Last updated: 4 เม.ย 2568 | 194 จำนวนผู้เข้าชม |
เจนีวา, เมษายน 2025 – เดอะ มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ การแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์ ประเภท บุคคลชายรายการแรกของฤดูกาล จัดขึ้นเป็นประจําทุกปีที่สนามออกุสต้า เนชันแนล กอล์ฟ คลับ อันโด่งดังด้วยความสวยงามของสนามและการออกแบบอย่างพิถีพิถันที่ทําให้การเล่นที่ แม่นยําได้ผลลัพธ์ยอดเยี่ยม โดยเป็นการแข่งขันกอล์ฟชายูระดับเมเจอร์เพียงรายการเดียว จากทั้งหมด รายการ ที่ผู้เข้าร่วมจะต้องได้รับคําเชิญเท่านั้น และจะจัดขึ้นที่สนามเดียวกัน ทุกปี ในฐานะพันธมิตรของการแข่งขัน Rolex ได้สนับสนุนการรักษาประเพณีการแข่งขัน และความเป็นเลิศนีมาตั้งแต่ปี 1999
ปีนี้เป็นการแข่งขันครั้งที่ 89 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-13 เมษายน และจะเป็นการฉลอง ครบรอบ 3 เหตุการณ์สําคัญสําหรับสมาชิกในครอบครัว Rolex ได้แก่ การครบรอบ 10 ปีที่ จอร์แดน สปีธ (Jordan Spieth) คว้ากรีนแจ็คเก็ตอันทรงเกียรติ (ปี 2015) การครบรอบ 20 ปีที่ ไทเกอร์ วูดส์ (Tiger Woods) คว้าแชมป์มาสเตอร์สสมัยที่ 4 (ปี 2005) ด้วยช็อตประวัติ ศาสตร์ที่หลุม 16 ที่โด่งดัง และการครบรอบ 40 ปีที่ เบอร์นาร์ด ลังเกอร์ (Bernhard Langer) คว้าแชมป์มาสเตอร์สครั้งแรก (ปี 1985) โดย Bernhard Langer ซึ่งเป็นแชมป์ มาสเตอร์ส 2 สมัยและอดีตมือ 1 ของโลก จะปิดฉากอาชีพที่น่าทึ่งของเขาที่สนามออกุสต้า เนชันแนล ซึ่งเขาได้เข้าร่วมการแข่งขันมาสเตอร์สมาแล้วถึง 40 ครั้ง และเป็นสมาชิกทีม ยุโรปในการแข่งขัน Ryder Cup 10 ครั้ง และสามารถคว้าแชมป์มาได้ 5 ครั้ง และยังเคยทํา หน้าที่เป็นกัปตันที่ไม่ลงเล่นของทีมยุโรปที่ชนะในปี 2004 ด้วย
เมื่อพูดถึงความรู้สึกของเขากับการแข่งขันมาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ Jordan Spieth กล่าว ว่า "ชัยชนะในเมเจอร์ครั้งแรกของผมน่าจะเป็นความทรงจําที่พิเศษที่สุด มันเป็นความฝันที่ ผมตั้งเป้ามาตั้งแต่เด็ก ที่อยากจะคว้าแชมป์เมเจอร์ และรายการมาสเตอร์สก็เป็นทัวร์นา เมนต์ที่ผมชอบที่สุด ผมคิดว่ามันย้อนกลับไปถึงการได้เห็น Tiger คว้าชัยที่นั่น การเติบโตใน อเมริกา มันเหมือนกับการมองซูเปอร์โบวล์ของกอล์ฟ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของกีฬาของเรา ประวัติศาสตร์ของสนามกอล์ฟและวิธีที่มันได้รับการดูแลรักษา การห้ามไม่ให้ใครเข้าไปใน เขตที่มีเชือกกัน และห้ามถ่ายภาพ ทําให้รายการนีแตกต่างจริงๆ”
สกอตตี้ เชฟเฟลอร์ (Scottie Scheffler) ซึ่งเป็นสมาชิกครอบครัว Rolex Testimonee จะ กลับมาป้องกันตําแหน่งแชมป์ของเขาหลังจากคว้ากรีนแจ็คเก็ตเป็นครั้งที่สองในระยะเวลา เพียงสามปี เมื่อเดือนเมษายน 2024 นักกอล์ฟชาวอเมริกันผู้นี้มีปีที่น่าทึ่งด้วยความสําเร็จที่ โดดเด่นมากมาย รวมถึงการเป็นนักกอล์ฟคนแรกที่ชนะการแข่งขัน PGA TOUR” ได้ถึงเจ็ด ครั้ง นับตั้งแต่ Tiger Woods ทําได้ในปี 2007 และการคว้าแชมป์ FedEx Cup และหาก Scheffler ประสบความสําเร็จในการป้องกันตําแหน่งแชมป์ที่สนามออกุสต้า เนชันแนล กอล์ฟ คลับ เขาจะทําสถิติเทียบเท่ากับ Jack Nicklaus ซึ่งเป็นสมาชิก Rolex Testimonee อีกท่านหนึ่ง ในฐานะนักกอล์ฟที่ชนะทัวร์นาเมนต์อันทรงเกียรตินี้ถึงสามครั้งในสี่ปี
