Last updated: 12 ม.ค. 2567 | 1055 จำนวนผู้เข้าชม |
จุดเริ่มต้นของการก่อกำเนิดแบรนด์นาฬิกาสัญชาติญี่ปุ่นได้เริ่มต้นขึ้นในปี 1924 โดยบริษัทได้เปิดตัวนาฬิกาข้อมือเรือนแรกที่มีโลโก้คำว่า ‘Seiko’ ประทับอยู่บนหน้าปัดและออกจำหน่ายสู่ตลาดและสร้างชื่อให้กับไซโกนับแต่นั้นเป็นต้นมา โดยในปี 2024 ที่จะถึงนี้จึงถือเป็นช่วงเวลาที่มีความพิเศษกับการฉลองครบรอบปีที่ 100
ในช่วงประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของ Seiko นั้นพวกเราต้องฝ่าฟันเพื่อเอาชนะอุปสรรคและความท้าทายมาหลายต่อหลายครั้ง และพวกเราเรารู้สึกขอบคุณสำหรับทุกโอกาสที่ช่วยให้เราเติบโตจากช่วงเวลาที่ผ่านมา และเราสัญญาว่าจะก้าวไปข้างหน้าต่อไปในฐานะแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจ รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในทุกที่ รวมถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มไปจนถึงในอีก 100 ปีข้างหน้า
คอลเลกชั่นเรือนเวลาที่สร้างสรรค์มาเพื่อฉลองการครบรอบ 100 ปีของแบรนด์ Seiko
ในโอกาสเฉลิมฉลองครั้งนี้ จะมีทั้งหมด 9 คอลเลกชั่น ที่จะถูกนำเสนอในโอกาสพิเศษเพื่อการเฉลิมฉลอง โดยจะเริ่มเปิดตัวด้วย 2 คอลเลกชันที่เป็นตำนานสุดเฮอริเทจอย่าง Seiko Presage Kintaro Hattori Limited Edition และ คอลเลกชันที่บรรจุเครื่องไฮเอนด์ กับ Seiko Prospex Marinemaster 1965 Diver’s Modern Re-interpretation Limited Edition
Seiko Brand 100th Anniversary
Seiko Presage Kintaro Hattori Limited Edition
พลังแห่งการสร้างสรรค์เพื่อเป็นเกียรติให้กับนาฬิกาข้อมือเรือนแรกที่ประทับแบรนด์ในชื่อ Seiko เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีของแบรนด์
นับจากการก่อตั้งบริษัทขึ้นในปี 1881 ทาง Seiko ได้มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องซึ่งสอดคล้องกับหลักปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของ Kintao Hattori (คินทาโร่ ฮัตโตริ) ผู้ก่อตั้ง นั่นคือ ‘จงนำหน้าผู้อื่นหนึ่งก้าวเสมอ’ หรือ "Always one step ahead of the rest." จนในปี 1924 บริษัทก็ได้เปิดตัวนาฬิกาข้อมือเรือนแรกที่มีคำว่า ‘Seiko’ ประทับอยู่บนหน้าปัดออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อกำเนิดแบรนด์ ดังนั้น ในปี 2024 จึงถือเป็นช่วงเวลาที่มีความพิเศษกับวาระครบรอบปีที่ 100 การเฉลิมฉลองจะเริ่มต้นขึ้นด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่จากคอลเลกชัน Presage (พรีซาจ)เป็นเรือนแรก เพื่อเป็นการระลึกถึงนาฬิกาเรือนแรกที่ทำให้ไซโกเป็นที่รู้จักในตลาด
การสร้างสรรค์ครั้งใหม่เป็นการดึงเอกลักษณ์ของนาฬิการุ่นดั้งเดิมออกมาใช้ในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวอักษรคำว่า Seiko ในตำแหน่ง 12 นาฬิกา รวมถึงการใช้ตัวเลขอารบิคบนหลักชั่วโมง รูปแบบเดียวกับที่ใช้อยู่ในนาฬิการุ่นดั้งเดิม ซึ่งรายละเอียดของทั้ง 2 ส่วนจะมาพร้อมกับเส้นสายที่มีความสวยงาม และปราดเปรียว เช่นเดียวกับนาฬิการุ่นดั้งเดิมปี 1924 นาฬิการุ่นใหม่มีหน้าปัดแบบอีนาเมล ซึ่งการทำให้หน้าปัดมีมิติและความสวยงามนั้นต้องอาศัยช่างฝีมือระดับปรมาจารย์อย่าง Mitsuru Yokosawa (มิตซึรุ โยโกซาวะ) และเพื่อนร่วมงานของเขาที่เชี่ยวชาญในเทคนิคอีนาเมลที่สั่งสมประสบการณในการผลิตหน้าปัดอีนาเมลมาอย่างยาวนานนั้นเป็นผู้รังสรรค์ขึ้น
