Last updated: 10 เม.ย 2568 | 560 จำนวนผู้เข้าชม |
ในช่วงเวลาอันเงียบสงบที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าและภาพท้องฟ้าที่กำลังหลอมรวมเข้ากับท้องทะเล นำมาซึ่งสีสันที่ดูนุ่มนวลขึ้น เงามืดที่เริ่มทอดยาว และความรู้สึกราวกับเวลาหยุดนิ่ง ความเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศในช่วงเวลานี้ ซึ่งเป็นขณะเวลาที่ไม่ใช่กลางวันหรือกลางคืน เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เรือนเวลา แวงการ์ด สฟูมาโต สลิม (Vanguard Sfumato Slim) คอลเลกชั่นที่เกิดจากบทกวีแห่งแสงสนธยาและมรดกแห่งมนต์เสน่ห์ของชายฝั่งในอิตาลี ซึ่งถ่ายทอดความงดงามของการเคลื่อนไหวอย่างสงบนิ่ง
ลักษณะเด่นของหน้าปัด คือ การตกแต่งด้วยการไล่เฉดสีอย่างนุ่มนวล ซึ่งชวนให้นึกถึงศิลปะยุคเรอเนซองส์ที่เรียกว่า สฟูมาโต (Sfumato) ภาษาอิตาลีซึ่งหมายถึง ‘หายไป’ หรือ ‘อ่อนลง’ เทคนิคเช่นนี้ทำให้ปรมาจารย์อย่าง ลีโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci) มีชื่อเสียง ด้วยการใช้โทนสีเข้มที่จัดวางพื้นที่อย่างมีกลยุทธ์เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดู ‘มัวหมอง’ โดยไร้ซึ่งเส้นสายที่แข็งกร้าวใด ๆ เฉกเช่นเดียวกับภาพในภาพยนตร์คลาสสิกที่พื้นที่ส่วนขอบจะค่อย ๆ เข้มขึ้นเพื่อดึงดูดสายตาให้มองไปยังพื้นที่ส่วนกลาง โทนสีที่ซีดจางของหน้าปัดกระทำขึ้นได้โดยใช้เทคนิคการลงสีด้วยการทาแลคเกอร์หลายชั้น ซึ่งช่วยเชิญชวนให้เพ่งความสนใจไปสู่ความเงียบสงบที่ได้รับการไตร่ตรองมาเป็นอย่างดี
เมื่อสวมอยู่บนข้อมือ เอฟเฟกต์นี้จะให้ความรู้สึกราวกับมีควันลอยผ่านดั่งภาพในความฝัน เหมือนกับแสงอาทิตย์ยามพลบค่ำเหนือหลังคาบ้านเรือนที่ชายฝั่ง อมาลฟี (Amalfi) หรือหมอกเหนือผิวทะเลที่ทอดยาวผ่านหน้าผาที่เมือง ซิงเกว เตร์เร (Cinque Terre) นี่ไม่ใช่แค่ประสบการณ์ทางสายตา แต่เป็นอารมณ์ความรู้สึก ภาพปรากฎอันงดงามดั่งบทกวีนี้บรรจุมาในตัวเรือน แวงการ์ด ดีไซน์หรู ขนาดกว้าง 41 มิลลิเมตร ยาว 49.95 มิลลิเมตร และมีความหนา 9.1 มิลลิเมตร ที่ทำให้สวมใส่ได้สบายข้อมือ สัดส่วนต่าง ๆ ได้รับการสร้างสมดุลอย่างพิถีพิถัน รูปลักษณ์ที่เรียบง่ายและสง่างามเป็นดั่งกรอบที่ส่งเสริมให้หน้าปัดดูโดดเด่น และไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่ใช้ตัวเรือนโรสโกลด์ หรือสเตนเลสสตีล เรือนเวลานี้ก็ถือเป็นจุดบรรจบของกลไกจักรกลชั้นยอดและการออกแบบที่แสนประณีต ที่ซึ่งนวัตกรรมถูกบรรจุไว้ภายใต้รูปลักษณ์ภายนอกที่สง่างาม
หน้าปัดถูกแทนที่ตัวเลขแบบปกติด้วยดีไซน์หลักชั่วโมงที่ดูทันสมัย เพื่อเน้นความงดงามของการไล่เฉดสี โดยแสงจะสะท้อนกับพื้นผิวอย่างละเอียดอ่อน เผยให้เห็นพื้นผิวและโทนสีที่เปลี่ยนไปไม่ซ้ำเดิมได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งทุกครั้งที่มองดูก็เสมือนเป็นการบอกเล่าถึงเรื่องราวใหม่ ๆ ในรูปแบบของเงาและเฉดสี
ความงดงามของเรือนเวลาถูกเสริมให้สมบูรณ์ด้วยสายหนังที่เข้ากับสีของหน้าปัดและแนวขอบหน้าปัดอย่างลงตัว โดยสายนี้ถูกติดตั้งผสานเข้ากับตัวเรือน แวงการ์ด อย่างแนบเนียนเพื่อสร้างความต่อเนื่องอย่างสมบูรณ์แบบและทำให้สวมใส่บนข้อมือได้อย่างสบายที่สุด ส่วนแก่นแท้ของเรือนเวลาอันได้แก่ กลไกจักรกลที่เผยให้เห็นงานฝีมืออันประณีตในการตกแต่งได้จากฝาหลังกรุกระจกใส การมองเห็นงานตกแต่งอย่างงดงามของกลไกช่วยยกระดับความชื่นชมในงานศิลปะ และทำให้เรือนเวลาทุกเรือนเป็นผลงานชิ้นเอกอันทรงคุณค่าทั้งภายนอกและภายใน
