BREGUET Classique Souscription 2025

Last updated: 25 เม.ย 2568  |  170 จำนวนผู้เข้าชม  | 

BREGUET Classique Souscription 2025

ปี 2025 นี้ถือเป็นวาระพิเศษที่ The House of Breguet ฉลองครบรอบ 250 ปี ด้วยการเผยโฉมนาฬิกาข้อมือ รุ่น Classique Souscription 2025 (คลาสสิค ซูสคริปชั่น 2025) ณ กรุงปารีส เมืองอันเป็นที่ตั้งเวิร์กช็อปของ Abraham-Louis Breguet (อับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์) สถานที่ ซึ่งเป็นต้นกําเนิดแห่งนวัตกรรมเรือนเวลาชิ้นเอก ที่จารึก ชื่อเขาไว้ในประวัติศาสตร์แห่งการประดิษฐ์เรือนเวลา

นับเป็นเรือนเวลารุ่นแรกที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยรูปแบบอันเรียบง่าย ดีไซน์ที่ โดดเด่นด้วยหน้าปัดเคลือบโค้ทติ้งสีขาวบริสุทธิ์ แสดงเวลาอย่างงามสง่าด้วย เข็มนาฬิกาเพียงเข็มเดียว แต่ยังสามารถอ่านค่าได้ชัดเจนอย่างน่าทึ่ง ย้อนกลับไป กว่าสองศตวรรษ นาฬิการุ่นนี้ปรากฏโฉมในแผ่นพับโฆษณาในแบบที่ไม่เคยมี มาก่อนในยุคนั้น และในวันนี้ นวัตกรรมนาฬิกาพกระดับตํานานอย่าง Souscription ได้ถือกําเนิดขึ้นใหม่อีกครั้งในรูปแบบของนาฬิกาข้อมือ


อับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์ กับวิสัยทัศน์ในการเข้าถึงผู้คนในวงกว้าง
เพื่อหลีกหนีจากความรุนแรงของการปฏิวัติฝรั่งเศส อับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์ จึงได้เดินทางไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในปี 1793 โดยไปพํานักอยู่ที่เมือง Neuchâtel (เนอฌาแตล) และ Le Locle (เลอ ล็อคล์) จนกระทั่งในปี 1795 เขาจึงเดินทางกลับสู่กรุงปารีส เมืองที่เขาเคยก่อตั้ง เวิร์กช็อปขึ้นเมื่อปี 1775 ณ ile de la Cité (อิล เดอ ลา ซิเต้) และได้สร้าง ชื่อเสียงในฐานะช่างนาฬิกาชั้นครู เมื่อกลับมาอีกครั้ง เขาเริ่มฟื้นฟูกิจการ ของตนอย่างจริงจัง พัฒนานวัตกรรมมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือนาฬิการุ่น Souscription อันลือชื่อ

ซึ่งบันทึกแม้คําว่า “Souscription” จะปรากฏอยู่ในบันทึกการขายมาตั้งแต่ปี 1796 ฉบับนี้ปัจจุบันเก็บรักษาไว้อย่างดีที่ Musée Breguet หรือพิพิธภัณฑ์เบรเกต์ ณ place Vendome แต่ที่จริง นาฬิกาเข็มเดี่ยวเรือนนี้เริ่มต้นทําการตล ทําการตลาดตั้งแต่ในปี 1797 เป็นต้นมา โดยเป็นที่รู้จักจากแผ่นพับโฆษณาที่อับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์ ออกแบบขึ้นด้วยตนเอง ผลงานชิ้นนี้โดดเด่นด้วยหน้าปัดขนาดใหญ่ราว 61 มม. หน้าปัดเคลือบโค้ทติ้งสีขาว พร้อมกลไกภายในที่เรียบง่าย แม้หลายคนจะรู้จัก อับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์ ในฐานะสุดยอดผู้สร้างสรรค์นาฬิกา เขาก็ยังเป็นนักธุรกิจ ผู้เปี่ยมวิสัยทัศน์และความสามารถด้วยเช่นกัน ที่มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงนวัตกรรม เชิงพาณิชย์อีกด้วย

หลักการนั้นเรียบง่าย โดยลูกค้าที่ต้องการซื้อนาฬิการุ่นนี้จะต้องยืนยันการสั่งซื้อด้วยการชําระเงินมัดจําจํานวนหนึ่งในสี่ของราคาเต็ม เงินมัดจําดังกล่าวช่วยให้ เวิร์กช็อป Quai de l'Horloge สามารถจัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่จําเป็นต่อการผลิต นาฬิกาได้ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการผลิตแบบต่อเนื่องเป็นครั้งแรก โดยตลอด ระยะเวลากว่า 30 ปี มีนาฬิการาว 700 เรือนที่ผลิตขึ้นตามแนวทางนี้

