Last updated: 20 ธ.ค. 2567 | 262 จำนวนผู้เข้าชม |
เป็นเวลากว่า 25 ปีที่ Blancpain (บลองแปง) ได้เฉลิมฉลองให้กับคู่รักทั่วโลก Ladybird Colors Saint-Valentin 2025 (เลดี้เบิร์ด คัลเลอร์ส แซงต์วาลองแตง 2025) มาพร้อมกับดีไซน์ในสีสันแห่งความรัก ให้ความรู้สึกโรแมนติก พร้อมด้วยฟังก์ชั่น moon phase ในเวอร์ชั่นใบหน้าของสุภาพสตรี ตกแต่งด้วยหัวใจสีทองอันงดงาม ซึ่งเรือนเวลามิเต็ดเอดิชั่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความประทับใจอย่างไม่รู้ลืม
คอลเลคชั่น Ladybird นั้นมีสีสันเปี่ยมชีวิตชีวา เป็นดั่งตัวแทนที่แสนจะลงตัวของเรือนเวลาสำหรับสุภาพสตรีของ Blancpain นาฬิกาทุกเรือนผสานความสวยงาม และความซับซ้อนเชิงเทคนิคได้อย่างไร้ที่ติ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่ดูสดใส ขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ซึ่งรวมไปถึงเรือนเวลารุ่นวาเลนไทน์ปี 2025 นี้ด้วยเช่นกัน
นาฬิกาขนาด 34.9 มม. ในวัสดุไวท์โกลด์ 18K ใหม่มีดีไซน์สุดโรแมนติกในเฉดสีแดงวิจิตรงดงาม ไม่ว่าจะเป็นสายนาฬิกา หลักชั่วโมง หรืองานดีไซน์รูปหัวใจบนเข็มวินาที “Cupid’s arrow” เรือนเวลา Ladybird Colors Saint-Valentin 2025 นี้เปี่ยมไปด้วยความน่าหลงใหล ทุกส่วนถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างประณีตซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากพลังแห่งความรัก ตัวเลขโรมันบอกเวลาในเฉดสีแดงเข้มเป็นผลมาจากการผ่านกระบวนการลงสีที่แตกต่างกันถึงห้าชั้นเพื่อให้ได้มิติมุมมองที่ล้ำลึกเป็นพิเศษ สิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยความชำนาญและการดูแลอย่างพิถีพิถัน โดยจำเป็นต้องมีการจับเวลาในการแห้งของสีในแต่ละชั้นอย่างแม่นยำ ในขณะที่หน้าต่างแสดง moon phase ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ก็ช่วยปรับสมดุลตัวเลขโรมันที่มีลักษณะอสมมาตร ให้หน้าปัดยังคงความสวยงามไว้ได้อย่างลงตัว มีพระจันทร์ใบหน้าสุภาพสตรีพร้อมดวงตาที่ปิดสนิท ขนตายาวสวย ริมฝีปากอิ่ม และ beauty spot ที่บริเวณมุมปาก พร้อมหัวใจสีทองระยิบระยับสองดวงขนาบข้าง ดูราวกับพระจันทร์กำลังล่องลอยอยู่เหนือพื้นหน้าปัดมุก mother-of-pearl โดย mother-of-pearl ที่ใช้สำหรับหน้าปัดทำมาจากเปลือกหอยมุกที่มีสีขาวพิเศษหาได้ยากชนิดหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะอันโดดเด่น และน่าทึ่ง เล่นกับแสงได้ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังมีการประดับอัญมณีอย่างเพชรเจียระไนให้เรียวไปทางตำแหน่ง 6 นาฬิกา ชวนให้นึกถึงพระจันทร์เสี้ยวสองดวงเพื่อเพิ่มความแวววาวให้กับหน้าปัด นอกจากนี้ ตัวเรือน ขานาฬิกา เม็ดมะยม และตัวล็อคสายนาฬิกา ก็ยังประดับด้วยเพชรเช่นกัน ทำให้ทั้งเรือนเวลามีเพชรประดับรวมกว่า 2 กะรัต
ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่น และการบอกเวลาที่แม่นยำอย่างน่าทึ่ง Ladybird Colors Saint-Valentin 2025 ถูกผลิตแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นเพียง 14 เรือนเท่านั้น เพื่อเฉลิมฉลองให้กับช่วงเวลาแห่งความรักประจำปีนี้
Ladybird ที่สุดแห่งความเป็นเลิศซึ่งสื่อผ่านความเฟมินีน
