TAG HEUER Spring/Summer 2025

การผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างความแม่นยำแบบสวิสและความล้ำสมัยทางเทคโนโลยี โดย TAG Heuer ได้เปิดตัวคอลเลกชันแว่นตา ประจำฤดูกาล Spring/Summer 2025 ซึ่งนิยามความหรูหราใหม่ด้วยนวัตกรรมล้ำหน้าและดีไซน์ร่วมสมัย ถ่ายทอด DNA ของเมซงได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยในฤดูกาลนี้ มุ่งเน้นไปที่แว่นตา 3 รุ่นหลัก ได้แก่ รุ่น “Jack Heuer” ที่ได้แรงบันดาลใจจากความวินเทจ รุ่น “Mini Vingt-Sept” ที่เปี่ยมไปด้วยเทคนิคเฉพาะตัว และรุ่น “Shield Pro” ซึ่งเป็นไลน์สุดไอคอนิกอันโดดเด่นด้านประสิทธิภาพ

ซึ่งแว่นตาคอลเลกชันนี้ได้เฉลิมฉลองแด่วิสัยทัศน์อันล้ำหน้าของ Jack Heuer หลานชายของผู้ก่อตั้งแบรนด์ และหนึ่งในบุคคลสำคัญผู้วางรากฐานให้กับ TAG Heuer เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกผ่านนวัตกรรม ที่กล้าท้าทายขอบเขต รวมถึงการจับมือกับทีมแข่งรถในรายการ Formula 1® อย่าง Ferrari ในยุคปี 1970 ที่ยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เชื่อมโยงกับกีฬามอเตอร์สปอร์ตและวิศวกรรมสมรรถนะสูง นำเมซงไปสู่ยุคทองบทใหม่ของโลกแห่งเรือนเวลา

คอลเลกชัน Spring/Summer 2025 นี้สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งการเป็นผู้บุกเบิกและการอุทิศให้แก่ความแม่นยำด้วยแว่นตารุ่น “Jack Heuer” ที่มาพร้อมกรอบไทเทเนียมทรงนักบิน น้ำหนักเบา พร้อมเลนส์ Chromafade ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากตำนานโลกแห่งมอเตอร์สปอร์ต พร้อมแว่นตารุ่น “Mini Vingt-Sept” ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดทางเทคนิค ด้วยบานพับทรงรีอันประณีต และดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสนามแข่ง ขณะที่แว่นตารุ่น “Shield Pro” นำเสนอความล้ำสมัยด้วยโครงแว่นสไตล์มาสก์ที่ยืดหยุ่น พร้อมเลนส์ถอดเปลี่ยนได้ เหมาะกับนักกีฬา หรือผู้ที่รักการผจญภัยอย่างแท้จริง แว่นตาทั้ง 3 รุ่น ถ่ายทอดแก่นแท้ของ TAG Heuer ได้อย่างสมบูรณ์แบบ มรดกอันทรงคุณค่าเข้ากับนวัตกรรม และของสไตล์กับสมรรถนะ พร้อมวิสัยทัศน์ใหม่อันทรงพลังสำหรับแว่นตาลักชัวรี

ไลน์รุ่น Jack Heuer
เปิดตัวไลน์ของรุ่น “Jack Heuer” ในคอลเลกชันแว่นตา Spring/Summer 2025 เพื่อสดุดีแด่มรดกและบทบาทสำคัญของเขาที่มีต่อ TAG Heuer โดยหนึ่งในผลงานสำคัญของเขาคือการพลิกโฉมการสนับสนุนวงการมอเตอร์สปอร์ต ด้วยการร่วมมือกับ Ferrari ในปี 1971 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่แบรนด์นาฬิกาจับมือกับทีมแข่งในรายการ Formula 1® และกลายเป็นรากฐานความสัมพันธ์ระหว่าง TAG Heuer กับวงการกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่ยังคงแข็งแกร่งจนถึงปัจจุบัน

เพื่อเฉลิมฉลองวิสัยทัศน์อันล้ำหน้าของเขา แว่นตารุ่น “Jack Heuer” มาพร้อมแรงบันดาลใจจากดีไซน์ยุค 1960 ผสมผสานสไตล์สปอร์ตเข้ากับความหรูหรา ผลิตจากไทเทเนียมจากญี่ปุ่นที่มีน้ำหนักเบา เพื่อความทนทานและสวมใส่สบาย กรอบทรงนักบินสุดคลาสสิกจับคู่กับเลนส์ Chromafade ซึ่งไล่เฉดสีแบบงานศิลป์เพื่อเพิ่มเสน่ห์แบบร่วมสมัย พร้อมด้วยโลโก้ TAG Heuer แกะสลักอย่างประณีตและปลายขาแว่นทำจากไบโอไนลอน ช่วยเติมเต็มดีไซน์ที่เรียบหรูแต่โดดเด่น