Seiko Brand 100th Anniversary Seiko Presage Kintaro Hattori Limited Edition ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ 6R5H โดยมีหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ทำหน้าที่แสดงเวลาแบบ 24 ชั่วโมง ตัวเลขอารบิคที่ถูกนำมาใช้ได้ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับรูปลักษณ์ของตัวเลขที่อยู่บนหน้าปัดย่อยที่เป็นเข็มวินาทีแยก และถูกวางอยู่ในตำแหน่งเดียวกันของนาฬิการุ่นดั้งเดิม
ฝาหลังและเม็ดมะยมที่มีเอกลักษ์จะมาพร้อมกับสัญลักษณ์ตัว ‘S’ ซึ่งคินทาโร่ได้จดทะเบียนไว้ในปี 1900 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโรงงาน Seikosha และแม้ว่าบริษัทของเขาจะถูกทำลายเพราะแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในแถบคันโตเมื่อปี 1923 แต่เขาก็ยังเดินหน้าต่อไปและจัดการเปิดตัวนาฬิกาข้อมือเรือนแรกออกสู่ตลาดในปีถัดมา บนฝาหลังของนาฬิการุ่นใหม่นั่น ชื่อของผู้ก่อตั้งได้ถูกประทับเขาอยู่เหนือเครื่องหมายการค้า พร้อมกับข้อความที่ในเวลาต่อมาได้กลายมาเป็นปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของบริษัท นาฬิกามาพร้อมกับข้อต่อตัวเรือนแบบหูคล้องที่สามารถขยับได้ พร้อมประกอบสายหนังแบบสอดลอดผ่าน เฉกเช่นเดียวกับนาฬิการุ่นดั้งเดิมที่ออกวางจำหน่ายในยุคนั้น ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,000 เรือนทั่วโลกพร้อมวางจำหน่ายในไทยราวเดือน มกราคมปี 2024
Seiko Brand 100th Anniversary
Seiko Prospex Marinemaster 1965 Diver's Modern Re-interpretation Limited Edition
นับตั้งแต่ Seiko เปิดตัวนาฬิกาดำน้ำเรือนแรกของโลกเมื่อปี 1965 และบริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยี การออกแบบ และฟีเจอร์ใหม่ๆ จากนั้นอย่างต่อเนื่องในอีกหลายทศวรรษ เพื่อสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับคอลเลกชันนาฬิกาดำน้ำของ Seiko Prospex จนกลายเป็นที่นิยมและได้รับการตอบรับจากทั้งนักดำน้ำมืออาชีพและผู้ที่หลงใหลในนาฬิกาดำน้ำทั่วโลก
ชื่อของ Seiko Marinemaster นั้นถือเป็นนาฬิกาดำน้ำระดับท็อปออฟเดอะไลน์ของ Seiko ที่มาพร้อมกับความทนทานและกลไกสมรรถนะสูง ในโอกาสนี้ไซโกได้แปลงโฉมนาฬิกาให้โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่สวยงาม ลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบสไตล์นาฬิกาดำน้ำระดับโปรฯ ขอบตัวเรือนและขอบหน้าปัดได้รับการขัดแต่งอย่างประณีต เพื่อป้องกันการเสียดสีและการสร้างความเสียหายต่ออุปกรณ์ที่นักดำน้ำใช้งาน
และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การผลิตนาฬิกาดำน้ำของ Seiko ที่ทำฝาหลังแบบซีทรู ที่แสดงให้เห็นทุกรายละเอียดของการขัดแต่งบนชิ้นส่วนกลไก 6L37 ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความประณีต อีกทั้งยังถูกพัฒนาให้เป็นนาฬิกาดำน้ำที่มีความบางที่สุดในปัจจุบัน เพียง 12.3 มิลลิเมตร อันเป็นผลมาจากการผสมผสานและการตีความใหม่ในเชิงรายละเอียดที่อ้างอิงมาจากตัวเรือนอันแสนเพรียวบางของนาฬิกาสุดคลาสสิคอย่าง 62MAS ที่เปิดตัวในปี 1965
แมตช์เข้ากับสายสเตนเลสสตีล แบบใหม่ที่มาพร้อมกับดีไซน์ข้อสายที่มีข้อต่อรูปวงรีพร้อมพื้นผิวโค้งคู่ที่ขัดเงา สะดวกในการสวมใส่เพื่อภารกิจดำน้ำอย่างมืออาชีพ โดยมาพร้อมกับหน้าปัดสีสุดคลาสสิคอย่างสีขาว สีไลท์บลู และสีดำ โดยผลิตเพียงคอลเลกชันละ 1,000 เรือนทั่วโลก เท่านั้น โดยพร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยราวเดือน มกราคม ปี 2024
21 พ.ย. 2567
21 พ.ย. 2567
21 พ.ย. 2567
21 พ.ย. 2567