Last updated: 20 มี.ค. 2568 | 326 จำนวนผู้เข้าชม |
Seiko ประเดิมปี 2025 ซึ่งเป็นการครบรอบ 60 ปีในการรุกตลาดนาฬิกาดำน้ำของพวกเขาซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1965 ด้วยคอลเล็กชั่นแรกที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อโอกาสพิเศษนี้โดยเฉพาะ ซึ่งมีทั้งหมด 3 รุ่นเพื่อทำตลาดทั่วโลกโดยจะเริ่มทยอยลงสู่ตลาดตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไล่ไปจนถึงเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้
ทุกรุ่นมีคอนเซ็ปต์ร่วมกันที่หน้าปัด ซึ่งมีการปั๊มแพทเทิร์นที่เป็นลวดลายของ Wave Mark แบบเดียวกับที่ปั๊มอยู่บนฝาหลังของตัวนาฬิกา เพื่อยืนยันถึงความสามารถในการเป็นนาฬิกาที่ถูกพัฒนามาเพื่อการใช้งานใต้น้ำ
แน่นอนว่า นี่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนหน้าปัดและสลักตัวเลขที่เป็นจำนวนเรือนในการผลิตลงบนฝาหลังเท่านั้น เพราะบางรุ่นมีการอัพสเป็ก และบางรุ่นคือ ผลผลิตที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมด และเปิดตัวในฐานะของนาฬิกา Limited Edition ก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนจะมีรุ่นปกติตามออกมาหรือไม่นั้น ต้องรอติดตามดูกันต่อไป
-Seiko Prospex 1965 Heritage Diver’s Watch Limited Edition รหัส SBDC213 / SPB511: อ้างอิงดีไซน์จากนาฬิกาดำน้ำเรือนแรกของแบรนด์ นั่นคือ 62MAS ที่เปิดตัวในปี 1965 สำหรับ Seiko Prospex 1965 Heritage Diver’s Watch Limited Edition เป็นนาฬิการุ่นพิเศษที่ถูกผลิตมาเพื่อฉลองครบรอบ 60 ปี และมีจำหน่าย 2 รหัส คือ SBDC213 สำหรับตลาดญี่ปุ่น ซึ่งจะมีจำนวน 2,000 เรือนจาก 6,000 เรือนที่ผลิต และ SPB511 สำหรับตลาดโลก ซึ่งจะมี 4,000 เรือนจากจำนวน 6,000 เรือนที่ผลิตทั้งหมด ทั้ง 2 รุ่นเหมือนกัน ต่างกันแค่รหัสสำหรับทำตลาดเท่านั้น
ตัวเรือนขนาด 40 มิลลิเมตรของนาฬิการุ่นนี้ผลิตจากสเตนเลสสตีลและเคลือบด้วย DiaShield ได้รับอิทธิพลในแง่ของดีไซน์ที่ปรับปรุงมาจากรุ่น 62MAS โดยเฉพาะเม็ดมะยมที่อยู่ในตำแหน่ง 3 นาฬิกาซึ่งหาได้ยากในกลุ่มนาฬิกาดำน้ำของ Seiko
สเตนเลสสตีลยังคงเป็นวัสดุหลักในการผลิตตัวเรือน สาย และขอบตัวเรือนที่มีอินเสิร์ตแบบเซรามิกนาฬิการุ่นนี้จะมากับบานพับสายรุ่นใหม่ ที่ถูกออกแบบให้มีรูปแบบแตกต่างจากบานพับสายแบบเดิม พร้อมกับการขยายขนาด หรือ Extended Strap ที่สามารถขยายได้สูงสุด 15 มิลลิเมตร พร้อมการปรับละเอียด 6 ตำแหน่งๆ ละ 2.5 มิลลิเมตร เพื่อรองรับกับการใช้งานทั้งในขณะดำน้ำ หรือในชีวิตประจำวัน
ตัวกลไกของ Seiko Prospex 1965 Heritage Diver’s Watch Limited Edition SBDC213 มากับรหัส 6R55 ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ได้รับการปรับปรุงจากกลไกในตระกูล 6R เพื่อให้ได้กำลังสำรองที่นานขึ้น โดยอยู่ในระดับ 3 วัน หรือ 72 ชั่วโมง มีความเที่ยงตรงในระดับ +25 ถึง 15 วินาทีต่อวัน ขณะที่การกันน้ำอยู่ที่ 200 เมตร