นาฬิกา Souscription สะท้อนถึงความต้องการของอับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์ ในการ ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น และเปิดประตูสู่โลกแห่ง haute horlogerie หรือ ศิลปะ การประดิษฐ์นาฬิกาขั้นสูง ด้วยเรือนเวลาที่ปฏิวัติทั้งด้านการออกแบบ แนวคิด การผลิต และวิธีการจําหน่ายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในหลายแง่มุม Souscription จึงเป็นเสมือนรากฐานสําคัญที่เบรเกต์ได้ก่อร่างไว้ให้ กับประวัติศาสตร์แห่งเรือนเวลา

เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 250 ปี The House of Breguet เผยโฉมนาฬิกา รุ่น Souscription 2025 ซึ่งเป็นการหลอมรวมศิลปะแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาขอ งสุดยอดนักประดิษฐ์นาฬิกาจากเนอฌาแตล เข้ากับความเชี่ยวชาญแบบร่วมสมัยได้อย่างวิจิตรและลงตัว

 

นาฬิกาเรือนนี้เชื่อมโยงเรื่องราวที่มาที่ไปของ Breguet ที่เราต้องการจะถ่ายทอด สู่เจตจํานง ในการสืบสานประวัติศาสตร์อันล้ําค่านี้ให้คงอยู่สืบไปในอนาคต
Gregory Kissling, CEO
(เกรกอรี คิสลิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร)

 

Classique Souscription 2025
สืบสานความหลงใหลที่ก่อกําเนิดขึ้นในปี 1775
หน้าปัดของรุ่น Souscription 2025 รังสรรค์จากศิลปะเคลือบโค้ทติ้งแบบ grand feu (กรองด์ เฟอ) ในสีขาวงดงาม ซึ่งถ่ายทอดจิตวิญญาณของเรือนเวลาที่เคยรังสรรค์ขึ้น ณ เวิร์กชอป Quai de P'Horloge ได้อย่างครบถ้วน เช่นเรือนหมายเลข 246, 324 และ 383 ด้านหลังตัวเรือนได้รับแรง บันดาลใจโดยตรงจากโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมของนาฬิกา Souscription รุ่นแรกสุดที่ลงนาม โดยอับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์

หน้าปัดงดงามพร้อมฟีเจอร์สุดคลาสสิค
หน้าปัดเคลือบโค้ทติ้งที่งดงามอย่างไร้ที่ติด้วยสุนทรียะอันประณีตนั้น ได้ถ่ายทอดเจตนารมณ์ของสุดยอดแห่งนักประดิษฐ์เรือนเวลา ด้วยดีไซน์เรียบง่ายแต่โดดเด่น จึงสามารถอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจน ณ ใจกลางหน้าปัดคือเข็มนาฬิกาแบบ open-tipped ในแบบฉบับอันเป็นเอกลักษณ์ของ Breguet ที่รังสรรค์ขึ้นโดยการนำเหล็กกล้าไปผ่านกระบวนการรมด้วยเปลวไฟ จนกลายเป็นสีน้าเงิน และขึ้นรูปด้วยมืออย่างพิถีพิถัน ปลายเข็มเรียวบางชี้ไปยังตัวเลขอารบิกในแบบเฉพาะของ Bregue ที่เอียงเล็กน้อยอย่างเป็นเอกลักษณ์พร้อมด้วยวงแหวน “chemin de fer” (รางรถไฟ) รอบนอกที่ออกแบบมาเป็นพิเศษให้แบ่งช่องบอกชั่วโมง และตำแหน่งนาทีที่ 5, 10, 15 และ 30 อย่างชัดเจน โดยตัวเลขและมาร์กเกอร์แสดงนาที รวมถึงลายเซ็น Breguetณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกาทั้งหมดผ่านการเคลือบโค้ทติ้งสีดาด้วยเทคนิค petit feu

ตัวอักษร “Souscription” รวมถึง หมายเลขเฉพาะตัวเรือนและลายเซ็นลับจะปรากฏให้เห็นเมื่อยามต้องแสง ณ บริเวณระหว่างจุดศูนย์กลางของหน้าปัดและตำแหน่ง 6 นาฬิกา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ปรากฏในนาฬิกา Souscription รุ่นดั้งเดิม อันเป็นเครื่องยืนยันว่าเป็นผลงานแท้จากเวิร์กช็อปของ Breguet