ไลน์รุ่น Mini Vingt-Sept
สานต่อ DNA ของ TAG Heuer ที่ขึ้นชื่อด้านความแม่นยำแบบสวิสและเทคโนโลยีล้ำหน้า ด้วยแว่นตารุ่น “Mini Vingt-Sept” ซึ่งผลักดันขอบเขตแห่งนวัตกรรมผ่านบานพับดีไซน์ใหม่ ซึ่งพัฒนามาจากรุ่น “Vingt-Sept” เดิม โดยโมเดลใหม่นี้มาพร้อมกับบานพับวงรีอันเรียบหรู ทำจากเหล็กสตีล จับคู่กับขาแว่นไบโอไนลอน เพื่อประสิทธิภาพและความสบายสูงสุด

 แรงบันดาลใจจากโลกแห่งการแข่งขัน แว่นตารุ่นนี้พลิกโฉมบานพับ 27 องศาอันโดดเด่นด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงยิ่งขึ้น กลไกภายในสะท้อนฝีมือการประกอบอันประณีต เช่นเดียวกับกลไกนาฬิกา ในขณะที่กลไกของขาแว่นเลียนแบบเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของประตูรถสปอร์ต เพื่อสื่อถึงรากเหง้าของ TAG Heuer ในโลกของยานยนต์ กรอบทรงสี่เหลี่ยมแบบไร้ขอบมีโลโก้ TAG Heuer สีแดงโดดเด่นบนขาแว่น พร้อมด้วยเลนส์ SPECTA รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นวิวัฒนาการล่าสุดของเลนส์โพลาไรซ์ เพื่อยกระดับการมองเห็นให้เหนือชั้น

ไลน์รุ่น Mini Vingt-Sept
สานต่อ DNA ของ TAG Heuer ที่ขึ้นชื่อด้านความแม่นยำแบบสวิสและเทคโนโลยีล้ำหน้า ด้วยแว่นตารุ่น “Mini Vingt-Sept” ซึ่งผลักดันขอบเขตแห่งนวัตกรรมผ่านบานพับดีไซน์ใหม่ ซึ่งพัฒนามาจากรุ่น “Vingt-Sept” เดิม โดยโมเดลใหม่นี้มาพร้อมกับบานพับวงรีอันเรียบหรู ทำจากเหล็กสตีล จับคู่กับขาแว่นไบโอไนลอน เพื่อประสิทธิภาพและความสบายสูงสุด

แรงบันดาลใจจากโลกแห่งการแข่งขัน แว่นตารุ่นนี้พลิกโฉมบานพับ 27 องศาอันโดดเด่นด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงยิ่งขึ้น กลไกภายในสะท้อนฝีมือการประกอบอันประณีต เช่นเดียวกับกลไกนาฬิกา ในขณะที่กลไกของขาแว่นเลียนแบบเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของประตูรถสปอร์ต เพื่อสื่อถึงรากเหง้าของ TAG Heuer ในโลกของยานยนต์ กรอบทรงสี่เหลี่ยมแบบไร้ขอบมีโลโก้ TAG Heuer สีแดงโดดเด่นบนขาแว่น พร้อมด้วยเลนส์ SPECTA รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นวิวัฒนาการล่าสุดของเลนส์โพลาไรซ์ เพื่อยกระดับการมองเห็นให้เหนือชั้น

แว่นตาสปอร์ต ดีไซน์ล้ำสมัยและโดดเด่น มาพร้อมกรอบยางยืด ที่ให้ความยืดหยุ่นและความสบาย ผลิตจากไบโอไนลอนผสมกราไฟต์รีไซเคิล เพื่อความเบาและทนทาน ด้านหน้าตกแต่งด้วยสัญลักษณ์โลโก้ TAG Heuer  และมีโลโก้ซิกเนเจอร์ที่ขาแว่น แสดงถึงมรดกแห่งความภาคภูมิใจของแบรนด์ แว่นตารุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อผู้ที่กล้าท้าทายใช้ชีวิตด้วยความเร็วสูง และพร้อมลุยในทุกสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นบนเส้นทางภูเขาหรือขณะปั่นจักรยาน มาพร้อมเลนส์แบบถอดเปลี่ยนได้ ปรับใช้งานได้อย่างราบรื่นกับหลากหลาย สภาพแวดล้อม โดยไม่จำเป็นต้องพกแว่นหลายคู่