Seiko Prospex 1965 Heritage Diver’s Watch Limited Edition SBDC213 เริ่มทำตลาดในเดือนพฤษภาคม 2025 โดยมีราคาในญี่ปุ่นอยู่ที่ 192,500 เยน ส่วนตลาดโลกจะเริ่มทยอยทำตลาดในเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป
-Seiko Prospex 1968 Heritage Diver’s GMT Watch Limited Edition รหัส SBEJ207/ SPB509 : การเฉลิมฉลองครั้งนี้จะถูกนำเสนอผ่านนาฬิกาที่เป็น Iconic รุ่นปี 1968 โดยได้รับอิทธิพลในด้านดีไซน์ของตัวเรือน โดยก่อนหน้านี้ Seiko มีรุ่นปกติทำตลาดมาก่อนแล้ว ส่วนรุ่นนี้พิเศษมากขึ้นไปอีก โดยความสามารถในการกันน้ำถูกอัพสเป็กจาก 200 เมตรมาเป็น 300 เมตร โดยที่ขนาดตัวเรือนยังคงไซส์ 42 มิลลิเมตรเอาไว้ ส่วนสายสแตนเลสสตีลมีพานพับแบบปรับละเอียดเหมือนกับรุ่น SBDC213/SPB511
สำหรับกลไกเป็นแบบอัตโนมัติในรหัส 6R54 ที่มีกำลังสำรอง 3 วันหรือ 72 ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชั่น GMT ในการบอกเวลาที่ 2 และความสามารถในการกันน้ำที่ขยับขึ้นเป็น 300 เมตร
Seiko Prospex 1968 Heritage Diver’s GMT Watch Limited Edition จะเริ่มทำตลาดในเดือนมิถุนายนนี้ โดยมีการผลิต 6,000 เรือน แบ่งเป็นรหัส SBEJ207 จำนวน 2,000 เรือนสำหรับตลาดญี่ปุ่น และ 4,000 เรือนสำหรับตลาดโลกที่จะใช้รหัส SPB509 มีราคาในญี่ปุ่นอยู่ที่ 247,500 เยน
-Seiko Prospex Marinemaster Professional Limited Edition รหัส SDBX067/ SLA081 : เป็นรุ่นที่น่าสนใจเพราะไม่เคยผลิตออกสู่ตลาดมาก่อน โดยนาฬิการุ่นนี้มากับขนาดตัวเรือนแบบบึกบึน และเกิดมาเพื่อการใช้งานโดยเฉพาะ ด้วยไซส์ 45.5 มิลลิเมตร ตัวเรือนแบบ Monocase ที่เคยหายไปใน MM300 รุ่นใหม่ ก็จะกลับมาในรุ่นนี้ แต่ที่เพิ่มเติมคือ ทั้งตัวเรือนและสายผลิตจากไทเทเนียมพร้อมการเคลือบพื้นผิว DiaShield เพื่อป้องกันรอยขูดขีด และใช้กระจก Sapphire แบบทรงโค้งคู่ และเม็ดมะยมยังวางอยู่ในตำแหน่ง 4 นาฬิกาเช่นเดิม
สิ่งที่พิเศษคือ Endlink ของสายนาฬิกาที่เชื่อมต่อกับตัวเรือนจะถูกออกแบบใหม่ โดยแทนที่จะเป็นวัสดุแบบเดียวกับสายส่วนอื่น แต่ Seiko ออกแบบใหม่เพื่อให้ชิ้นส่วนนี้สามารถยึดกับสายและขอบตัวเรือน โดยจะมีการยึดด้วยน็อตเอาไว้ เพื่อให้ตัวนาฬิกาสามารถทนต่อแรงดันใต้น้ำ ซึ่งนาฬิการุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานสำหรับการดำน้ำแบบอิ่มตัว หรือ Saturation Diving แต่ไม่มีฮีเลี่ยมวาล์ว
มีการอัพเกรดใหม่ โดยกลไก 8L45 คือ เวอร์ชันที่ยังไม่ขัดแต่งของ 9S65 ของ Grand Seiko ซึ่งกลไกรุ่นนี้เปิดตัวในปี 2010 ด้วยความโดดเด่นของกำลังสำรองที่มี 3 วัน หรือ 72 ชั่วโมง และมีจำนวนทับทิม 35 เม็ด (8L35 มี 26 ทับทิม และมีกำลังสำรอง 50 ชั่วโมงและเป็นเวอร์ชันที่ยังไม่ขัดแต่งของ Grand Seiko 9S55) โดยความเที่ยงตรงของกลไกอยู่ในระดับ +10 ถึง -5 วินาทีต่อวัน
Seiko Prospex Marinemaster Professional Limited Edition รหัส SDBX067 และ SLA081 ผลิตทั้งสิ้น 600 เรือน
26 มี.ค. 2568
27 มี.ค. 2568