Last updated: 14 ก.พ. 2568 | 293 จำนวนผู้เข้าชม |
Grand Seiko เปิดตัวนาฬิการะบบกลไกอัตโนมัติเรือนแรกที่เรียกว่า 62GS ในปี 1967 โดยความโดดเด่นของนาฬิกาดีไซน์ลักษณะนี้คือโครงสร้างไร้ขอบซึ่งช่วยประสานกระจกแซฟไฟร์คริสตัลเข้ากับตัวเรือนได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งนาฬิกาใหม่ทั้งสองเรือนก็มาพร้อมดีไซน์ตัวเรือนแบบ 62GS จาก Heritage Collection โดยหน้าปัดแต่ละเรือนสะท้อนถึงความงามอันน่าหลงใหลของดอกซากุระในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ
นาฬิกาทั้งสองเรือนขับเคลื่อนด้วย Caliber 9S27 ซึ่งเป็นกลไกอัตโนมัติเครื่องเล็กที่สุดของ Grand Seiko โดยตัวเรือนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 มม. และความหนาเพียง 10.5 มม. ซึ่งถือเป็นนาฬิกาอัตโนมัติดีไซน์ 62 GS ขนาดกะทัดรัดที่บางที่สุดของ Grand Seiko
หนึ่งในลักษณะที่เห็นได้ชัดของดีไซน์ 62GS คือส่วนโค้งของด้านข้างตัวเรือน ที่มีประกายแวววาวสวยงามและพื้นผิวที่ไม่ผิดเพี้ยนที่เกิดจากเทคนิคการขัดเงาแบบซารัตสึอันเป็นเอกลักษณ์ของ Grand Seiko เมื่อผสมผสานกับกระจกคริสตัลแซฟไฟร์รูปทรงกล่องก็ช่วยเพิ่มความสง่างามอันประณีตของดีไซน์แบบไร้ขอบ
ซากุระ-คาคุชิ (Sakura-Kakushi) ดอกซากุระ อัญมณีที่ซ่อนอยู่ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ
ผลงานหน้าปัดสีชมพูนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากซากุระคาคุชิ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์อันอ่อนโยนที่หิมะโปรยปรายปกคลุมดอกซากุระอันบานสะพรั่งฉากอันเงียบสงบนี้เกิดขึ้นเมื่อต้นฤดูใบไม้ผลิทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Grand Seiko Studio Shizukuishi สถานที่สร้างสรรค์กลไก Grand Seiko ทุกเรือน
ความกลมกลืนอันละเอียดอ่อนของหิมะและดอกซากุระแสดงออกผ่านลวดลายพื้นผิวอันประณีตบนหน้าปัดและเฉดสีชมพูอมเทาอันนุ่มนวล หน้าปัดเปลี่ยนแปลงอย่างละเอียดอ่อนด้วยมุมและแสงตกกระทบที่แตกต่างกัน ซึ่งเผยให้เห็นถึงความสง่างามแบบไดนามิกที่มีชีวิตชีวานำความประณีตมาสู่บนข้อมือ
ซากุระ-สึกิโยะ (Sakura-Tsukiyo) ดอกซากุระที่เบ่งบานใต้ท้องฟ้าในคืนพระจันทร์เต็มดวง
หน้าปัดของนาฬิกาเรือนนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากซากุระ-สึกิโยะ ความงามอันเงียบสงบของดอกซากุระที่ส่องสว่างภายใต้ท้องฟ้าที่มืดครึ้มและแสงจันทร์ ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไปมาระหว่างกลางวันและกลางคืนสร้างบรรยากาศที่ปกคลุมไปด้วยหมอกหนาทึบ ส่งผลให้แสงจันทร์ส่องแสงพร่ามัวอันอ่อนโยน ฉากที่น่าหลงใหลนี้ได้นำมารังสรรค์ผ่านลวดลายที่มีพื้นผิวอันละเอียดอ่อนพร้อมเฉดสีเงิน ซึ่งจับแสงในมุมที่แตกต่าง
นาฬิกาทั้งสองรุ่นติดตั้งฝาหลังแบบกรุกระจกใส ซึ่งช่วยให้ผู้สวมใส่เพลิดเพลินไปกับความงามของ Caliber 9S27 ด้วยเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 20 มม. และความสูง 4.49 มม. Caliber 9S27 ให้ประสิทธิภาพที่สมบูรณ์แบบพร้อมความเพรียวบางที่มีขนาดกะทัดรัดทำให้สวมใส่ได้สบายบนข้อมือทุกแบบและช่วยขับรูปลักษณ์ภายนอกให้ดูดี
Escape Wheel ของกลไกสร้างขึ้นโดยใช้ MEMS เทคโนโลยีซึ่งได้รับการออกแบบให้มีลักษณะคล้ายดอกไม้ห้ากลีบ โดยผสานธีมดอกไม้เข้ากับรายละเอียดการออกแบบที่เล็กที่สุด
ผลงานสร้างสรรค์ใหม่ทั้งสองเรือนจะวางจำหน่ายที่ Grand Seiko Boutiques และ Grand Seiko Salon เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2567
20 ก.พ. 2568
20 ก.พ. 2568
20 ก.พ. 2568