เกี่ยวกับ TAG Heuer
TAG Heuer ก่อตั้งขึ้นในปี 1860 โดย Edouard Heuer (เอดูอารค์ ฮอยเออร์) ในเทือกเขาฌูรา (Jura Mountains) ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นแบรนด์นาฬิกาหรูที่เป็นส่วนหนึ่งของ LVMH Moet Hennessy Louis Vuitton SE (“LVMH”) กลุ่มสินค้าหรูหราชั้นนำระดับโลก TAG Heuer มีฐานการผลิตอยู่ทีเมือง La Chaux-de-Fonds (ลาโช-เดอ-ฟง) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีฐานการผลิตทั้งหมด 4 แห่ง มีพนักงานจำนวน 1,900 คน และดำเนินธุรกิจใน 139 ประเทศ ผลิตภัณฑ์ของ TAG Heuer มีจำหน่ายทางออนไลน์ที่ www.tagheuer.com สำหรับบางประเทศ และผ่านทางบูติกที่มีอยู่ 260 บูติก และจุดจำหน่าย 2,300 แห่งทั่วโลก นำโดย Antoine Pin, (อองตวน ปิน) – CEO ของ TAG Heuer

ตลอดระยะเวลา 164 ปีของ TAG Heuer ได้แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของการผลิตนาฬิกาไสตล์อวังกาศอย่างแท้จริง และความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งรวมถึงเฟืองแกว่ง (oscillating pinion) ในนาฬิกากลไกระบบจับเวลาในปี 1887 นาฬิกา Mikrograph (ไมโครกราฟX ในปี 1916 กลไกจับเวลาโครโนกราฟอัตโนมัติชุดแรกของโลก คาลิเบอร์ 11 ที่สร้างสรรค์ขึ้นในปี 1969 และนาฬิกาสมาร์ทวอชท์สุดหรูเรือนแรกในปี 2015 ปัจจุบัน คอลเลกชั่นหลักของแบรนด์ประกอบด้วย 3 ตระกูลระดับไอคอนที่ออกแบบโดย Jack Heuer (แจ็ค ฮอยเออร์) ประกอบด้วย TAG Heuer Carrera Monaco และ Autavia และนาฬิกาสไตล์ร่วมสมัยในคอลเลกชัน      TAG Heuer Link, Aquaracer, Formula 1 และ Connected

ตามคำขวัญของ TAG Heuer ทีว่า “Don’t Crack Under Pressure” (ไม่หวั่นไหว แม้อยู่ภายใต้แรงกดดัน) ทั้งพันธมิตรและแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์ที่โดดเด่นล้วนแสดงออกถึงความหลงใหลในกิจกรรมและมีความสามารถสูง

เกี่ยวกับ Thélios
“เธลิออส” เป็นการประสมชื่อของเทพเจ้ากรีก ธีอา เทพีแห่งแสงสว่างและการมองเห็น และ เฮลิออส เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ Thélios เกิดจากความตั้งใจของ LVMH Group ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านความหรูหรา ที่ต้องการสร้างตัวตนในวงการแว่นตา ผลิตและจำหน่ายแว่นกันแดดและกรอบแว่นให้หลากหลายแบรนด์เมซงที่มีชื่อเสียงที่สุด ได้แก่ Dior, Fendi, Celine, Givenchy, Loewe, Stella McCartney, Kenzo, Berluti และ Fred

ด้วย Manifattura (โรงงาน) ซึ่งตั้งอยู่ใน ลอนกาโรเน (Longarone) ประเทศอิตาลี Thélios ผสมผสานเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละ Maison เข้ากับงานฝีมือแบบอิตาลีเพื่อสร้างแว่นตาที่หรูหราสุดพิเศษ Thélios นำเสนอ "รูปลักษณ์อันแจ่มแจ้ง" ของตัวเองในด้านนี้ โดยมอบคุณภาพและความเป็นเลิศในระดับสูงสุดทั้งผลิตภัณฑ์และบริการ

#TAGHeuer @TAGHeuer #TAGHeuer #TAGHeuerThailand
www.tagheuer.com