BLANCPAIN Villeret Calendrier Chinois Traditionnel 2025

Blancpain (บลองแปง) เผยโฉมเรือนเวลา Villeret Calendrier Chinois Traditionnel  (วิลเลอเรต์ กาลองเดรีย ชีนัว ทราดิซิยงแนล) รุ่นใหม่ เพื่อเฉลิมฉลองตรุษจีนปีมะเส็ง 2025 ซึ่งตรงกับวันที่ 29 มกราคม วันที่งูไม้จะผงาดเข้าแทนที่มังกรไม้ และปีนี้นับเป็นปีที่ 14 แล้ว ที่ the Manufacture หรือสำนักรังสรรค์นวัตรกรรมเรือนเวลาของ Blancpain ได้รังสรรค์เรือนเวลาที่ผสมผสานวัฒนธรรมตะวันออก และตะวันตกตามสัญลักษณ์นักษัตรประจำแต่ละปีมาอย่างต่อเนื่อง โดยสัญลักษณ์นักษัตรจะสลักอยู่บนโรเตอร์ นาฬิการุ่นนี้ผลิตในจำนวนจำกัด และถือเป็นครั้งแรกที่มีการจับคู่ตัวเรือนแพลทินัมกับหน้าปัดที่รังสรรค์จากศิลปะเคลือบลงยา Grand Feu (กรองด์ เฟอ) สีเขียว

ในปี 2012 Blancpain ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกของโลกด้วยการเปิดตัวนาฬิกา Villeret Calendrier Chinois Traditionnel ซึ่งมีทั้งกลไกปฏิทินจีนอันซับซ้อน และการแสดงวันที่ในระบบ Gregorian date (ปฏิทินเกรกอเรียนแบบตะวันตก) รวมถึงฟังก์ชั่น moon phases (มูนเฟส) แสดงข้างขึ้นข้างแรม นับเป็นการผสมผสานวัฒนธรรมตะวันออก และตะวันตกเข้าไว้ด้วยกัน เมื่อนักษัตรปีมะเส็งเวียนมาบรรจบครบรอบวัฏจักร 12 ปีในปี 2024 นี้ the Manufacture ได้ปรับโฉมรูปแบบสัญลักษณ์นักษัตรทั้ง 12 ที่ปรากฏบนช่องหน้าต่างในตำแหน่ง 12 นาฬิกา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานของเง็กเซียนฮ่องเต้ และในปี 2025 ซึ่งเป็นปีงูไม้ สัญลักษณ์นักษัตรที่ปรับโฉมใหม่จะอวดโฉมเป็นครั้งแรกบนเรือนเวลาในตัวเรือนแพลทินัมขนาด 45.2 มม. ซึ่งมาพร้อมกับหน้าปัดที่รังสรรค์ด้วยศิลปะเคลือบลงยา Grand Feu สีเขียว

งูซึ่งขึ้นชื่อเรื่องสัญชาตญาณ และความเฉียบแหลม โดดเด่นอยู่บนโรเตอร์ทองคำขาว 22K ของนาฬิกา Villeret Calendrier Chinois Traditionnel 2025 โดยมีการขัดแต่งแบบ frosted finish ซึ่งผลงานชิ้นนี้รังสรรค์ขึ้น ภายในเวิร์กช็อป Métiers d'Art  (เมติเยร์ ดาร์ท) ของ Blancpain โดยช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญที่บรรจงวาดภาพงูขึ้นอย่างประณีต สัญลักษณ์นักษัตรงูนี้ยังมาพร้อมกับทับทิมแท้และตัวอักษรจีนแกะสลักเป็นคำว่า "งู" และ "ไม้"

นาฬิกาเรือนนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไก calibre 3638 ประกอบด้วยชิ้นส่วน 464 ชิ้น มาพร้อมระบบปฏิทินจีนแบบดั้งเดิมซึ่งทำงานด้วยกลไกที่ซับซ้อนยิ่งไปกว่าระบบปฏิทินถาวร โดยจะใกล้เคียงกับการทำงานของกลไก minute repeater ซึ่งกลไกการทำงานอับซับซ้อนนี้ถูกรังสรรค์ขึ้นในเวิร์กช็อป Grand Complications ที่ Le Brassus  (เลอ บราซูส์) ซึ่งใช้เวลาพัฒนากว่า 5 ปี ประกอบด้วยกระปุกลานจำนวนสามชุดที่ช่วยให้สามารถสำรองพลังงานได้ยาวนานถึง 7 วัน ซึ่งถึงแม้ว่าแค่มองปราดเดียวก็จะรู้ได้ทันทีว่านาฬิกาเรือนนี้มีกลไกที่ซับซ้อนมากมาย แต่การออกแบบ และการจัดแสดงค่าต่าง ๆ ถูกจัดวางอย่างชาญฉลาดจึงทำให้สามารถอ่านค่าได้อย่างง่ายดาย และชัดเจน  ระบบปฏิทินนี้ขับเคลื่อนด้วยชุดเข็มสี่ชุดและหน้าต่างแสดงข้อมูลสองช่อง มีการแสดงธาตุทั้งห้าร่วมกับสัญลักษณ์หยินและหยาง ซึ่งเชื่อมโยงกับรอบนักษัตร 60 ปี (sexagesimal cycle) ในตำแหน่ง 3 นาฬิกา ส่วนตำแหน่ง 9 นาฬิกามีการแสดงวันและเดือนตามระบบปฏิทินจีน ขณะที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกาแสดงเวลาในรูปแบบชั่วยามแบบจีน (double Chinese hours) นอกจากนี้ ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา ยังมีหน้าต่างแสดงข้อมูลเกี่ยวกับเดือนอธิกมาสตามระบบปฏิทินจีน และมีการแสดงถึงสัญลักษณ์นักษัตรประจำปี ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกาอีกด้วย นอกเหนือไปจากการแสดงข้อมูลปฏิทินที่หลากหลายเหล่านี้ เข็มทรง serpentine ทำหน้าที่แสดงวันที่ตามระบบปฏิทินเกรกอเรียนแบบตะวันตก ในขณะที่ฟังก์ชัน moon phase แสดงข้างขึ้นข้างแรม อันเป็นฟังก์ชั่นเอกลักษณ์ของ Blancpain ถูกจัดวางอยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา

แม้จะประกอบด้วยกลไกที่ซับซ้อน ทว่านาฬิกา Villeret Calendrier Chinois Traditionnel 2025 กลับใช้งานง่าย ด้วยระบบกลไก under-lug correctors  ซึ่งเป็นนวัตกรรมระดับโลกที่ Blancpain ได้จดสิทธิบัตรในปี 2005 ปุ่มปรับนี้ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถปรับตั้งค่าปฏิทินได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้ว โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องมือใดๆ โดยมีการออกแบบให้ซ่อนอยู่ภายใต้ขาตัวเรือนนาฬิกาได้อย่างแนบเนียน จึงช่วยให้ด้านข้างตัวเรือนยังคงความเรียบหรูปราศจาก ‘รอยลักยิ้ม’ (dimples) ที่มักพบในนาฬิกาปฏิทินทั่วไป โดยไม่กระทบต่อความสบายในการสวมใส่ นอกจากนี้ หากผู้สวมใส่พยายามปรับตั้งค่าปฏิทินในขณะที่กลไกกำลังปรับค่าเองอัตโนมัติ ซึ่งโดยปกติแล้วอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อกลไกได้ ระบบนี้จะป้องกันการเกิดปัญหาดังกล่าว โดยกลไกจะไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

นาฬิกา Villeret Calendrier Chinois Traditionnel 2025 รุ่นนี้มาพร้อมสายหนังจระเข้สีน้ำตาลช็อกโกแลตที่เข้ากับสีหน้าปัดได้เป็นอย่างดี ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 50 เรือนเท่านั้น

Villeret ความงามเหนือกาลเวลาและความล้ำหน้าทางเทคนิคอันเป็นเลิศ
หมู่บ้าน Villeret ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของ Blancpain คือที่มาของชื่อเรือนเวลาคอลเลกชั่นคลาสสิคตลอดกาลของแบรนด์ Villeret คือรากฐานแห่งขนบเรือนเวลาและในขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงมุมมองแห่งอนาคตเป็นตัวแทนรากฐานของ the Manufacture ที่โดดเด่นด้วยเส้นสายที่เรียบหรูแสดงถึงความสง่างามเหนือกาลเวลา ตัวเรือนมีการเล่นระดับสองขั้น (double-stepped) อันเป็นเอกลักษณ์ คอลเลกชั่น Villeret ยังผสมผสานนวัตกรรมการพัฒนากลไกล่าสุดของ Blancpain  เข้าไว้อีกด้วย

