Last updated: 21 มี.ค. 2568 | 311 จำนวนผู้เข้าชม |
จากหน้าปัดซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวแห่งท้องฟ้าของเรือนเวลา อาร์โซ เลอร์ เดอ ลา ลูน (Arceau L’heure de la lune) สู่การเดินทางข้ามทวีปโดย อาร์โซ เลอ ตองส์ โวยาเชอร์ (Arceau Le temps voyageur) แอร์เมส (HERMÈS) เชื้อเชิญคุณสู่การออกเดินทางท่องระหว่างพรมแดนแห่งสรวงสวรรค์และผืนโลก ที่ซึ่งเวลาเป็นดั่งเพื่อนเดินทางและอาณาจักรของการหลีกหนีที่เผยไว้อย่างงดงามโดยความสลับซับซ้อนเพียงหนึ่งเดียว
นาฬิกาแอร์เมสเป็นดั่งเพื่อนคู่กายในชีวิตประจำวันที่ออกแบบมาเพื่ออยู่เคียงข้างไปกับผู้สวมใส่ โดยทลายซึ่งพรมแดนแห่งความอิสระออกจากกฎเกณฑ์ประเพณีของการประดิษฐ์นาฬิกา ที่แอร์เมสได้หลอมรวมเวลาไว้เข้ากับมิติอันกล้าหาญและขัดแย้งกันครั้งใหม่ ๆ เสมอ ด้วยต้นกำเนิดแห่งอิสรภาพและการหลีกหนี และภายใต้การแข่งขันอันเข้มงวดของการนับซึ่งทุก ๆ วินาทีอันทรงคุณค่าที่แอร์เมสได้นำเสนอให้กับผู้สวมใส่ด้วยเวลาซึ่งสามารถนับได้อย่างเที่ยงตรงแม่นยำโดยแท้จริง
เฉกเช่นผลงานนาฬิกา อาร์โซ เลอร์ เดอ ลา ลูน ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 2019 และในวันนี้ ได้มาปรากฏโฉมภายใต้สามเวอร์ชันใหม่ พร้อมทั้งนำเสนอด้วยเซ็ตพิเศษซึ่งผลิตในจำนวนจำกัดเพียงรุ่นละ 12 เรือน
ถ่ายทอดไว้ด้วยหน้าปัดย่อยซึ่งสามารถเคลื่อนที่ได้สำหรับแสดงเวลาและวันที่ที่กำลังโคจรไปรอบ ๆ หน้าปัดกลางตลอดช่วงระยะเวลา 59 วัน ทั้งยังค่อย ๆ เผยให้เห็นดิสก์ดวงจันทร์อันแสนงดงาม ภาพการเคลื่อนโคจรของท้องฟ้านี้ได้มาบรรจบกันโดยชิ้นส่วนประกอบพิเศษจำนวน 117 ชิ้นของโมดูลจักรกลแอร์เมส ที่นำเสนอพร้อมด้วยการแสดงของข้างขึ้น-ข้างแรมสำหรับท้องฟ้าซีกโลกเหนือและท้องฟ้าซีกโลกใต้ ขณะที่ เพกาซัส (Pegasus) ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากลวดลาย ฟูล มูน (Full Moon) ของ ดิมิทรี ไรบัลต์เชนโค่ (Dimitri Rybaltchenko) ได้นำมาตกแต่งไว้บนหนึ่งในดวงจันทร์ต่าง ๆ ของเรือนเวลาแต่ละรุ่น ที่ร่วมสะท้อนถึงโลกแห่งแอร์เมส
ทั้งสามรุ่นเหล่านี้ยังถ่ายทอดด้วยลุคอันสง่างามแบบทูโทน ภายใต้ตัวเรือนและหูตัวเรือนซึ่งทำจากวัสดุที่แตกต่างกัน รวมถึงเครื่องหมายหรือมาร์กเกอร์บอกชั่วโมงที่จับคู่เข้ากันกับหน้าปัดของผลงานแต่ละรุ่น ขณะที่ ณ ใจกลางของนาฬิกาแต่ละรุ่นนี้ยังบรรจุด้วยอุกกาบาต โดยยังนับเป็นครั้งแรกสำหรับในรุ่นไวท์โกลด์ผสมผสานกับไทเทเนียมสีน้ำเงิน ที่บนหน้าปัดของเรือนเวลานี้เรืองรองไปด้วยชิ้นของหินอุกกาบาตจากดวงจันทร์ ส่วนในรุ่นที่สอง ภายใต้ตัวเรือนโรสโกลด์และไทเทเนียมนั้นถ่ายทอดด้วยหน้าปัดที่ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนของหนึ่งในดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ที่สุด อย่าง เวสตา (Vesta) และในเวอร์ชันที่สาม มาพร้อมการตีความอันโดดเด่นของตัวเรือนไวท์โกลด์และโรสโกลด์ ประดับตกแต่งด้วยชิ้นส่วนจากอุกกาบาต เอิร์ก เชค (Erg Chech) ซึ่งเป็นหินอัคนีหรือหินแมกมาที่พิสูจน์ว่ามาจากวัตถุท้องฟ้าที่หายสาบสูญไปแล้ว
