OMEGA & Olympic Games Tokyo 2020

Last updated: 12 มิ.ย. 2564  |  1122 จำนวนผู้เข้าชม  | 

OMEGA & Olympic Games Tokyo 2020

อาจช้าไปกว่ากำหนดเล็กน้อย แต่ปีนี้ ในที่สุดดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัยก็จะได้เป็นเจ้าภาพให้ OMEGA ได้บันทึกวินาทีแห่งความฝัน นับเป็นการทำหน้าที่ครั้งที่ 29 ของแบรนด์ในบทบาทผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการของมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ทุ่มเทประสบการณ์ที่สั่งสมมานานเกือบ 90 ให้กับงาน Tokyo 2020

การแข่งขันทั้งหมด 339 รายการ 33 ชนิดกีฬาจะถูกจัดขึ้นที่ญี่ปุ่นและ OMEGA จะเป็นผู้บอกเวลาทุกวินาทีของการแข่งขัน ซึ่งรวมถึงกีฬาชนิดใหม่ที่ถูกบรรจุมาในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก เช่น คาราเต้ กีฬาปีนหน้าผา กีฬาโต้คลื่น เบสบอล/ซอฟต์บอล และกีฬาสเกตบอร์ด ผู้ผลิตเครื่องบอกเวลาจากสวิสจะมีชนิดกีฬาให้ดูแลมากกว่าที่เคย

แน่นอน ความสนใจส่วนใหญ่จะพุ่งไปยังความมุ่งมั่นของเหล่านักกีฬาในการชิงชัยเหรียญมอง แต่ละรายต้องทุ่มเทเวลานานหลายชั่วโมง หลายเดือน และหลายปีเพื่อวินาทีสำคัญ ความฝันของพวกเขาขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ ด้วยเหตุนี้ความเที่ยงตรงและอุปกรณ์ของ OMEGA จึงมีส่วนสำคัญในการการแข่งขัน

ต้องขอบคุณที่ประสบการณ์ที่ OMEGA มีอย่างโชกโชนในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกือบทุกครั้งตั้งแต่ปี 1932 ตลอดช่วงเวลานั้นแบรนด์ได้วิวัฒน์ พัฒนาและเตรียมการเทคโนโลยีเครื่องบอกเวลาสำหรับการแข่งขันอันโด่งดังไว้หลายชนิด
บัดนี้ ใน Tokyo 2020 ความเชี่ยวชาญของ OMEGA จะก้าวไปสู่มาตรฐานใหม่ เช่นเดียวกับอุปกรณ์นำสมัยน่าเชื่อถือสูงหนักกว่า 400 ตัน แบรนด์จะยังคงยึดมั่นในการบอกเวลาอย่างเที่ยงตรง คุณกำลังจะได้ร่วมเป็นสักขีพยานให้กับมหกรรมกีฬาโอลิมปิกโฉมใหม่!


OMEGA ณ TOKYO 2020

  • อาสาสมัครที่ได้รับการฝึก 900 คน
  • กระดานบอกคะแนนสาธารณะ 85 กระดาน
  • กระดานบอกคะแนนสำหรับกีฬาโดยเฉพาะ 350 กระดาน
  • สายเคเบิ้ลและสายใยแก้วนำแสงยาว 200 กิโลเมตร
  • อุปกรณ์หนักรวม 400 ตัน
  • ผู้จับเวลาแข่งขันและผู้เชี่ยวชาญประจำสนาม 530 คน


เทคโนโลยีใหม่ของ OMEGA สำหรับ TOKYO 2020


การบอกเวลากำลังจะก้าวเข้าสู่การพัฒนาครั้งใหญ่ซึ่งสอดคล้องกับ Tokyo 2020 ที่กำลังจะเปิดฉาก อีกไม่กี่อึดใจ กีฬาที่เราชมก็กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ผลการแข่งขันจะสามารถตรวจวัดและนำเสนอในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน ครั้งนี้ OMEGA เตรียมเทคโนโลยีใหม่สำหรับ Tokyo 202 อาทิ สกอร์บอร์ด, ไฟประจำแท่นกระโดด และ เครื่องนับรอบใต้น้ำ


ด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมและความเชี่ยวชาญในโลกแห่งการกีฬา OMEGA ยังคงรักษาความก้าวหน้าในการบอกเวลาของตนอย่างต่อเนื่องสำหรับการแข่งขันที่ญี่ปุ่นด้วยระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวและเทคโนโลยีในการระบุตำแหน่งแบบใหม่ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจทุกเหตุการณ์


