบริเวณ 3 นาฬิกาและ 9 นาฬิกา รวมถึงหูตัวเรือนเชื่อมสายทำจากคาร์บอนสีเทาด้าน ส่วนหน้าปัดทำจากกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ และเช่นเดียวกับในรุ่นก่อนหน้านี้ Big Bang Tourbillon Carbon SR_A by Samuel Ross ขับเคลื่อนด้วยกลไก Manufacture calibre HUB6035 ที่ประกอบด้วยชิ้นส่วน 264 ชิ้น รวมถึงไมโครโรเตอร์สำหรับการขึ้นลานอัตโนมัติ กลไกทูร์บิญองสเกเลตันสามารถมองเห็นได้ชัดเจนบริเวณตำแหน่ง 6 นาฬิกา พร้อมประสิทธิภาพการสำรองพลังงานสูงสุด 72 ชั่วโมง ประกอบเข้ากับสายยางที่ยืดหยุ่นตกแต่งด้วยสีน้ำเงินเข้มซึ่งสอดคล้องกับเฉดสีที่ใช้บริเวณเข็มนาทีและมาร์กเกอร์บอกเวลา อีกทั้งยังเจาะช่องคล้ายรังผึ้งเหมือนกันกับตัวเรือน สามารถปรับขนาดได้ด้วยตัวล็อคที่ได้รับการออกแบบขึ้นมาใหม่
นาฬิกา Big Bang Tourbillon Carbon SR_A by Samuel Ross ผลิตจำนวนจำกัด 50 เรือน โดยแต่ละเรือนมาพร้อมกับกล่องที่ออกแบบพิเศษสำหรับนักสะสมโดยเฉพาะ
การพิจารณาเลือกใช้เทคโนโลยีและวัสดุอันล้ำสมัยเพื่อเป็นเครื่องมือในการนำเสนอมุมมองใหม่ในการผลิตนาฬิกาที่มุ่งเน้นไปที่ผู้คน โดยสร้างความน่าประหลาดใจให้กับพวกเขาผ่านรายละเอียดเฉพาะตัว หรือ มอบรอยยิ้มด้วยสีสันที่แฝงความสนุกสนาน เราพยายามคิดค้นการออกแบบที่สามารถสื่อสารด้วยภาษาสากลที่สะท้อนความหรูหราและเข้าใจได้ง่าย ผมตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับ Hublot และทีมงานของพวกเขา”
DR SAMUEL ROSS
ศิลปิน ดีไซน์เนอร์ และ Brand Ambassador ของ Hublot
Ross’s story to date
· Ross ได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงการติดอันดับ Forbes 30 Under 30, British Fashion Awards สามครั้ง, GQ Fashion Award, Hublot Design Prize, ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สำหรับการมีส่วนร่วมในวงการศิลปะ และรางวัล M.B.E สำหรับการมีส่วนร่วมในวงการแฟชั่นในปี 2024
· ผลงานศิลปะและเสื้อผ้าของ Ross ถูกจัดเก็บอยู่ในคอลเลกชันของ The Met, New York และ Victoria & Albert Museum, London
· เขาเคยมีผลงานจัดแสดงที่ White Cube และ Friedman Benda
· ความร่วมมืออันยาวนานระหว่าง Ross กับ Virgil Abloh ผู้ล่วงลับได้รับการบันทึกไว้ โดยเขาเคยเป็นผู้ช่วยออกแบบคนแรกของ Abloh
· ผ่านทางสตูดิโอ SR_A, Ross ได้บุกเบิกแนวทางการออกแบบอันมีเอกลักษณ์ ซึ่งพัฒนาไปสู่ความร่วมมือที่โดดเด่นและทรงพลังต่างๆ และสร้างฐานผู้ติดตามระดับโลก
· Ross ได้ร่วมมือกับสถาบันต่างๆ รวมถึง Kings Trust และ The Royal College of Art ภายใต้โครงการ SR_A Artists
· Ross ได้ก่อตั้ง A-COLD-WALL* ในปี 2015 ซึ่งบริษัทดังกล่าวถูกซื้อกิจการเมื่อปี 2024
HUBLOT
Hublot (อูโบลท์) แบรนด์ผู้ผลิตนาฬิกาสวิส ที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1980 และมีฐานการผลิตอยู่ในเมือง Nyon (นียง) นับจากผลงานนาฬิการุ่นแรกของแบรนด์ บริษัทได้ลบล้างหลักการพื้นฐานของการประดิษฐ์นาฬิกา โดยเลือกผสมผสานตัวเรือนทองเข้ากับสายยาง พร้อมด้วยงานออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากช่องอากาศวงกลมของเรือ (หรือ hublot ในภาษาฝรั่งเศส) อันเป็นที่มาของ Art of Fusion (ศิลปะแห่งการผสมผสาน) ที่ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยการผสมผสานของประเพณี นวัตกรรม งานฝีมือในเชิงศิลป์ และพรสวรรค์ด้านต่างๆ ที่หล่อหลอมกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งสุนทรียะความสวยงามและความโดดเด่นทางเทคนิคของแบรนด์
