Last updated: 28 ม.ค. 2568 | 151 จำนวนผู้เข้าชม |
ในปี 1965 Oris ได้ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งยุคผ่านนาฬิกาดำน้ำรุ่นแรกของแบรนด์ ด้วยตัวเรือนสเตนเลสสตีลที่ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมวงแหวนขอบหน้าปัดแบบหมุนได้สองทิศทางที่โอบล้อมหน้าปัดที่มีดีไซน์โดดเด่นเฉพาะตัว ซึ่งได้รับการเลือกสรรมาอย่างพิถีพิถัน ทั้งในแง่ของความสนุกสนาน และความชัดเจนในการอ่านค่าเวลา ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับนาฬิกาที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานใต้น้ำ
ดีไซน์นี้สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งความคิดสร้างสรรค์อันไร้ขอบเขตของยุคนั้น ตลอดจนกระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการดำน้ำเพื่อการพักผ่อนในหมู่ผู้รักการผจญภัยและผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ล้ำสมัย ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักในชื่อ Scuba Diving นาฬิการุ่นนี้จึงเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญและความมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จอย่างแท้จริง
หกทศวรรษต่อมา Oris ก้าวเข้าสู่ปี 2025 ด้วยการรำลึกถึงมรดกแห่งดีไซน์อันทรงคุณค่านี้ ผ่านเรือนเวลารุ่น 60th Anniversary Edition ที่นำเอาเสน่ห์และเอกลักษณ์อันโดดเด่นของหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมที่สุด และเป็นไอคอนนิกที่สุดของแบรนด์นาฬิกาอิสระจากสวิตเซอร์แลนด์นี้กลับมาอีกครั้ง
นาฬิการุ่นใหม่นี้มาในตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 40.00 มม. วงแหวนขอบหน้าปัดแบบหมุนได้สองทิศทาง กลไกจักรกลออโตเมติก Swiss Made และมาพร้อมกับสายสเตนเลสสตีล แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือรายละเอียดแบบวินเทจบนหน้าปัดสีดำ ไม่ว่าจะเป็น ข้อความ ANTI-SHOCK ระบุคุณสมบัติป้องกันแรงกระแทกที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา หลักชั่วโมงแบบสั้น ตัวเลขเรืองแสงขนาดใหญ่ที่ตำแหน่ง 3, 6, 9 และ 12 ซึ่งถอดแบบมาจากรุ่นต้นแบบในปี 1965 และที่สำคัญที่สุดคือ โลโก้ Oris แบบย้อนยุค พร้อมคำว่า “WATERPROOF” ที่ปรากฏอยู่ใต้โลโก้ ซึ่งถูกนำกลับใช้อีกครั้งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ร่วมสมัยของ Oris นาฬิการุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมสายหนังอีกหนึ่งเส้น และฝาหลังสลักลวดลายพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีของดีไซน์นี้.. ปีใหม่ ความสุขใหม่
ไทม์ไลน์
1965 Oris เปิดตัวนาฬิกาดำน้ำรุ่นแรก ในตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 36.00 มม. กระจกหน้าปัดคริสตัลอะคริลิกทรงโดม วงแหวนขอบหน้าปัดหมุนได้สองทิศทาง เม็ดมะยมแบบขันเกลียว และหน้าปัดสีดำที่โดดเด่นด้วยรายละเอียดที่มีเอกลักษณ์และตัดกับสีหน้าปัดอย่างชัดเจน รวมถึงหลักชั่วโมงขนาดใหญ่ที่เรืองแสงได้ที่ตำแหน่ง 3, 6, 9 และ 12 นาฬิกา