เมื่อกล่าวถึงชัยชนะในปีที่แล้ว Scottie Scheffler ระบุว่า "เพราะมันคือรายการมาสเตอร์ส มันจึงมีบางสิ่งที่พิเศษเสมอ เมื่อคุณเติบโตที่นี่ในสหรัฐอเมริกา นั่นคือการแข่งขันลําดับแรก ที่เราหมายตาไว้ – กับประวัติศาสตร์ของทัวร์นาเมนต์นี้ สนามกอล์ฟ ออกุสต้า เนชันแนล และการเล่นในสนามกอล์ฟเดียวกันทุกปี คุณแค่ฝันถึงโอกาสที่จะได้เล่นในทัวร์นาเมนต์นั้น และมีโอกาสที่จะชนะมัน"
การคว้าชัยชนะในรายการ มาสเตอร์ส ถือเป็นหนึ่งในความสําเร็จสูงสุดในกีฬากอล์ฟ ซึ่ง บ่อยครั้งถือว่าเป็นจุดสูงสุดของกอล์ฟ มันต้องอาศัยความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งในการ แสวงหาความเป็นเลิศ ความมุ่งมั่นที่จะเป็นที่หนึ่ง และความทุ่มเทในการพัฒนาอย่าง ต่อเนื่อง ซึ่งทําให้ Rolex เป็นพันธมิตรที่สมบูรณ์แบบ ผู้ชนะจะได้รับคําเชิญเข้าร่วมการ แข่งขันอันทรงเกียรตินี้ตลอดชีวิต รายการเดอะ มาสเตอร์ส ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในเรื่อง เกียรติยศและประวัติความเป็นมาอันยาวนาน ความเป็นเลิศในระดับสูงสุด โดดเด่นในด้าน ชื่อเสียงและประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ได้รับการยกย่องเรื่องสภาพสนามที่สวยงาม ตั้งแต่ กรีนทีได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันไปจนถึงทางเดินที่เรียงรายไปด้วยต้นอาซาเลีย ทุก รายละเอียดที่สนามออกุสต้า เนชันแนล กอล์ฟ คลับ สะท้อนถึงชื่อเสียงของทัวร์นาเมนต์ใน ด้านความแม่นยําาและความเป็นเลิศ
สมาชิกคนอื่นๆ ของครอบครัว Rolex ที่หวังจะท้าชิงและคว้าแชมป์เมเจอร์แรกของพวกเขา ได้แก่ นักกอล์ฟสวีเดนที่มีพรสวรรค์อย่าง ลุดวิก อาเบิร์ก (Ludvig Åberg) ซึ่งจะพยายาม สร้างผลงานจากการจบอันดับที่สองในทัวร์นาเมนต์เมื่อปีที่แล้ว และ วิกเตอร์ ฮอฟแลนด์ (Viktor Hovland) ซึ่งจะเข้าร่วมการแข่งขันที่สนามออกุสต้า เนชันแนล กอล์ฟ คลับ นี้ เป็น ครั้งที่หก และได้รับเกียรติเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นที่ดีที่สุด (Low Amateur Honors) ในปี 2019 ในฐานะเป็นนักกอล์ฟนอร์เวย์คนแรกที่เข้าร่วมการแข่งขันมาสเตอร์ส และนักกอล์ฟ ที่เป็น Rolex Testimonee ท่านอื่นๆ เช่น คีแกน แบรดลีย์ (Keegan Bradley), เจสัน เดย์ (Jason Day), ไบรสัน เดอแชมโบ (Bryson DeChambeau), โธมัส เดตรี (Thomas Detry), นิค ดันแล็ป (Nick Dunlap), แมตต์ ฟิตซ์แพทริก (Matt Fitzpatrick), ซุงแจ อิม (Sungjae Im), บรูคส์ เคปก้า (Brooks Koepka), คอลลิน โมริคาวา (Collin Morikawa), โฮอาคิน เนีย แมน (Joaquin Niemann) และจัสติน โธมัส (Justin Thomas) ก็จะร่วมชิงชัยเช่นเดียวกับ อดีตแชมป์ เฟร็ด คัพเพิลส์ (Fred Couples) (1992), ฮิเดกิ มัตสึยามะ (Hideki Matsuyama) (2021), ฟิล มิคเคลสัน (Phil Mickelson) (2004, 2006, 2010), โฆเซ่ มาเรีย โอลาซาบัล (José Maria Olazábal) (1994, 1999), จอน ราห์ม (Jon Rahm) (2023) และอดัม สก็อต (Adam Scott) (2013)
