Last updated: 23 ธ.ค. 2565 | 622 จำนวนผู้เข้าชม |
Blancpain Fifty Fathoms เรือนเวลาและประสบการณ์สุดพิเศษจะเกิดขึ้นในช่วง 12 เดือน ซึ่งเกี่ยวข้องกับเลข 70 รวมไปเลข 20 และเลข 10 โดยเลข 70 สื่อถึงการครบรอบ 70 ปีของ Fifty Fathoms เลข 20 สื่อถึงการครบรอบ 20 ปีของ Fifty Fathoms รุ่นยุคปัจจุบัน และ Blancpain Ocean Commitment และสุดท้าย เลข 10 สื่อถึงการครบรอบ 10 ปีของ Gombessa expeditions
“แพชชั่นทำให้เราลืมเวลา” คำกล่าวจาก Jean-Jacques Fiechter ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ Blancpain ช่วงระหว่างปี 1950 ถึง 1980 และด้วยความรู้สึกนี้ในใจทำให้เขามีความฝันถึงนาฬิกาที่แข็งแกร่ง ไว้ใจได้ มีความสามารถในการกันน้ำ และมองเห็นได้อย่างชัดเจน ให้มาเป็นอุปกรณ์คู่ใจใต้น้ำของเขา
และสิ่งที่ถือกำเนิดขึ้นจากการรังสรรค์ของเขาคือ นาฬิกาดำน้ำแบบโมเดิร์นเรือนแรกของโลกซึ่งกลายเป็นนาฬิกาที่กำหนดลักษณะหน้าตาของนาฬิกาดำน้ำทั้งมวลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งนี้อีกหนึ่งแพชชั่นของ Jean-Jacques Fiechter ได้แก่ วรรณกรรม เขาจึงได้ใช้เพลงของ Ariel จากผลงานของ Shakespeare ชื่อ The Tempest มาเป็นแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อให้กับเรือนเวลาเรือนใหม่ที่เพิ่งออกจากเวิร์กชอปของ Blancpain
ช่วงต้นยุค 1950 ทหารของกองทัพเรือฝรั่งเศสสองนายได้แก่ นาวาเอก (Captain) Robert “Bob” Maloubier และเรือเอก (Lieutenant) Claude Riffaud ได้รับมอบหมายให้ทำการจัดตั้งหน่วยรบใต้น้ำของฝรั่งเศสขึ้น โดยหนึ่งในอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นยิ่งแก่เหล่านักดำน้ำคือ นาฬิกา แต่ผลจากการทดสอบนาฬิกาที่มีขายอยู่ทั่วไปในกรุงปารีสตอนนั้นเป็นดั่งหายนะ นาฬิกาเหล่านั้นมีขนาดที่เล็กเกินไป ยากที่จะอ่านเวลาใต้น้ำ และที่เลวร้ายที่สุดคือ มันกันน้ำไม่ได้เลย
หลังจากการพบเจอกับ Jean-Jacques Fiechter ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทหารทั้งสองนายของกองทัพเรือฝรั่งเศสก็จากไปพร้อมกับนาฬิกา Fifty Fathoms เรือนตัวอย่างเพื่อนำไปใช้ในการทดสอบ ผลปรากฏว่านาฬิกาผ่านการทดสอบไปได้อย่างงดงาม กองทัพเรือฝรั่งเศสจึงได้เลือก Fifty Fathoms ให้เป็นนาฬิกาดำน้ำประจำหน่วย หนึ่งปีหลังจากการส่งมอบอย่างเป็นทางการ Claude Riffaud ได้เขียนจดหมายถึง Spirotechnique ผู้จัดจำหน่ายนาฬิกา Blancpain Fifty Fathoms เพื่อแจ้งถึงความพึงพอใจที่เกิดขึ้นของนักดำน้ำประจัญบาน
บันทึก
ถึง ผู้อำนวยการของ SPIROTECHNIQUE
เรือง: นาฬิกากันน้ำ “BLANCPAIN” Fifty Fathoms
อ้างถึง: จดหมายลงวันที่ 3/2/55
ผมขอยืนยันถึงการได้รับนาฬิกา “BLANCPAIN” หมายเลข 166 ของกองทัพเรือฝรั่งเศส โดยผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแจ้งให้คุณทราบว่า ผมมีความรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากในนาฬิการูปแบบนี้ที่พวกเราได้ใช้งานสำหรับการปฏิบัติภารกิจใต้น้ำในช่วงปีที่ผ่านมา
ประสิทธิภาพในการกันน้ำที่เราได้ทดสอบในระดับความลึก 100 เมตรนั้นเป็นไปได้อย่างยอดเยี่ยม การทำงานเป็นไปได้อย่างดียิ่ง และการเรืองแสงก็ตอบโจทย์ตามความต้องการ