คอลเลคชั่น Ladybird สะท้อนบทบาทของ Blancpain ในฐานะผู้สร้างประวัติศาสตร์การบุกเบิกนาฬิกาสำหรับสุภาพสตรี จากนาฬิกาข้อมือขึ้นลานอัตโนมัติเรือนแรกในปี 1930 สู่เรือนเวลาอันประณีตและนวัตกรรมขั้นสูง ในปัจจุบัน รวมถึงการประดิษฐ์กลไกที่มีขนาดเล็กที่สุดที่ถูกคิดค้นขึ้นตั้งแต่หลายทศวรรษก่อน คอลเลคชั่น Ladybird สะท้อนความหลงใหลของ Blancpain ในด้านความเป็นเลิศ นาฬิกาคอลเลคชั่นนี้ออกแบบมาเพื่อสุภาพสตรีที่จะไม่ยอมละทิ้งสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป ไม่ว่าจะเป็นความงดงามหรือความสลับซับซ้อนเชิงเทคนิค เรื่องราวของนาฬิกาสำหรับสุภาพสตรีของ Blancpain นั้น ผูกพันกับความุ่งมั่นที่ฉายอยู่ในตัวของ Betty Fiechter (เบ็ตตี้ ฟิชแตร์) ผู้นำหญิงคนแรกของวงการนาฬิกาในช่วงต้นยุคปี 1930 ความชาญฉลาด และจิตวิญญาณอันเปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์ของสตรีผู้นี้ เป็นต้นกำเนิดให้ the Manufacture ได้รังสรรค์นาฬิกาประดับอัญ-มณีขึ้นและสร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก
Moon phase หัวใจแห่งกาลเวลา
คอมพลิเคชั่น moon phase อันเป็นเอกลักษณ์ของ Blancpain นั้นได้มาปรากฏอยู่ในเรือนเวลา Ladybird Colors รุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย Calibre 1153L โดยสามารถสำรองพลังงานได้นาน 100 ชั่วโมง ทั้งนี้ moon phase เป็นคอมพลิเคชั่นที่เปิดตัวขึ้นใหม่อีกครั้งในปี 1983 ช่วงยุควิกฤตนาฬิกาควอตซ์ คอมพลิเคชั่นขั้นสูงนี้เป็นเครื่องยืนยันของทางเมซงว่า นาฬิกากลไกถือกำเนิดมาจากความเชี่ยวชาญอันเป็นเลิศอย่างแท้จริงซึ่งระบบควอตซ์ไม่มีวันที่จะมาทดแทนการรังสรรค์นาฬิกากลไกได้ คอมพลิเคชั่นนี้จึงเปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งการฟื้นคืนของนาฬิกากลไก ตัวเครื่องของนาฬิกาโมเดลนี้ยังประกอบด้วยเทคนิคการตกแต่งเรือนเวลาในแบบฉบับดั้งเดิม เช่น bevelling หรือเทคนิคการตกแต่งเหลี่ยมมุม, circular graining หรือการขัดแต่งลวดลายวงกลม และ snailing หรือลายก้นหอย ซึ่งสามารถยลโฉมการทำงานของกลไกนี้ได้ผ่านกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ที่ด้านหลังตัวเรือน รวมถึงยังมี ซิลิคอนบาลานซ์สปริงทำให้มั่นใจได้ว่ากลไกจะต้านทานต่ออำนาจของสนามแม่เหล็กได้อย่างไรที่ติ
การปฏิวัติวงการด้วยซิลิคอน
ซิลิคอนเข้ามาปฏิวัติวงการนาฬิกาตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 21 และเป็นนวัตกรรมสำคัญที่ทำให้การบอกเวลาก้าวล้ำหน้าขึ้นไปอีกขั้น วัสดุชนิดนี้เป็นวัสดุเนื้อแข็งที่มีความยืดหยุ่นแต่คงรูป น้ำหนักเบา และยังทนทานต่อการกัดกร่อนได้สูง อีกทั้งยังโดดเด่นเรื่องคุณสมบัติในการต้านทานสนามแม่เหล็ก ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ช่วยให้นาฬิกาทำงานได้อย่างเที่ยงตรง
ซึ่งต่างกับในช่วงยุคปี 1950 ที่บาลานซ์ของนาฬิกามักทำจากสปริงโลหะจึงมักจะได้รับผลกระทบจากสนามแม่เหล็ก ทำให้ต้องมีการประดิษฐ์กรงเหล็กเนื้ออ่อนครอบไว้อีกทีเพื่อป้องกันการตอบสนองจากสนามแม่เหล็ก ทั้งนี้เรือนเวลาในยุคปัจจุบันของ Blancpain ได้พัฒนามาใช้ซิลิคอนบาลานซ์สปริงทำให้สามารถเผยการทำงานของกลไกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ได้ผ่านกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ที่ด้านหลังตัวเรือน ต้องขอบคุณเทคโนโลยีนี้ ที่ทำให้ Ladybird Colors Saint-Valentin 2025 รุ่นใหม่ไม่เพียงแค่สามารถที่จะเผยโฉมฝีมือขั้นสูงในการขัดแต่งกลไกให้งดงาม แต่ยังมาพร้อมกับความทรงประสิทธิภาพในการบอกเวลาที่เที่ยงตรง สะท้อนถึงความเฟมินีนที่ก้าวควบคู่ไปกับความสลับซับซ้อนเชิงเทคนิคอย่างลงตัว
17 ธ.ค. 2567
19 ธ.ค. 2567