ศึกเดอะ มาสเตอร์ส ยังมีส่วนสนับสนุนการพัฒนากีฬากอล์ฟ ด้วยการสนับสนุนการแข่งขัน ของนักกอล์ฟมือสมัครเล่น ได้แก่ รายการ Augusta National Women's Amateur ซึ่งจัด ขึ้นครั้งแรกในปี 2019 โดยมีนักกอล์ฟสมัครเล่นหญิงชั้นนําของโลกเข้าร่วมการแข่งขัน อาทิ Rose Zhang สมาชิกของ Rolex Testimonee ที่คว้าแชมป์ในปี 2023 ก่อนที่จะเทิร์นโปร หลังจากนั้นไม่นาน โดยได้คว้าชัยสองครั้งใน LPGA Tour จนถึงปัจจุบัน การแข่งขันในปีนี้จะ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-5 เมษายน โดยรอบสุดท้ายจะเล่นที่สนามออกุสต้า เนชันแนล กอล์ฟ คลับ นอกจากนี้ การแข่งขันมาสเตอร์สยังสนับสนุนการแข่งขันชิงแชมป์สมัครเล่นสําคัญ รายการอื่นๆ เช่น Asia-Pacific Amateur Championship และ Latin America Amateur Championship ซึ่งแสดงให้เห็นถึงขอบเขตและการเข้าถึงทั่วโลกของมันในวงการกอล์ฟ
ความสัมพันธ์ของ Rolex กับกีฬากอล์ฟย้อนกลับไปถึงปี 1967 เมื่อ Arnold Palmer ร่วมกับ เพื่อนสนิทและสมาชิก The Big Three เช่น Nicklaus และ Gary Player ได้เข้าร่วมเป็น Rolex Testimonee คนแรกๆ ของ Rolex และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การมีส่วนร่วมของ Rolex ในกีฬากอล์ฟก็ได้แผ่ขยายออกไปอย่างมาก โดยขยายการสนับสนุนในทุกระดับของกีฬา ทั้ง นักกอล์ฟชั้นนําและสมัครเล่น หน่วยงานที่ดูแล และทัวร์นาเมนต์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในปฏิทิน การแข่งขันกอล์ฟ
เกี่ยวกับ ROLEX และ GOLF
Rolex เฉลิมฉลองความสําเร็จของมนุษย์ ด้วยการยกย่องเส้นทางที่เต็มไปด้วยความท้าทายและ อารมณ์ความรู้สึก ที่นําไปสู่ช่วงเวลาแห่งความสําเร็จจากการตัดสินใจเลือกเส้นทางเดินของ ตัวเอง ที่ไม่ใช่เพียงแค่ถ้วยรางวัล ตลอดเกือบ 60 ปีแล้วที่ Rolex ได้ร่วมสร้างตํานานอันยั่งยืน กับวงการกอล์ฟ ผ่านความร่วมมือกับนักกีฬาระดับแนวหน้า รายการแข่งขันระดับโลก และ องค์กรชั้นนํา พร้อมยกระดับมาตรฐานแห่งความเป็นเลิศในทุกกิจกรรมที่แบรนด์ได้มีส่วนร่วม ความร่วมมืออันยาวนานนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 1967 เมื่อ Arnold Palmer ร่วมกับ Jack Nicklaus และ Gary Player ก้าวขึ้นเป็นนักกอล์ฟกลุ่มแรกที่ได้รับเกียรติเป็น Rolex Testimonee ผู้เล่น ระดับนํานานทั้งสามคนนี้เป็นที่รู้จักในนาม The Big Three ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของวงการกอล์ฟ ไปตลอดกาล การเป็นพันธมิตรกับ Rolex ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐาน ความมุ่งมั่นที่มีร่วมกัน คือเพื่อพัฒนาเกมการเล่นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความแม่นยําที่ไม่ เปลี่ยนแปลง ตั้งแต่นั้นมา ความร่วมมือนี้ก็เติบโตขยายขอบเขตออกไป แทรกซึมอยู่ในเกมการ แข่งขันทุกระดับทั่วโลก ตั้งแต่การแข่งขันของนักกอล์ฟฝีมือชั้นยอดและระดับตํานาน ไปจนถึง การแข่งขันชิงแชมป์ระดับเมเจอร์ทุกรายการ ซึ่งความสําเร็จที่ผ่านมาตอกย้ําถึงการประสบ ความสําเร็จขั้นสูงสุดในกีฬานี้ เช่นเดียวกับทัวร์นาเมนต์ระดับมืออาชีพชั้นแนวหน้า และการ แข่งขันชิงแชมป์ระดับมือสมัครเล่นทั่วโลก ซึ่งมีชื่อของ Rolex ปรากฏอยู่เสมอ