ในขณะดำน้ำ นาฬิกาเรือนหนึ่งได้จมหายไปที่ระดับความลึก 53 เมตร และเราพบมันหลังจากนั้น 24 ชั่วโมงในสภาพสมบูรณ์อีกทั้งยังเดินปกติ
ผมยังเห็นถึงความจำเป็นของขอบหมุนได้ซึ่งมีประโยชน์เป็นอย่างมากขณะดำน้ำ
ทั้งนี้มีทหารหลายนายแสดงความจำนงที่จะซื้อนาฬิการูปแบบดังกล่าวเพื่อนำไปใช้ในส่วนตัว จึงขอให้โปรดชี้แนะถึงราคาของนาฬิกาด้วย
เรือเอก RIFFAUD
ผู้บัญชาการหน่วย HUBERT คอมมานโด
เหล่ารูปถ่ายของ Jean-Jacques Fiechter จากปี 1953 แสดงให้เห็นถึงการสวมใส่นาฬิกา Fifty Fathoms ของเขาระหว่างการดำน้ำพักผ่อนบริเวณตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสร่วมกับ Club alpin sous-marin
“อนาคตของเราอยู่ใต้ผืนน้ำ” (“Our future is underwater”) บทความของ Jean-Jacques Fiechter ที่ตีพิมพ์ใน Gazette Littéraire (ฉบับวันที่ 30-31 กรกฎาคม 1955) ความว่า หลังจากที่ได้ผ่านการท่องโลก ได้เดินทางไปยังสถานที่อันเก่าแก่ ได้ปีนภูเขาเอเวอร์เรส ได้บินท่องนภา … บัดนี้ถึงเวลาแล้วสำหรับการสำรวจท้องมหาสมุทร ดินแดนมหัศจรรย์ (wonderland) นี้อยู่ตรงหน้า และเปิดต้อนรับแก่ผู้ที่รู้จักวิธีการมองผ่านกระจก (Through the Looking-Glass) อย่างเช่น Alice
แพชชั่นในการดำน้ำของ Jean-Jacques Fiechter กระตุ้นเขาให้คิดค้นนาฬิกาที่เหมาะสมกับกีฬาชนิดนี้ ประสบการณ์ตรงของเขาในฐานะนักดำน้ำได้นำทางให้เขามีความสามารถในกำหนดคุณสมบัติที่จำเป็นต่าง ๆ ขึ้นมาได้ ตามคำอธิบายของเขา ในยุคดังกล่าว การจะจดสิทธิบัตรได้นั้นต้องกระทำหลังจากที่ตัวสินค้าออกสู่ตลาดแล้ว ดังนั้นสิทธิบัตรชุดแรกของเขาจึงเกิดขึ้นในปี 1954 มีการจดสิทธิบัตรในหลายประเทศให้กับนวัตกรรมทั้งหมดสามรายการได้แก่ ขอบหน้าปัดจับเวลาที่สามารถล็อคได้ ฝาหลังตัวเรือนสองชั้น และวงแหวน “O” ring สองชั้นที่เม็ดมะยม
ด้วยประสิทธิภาพในการกันน้ำ ระบบปะเก็นสองชั้นบริเวณเม็ดมะยม กลไกขึ้นลานอัตโนมัติ หน้าปัดสีเข้มที่ตัดกันอย่างชัดเจนกับสารเรือนแสงที่หลักบอกเวลา ขอบหมุนสำหรับจับเวลาที่ล็อคได้ และคุณสมบัติในการป้องกันสนามแม่เหล็ก ทำให้ Fifty Fathoms กลายเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้สำหรับนักดำน้ำในการปฏิบัติภารกิจใต้ผืนทะเล
Allen Tornek พ่อค้าอัญมณีบนถนนหมายเลข 45 ณ มหานครนิวยอร์คคือบุคคลที่เห็นโอกาสในการจัดหานาฬิกา Fifty Fathoms ให้แก่กองทัพเรือสหรัฐฯ ทั้งนี้ Blancpain ไม่สามารถจัดส่งนาฬิกาได้โดยตรงเนื่องจากไม่ได้เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน ในขณะที่ Tornek สามารถทำได้ และเพื่อจะทำให้ผ่านกฏระเบียบ เขาต้องจัดตั้งห้องปฏิบัติการในประเทศสหรัฐฯเพื่อทดสอบและรับประกันนาฬิกาบนแผ่นดินของสหรัฐฯ Tornek และ Blancpain จึงได้รับสัญญาเพื่อจัดหานาฬิกา และ Fifty Fathoms “Milspec 1” อันโด่งดังก็ได้ถือกำเนิดขึ้นในฐานะนาฬิกาดำน้ำประจำกองทัพเรือสหรัฐฯ
ด้วยความยอดเยี่ยมของ Fifty Fathoms ทำให้นาฬิกาโด่งดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนถูกหน่วยซีล (Seals) หน่วยปฏิบัติภารกิจใต้น้ำแห่งของกองทัพเรือสหรัฐฯเลือกใช้ รวมไปถึงกองทัพเรือเยอรมัน และอิสราเอล นอกเหนือไปจากการใช้งานทางการทหาร เรือนเวลานี้ยังถูกเลือกใช้โดยกลุ่ม GERS ของฝรั่งเศสที่ศึกษาและวิจัยโลกใต้ทะเลโดยมีกลุ่มนักดำน้ำในตำนานของ Jacques-Yves Cousteau ที่สวมใส่นาฬิกา Blancpain Fifty Fathoms ในขณะที่ถ่ายทำภาพยนตร์ระดับรางวัลเรื่อง The Silent World