เอกลักษณ์เฉพาะนี้ยังได้ถูกเสริมความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในปี ค.ศ. 2005 เมื่อนาฬิกา Big Bang (บิ๊ก แบง) ได้พิสูจน์ถึงองค์ความรู้อันมิอาจเทียบเคียงได้ในแง่ของความสลับซับซ้อน กลไกซึ่งผลิตภายในโรงงานของตนเอง และวัสดุอันล้ำสมัย ทั้ง คาร์บอน, ไทเทเนียม, เซรามิก และแซฟไฟร์ ที่ได้รับการพัฒนาบนนาฬิการุ่นนี้สู่ความเป็นที่สุดทางเทคนิค
การบรรลุถึงคุณภาพระดับสูงอันน่าทึ่งที่นำมาใช้ในการประดิษฐ์รังสรรค์นาฬิกานี้ได้หล่อหลอมภายใต้ปรัชญาอันแน่วแน่ของแบรนด์ นั่นคือ ‘Be First, Unique and Different’ (‘เป็นที่หนึ่ง มีเอกลักษณ์ และแตกต่าง’) และนำไปสู่การสร้างสรรค์คอลเลกชันอื่นๆ อย่างต่อเนื่องด้วยนวัตกรรมการออกแบบมากมาย ทั้งใน Classic Fusion (คลาสสิค ฟิวชั่น), Spirit of Big Bang (สปิริต ออฟ บิ๊ก แบง), Square Bang (สแควร์ แบง) และ Manufacture Pieces (แมนูแฟคเจอร์ พีซ) โดยผลงานเหล่านี้ได้ดึงระดับแห่งงานฝีมือขั้นสูงมาใช้ ทั้งในแง่ของวัสดุอันเป็นที่รักยิ่งของ Hublot (อาทิ Magic Gold (เมจิก โกลด์), เซรามิกสีสดใส และแซฟไฟร์) ตลอดจนกลไกที่ผลิตขึ้นภายในโรงงานของตนเอง (เช่น กลไกโครโนกราฟ Unico (ยูนิโค), Meca-10 (เมกา-10) และกลไกระดับแกรนด์คอมพลิเคชั่นอีกมากมาย อาทิ Tourbillon (ทูร์บิญอง), Cathedral Minute Repeater (คาธีดรัล มินิท รีพีทเตอร์) รวมถึงกลไกที่ผลิตขึ้นเฉพาะสำหรับ Manufacture Pieces)
โลกของ Hublot ยังขยายสู่หลากหลายความร่วมมืออันเปี่ยมด้วยพลัง ซึ่งรวมไปถึงโลกแห่งฟุตบอล ด้วย ‘Hublot Loves Football’ (‘อูโบลท์รักฟุตบอล’) ที่กลายเป็นสโลแกน ณ การแข่งขันกีฬาอันยิ่งใหญ่สูงสุดระดับโลก (เช่น FIFA World CupTM (ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ), Premier League (พรีเมียร์ ลีก), UEFA Champions LeagueTM (ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก), UEFA EUROTM (ยูฟ่า ยูโร)) รวมถึงผ่านเหล่าแอมบาสซาเดอร์ของแบรนด์ ความรักต่อฟุตบอลนี้ยังขยายต่อเนื่องไปยังสาขาแห่งศิลปะ, งานออกแบบ, ดนตรี, กีฬา, สไตล์แห่งอาหารไฟน์ไดนิ่งและการแล่นเรือ ท้ายสุด กับความสัมพันธ์ของ Hublot ภายในโครงการความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ ทั้งร่วมกับ SORAI (โซไร) และ Polar Pod (โพลาร์ พอด) ที่ล้วนสะท้อนถึงความเอาใจใส่ในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมของวันนี้
เครือข่ายบูติกมากกว่า 140 แห่งทั่วโลกของ Hublot ล้วนมีความมุ่งมั่นอันแรงกล้าและแบ่งปันคุณค่าเดียวกัน รวมถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Hublot.com
สามารถติดตามได้ที่: @Hublot @Hublot_Thailand #Hublot #HublotThailand
17 ธ.ค. 2567
17 ธ.ค. 2567
17 ธ.ค. 2567