Rolex มุ่งมั่นสนับสนุนการแข่งขันกอล์ฟระดับมือสมัครเล่นอย่างเต็มที่ และค่านิยมของแบรนด์ ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนการแข่งขันกอล์ฟสมัครเล่นระดับชั้นนําทั่วโลก การสนับสนุนกีฬากอล์ฟ ของ Rolex นั้นหล่อหลอมจากความซื่อตรงและการเคารพต่อขนบปฏิบัติที่ส่งเสริมความ เชี่ยวชาญและการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้คงอยู่ต่อไป ตลอดจนความเข้าใจถึงความสําคัญใน การลงทุนส่งเสริมเพื่อพัฒนาวงการกีฬาให้ยั่งยืนสําหรับคนรุ่นต่อไป
เกี่ยวกับ ROLEX
กิตติศัพท์ด้านคุณภาพและความเชี่ยวชาญที่เหนือชั้น
Rolex คือผู้ผลิตนาฬิกาแบบบูรณาการอย่างอิสระจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีสํานักงาน ใหญ่ตั้งอยู่ที่นครเจนีวา ซึ่งแบรนด์มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านความเชี่ยวชาญและคุณภาพของ ผลิตภัณฑ์อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเลิศ ความสง่างาม และคุณค่าอันทรงเกียรติ กลไก นาฬิกา Oyster Perpetual และ Perpetual ผ่านการรับรองจาก COSC ก่อนเข้าสู่การทดสอบ อย่างเข้มข้นภายในองค์กรเพื่อพิสูจน์ความเที่ยงตรง ประสิทธิภาพ และความทนทานสูงสุด การ รับรองสถานะ Superlative Chronometer สามารถสังเกตได้จากตราสัญลักษณ์สีเขียว เพื่อเป็น การรับประกันว่านาฬิกาทุกเรือนผ่านการทดสอบเฉพาะโดย Rolex ภายในห้องปฏิบัติการของ แบรนด์ตามเกณฑ์อันเข้มงวดที่กําหนดขึ้น ซึ่งจะได้รับการประเมินโดยองค์กรอิสระจากภายนอก อยู่เป็นระยะ เพื่อให้มั่นใจว่า Rolex ยังคงเป็นมาตรฐานสูงสุดแห่งเรือนเวลา
คําว่า “Perpetual” ที่ปรากฏอยู่บนนาฬิกา Rolex Oyster ทุกเรือนนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่คําที่ สลักอยู่บนหน้าปัดนาฬิกา หากแต่หมายถึงปรัชญาที่หล่อหลอมวิสัยทัศน์และค่านิยมของบริษัท เข้าไว้ด้วยกัน Hans Wilsdorf (ฮันส์ วิลส์ดอร์ฟ) ผู้ก่อตั้งบริษัท ได้บ่มเพาะแนวคิดของความเป็น เลิศอย่างยั่งยืน ที่ผลักดันให้เกิดการพัฒนาก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ และเป็นจุดกําเนิดของ นวัตกรรมการผลิตนาฬิกาที่สําคัญของ Rolex อีกมากมาย อาทิ รุ่น Oyster นาฬิกาข้อมือรุ่น แรกของโลกที่กันน้ําได้ ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 1926 และกลไกไขลานอัตโนมัติ Perpetual rotor ที่ Rolex คิดค้นขึ้นในปี 1931 ทั้งนี้ Rolex ได้จดสิทธิบัตรมาแล้วกว่า 600 ฉบับตลอดช่วง ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของแบรนด์ ที่โรงงานทั้งสี่แห่งในสวิตเซอร์แลนด์ แบรนด์ได้ออกแบบ พัฒนา และผลิตชิ้นส่วนสําคัญของนาฬิกาเอง นับตั้งแต่การหล่อส่วนทองอัลลอย การประกอบ กลไก การประดิษฐ์ด้วยฝีมือเชิงช่าง การประกอบตัวเรือน และการเก็บรายละเอียดของกลไก ตัวเรือน หน้าปัด และสายนาฬิกา นอกจากนี้ Rolex ยังมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องที่จะมีส่วนร่วมใน การสนับสนุนผลงานด้านศิลปะและวัฒนธรรม กีฬา การสํารวจ ตลอดจนบุคคลผู้ทุ่มเทในการ แสวงหาแนวทางเพื่ออนุรักษ์โลกใบนี้ให้ยั่งยืน
25 มี.ค. 2568
24 มี.ค. 2568
18 มี.ค. 2568
19 มี.ค. 2568