และยังเป็นการต่อต้านการปลอมแปลงอีกด้วย โดยกระบวนการนี้ยังคงรังสรรค์ในรูปแบบเดียวกับในยุคของ อับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์ ด้วยเครื่องมือที่มีความแม่นยาสูงมาพร้อมแขนกล ซึ่งก็คือเครื่องแกะสลักแบบ pantograph (พานโทกราฟ) ที่มีหัวสลักทำจากเพชร ซึ่งช่วยให้สามารถสลักรายละเอียดเหล่านี้ได้อย่างละเอียดประณีต ซึ่งเป็นสัญลักษณ์รับรองว่าเป็นนาฬิกาแท้จาก Breguet ซึ่งสลักอยู่บนพื้นหน้าปัดเคลือบโค้ทติ้ง

หน้าปัดกรุด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ทรง chevé (เชเว่) ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่คิดค้นขึ้นโดยอับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์ เช่นกัน กระจกรูปแบบนี้มีลักษณะบางกว่าและโค้งน้อยกว่ากระจกที่ได้รับความนิยมในยุคนั้น โดยมีพื้นผิวค่อนข้างเรียบโค้งลาดไปบรรจบกับขอบตัวเรือน จึงผสานเข้ากับตัวเรือนได้อย่างกลมกลืน นับเป็นแนวทางที่ล้ำหน้าในยุคนั้น โดยรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์นี้ เช่นเดียวกับตัวเลขและเข็มนาฬิกาทรง Breguet ได้กลายมาเป็นหนึ่งในองค์ประกอบทางภาษาทางศิลป์ของนาฬิการ่วมสมัยจวบจนปัจจุบัน

หน้าปัดทองที่ออกแบบขึ้นใหม่
สําหรับนาฬิการุ่น Classique Souscription 2025 นั้น Breguet ได้เปิดตัววัสดุทองอัลลอยด์สูตรเฉพาะของ แบรนด์เป็นครั้งแรก ในชื่อ Breguet gold ซึ่งเป็นโลหะล้ําค่าในเฉดสีทองบลอนด์สง่างาม ที่เกิดจากการ ผสมผสานทองคํา เงิน ทองแดง และแพลเลเดียมเข้าด้วยกัน ตัวเรือนขนาด 40 มม. หนา 10.8 มม. ออกแบบ ขึ้นใหม่ทั้งหมดเพื่อสร้างความแตกต่างจากนาฬิการุ่นอื่นๆ โดยให้ความสําคัญกับหลักสรีรศาสตร์เป็นพิเศษ สไตล์ด้านข้างตัวเรือนสลักเซาะร่องแบบ fluting อันเป็นแบบฉบับเฉพาะตัวของ Breguet ได้เปลี่ยนเป็นการ ขัดค้านแบบซาตินอย่างประณีต เพื่อสะท้อนกลิ่นอายของเรือนเวลาแบบดั้งเดิม ขาสายนาฬิกาออกแบบให้โค้งรับกับข้อมือ เพื่อมอบสัมผัสที่สบายยิ่งขึ้นยามสวมใส่ และสร้างเส้นสายที่ลื่นไหลงดงามกว่ารูปทรงขาตรงแบบดั้งเดิม


Breguet เผยโฉมนวัตกรรม ทองอัลลอยด์ที่คิดค้นขึ้นใหม่
เพื่อฉลองครบรอบ 250 ปี ในปี 2025
นับเป็นการผสานความคลาสสิกกับความร่วมสมัยอย่างลงตัว เฉดสีทองอมชมพูโทนอบอุ่นของวัสดุนี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีของทองคําที่ ช่างนาฬิกาในศตวรรษที่ 18 นิยมใช้ ตามแบบฉบับของอับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์ ซึ่งในยุคนั้น โลหะผสมชนิดนี้มีคุณสมบัติเหนือชั้น ทั้งในด้านความ คงทน ทนทาน และความงดงาม ให้นาฬิกายิ่งทรงคุณค่ามากขึ้น

