Last updated: 21 เม.ย 2568 | 247 จำนวนผู้เข้าชม |
Van Cleef & Arpels
เมซงอันถือกำเนิดจากความรัก
เรื่องราวของ Van Cleef & Arpels เริ่มต้นขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1895 หลังการสมรสระหว่างอัลเฟร็ด แวน คลีฟกับเอสเธอร์ (หรือ “เอสแต็ลล์” ในภาษาฝรั่งเศส) อารเปลส์ เพราะทั้งคู่ต่างมาจากครอบครัว ซึ่งดำเนินธุรกิจเครื่องประดับ และการค้ารัตนชาติ ด้วยเหตุนั้น จึงเป็นเรื่องปรกติวิสัยอย่างยิ่งที่ในปีค.ศ. 1906 เมซงผู้ผลิตเครื่องประดับชั้นสูง และนาฬิกาข้อมือ Van Cleef & Arpels จะถูกก่อตั้งขึ้น ณ อาคารเลขที่ 22 จัตุรัสว็องโดมใจกลางมหานครปารีส
ตลอดเวลานับจากก่อตั้ง ความรักถือเป็นพลังหล่อเลี้ยงความเป็นเลิศในการใช้ความคิดสร้างสรรค์ของเมซงได้อย่างไม่มีวันจบสิ้น ดังปรากฏให้เห็นจากเครื่องประดับรูปหัวใจฝังเพชร ผลงานชิ้นแรก ซึ่งถูกระบุไว้ในบันทึกการขายค.ศ. 1906
นอกจากธรรมชาติ และความเชื่อในโชคลาง ความรักคืออีกแหล่งกำเนิดแรงบันดาลใจสำคัญสำหรับ Van Cleef & Arpels ในฐานะตัวแทนความงดงามของชีวิต นำมาซึ่งการสรรค์สร้างเครื่องประดับพยานรักล้ำค่าหลากรูปแบบอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นช่อดอกไม้สื่อรัก, กามเทพ, นกคู่รัก, ข้อความสื่อรัก หรือกระทั่งเครื่องประดับคู่รัก บรรดาสัญลักษณ์สื่อความหมายแทนใจเหล่านี้ ถูกนำมาใช้ทั้งกับงานเครื่องประดับอัญมณี และนาฬิกาข้อมือตกแต่งรัตนชาติ ก่อกำเนิดเรื่องราวความรักสุดโรแมนติกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนาฬิกา “สะพานแห่งความรัก” รุ่นต่างๆ ในคอลเลกชัน Pont des Amoureux
คอลเลกชันนาฬิกาข้อมือ Poetic Complications
นับตั้งแต่ปีค.ศ. 2006 เมซงสรรค์สร้างนาฬิกาข้อมือระบบซ้อนกลไก (complication watch) ขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนความวิจิตรบรรจงเชิงประดิษฐกรรม นำทักษะ ความชำนาญด้านกลไกบอกเวลามาผสมผสานร่วมกับวัสดุเลอค่าโดยอาศัยความเป็นเลิศของหัตถศิลป์ชั้นสูงฝรั่งเศสมาใช้สรรค์สร้างผลงานขับขานเรื่องราวอันงดงามในชีวิตผ่านรายละเอียดตกแต่งหรูหราบนหน้าปัด
จากภาพวาดร่างแบบครบครันในทุกรายละเอียด ขยายผลไปสู่กระบวนการพัฒนากลไกระบบต่างๆ เพื่อก่อลีลาการเคลื่อนไหวสุดตระการตาให้กับแต่ละผลงาน ในขณะที่กลไกตีเข็มย้อนกลับ (retrograde) ถูกนำมาใช้บอกเวลาอย่างงดงามดุจฝันบนหน้าปัด หุ่นกลขับเคลื่อนตามสั่ง (on-demand animation) ก็เป็นประดิษฐกรรมเล่าเรื่องราวของการนัดพบแสนโรแมนติก ความกล้าเชิงเทคนิคดำเนินไปตามครรลองของการใช้ความคิดสร้างสรรค์ นำมาซึ่งการระดมช่างศิลป์ผู้เปี่ยมพรสวรรค์ เชี่ยวชาญในงานฝีมือแขนงต่างๆ จากงานลงยา, จิตรกรรมย่อส่วน, งานแกะสลัก, งานเจียระไน ไปจนถึงงานฝังรัตนชาติ เป็นอาทิ
ด้วยเหตุนี้ บรรดาเครื่องบอกเวลาแต่ละรุ่น ล้วนหาได้ต่างอันใดจากศิลปะวัตถุเลอค่า สะท้อนถึงศิลปะในการบอกเวลาของ Van Cleef & Arpels ได้อย่างแยบคาย