เรากำลังจะได้พบเจอกับอนาคตอันน่าตื่นเต้นแบบไหน? นับตั้งแต่วินาทีแรกของมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ณ กรุงโตเกียวปี 2020 OMEGA จะคอยบอกเล่าเรื่องราวของแต่ละการแข่งขันอย่างไม่ขาดตก ด้วยใช้เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและเทคโนโลยีในการระบุตำแหน่ง ขีดความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์ปริมาณมหาศาลซึ่งต่างช่วยให้ทั้งผู้ชมและนักกีฬาเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในวินาทีตัดสิน

ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันจะช่วยมอบความได้เปรียบให้หลายประการ ประการแรก ข้อมูลได้ช่วยเผยให้เห็นว่าถึงเวลาและผลของการแข่งขันของนักกีฬาซึ่งนับได้ว่าเป็นสิ่งในอุดมคติของทั้งนักกีฬาและผู้ฝึกสอนที่จะมอบความเข้าใจว่าพวกเขาแพ้หรือชนะไปมากน้อยเพียงใด สิ่งนี้ยังช่วยให้ผู้ชมในสนามและทางบ้านเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกในการแข่งขันที่พวกเขากำลังรับชม นอกจากนี้ข้อมูลยังเป็นประโยชน์แก่ผู้บรรยายและนักวิเคราะห์ให้บอกเล่าวินาทีแห่งชัยชนะได้อย่างจุใจมากยิ่งขึ้น
ไม่เพียงเตรียมเป็นสักขีพยานถึงการแข่งขันที่รัก แต่คุณยังจะไม่พลาดทุกห้วงสำคัญชนิดติดขอบสนาม


3 นาฬิการุ่นพิเศษสำหรับ Olympic Games Tokyo 2020
เพื่อต้อนรับมหกรรมกีฬาเพื่อมวลมนุษยชาติที่กรุงโตเกียวครั้งนี้ OMEGA ได้รังสรรค์นาฬิการุ่นพิเศษเช่นเดียวกับทุกครั้งที่ผ่านมา โดยมีด้วยกัน 3 รุ่น

SEAMASTER AQUA TERRA TOKYO 2020 LIMITED EDITION


เฉกเช่นเดียวกับเหล่านักกีฬาในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก เรือนเวลา Seamaster Aqua Terra นั้นลงสนามได้อย่างไร้ที่ติทั้งบนบกและใต้ผืนน้ำ สำหรับนาฬิกาสปอร์ตประจำ Tokyo 2020 นี่นับเป็นครั้งแรกที่แบรนด์ OMEGA ได้นำหน้าปัดเซรามิกมาใช้ครั้งแรกในคอลเลคชั่น – ผลิตจากเซรามิกสีน้ำเงินขัดเงาที่ตกแต่งด้วยตราสัญลักษณ์ของ Tokyo 2020 ซึ่งสลักด้วยเลเซอร์ ตัวเรือนสมมาตรขนาด 41 มม. ที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล และฝาหลังติดตั้งด้วยกระจกแซฟไฟร์ที่ประดับด้วยตราของ Tokyo 2020


เครื่องบอกเวลารุ่นนี้ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 2,020 เรือน โดยมาพร้อมกับสายนาฬิกายางสีน้ำเงิน และสายสแตนเลสสตีลอีกหนึ่งชุดที่บรรจุมาในกล่องนาฬิกาแบบพิเศษ จักรกลเวลาขับเคลื่อนด้วยกลไก OMEGA Master Chronometer Calibre 8900 ที่มอบความเที่ยงตรงและความสามารถในการต้านทานสนามแม่เหล็กที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรมผู้ผลิตนาฬิกาสวิส



SEAMASTER PLANET OCEAN TOKYO 2020 LIMITED EDITION


ไม่มีเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโอลิมปิกประเทศใดที่ไม่หยิบนำวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของตนเข้ามาใส่ในมหกรรมกีฬา ประเทศญี่ปุ่นเองก็เป็นหนึ่งในนั้น! OMEGA ตั้งตารอคอยโอกาสของตนในกรุงโตเกียวและรังสรรค์ Seamaster ที่มีกลิ่นอายรักชาติรุ่นนี้ขึ้นโดยมีสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นอย่างที่สุด


ตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาด 39.5 มม. ถูกติดตั้งด้วยขอบตัวเรือนเซรามิกสีขาว สเกลดำน้ำ OMEGA Liquidmetal™ และเพื่อเป็นการอุทิศให้กับปีของ Tokyo 2020 ตัวเลข 20 บนขอบตัวเรือนได้ถูกบรรจุด้วยลิควิดเซรามิกสีแดง
หน้าปัดเซรามิกสีขาวขัดเงาร่วมแสดงความเป็นโตเกียวผ่านเข็มวินาทีกลางทรงโลลิป๊อปแบบพิเศษ! ปลายเข็มดอทสีแดงมันปลาบทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์สื่อแทนธงชาติญี่ปุ่นได้อย่างน่าชม ขับเคลื่อนด้วยกลไก OMEGA Master Chronometer Calibre 8800 กระจกแซฟไฟร์บนฝาหลังตกแต่งด้วยตราประจำ Tokyo 2020 และมาพร้อมกับสายหนังสีขาว ภายในกล่องนาฬิกาประกอบด้วยสายนาฬิกาสแตนเลสสตีลและสาย NATO อีกอย่างละหนึ่งชุด ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 2,020 เรือน