ทอง Breguet gold 18 กะรัต พัฒนาและผลิตขึ้นภายในเวิร์กชอปของ แบรนด์ โดยประกอบด้วยทองคํา 75% ผสมผสานกับเงิน ทองแดง และ แพลเลเดียม ที่ไม่เพียงเปล่งประกายโดดเด่น แต่ยังมีคุณสมบัติเฉพาะตัว ที่ยากต่อการหมองหรือเปลี่ยนสี และยังมีความคงทนในระยะยาว ช่วยให้ เรือนเวลายังคงความงามสง่างามเหนือกาลเวลา ทุกรายละเอียดออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อชูเอกลักษณ์ของผลงานในแต่ละคอลเลกชันของแบรนด์ โดยให้ความสําคัญกับแง่มุมเชิงสุนทรีย์ศาสตร์และความคงทนเป็นพิเศษ

ในขั้นตอนการออกแบบ หลังจากเลือกโลหะผสมที่สมบูรณ์แบบที่สุด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว Breguet ยังคํานึงถึงว่าวัสดุชนิดนี้จะต้องสามารถรองรับ ศาสตร์ การรังสรรค์นาฬิกาในแขนงต่างๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยเฉพาะ อย่างยิ่งศิลปะการตกแต่งในรูปแบบต่างๆ ทอง Breguet gold จึงเป็น ตัวแทนของความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของแบรนด์ ในการก้าวข้ามขีดจํากัดของ ศาสตร์การประดิษฐ์เรือนเวลาให้ยิ่งเหนือกว่ามาตรฐานที่มีอยู่ พร้อมทั้ง ยกระดับคอลเลกชันรุ่นพิเศษในวาระครบรอบ ให้เป็นสัญลักษณ์ของมรดกอันทรงคุณค่า และการมุ่งพัฒนานวัตกรรมและความเป็นเลิศอย่างไม่หยุดยั้ง



หัวใจแห่งศิลปะกลไก
ด้านหลังตัวเรือนกรุกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ขนาดใหญ่ทรงโค้งเล็กน้อยเผยให้เห็นโครงสร้างกลไกคาลิเบอร์ใหม่ VS00 ที่รังสรรค์ขึ้นจาก ทองเหลืองเคลือบทองในโทนสีเดียวกับ Breguet gold กลไกตกแต่งด้วย ลวดลาย guilloché (กิล โยเช่) รูปแบบใหม่ล่าสุดที่เพิ่งจะเปิดตัวไปในปีนี้ ในชื่อ "Quai de l'Horloge (คเว เดอ ลอว์) ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก เส้นโค้งอันเป็นเอกลักษณ์ของเกาะกลางแม่น้ําแห่งกรุงปารีสอย่าง ile de la Cité และเสน่ห์ทรงเรียวบางของเกาะ Île Saint-Louis ถ่ายทอดออกมาเป็น จังหวะที่งดงามกลมกลืนและสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างไร้ขีดจํากัด ผลงานสร้างสรรค์ใหม่ล่าสุดนี้คือการยกย่องศิลปะการสลักกิลโยเช่ในฐานะงานศิลป์ที่มีชีวิต ซึ่งกลายเป็นศิลปะขั้นสูงด้วยความเชี่ยวชาญของ Breguet โดยมีโครงสร้างของกลไกในนาฬิกา Souscription รุ่นแรกที่ อับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์ ได้สร้างสรรค์ขึ้น เป็นแรงบันดาลใจสําคัญในการ ออกแบบกลไกใหม่นี้

กลไกของนาฬิกาเรือนนี้ คือผลลัพธ์จากกระบวนการพัฒนาอย่างละเอียดพิถีพิถัน ขับเคลื่อนด้วยความถี่ 3Hz (21,600 ครั้งต่อชั่วโมง) พร้อมความสามารถใน การพลังงานสํารองที่ยาวนานอย่างน่าทึ่งถึง 4 วัน จากกระปุกลานเพียงชุดเดียว เท่านั้น หัวใจของความเที่ยงตรงคือบาลานซ์สปริงสีน้ําเงินขนาดเล็กที่บดเป็น วงกลม ออกแบบในสไตล์ Breguet overcoil ซึ่งผลิตจากวัสดุ Nivachron M (นิวาครอน) โลหะผสมที่ไม่ตอบสนองต่อแม่เหล็ก มีไทเทเนียมเป็น ส่วนประกอบหลัก ส่งผลให้กลไกมีความต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงของ อุณหภูมิ สนามแม่เหล็ก และแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม

แพลตและบริดจ์ตกแต่งอย่างประณีต ด้วยเทคนิค shot-blasting เป็นงานตกแต่ง รูปแบบใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจโดยตรงจากกลไกที่อับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์ได้รังสรรค์ขึ้น นอกจากนี้ยังมีการใช้สกรูที่ทําจากบลูสตีลและทับทิมจักรกรอกเพื่อเสริมประสิทธิภาพให้แก่กลไก

