ROLEX and Mission Blue

ด้วยการสนับสนุนจาก Rolex องค์กรเพื่อการอนุรักษ์มหาสมุทรอย่าง Mission Blue มีความยินดีที่จะประกาศการกำหนดพื้นที่ Hope Spot แห่งใหม่ล่าสุด: แนวระเบียงด้านชีวภาพทางทะเลแห่งโอซา (Biological Marine Corridor of Osa) ซึ่งทำให้วาฬหลังค่อมและเหล่าสัตว์น้ำขนาดใหญ่อื่นๆ มีโอกาสได้ขยายพันธุ์อย่างสงบสุขในน้ำทะเลอันอบอุ่น ณ แหลมโอซา ในคอสตาริกา
National Geographic เคยกล่าวถึงผืนน้ำรอบๆ แหลมโอซา ไว้ว่าเป็น “บริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางชีวภาพมากที่สุดในโลก”

โดย Hope Spot แห่งใหม่นี้มีกลุ่มระบบนิเวศอันหลากหลายที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของเหล่าสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล ซึ่งรวมถึงแนวปะการังในเกาะกาเนียว (Caño Island) ตลอดจนพื้นที่สำคัญในการเพาะพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตทางทะเลหลายสายพันธุ์ รวมถึงป่าชายเลน และหนึ่งในพื้นที่ชุ่มน้ำที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งแปซิฟิกของอเมริกากลาง
ผู้ก่อตั้งโครงการ Mission Blue และ Rolex Testimonee อย่าง Sylvia Earle กล่าวว่า “พื้นที่เหล่านี้ทำหน้าที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์และแหล่งอาหารสำหรับวาฬหลากหลายสายพันธุ์ และสิ่งมีชีวิตอีกนับพัน อย่าง ฉลาม ทูน่า และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่เป็นอาหารของสัตว์อื่นๆ การสนับสนุนการอนุรักษ์โดยสมบูรณ์สำหรับแนวระเบียงที่เปี่ยมไปด้วยชีวิต ณ บริเวณแหลมโอซา เป็นการสร้างคุณประโยชน์มหาศาลให้แก่ทุกชีวิต”

การปกป้องมหาสมุทร

ภายใต้โครงการ Perpetual Planet ทั้ง Mission Blue และ Rolex ต่างมีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องโลกใบนี้ นับตั้งแต่ปี 2014 ทั้งสองได้ร่วมเป็นพันธมิตรในภารกิจที่สร้างแรงบันดาลใจเพื่อทำการสำรวจ ฟื้นฟู และพิทักษ์รักษาบรรดามหาสมุทรของโลก

โครงการ Mission Blue ได้กำหนดพื้นที่ Hope Spot แล้วกว่า 130 แห่ง เพื่อมอบพื้นที่การประชาสัมพันธ์ระดับโลกให้แก่ชุมชนในท้องถิ่นที่ดำเนินโครงการปกป้องทางกฎหมายแก่บริเวณที่สำคัญต่อระบบนิเวศ พื้นที่ซึ่งมีความสำคัญต่อการอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์และพื้นที่ที่ชุมชนต้องพึ่งพาอาศัยสภาพแวดล้อมทางทะเลที่สมบูรณ์ในการดำรงชีวิต ด้วยเครือข่าย Hope Spot ที่มีอยู่ทั่วโลก โครงการ Mission Blue มุ่งหวังที่จะบรรลุเป้าหมายระดับโลกในการปกป้องเหล่ามหาสมุทรให้ได้ถึงร้อยละ 30 ภายในปี 2030