ในปัจจุบัน แต่ละเรือนเวลามาพร้อมกับสายหนังจระเข้แบบด้านที่รังสรรค์ขึ้นอย่างสอดคล้องด้วยทักษะการทำหนังอันเชี่ยวชาญของแอร์เมส ทั้งในเวอร์ชันสายหนังสีน้ำเงินเข้มหรืออะบิสส์บลู (abyss blue) สำหรับรุ่นไวท์โกลด์และไทเทเนียมสีน้ำเงิน และสายหนังสีเทาแกรไฟต์สำหรับนาฬิกาอีกสองเวอร์ชัน
สร้างสรรค์ขึ้นในปี ค.ศ. 2022 เรือนเวลา อาร์โซ เลอ ตองส์ โวยาเชอร์ ได้ปรากฏโฉมภายใต้ตัวเรือนไวท์โกลด์และโรสโกลด์ พร้อมด้วยดิสก์วงกลมสำหรับแสดงเวลา 24 ไทม์โซน ที่ประกอบด้วยการแสดงเวลาบ้านเกิด (home time) ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และหน้าปัดย่อยซึ่งเคลื่อนที่ได้สำหรับแสดงเวลาท้องถิ่น (local time) จักรกลอันน่าทึ่งนี้ขับเคลื่อนโดยโมดูลพิเศษประกอบด้วยชิ้นส่วนถึง 122 ชิ้น ที่ผสานเข้ากับกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ แมนูแฟคเจอร์ แอร์เมส เอช1837 (Manufacture Hermès H1837) ได้อย่างกลมกลืน
วิวัฒนาการแห่งการรังสรรค์ผลงานรุ่นนี้ยังมีพื้นฐานแรกเริ่มมาจากการเคลือบเพื่อเสริมสุนทรียะความสวยงามให้กับหน้าปัดเรือนเวลา ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากลวดลาย พลานิสเฟียร์ ดัน มองเด เอเกสเทรอ (Planisphère d’un monde équestre) ออกแบบไว้โดย เฌโรม กอลลิยาร์ด (Jôrôme Colliard) ผ่านภาพของทวีปต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์เป็นลวดลายอันมีมิติลุ่มลึกได้อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
โดยในเวอร์ชันตัวเรือนไวท์โกลด์ ขนาด 41 มม. ถ่ายทอดคู่มากับหน้าปัดเคลือบแล็กเกอร์สีเทา-น้ำเงิน เสริมความดึงดูดใจด้วยดิสก์ชื่อเมืองสีน้ำเงินเข้ม พร้อมทั้งเข็มชี้แบบโอเพนเวิร์ก (openworked) เคลือบขัดเงาสีน้ำเงิน จับคู่มากับสายหนังจระเข้สีน้ำเงินเข้มหรืออะบิสส์บลู
ส่วนในเวอร์ชันตัวเรือนโรสโกลด์ ขนาด 38 มม. ประดับด้วยเพชร 78 เม็ด ถ่ายทอดภาพแผนที่โลกไว้บนหน้าปัดเปลือกหอยมุกธรรมชาติ พร้อมด้วยกรอบโรสโกลด์อันประณีตละเอียดอ่อนที่เสริมความโดดเด่นให้กับโครงร่างของภาพทวีปต่าง ๆ ในโทนสีแชมเปญโอปอล รวมถึงบนดิสก์แสดงชื่อเมืองและช่องหน้าต่างแสดงเวลาบ้านเกิด ขณะที่เข็มชี้ทรงใบไม้โรสโกลด์ได้มอบสัมผัสของการตกแต่งอันประณีตวิจิตร และเสริมด้วยความสวยงามลงตัวของสายหนังจระเข้สีเทามุก
@Hermes @Hermes #Hermes
27 มี.ค. 2568
26 มี.ค. 2568
25 มี.ค. 2568