แวงการ์ด สฟูมาโต สลิม เป็นมากกว่าเครื่องบอกเวลาเพราะเป็นชิ้นงานที่สะท้อนถึงแสง เวลา และศิลปะ ซึ่งสามารถบันทึกช่วงเวลาอันแสนสั้นที่ทุกอย่างค่อย ๆ จางหายจนกลายเป็นเพียงร่องรอยของกาลเวลา แต่ในขณะเดียวกันก็กลายเป็นภาพที่ยากจะลืมเลือนด้วย
กลไก
การขับเคลื่อนรับหน้าที่โดยกลไกขึ้นลานอัตโนมัติ 2 ทิศทาง พลังงานสำรอง 40 ชั่วโมง ที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนจำนวน 195 ชิ้น ร่วมกันแสดงชั่วโมงกับนาทีด้วยเข็มกลาง และแสดงวินาทีด้วยเข็มขนาดเล็กที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา โดยมีการตกแต่งชิ้นส่วนต่าง ๆ มาอย่างประณีตงดงาม ทั้งลาย โกตส์ เดอ เฌอแนฟ (Côtes de Genève) บนสะพานจักร แผ่นโรเตอร์ และแท่นเสริม ลายขัดวนแบบ เพอร์ลาจ (Perlage) บนแท่นกลไก แนวปาดเอียงที่ส่วนขอบของแผ่นโรเตอร์ ผิวขัดเงาบนส่วนแนวลาดของอ่างรองกับสะพานจักร ลายขัดแบบหอยทากบนเฟือง และลายซันเรย์บนโรเตอร์ กรงลูกปืน และฝาครอบตลับลาน
สายแบบอินทีเกรเตด
แทนที่จะใช้เทคนิคการยึดสายด้วยท่อนสปริงในแบบเดิม ๆ สายสำหรับนาฬิการุ่นนี้กลับผสานเข้ากับตัวเรือนได้อย่างแนบเนียนโดยใช้สกรู 2 ชิ้นที่มองไม่เห็นจากภายนอก ส่งผลให้สายกับตัวเรือนดูเชื่อมต่อกันอย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังได้รับการตกแต่งด้วยแนวด้ายเย็บที่พิถีพิถันตลอดแนวริมของสาย ซึ่งทำให้สายมีความทนทานและดูสวยงาม การผสมผสานระหว่างการตกแต่งและงานฝีมือที่พิถีพิถันเช่นนี้ทำให้สายแบบอินทีเกรเตด (Integrated) ประสานเข้ากับตัวเรือนโดยสมบูรณ์ซึ่งให้ทั้งความสบายต่อการสวมใส่และมีความสวยงามที่ดึงดูดสายตา
เกี่ยวกับ เฮาส์ ออฟ แฟรงค์ มุลเลอร์
เฮาส์ ออฟ แฟรงค์ มุลเลอร์ (House of Franck Muller) ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1991 โดยช่างนาฬิกาชั้นครู แฟรงค์ มุลเลอร์ (Franck Muller) ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตนาฬิกาและนักธุรกิจ วาร์ทัน เซอร์เมกส์ (Vartan Sirmakes) โดยเป็นหนึ่งในบริษัทนาฬิกาอิสระที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในการประดิษฐ์เรือนเวลาร่วมสมัย โดย แฟรงค์ มุลเลอร์ นั้นเลื่องชื่อในด้านความประณีตในการสร้างสรรค์กลไกจักรกลสุดพิเศษที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน และส่วนใหญ่ยังเป็นนวัตกรรมกลไกที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ที่พัฒนาและผลิตขึ้นภายในโรงงานของตน ณ หมู่บ้าน เกนท์ออด (Genthod) ในเมืองเจนีวา หรือที่รู้จักกันในชื่อ วอทช์แลนด์ (Watchland) ด้วยความสำเร็จจากการเปิดตัวผลงานที่เป็นครั้งแรกของโลกและสิทธิบัตรมากกว่า 50 ฉบับ แฟรงค์ มุลเลอร์ ได้สร้างสีสันด้วยประดิษฐกรรมเวลาชิ้นเอกของโลก ที่ได้รับความชื่นชมจากผู้คนที่สนใจและหลงใหลในเรือนเวลา รวมถึงเหล่าคนดังจากทั่วโลก เช่นเดียวกับผลงานการออกแบบอันเป็นการสะท้อนถึงความก้าวหน้าและความล้ำสมัยทางเทคนิคซึ่งมอบให้กับประวัติศาสตร์การประดิษฐ์เรือนเวลาชั้นสูง
24 เม.ย 2568
22 เม.ย 2568
22 เม.ย 2568
23 เม.ย 2568