ช่วงยุค 1980 ถึงยุค 2000 พัฒนาการของ Fifty Fathoms ถูกหยุดไว้ จนกระทั่งการเข้ามาของ Marc A. Hayek ในฐานะผู้นำของ Blancpain เฉกเช่นเดียวกับ Fiechter เมื่อหลายทศวรรษก่อน Hayek เป็นผู้หลงใหลในการดำน้ำเป็นชีวิตจิตใจ เขาค้นพบ Fifty Fathoms เรือนวินเทจภายในห้องนิรภัยของ Blancpain และหลงเสน่ห์ในสิ่งประดิษฐ์ชิ้นเอกของ Fiechter ขึ้นมาทันที นั่นทำให้ Hayek ปฏิญาณว่าเขาจะต้องนำประวัติศาสตร์และประเพณีนี้ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งหนึ่ง
นาฬิกา Fifty Fathoms รุ่นครบรอบ 50 ปีในปี 2003 แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการและความต่อเนื่อง มาพร้อมกับหน้าปัดดีไซน์เดิมจากยุค 1953 ที่มีตัวเลขและหลักชั่วโมงขนาดใหญ่ สะท้อนถึงจิตวิณญาณแห่งการผจญภัย ตัวเรือนยังคงใช้วัสดุสแตนเลสสตีลแต่ในเวอร์ชั่นปี 2003 มีความสามารถในการกันน้ำถึง 300 เมตรหรือประมาณ 165 ฟาธอมส์ เนื่องด้วยการใช้ตัวเรือนแบบขันเกลียว เม็ดมะยมแบบขัดเกลียว และกระจกแซฟไฟร์คริสตัลที่มีความหนา
นอกจากการเปิดตัว Fifty Fathoms รุ่นยุคปัจจุบันแล้ว Blancpain ยังได้เผยถึงโครงการอนุรักษ์มหาสมุทรโครงการแรกของแบรนด์ภายใต้ชื่อ World Shark Project ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของ Fifty Fathoms ในการเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดโลกใต้ท้องทะเล จุดประสงค์ของโครงการร่วมระหว่าง Shark Trust และ PADI Project AWARE ที่สนับสนุนโดย Blancpain นี้คือการดึงกลุ่มนักดำน้ำทั่วโลกให้เข้ามามีส่วนร่วมในการยืนยันตัวตนของเหล่าฉลามวาฬเพื่อช่วยจัดทำข้อมูลที่ครอบคลุมครบถ้วนและนำไปสู่การปกป้องต่อไป
Fifty Fathoms คือแรงขับเคลื่อนที่ทำให้เกิดพันธสัญญาแห่งการอนุรักษ์ท้องทะเลของ Blancpain มันมีบทบาทอย่างใหญ่หลวงต่อการพัฒนาการดำน้ำแบบสคูบาและการค้นพบโลกใต้สมุทร รวมทั้งทำให้ Blancpain เชื่อมต่อกับกลุ่มบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับท้องทะเลได้อย่างใกล้ชิด ความสัมพันธ์นี้ยังถูกพัฒนาให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 70 ปี หนึ่งในความร่วมมือภายใต้โครงการ Blancpain Ocean Commitment คือความร่วมมือกับ Laurent Ballesta นักดำน้ำ นักถ่ายภาพใต้น้ำ และนักชีววิทยาชาวฝรั่งเศส โดย Blancpain ได้เข้ามาสนันสนุนโครงการ Gombessa Expeditions ของเขาตั้งแต่เอดิชั่นแรกในปี 2013
โครงการ Gombessa ของ Laurent Ballesta มุ่งเน้นไปที่การศึกษาสิ่งมีชีวิตและปรากฏการณ์ใต้ทะเลที่พบเจอและอธิบายได้ยากยิ่ง Ballesta และทีมงานของเขาใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจระบบไฟฟ้าแบบพิเศษที่เรียกว่า controlled closed-circuit mixed gas rebreathers ในการลงไปถึงระดับความลึกขั้นสุดเพื่อนำข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ ภาพถ่าย และภาพเคลื่อนไหวกลับขึ้นมา ทุกภารกิจของพวกเขาเต็มไปด้วยความท้าทายทั้งในเชิงเทคนิค เชิงวิทยาศาสตร์ และเชิงศิลป์แห่งธรรมาชาติ