2015 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของหนึ่งในรุ่นนาฬิกาที่ได้รับความนิยมที่สุด Oris จึงได้เปิดตัว Divers Sixty-Five นาฬิกาที่เป็นการรังสรรค์ขึ้นใหม่ของนาฬิกาดำน้ำวินเทจจากยุคทศวรรษ 1960 แต่ปรับให้ทันสมัยด้วยวัสดุและกลไกที่ล้ำยุค ในตัวเรือนสเตนเลสสตีล 316L ขนาด 40.00 มม. ที่ทนต่อการกัดกร่อน พร้อมกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ทรงโดม วงแหวนขอบหน้าปัดหมุนได้ทิศทางเดียว เม็ดมะยมแบบขันเกลียว หน้าปัดสีดำพร้อมรายละเอียดเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova® และสายรับเบอร์สีดำลายถัก กันน้ำได้ถึงระดับ 10 บาร์ (100 เมตร) ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลออโตเมติก Swiss Made
2016 Oris เปิดตัว Divers Sixty-Five รุ่นใหม่แบบ ‘ไม่มีตัวเลข’ โดยปรับเปลี่ยนหลักชั่วโมงจากยุคทศวรรษ 1960 มาเป็นหลักชั่วโมงที่เรียบง่ายและชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยสารเรืองแสง ตัวเรือนได้รับการปรับดีไซน์ให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น ขณะเดียวกันวงแหวนขอบหน้าปัดก็ได้รับการปรับให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งตัวเลขสไตล์ยุคกลางศตวรรษที่ช่วยเชื่อมโยงกับรากฐานของดีไซน์ต้นแบบได้อย่างลงตัว หลักชั่วโมงที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกาถูกออกแบบให้เป็นรูปทรงคล้ายกับ Oris Shield อันโด่งดังและเติมเต็มด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® ในรุ่นแรกยังคงใช้วัสดุและกลไกแบบเดียวกับเวอร์ชั่นปี 2015 แต่จะกลายมาเป็นต้นแบบสำหรับคอลเลกชั่นที่หลากหลาย ทั้งสีสันและวัสดุที่แตกต่างกัน รวมถึงรุ่นโครโนกราฟในเวลาต่อมาด้วย นอกจากนี้ Oris ยังได้ร่วมมือกับร้านค้าผู้แทนจำหน่ายชื่อดังและสื่อชั้นนำในการสร้างสรรค์รุ่น ลิมิเต็ด อิดิชั่น สำหรับนักสะสม Divers Sixty-Five กลายเป็นไอคอนของ Oris และเป็นหนึ่งในรุ่นขายดีที่สุดที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในหมู่นักดำน้ำและผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกา ด้วยรูปลักษณ์สไตล์เรโทรอันเป็นเอกลักษณ์ เข้าได้กับหลายสไตล์ และความน่าเชื่อถือ
2024 เกือบหนึ่งทศวรรษหลังจากเปิดตัว Divers Sixty-Five ทาง Oris ได้ประกาศเปิดตัว Divers Date นาฬิกาสปอร์ตที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน นอกจากดีไซน์ที่พัฒนาไปอีกขั้นแล้ว นาฬิการุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมการอัพเกรดด้านประสิทธิภาพหลายประการ ซึ่งรวมถึงตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 39.00 มม.ที่แข็งแกร่งขึ้น วงแหวนขอบหน้าปัดเซรามิกที่ทนต่อรอยขีดข่วนและการซีดจาง ระบบเปลี่ยนสายนาฬิกาได้อย่างรวดเร็ว และคุณสมบัติในการกันน้ำได้ถึงระดับ 20 บาร์ (200 เมตร) จึงเหมาะสำหรับการดำน้ำเพื่อการพักผ่อน ซึ่งเป็นกีฬาที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับรุ่นต้นแบบในปี 1965 โดยในช่วงเปิดตัว นาฬิกามีหน้าปัดให้เลือก 3 สี ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากโทนสีอุตสาหกรรมยุคทศวรรษ 1960 พร้อมฟอนต์ตัวอักษรที่พัฒนาขึ้นสำหรับคอลเลกชั่น Divers Date โดยเฉพาะ ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลออโตเมติกที่อัพเกรดใหม่ซึ่งสามารถสำรองพลังงานได้นานถึง 41 ชั่วโมง
25 ม.ค. 2568
24 ม.ค. 2568
24 ม.ค. 2568
28 ม.ค. 2568