Moon phase เอกลักษณ์ของ Blancpain
Blancpain ได้ชุบชีวิตกลไก moon phase ขึ้นใหม่ในปี 1983 หลังวิกฤตนาฬิกาควอตซ์ ซึ่งกลไกนี้กลายเป็นกลไกซิกเนเจอร์ของ the Manufacture ที่ตั้งอยู่ ณ หมู่บ้าน Le Brassus และยังช่วยให้แบรนด์ได้พิสูจน์ว่านาฬิกากลไกคือที่สุดแห่งความความเชี่ยวชาญ ที่ระบบควอตซ์ไม่มีวันจะมาทดแทนความซับซ้อนของการประดิษฐ์นาฬิกากลไกได้ กลไกนี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นคืนชีพศิลปะการสร้างสรรค์นาฬิกากลไก และนาฬิกา Villeret Calendrier Chinois Traditionnel 2025 ก็ประกอบด้วยกลไก moon phase ซึ่งเป็นกลไกแสดงข้างขึ้นข้างแรมที่แค่เพียงเห็นก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นกลไกของ Blancpain

Blancpain เจ้าแห่งปฏิทิน
ปฏิทินถือเป็นองค์ประกอบสำคัญอันเป็น DNA ของ Blancpain สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญด้านกลไกอันซับซ้อนของแบรนด์ หลังวิกฤตควอตซ์ ระบบปฏิทินแบบสมบูรณ์ (Complete Calendar) ได้กลับมาผงาดอีกครั้งอย่างโดดเด่น และต่อมาได้นำไปสู่การสร้างสรรค์ระบบปฏิทินอื่นๆอีกหลากหลายรูปแบบในปี 1983 ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิทินรายสัปดาห์ การแสดงวันที่แบบเรียบง่าย ปฏิทินรายปี หรือปฏิทินถาวร ความสามารถของ Blancpain ในการรังสรรค์ระบบปฏิทินทะยานสู่จุดสูงสุดด้วยการสร้างสรรค์สองนวัตกรรมที่มีความซับซ้อนอย่างยิ่งเป็นครั้งแรกในโลก ได้แก่ Villeret Equation du Temps Marchante (วิลเลอเรต์ เอควอซิยง ดู ตอม มาร์ชอง) และ Villeret Calendrier Chinois Traditionnel ระบบปฏิทินเหล่านี้ปรากฏบ่อยครั้งในคอลเลกชั่นสำคัญของแบรนด์ เช่น Villeret, Ladybird และ Fifty Fathoms ตอกย้ำสถานะของ Blancpain ในฐานะ Master of Calendars หรือ เจ้าแห่งปฏิทิน

การปฏิวัติวงการด้วยซิลิคอน
ซิลิคอนได้เข้ามาปฏิวัติวงการนาฬิกาในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 และทำให้เกิดความก้าวหน้าครั้งสำคัญในโลกแห่งเวลา ด้วยคุณสมบัติยืดหยุ่นโดยไม่เสียรูป แข็งแรง น้ำหนักเบา และทนทานต่อการกัดกร่อน ซิลิคอน ยังโดดเด่นในการต้านทานต่อสนามแม่เหล็ก ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ช่วยให้นาฬิกาทำงานได้อย่างเที่ยงตรง

ต่างจากยุค 1960s ซึ่งใช้บาลานซ์สปริงโลหะที่อาจทำให้นาฬิกาได้รับผลกระทบจากสนามแม่เหล็กได้ จึงต้องมีกรงเหล็กอ่อนครอบไว้อีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันกลไกจากสนามแม่เหล็ก โดยนาฬิกา Fifty Fathoms รุ่นใหม่ในปัจจุบันจะมาพร้อมกับบาลานซ์สปริงซิลิคอน ช่วยให้สามารถเผยโฉมโครงสร้างกลไกอันเป็นเอกลักษณ์ผ่านฝาหลังคริสตัลแซฟไฟร์ได้ เช่นเดียวกัน ด้วยการใช้บาลานซ์สปริงที่ใช้เทคโนโลยีซิลิคอนนี้ Villeret Calendrier Chinois Traditionnel 2025 ไม่เพียงนำเสนอกลไกที่ตกแต่งด้วยฝีมือชั้นเลิศอย่างประณีตเท่านั้น แต่ยังเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพการบอกเวลาที่เหนือชั้นด้วยวัสดุซิลิคอนนี้อีกด้วย