จนถึงวันนี้โครงการสำรวจหลัก ๆ ภายใต้ชื่อ Gombessa ผ่านมาแล้วหกโครงการ (รวมทั้งมีภารกิจใต้ท้องทะเลอื่น ๆ อีกมากมาย) ซึ่งทั้งหมดมี Blancpain อยู่เคียงคู่ โครงการแรกเกิดขึ้นที่มหาสมุทรอินเดียในปี 2013 เพื่อตามหาปลา coelacanth ซึ่งเป็นปลาโบราณยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ครั้งหนึ่งเคยมีคนเชื่อว่าได้สูญพันธ์ไปแล้วเมื่อ 70 ล้านปีก่อน ด้วยความที่ปลา coelacanth มีครีบเป็นพู่ และมี “ปอดแบบโบราณ” (primitive lung) ลักษณะเหล่านี้เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงให้เห็นว่ามันมีชีวิตอยู่ตั้งแต่เมื่อ 370 ล้านปีก่อน อีกทั้งมีต้นกำเนิดแบบเดียวกับสัตว์บกสี่ขา ปลาชนิดนี้มีอยู่น้อยมาก และอาศัยอยู่ลึกลงไป 120 เมตรจากผิวน้ำ มีเพียงไม่กี่ครั้งที่มีคนได้เห็นมันจนกระทั่ง Laurent Ballesta พร้อมกลุ่มนักดำน้ำที่ผ่านการฝึกฝนเป็นพิเศษและนักวิจัยร่วมเดินทางสู่ประเทศแอฟริกาใต้เพื่อถ่ายทำซีรี่ส์เกี่ยวกับการติดตามและทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์กับปลา coelacanth เป็น ๆ ทั้งนี้ในภาษาพื้นเมืองปลา coelacanth จะถูกเรียกว่า “Gombessa” ซึ่งได้กลายเป็นชื่อโครงการของ Ballesta ในเวลาต่อมา
เกี่ยวกับ Fifty Fathoms
เปิดตัวครั้งแรกในปี 1953 Fifty Fathoms คือนาฬิกาดำน้ำรูปแบบโมเดิร์นเรือนแรกที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยนักดำน้ำเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการสำรวจโลกใต้ทะเล มันถูกเลือกใช้โดยนักดำน้ำรุ่นบุกเบิก และเหล่าทหารเรือชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลกในฐานะอุปกรณ์จับเวลาระดับมืออาชีพ ด้วยประสิทธิภาพในการกันน้ำ ระบบปะเก็นสองชั้นบริเวณเม็ดมะยม กลไกขึ้นลานอัตโนมัติ หน้าปัดสีเข้มที่ตัดกันอย่างชัดเจนกับสารเรือนแสงที่หลักบอกเวลา ขอบจับเวลาหมุนได้ทิศทางเดียว และคุณสมบัติในการป้องกันสนามแม่เหล็ก ทำให้ Fifty Fathoms กลายเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้สำหรับนักดำน้ำในการปฏิบัติภารกิจใต้ผืนทะเล
คุณลักษณะที่สำคัญเหล่านี้ทำให้ Fifty Fathoms กลายเป็นดั่งแม่แบบแห่งนาฬิกาดำน้ำของวงการ และแม้จะเต็มไปด้วยข้อพิสูจน์นานับประการจากในอดีตแต่ก็พร้อมที่จะมองไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่ นั่นทำให้ Fifty Fathoms รุ่นยุคปัจจุบันเลือกใช้กลไกสมัยใหม่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งและความเที่ยงตรง มันเต็มไปด้วยนวัตกรรมเชิงเทคนิคอันหลากหลายที่ได้รับมาจากประสบการณ์อันโชกโชนทางด้านการดำน้ำของ Blancpain ความเสี่ยง และความจำเป็นอย่างยิ่งยวด
Fifty Fathoms มีบทบาทอย่างใหญ่หลวงต่อการพัฒนาการดำน้ำแบบสคูบาและการค้นพบโลกใต้สมุทร รวมทั้งทำให้ Blancpain เชื่อมต่อกับกลุ่มบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับท้องทะเลได้อย่างใกล้ชิด ความสัมพันธ์นี้ยังถูกพัฒนาให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 70 ปี Fifty Fathoms คือแรงขับเคลื่อนที่ทำให้เกิดพันธสัญญาแห่งการอนุรักษ์ท้องทะเลของ Blancpain
7 ต.ค. 2567
16 ต.ค. 2567
26 ก.ย. 2567
8 ต.ค. 2567