ตรงกลางกลไกโดดเด่นด้วยเฟืองหมุนขนาดใหญ่ (ratchet wheel) ที่สลักข้อความ อันทรงคุณค่าจากผู้ก่อตั้ง Breguet ถ่ายทอดถ้อยคําที่อธิบายถึงการออกแบบกลไก Souscription ซึ่งนํามาจากโบรชัวร์โฆษณาของเขา และหยิบยกมาถ่ายทอดด้วย ลายมือแบบตัวเขียนอันเป็นเอกลักษณ์ของอับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์เอง


กล่องรูปโฉมใหม่ที่สื่อถึงทั้งเวลาและความสง่างาม
Breguet เผยโฉมกล่องบรรจุสุดพิเศษที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อฉลองวาระครบรอบ 250 ปีของแบรนด์ ซึ่งสร้างสรรค์ด้วยขนบของงานหัตถศิลป์เครื่องหนัง ชั้นเลิศ โดยได้แรงบันดาลใจจากกล่องหนังสีแดงสไตล์โมร็อคโก ที่อับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์ ใช้เก็บรักษาผลงาน ในอดีต กล่องใหม่นี้ ผลิตจากหนังลูกวัวที่ผ่านการขัดแต่งเล็กน้อย พร้อมประทับลายสีทองคํา เป็นคําว่า “BREGUET 250 YEARS” เคียงข้างหมายเลขประจําตัวเรือนของ เรือนเวลาที่บรรจุอยู่ภายใน

รูปทรงโค้งมนที่ดูนุ่มนวลนี้ออกแบบขึ้นจากความงามเชิงปรัชญาซึ่งสั่งสม ผ่านกาลเวลา กล่องนี้จึงแตกต่างจากกล่องนาฬิการูปแบบดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิงกลไกเปิดปิดได้รับแรงบันดาลใจจากเทคนิคในสมัยของเบรเกต์ ใช้งานง่ายด้วยปุ่มเปิดปิดที่เรียบหรู บานพับตกแต่งด้วยการชุบทอง Breguet gold อย่างประณีต ภายในกล่องบุด้วยผ้าสีนํ้าเงินหรู รองรับเรือนเวลาที่บรรจุใน แนวตั้ง ซึ่งช่วยประหยัดพื้นทีและยังถ่ายทอดจิตวิญญาณของนาฬิกาพกใน อดีตอีกด้วย

ด้านล่างกล่องประดับด้วยโลโก้ Breguet แบบแรกสุดในรูปแบบ “escutcheon” หรือโล่สัญลักษณ์ที่มักพบเห็นบนเสื้อคุลมหรือเสื้อเกราะ นี่ไม่ใช่เพียงกล่องนาฬิกา แต่คือของสะสมที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทาง ประวัติศาสตร์ สะท้อนมรดกเหนือกาลเวลา และความเป็นเลิศด้านการ ประดิษฐ์เรือนเวลาที่สืบทอดมายาวนานหลายยุคสมัย

เกี่ยวกับ Montres Breguet
MontreBreguet ก่อตั้งขึ้นในปี 1775 โดย อับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์ ซึ่งได้สร้างชื่อเสียงจากนวัตกรรมและความเชี่ยวชาญทางด้านศาสตร์การประดิษฐ์นาฬิกา ผู้คิดค้นทั้งกลไก tourbillon (ตูร์บิญง) และ นาฬิกาข้อมือเรือนแรกของโลก, Breguet ได้จารึกชื่อไว้ในหน้าประวัติศาสตร์แห่งเวลา ด้วยผลงานที่หลอมรวมความแม่นยำเข้ากับความงามทางหัตศิลป์ได้อย่างลงตัวตลอดระยะเวลากว่า 250 ปี แบรนด์ยังคงสืบทอดมรดกนี้ไว้ โดยผสมผสานขนบธรรมเนียมดั้งเดิมเข้ากับความร่วมสมัย ปีนี้ถือเป็นวาระพิเศษในการเฉลิมฉลองความเป็นเลิศตลอดหนึ่งในสี่ของสหัสวรรษ และเป็นโอกาสในการย้อนรำลึกถึงอดีต พร้อมกับมุ่งหน้าสร้างสรรค์อนาคตแห่งโลกนาฬิกาต่อไป

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้