คอลเลกชัน Pont des Amoureux เรื่องราวของ
“สะพานแห่งความรัก”
ในปีค.ศ. 2010 Van Cleef & Arpels สรรค์สร้างนาฬิกา “สะพานแห่งความรัก” หรือ Pont des Amoureux เรือนแรกขึ้น และผลงานต้นแบบรุ่นนี้ยังเป็นนาฬิกาข้อมือรุ่นแรกจากคอลเลกชัน Poetic Complications ซึ่งอาศัยความวิจิตรบรรจงของกลไกซ้อนระบบขับเคลื่อน สามารถชนะรางวัลจากงาน Grand Prix d’Horlogerie de Genève (กรองด์ ปรีซ์ ดอรลอเชรี เดอ เชอแนฟว) ตั้งแต่นั้นมา ผลงานจากคอลเลกชันนี้ต่างร่วมกันเล่าเรื่องราวของการนัดพบระหว่างหนุ่มสาวคู่รักบนสะพานกลางมหานครปารีส โดยอาศัยการซ้อนระบบระหว่างกลไกเข็มตีกลับบอกชั่วโมง กับกลไกเข็มตีกลับบอกนาทีเพื่อขับเคลื่อนคู่รักจากต่างปลายสะพานให้มาพบ และจูบกันในตอนเที่ยงวัน และเที่ยงคืน ซึ่งอากัปแห่งรักนั้น ราวจะหยุดนิ่งอยู่ประมาณสามนาทีก่อนแต่ละฝ่ายจะแยกจากกัน กลับไปตั้งต้นบอกชั่วโมง และนาทีของรอบใหม่ นอกจากนั้น เพื่อเล่าเรื่องราวของช่วงเวลาอันเปี่ยมความหมายได้ในทุกขณะที่ต้องการ งานประกอบกลไกขับเคลื่อนหุ่นกลตามสั่งคืออีกลูกเล่นซ้อนระบบ อำนวยให้ผู้สวมใส่นาฬิกาสามารถพบกับฉากรักบนสะพานได้อีกเป็นเวลาสิบสองวินาที
สำหรับปีนี้ ผลงานรุ่นใหม่มอบความหรูหราสะกดสายตาด้วยสายคาดเลอค่าสี่แบบ สี่อารมณ์โรแมนติกตามเวลานัดพบของคู่รักท่ามกลางทัศนียภาพชวนฝันบนสะพานกลางมหานครปารีสโดยอาศัยงานออกแบบหน้าปัดต่างเฉดสีถ่ายทอดความงดงามยามอรุณรุ่ง, บรรยากาศสดใสในตอนเช้า, แสงอัสดงบนผืนฟ้า และประกายแสงจันทร์กลางราตรี
ท่ามกลางบรรดารายละเอียดตกแต่งบนหน้าปัด เทคนิคงานฝีมือลงยาผงสีก่อเงาแสงหรือ grisaille (กรีซายล์) สะกดทุกสายตาด้วยความละเมียดละไมดุจจิตรกรรมสีน้ำหลากเฉดเป็นฉากหลังจำลองทัศนียภาพกลางมหานครปารีสก่อผลลัพธ์เชิงมิติทวีความโดดเด่นให้แก่โครงสร้างสะพานประติมากรรมทองคำฉลุลาย พร้อมกันนั้น เทคนิครูปลอกลงยา (enamel decal) เรียงร้อยความต่อเนื่องของเรื่องราวสู่แผ่นแก้วไพลิน (sapphire glass) ฝาหลังตัวเรือนร่วมกับหัตถกรรมสลักทอง
อีกความหรูหราตระการตาของสี่ผลงานรุ่นใหม่คือสายคาดโครงตาข่ายอ่อนช้อย มอบความยืดหยุ่น อำนวยต่อการโอบกระชับรอบข้อมือดุจแถบแพรรองรับงานฝังเพชรสลับไพลินไล่เฉด ในขณะที่ไพลินสีชมพูอ่อนถูกนำมาใช้กับผลงานรุ่น Aube (โอบ) หรือ “แสงอรุณ” ผลงานรุ่น Matinée (มาตีเน) หรือ “แสงเช้า” มอบความกระจ่างสดใสด้วยไพลินสีฟ้า ส่วน Soirée (ซัวเร) ใช้ไพลินสีชมพูเข้มถ่ายทอดความงามของ “แสงอัสดง” และไพลินสีน้ำเงินสื่อถึงความงามยามรัตติกาล “กลางแสงจันทร์” ให้กับรุ่น Clair de Lune (แคลร์ เดอ ลูน)
@vancleefarpels #VanCleefArpels #watchesandwonders2025 #PoetryOf Time #VCAwatch #VCAWatchesandWonders
25 เม.ย 2568
25 เม.ย 2568
25 เม.ย 2568
25 เม.ย 2568