BVLGARI

นาฬิกาอันงดงามที่พร้อมจะเชื้อเชิญคุณให้ได้ดื่มด่ำสู่ผืนทะเลแห่งความโปร่งใส ผ่านผลงานสร้างสรรค์อันซับซ้อนทันสมัยที่ถ่ายทอดความโดดเด่นตระการตาและสัดส่วนอันสมบูรณ์แบบในอุดมคติของเรือนเวลารุ่น ออคโต โรมา ทูร์บิญอง ลูเมียร์ (Octo Roma Tourbillon Lumière) ซึ่งหล่อหลอมไว้ด้วยความประณีตวิจิตร

ผลงานนาฬิการุ่นใหม่นี้ออกแบบขึ้นเพื่อสุภาพสตรีที่หลงใหลในองค์ประกอบแห่งความวิจิตรหรูทั้งมวล พร้อมทั้งความปรารถนาและถวิลหามาซึ่งสุขนิยมทางสายตาอันลึกซึ้ง เดินตามรอยความสำเร็จจาก เซอร์เพนติ ทูร์บิญอง (Serpenti Tourbillon) และดีวินา มินิท รีพีทเตอร์ (Divina Minute Repeater) ที่ ออคโต โรมา ทูร์บิญอง ลูเมียร์ ได้เผยโฉมมิติใหม่ของนาฬิกาซึ่งรังสรรค์ขึ้นด้วยศิลปะงานฝีมืออันสลับซับซ้อน และอุทิศโดย บุลการี (BVLGARI) ให้กับลูกค้าสุภาพสตรีโดยเฉพาะ โดยการปรากฏโฉมสุดพิเศษภายใต้ตัวเรือน ออคโต (Octo) ที่ผ่านการปรับขนาดใหม่อย่างพิถีพิถัน พร้อมทั้งเป็นตัวแทนถึงคุณสมบัติใหม่อันโดดเด่น ซึ่งภายในตัวเรือนไอคอนิกของ ออคโต นี้ได้ปรับสัดส่วนสู่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 38 มม. และสิ่งสำคัญเหนืออื่นใดคือบุลการียังได้เลือกที่จะติดตั้งภายในผลงานรุ่นนี้เป็นครั้งแรกด้วยกลไกจักรกลที่ผลิตภายในโรงงานของตนเอง (Manufacture movement) โดยผ่านการสลักเสลาแบบเปลือยโปร่งหรือโอเพนเวิร์ก (openworked) อย่างประณีตอ่อนช้อยและล้ำเลอค่า รับกับความสง่างามของจักรกลทูร์บิญอง เรกูเลเตอร์ (tourbillon regulator) และท้ายสุดนั่นคือเรือนเวลาสลับซับซ้อนนี้ยังได้ดึงเอาความเชี่ยวชาญแห่งประวัติศาสตร์โรมันมาสู่การก้าวข้ามซึ่งขีดข้อจำกัดของการรังสรรค์เครื่องประดับอัญมณีที่ผสมผสานไว้ด้วยการประดิษฐ์นาฬิกาอันล้ำเลิศโดยการหล่อหลอมและนำทักษะอันทรงคุณค่ามากมายของบุลการีมาใช้

นับตั้งแต่ส่วนแรกของกลไกจักรกลที่ประกอบขึ้นด้วยองค์ประกอบต่างๆ ทำจากไวท์โกลด์ล้ำค่าและสร้างรูปขึ้นเป็นโครงสร้างของกลไกที่ทั้งหมดถูกสลักเสลาแบบเปลือยโปร่งหรือ สเกเลตัน (skeletonized) อาทิ การรังสรรค์ชิ้นส่วนและโครงสร้างขึ้นใหม่ เพื่อให้สามารถตัดส่วนของวัสดุล้ำค่าออกไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และนี่คือศิลปะอันละเอียดอ่อน เพราะแต่ละชิ้นส่วนนั้นจะต้องยังคงไว้ซึ่งความแข็งแรง รวมถึงคงไว้ด้วยประสิทธิภาพในการรองรับชิ้นส่วนอื่นๆ อีกด้วย

นอกจากนี้โครงสร้างทั้งหมดยังผ่านการตกแต่งอย่างประณีตพิถีพิถันและละเอียดอ่อนด้วยมือ ขณะที่หน้าปัดไวท์โกลด์ถูกสลักเสลาแบบโอเพนเวิร์ก เพื่อรักษาไว้ซึ่งจิตวิญญาณความเปลือยโปร่งโดยรวมของผลงาน ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ดูคล้ายดั่งงานลูกไม้อันวิจิตรอ่อนช้อย และส่องประกายรัศมีแวววาวจากการปล่อยให้แสงสามารถทะลุผ่านได้ กลายเป็นภาพอันงดงามที่ตอกย้ำความสวยงามเจิดจรัสไว้ด้วยเพชรเจียระไนบาแกตต์คัต (baguette-cut) 239เม็ด และตัดกันอย่างโดดเด่นกับแซฟไฟร์สีน้ำเงิน ซึ่งประดับไว้บนส่วนรัศมีวงกลมทำจากไวท์โกลด์สำหรับแสดงเวลาชั่วโมงต่างๆ ผลงานรังสรรค์พิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 30 เรือน และลิขิตความงดงามนี้ไว้เพื่อพร้อมปรากฏกายคู่ข้อมือของหญิงสาวผู้เปี่ยมด้วยความสุขเพียงไม่กี่คนเท่านั้น!