Last updated: 23 ก.ย. 2564 | 801 จำนวนผู้เข้าชม |
Vacheron Constantin เปิดประตูสู่ขอบฟ้าใหม่แห่งดีไซน์ ด้วยผลงานในคอลเลกชั่นสปอร์ต Overseas Chronograph 'Everest' และ Overseas Dual Time 'Everest' เรือนเวลาทั้ง 2 รุ่นผลิตจำนวนจำกัดแบบละ 150 เรือน ดีไซน์มาให้เหมาะกับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งการทำกิจกรรมที่ต้องอาศัยความกล้าท้าทาย เช่น นักสำรวจและช่างภาพชาวอเมริกัน Cory Richards ได้ทดสอบด้วยตนเองจากการใช้งานนาฬิกา Overseas Dual Time 'Everest' เพื่อถ่ายภาพนาฬิกา Overseas Chronograph 'Everest' ที่โคโลราโด
คอลเลกชั่น Overseas สัญลักษณ์แห่งการค้นพบและเปิดประตู่สู่โลกกว้าง นำเสนอความงามสง่าผสมผสานเข้ากับความแข็งแกร่ง ล่าสุดเผยโฉมใน 2 เรือนสปอร์ต Overseas Chronograph 'Everest' และ Overseas Dual Time 'Everest' ที่ได้แรงบันดาลใจจากยอดเขาสูงที่สุดในโลก และเป็นผลงานที่เชิญชูจิตวิญญาณการผจญภัยและการก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง ผ่านนักสำรวจและช่างภาพชาวอเมริกัน Cory Richards หนึ่งในบุคคลมากความสามารถที่ Vacheron Constantin คัดเลือกมาเพื่อเป็นตัวแทนในแคมเปญ One of Not Many โดยในปี 2019 นักสำรวจมากประสบการณ์ผู้นี้ได้ปีนป่ายขึ้นไปยัง 'หลังคาโลก' เป็นครั้งที่ 3 ผ่านเส้นทาง North-East Ridge ที่ได้ชื่อว่าเป็นเส้นทางอันตรายและยากลำบากที่สุดบนข้อมือของเขาสวมนาฬิกาต้นแบบ Overseas Dual Time ที่ Vacheron Constantin พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษและนาฬิกาเปี่ยมเอกลักษณ์นี้ได้ รับการถอดรหัสความงามสู่ผลงานใหม่ Overseas Limited Edition 'Everest' สองรุ่นที่ Cory Richards ลงมือถ่ายภาพด้วยตนเอง
นาฬิกาทั้งสองรุ่นยังคงเอกลักษณ์ของตัวเรือนหกเหลี่ยมที่ ชวนให้นึกถึงกางเขนมอลทิส ดูแตกต่างด้วยสไตล์ที่ทรงพลังและโดดเด่นจากการผสมผสานวัสดุ ไทเทเนียมและสตีลเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ตัวเรือน ขอบตัวเรือน ปุ่มกดและบ่าป้องกันเม็ดมยะมและปุ่ม ผลิตจากไทเทเนียมวัสดุน้ำหนักเบาแต่แกร่งทนเป็นเยี่ยม บนปุ่มกดแวววาวด้วยการขัดเงา และตัวเรือนเม็ดมะยมและป่าป้องกันปุ่มกด ดูงามสง่าด้วยเทคนิคการปัดด้านเฉดสีเทาแอนทราไซต์ตัดกับประกายแวววาวของขอบตัวเรือนที่ ผลิตจากสตีลส่วนด้านข้างตัวเรือนตกแต่งแบบเกรนเล่นกับเฉดสีส้มสด เข้ากับสีของด้ายบนสาย Cordura® ที่รองด้วยหนังลูกวัวนูบัท และมาพร้อมระบบเปลี่ยนสายได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ
Overseas Chronograph 'Everest' ในตัวเรือนขนาด 41.0 มิลลิเมตร ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 5200/2 เครื่องอินเฮาส์ที่พัฒนาและผลิตขึ้นภายในโรงงานมาพร้อมตลับลานคู่ และจักรคอลัมน์วีลที่ควบคุมการจับเวลาให้แม่นยำและทำงานอย่างนุ่มนวล กลไกทุกชิ้นได้รับการขัดแต่งอย่างประณีต แท่นเครื่องเคลือบด้วย NAC เข้ากับเฉดสีแอนทราไซต์ของนาฬิกา ขึ้นลานด้วยโรเตอร์ทองชมพู 22K และสลักภาพยอดเขาเอเวอเรสต์อย่างโดดเด่น
ส่วน Overseas Dual Time 'Everest' กับตัวเรือนขนาด 41.0 มิลลิเมตร มาพร้อมกลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 5110 DT/2 พร้อมฟังก์ชั่นแสดงเวลาสองไทม์ โซน แสดงเวลาท้องถิ่นแบบคลาสสิก และมีเข็มทรงลูกศรสีส้มทำหน้าที่ แสดงเวลาที่สอง ซึ่งเป็นการดูเวลาที่ง่ายและสะดวก ทั้งยังมีตัวแสดงเวลากลางวันและกลางคืนในเฉดสีเข้ากัน วันที่แสดงด้วยเข็มในตำแหน่ง 6 นาฬิกา ทำงานประสานกับเวลาท้องถิ่น ปรับตั้งด้วยปุ่มกดที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ส่วนเวลาไทม์โซนที่สองปรับตั้งด้วยเม็ดมะยม กลไกทุกชิ้นได้รับการขัดแต่งอย่างประณีต แท่นเครื่องเคลือบด้วย NAC เข้ากับเฉดสีแอนทราไซต์ของนาฬิกา ขึ้นลานด้วยโรเตอร์ทองชมพู 22K และสลักภาพยอดเขาเอเวอเรสต์ แรงบันดาลใจจากภาพถ่ายของ Cory Richards
29 พ.ย. 2567
3 ธ.ค. 2567
29 พ.ย. 2567
3 ธ.ค. 2567