SEAMASTER DIVER 300M TOKYO 2020



พวกเราต่างคุ้นเคยกับการแข่งกีฬากระโดดน้ำในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ทว่า Diver 300M เรือนนี้เหมาะที่จะผจญใต้เกลียวคลื่นยิ่งกว่า! ตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาด 42 มม. ติดตั้งด้วยขอบตัวเรือนเซรามิกสีน้ำเงินที่บรรจุด้วยสเกลดำน้ำอีนาเมลสีขาว และวัสดุสแตนเลสสตีลยังถูกใช้ในการผลิตสายนาฬิกาที่ผสานเข้ากับตัวเรือนได้ราวกับเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน


ขับเด่นความงามของสีน้ำเงินด้วยหน้าปัดเซรามิกสีขาวสร้างมิติด้วยลายคลื่นที่สลักด้วยเลเซอร์ เสริมด้วยหน้าต่างวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกาและชื่อ Seamaster สีแดงโดดเด่น ชุดเข็มและหลักชั่วโมงสีน้ำเงินที่บรรจุสารเรืองแสง Super-LumiNova ยังช่วยเติมการออกแบบให้สมบูรณ์แบบ
ภายใต้กระจกแซฟไฟร์บนฝาหลังคือตรา Tokyo 2020 และกลไก OMEGA Co-Axial Master Chronometer Calibre 8800 ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานอย่างเป็นทางการจาก Swiss Federal Institute of Metrology (METAS)


ก้าวต่อไปในโอลิมปิกครั้งหน้า


เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ปี 2017 OMEGA ได้ขยายความร่วมมือระดับสากลกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ไปจนถึงปี 2032 ข่าวใหญ่ครั้งนี้หมายความว่ามหกรรมกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 37 ในปี 2032 นั้นจะเป็นการครบรอบ 100 ปีของความร่วมมือระหว่าง OMEGA และมหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในปี 1932 ที่ลอสแองเจลลิส


การลงนามยังส่งผลให้ OMEGA เป็นพาร์ทเนอร์ระดับสากลกับมหกรรมกีฬาโอลิมปิกรายแรกที่ได้ร่วมงานกับขบวนการโอลิมปิก (Olympic Movement) ไปจนถึงปี 2032 ซึ่งจะเป็นการทำหน้าที่ผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการของมหกรรมกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 35 ของแบรนด์ และมั่นใจได้ว่าเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญจะอยู่ในระดับมาตรฐานสูงสุด


จนกว่าจะถึงเวลานั้น เรายังมีเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นและเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์มากมายให้ติดตาม! ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า คบไฟจะถูกจุดสำหรับ Beijing 2022 ตอกย้ำถึงบทบาทการทำหน้าที่ผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการครั้งที่ 30 ของ OMEGA โดยจะมีชนิดกีฬาทั้งหมด 109 ชนิดกีฬาซึ่งใช้สิ่งอำนวยความสะดวกเดิมจาก Beijing 2008 อีกทั้งยังเสริมจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกให้กับมหกรรมกีฬาด้วยการบรรจุถึง 7 ประเภทการแข่งขันใหม่


จากนั้น ในปี 2024 มหกรรมกีฬาโอลิมปิกก็จะหวนกลับไปยังยุโรป Paris 2024 ที่จะต้อนรับผู้คนทั่วโลกในฐานะปลายทางแห่งความฝันด้วยการเฉลิมฉลองซึ่งจะถูกจัดตลอดฝั่งแม่น้ำแซน ในขณะที่หมู่บ้านนักกีฬาโอลิมปิกจะอยู่ห่างออกไปจากแลนมาร์คย่านกลางเมืองอย่างพอไอเฟลและกร็องปาแลเพียง 15 นาที


และเมื่อถึงปี 2028 ก็จะถึงคราวของลอสแองเจลลิส สถานที่แรกที่ OMEGA ได้เริ่มต้นทำหน้าที่ผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการ การกลับมาครั้งนี้ย่อมมีความหมายและน่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่แตกต่างไปอย่างมากจากกาลก่อน
ยังมีรายละเอียดหลายสิ่งให้ติดตาม โปรดอดใจรออีกซักเล็กน้อย!

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้