Last updated: 20 ม.ค. 2566 | 484 จำนวนผู้เข้าชม |
Hublot นำนาฬิกาที่เคยเขย่าขนบดั้งเดิมแห่งการประดิษฐ์นาฬิกามาแล้วในปี ค.ศ. 1980 กลับมาอีกครั้ง ด้วยทั้งความประณีตและสไตล์สปอร์ต ที่ ณ เวลานั้น ตัวเรือนทองล้ำค่าของผลงานนี้ได้ผูกเข้ากับสายยางแบบเรียบง่ายอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน และกลายเป็นดั่งคลื่นลูกยักษ์ที่ซัดผ่านโลกของการประดิษฐ์นาฬิกาชั้นสูง โดยสามารถชนะใจผู้ชมซึ่งเป็นเหล่าผู้ที่ชื่นชอบหลงใหลในนาฬิกา และกำลังตามหานาฬิกาที่มีความโดดเด่นและแตกต่าง จึงนับเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ช่วงเวลาอันเปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์อย่างแท้จริง ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังแห่งความกล้าหาญ วิสัยทัศน์นี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับ Maison (เมซง) ในทุกๆ สิ่งที่แบรนด์สร้างสรรค์ รวมไปถึงการพัฒนา ออกแบบสินค้าใหม่ ตลอดจนความร่วมมือกับพันธมิตรอีกมากมาย และในวันนี้ Classic Fusion Original (คลาสสิก ฟิวชั่น ออริจินัล) กำลังร่วมเฉลิมฉลองการเติบโตอันเปี่ยมด้วยความมีชีวิตชีวา กับความทันสมัยและเรียบง่ายอย่างไร้กาลเวลา
สะท้อนถึงงานออกแบบดั้งเดิมของ Carlo Crocco (คาร์โล คร็อคโค) อันเป็นที่จดจำได้ทันที ทั้งการจับคู่เข้ากับสายยาง พร้อมทั้งความบริสุทธิ์ของหน้าปัดแล็กเกอร์สีดำขัดเงาที่นับเป็นจุดดึงดูดสายตาไม่เพียงเฉพาะการแสดงเวลา กับการแสดงโดยเข็มชี้เจียระไนทรงเหลี่ยมทำจากเยลโลโกลด์และสัญลักษณ์ของ Maison ที่ ณ แรกเห็นนั้นดูคล้ายกับรุ่นดั้งเดิม ทว่า โลโก้ได้ถูกปรับให้มีความทันสมัยและร่วมสมัยมากยิ่งขึ้นอย่างเหนือกาลเวลา เสมือนดั่งอดีตที่เดินทางมาบรรจบกับปัจจุบัน
ในวันนี้ Classic Fusion Original มีให้เลือกทั้งในเวอร์ชันเยลโลโกลด์ ไทเทเนียม และเซรามิก พร้อมด้วยตัวเรือนซึ่งมีทั้งขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มม., 38 มม. และ 33 มม. เป็นดั่งตราผนึก ที่สกรูอันโด่งดังทั้ง 6 ตัว ถูกจัดวางอยู่ในตำแหน่งเอกลักษณ์ต่างๆ บนขอบตัวเรือน ขณะที่ฝาหลังกระจกแซฟไฟร์เผยให้เห็นชิ้นส่วนจักรกลภายใน ตกแต่งด้วยรายละเอียดอันเป็นไอคอนิกของ Hublot ที่มอบความทันสมัยให้กับนาฬิการุ่นดั้งเดิม และเสริมภาพอันคลาสสิกใหม่อย่างไร้กาลเวลา
ตัวอย่างของการหวนคืนสู่อดีตเพื่อสร้างรูปให้กับอนาคตที่ดียิ่งกว่า เหนือสิ่งอื่นใดคือมีนาฬิกาเพียง 500 เรือนของรุ่นที่ได้รับการออกแบบขึ้นใหม่นี้ ที่เหล่านักสะสมจะได้ร่วมสัมผัสได้ถึงการเดินทางแห่งการเปลี่ยนรูปสู่ตำนาน
“ความกล้าหาญ... เขย่าซึ่งประเพณีอันเข้มแข็งที่มีมาอย่างยาวนาน และความเชี่ยวชาญในมรดกทางประเพณีเพื่อผลักสู่พรมแดนใหม่ๆ ทั้งยังผนึกรวมไว้ซึ่งองค์ประกอบอันทันสมัย ด้วยวัสดุธรรมชาติอันล้ำค่า โดยการทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ หรือผู้คนผู้ซึ่งร่วมสืบทอดคติพจน์ของเรา คือ “การเป็นที่หนึ่ง มีเอกลักษณ์ และแตกต่าง” ตลอด 40 ปีอันมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละได้สร้างรูปให้กับนาฬิกา Classic Fusion Original เหล่านี้ และเราได้ออกแบบขึ้นมาใหม่ด้วยเพราะ Hublot ได้เปลี่ยนแปลงไป นาฬิกาเหล่านี้จึงเป็นตัวแทนของความร่วมมืออันเป็นขบถ ที่สร้างให้เรานั้นเป็นเราเช่นในวันนี้”
RICARDO GUADALUPE (ริคาร์โด กัวดาลูเป) / HUBLOT CEO
เกี่ยวกับ HUBLOT
Hublot (อูโบลท์) เป็นบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาสวิส ที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1980 และมีฐานอยู่ในเมือง Nyon (นียง) นับจากผลงานเรือนเวลารุ่นแรกของแบรนด์ บริษัทได้ทลายซึ่งหลักการพื้นฐานของการประดิษฐ์นาฬิกา โดยเลือกผสมผสานทองเข้ากับสายยางภายในตัวเรือน พร้อมด้วยงานออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากช่องอากาศวงกลมของเรือ (หรือ hublot ในภาษาฝรั่งเศส) อันเป็นที่มาของ Art of Fusion (ศิลปะแห่งการผสมผสาน) ที่ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยการผสมผสานของประเพณี นวัตกรรม งานฝีมือ โลกสาขาต่างๆ และพรสวรรค์ด้านอื่นๆ ที่หล่อหลอมกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งสุนทรียะความสวยงามและความโดดเด่นทางเทคนิคของแบรนด์
เอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้ยังได้เสริมความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในปี ค.ศ. 2005 เมื่อนาฬิกา Big Bang (บิ๊ก แบง) ได้พิสูจน์ถึงองค์ความรู้อันมิอาจเทียบเคียงได้ในแง่ของความสลับซับซ้อน กลไกซึ่งผลิตภายในโรงงานของตนเอง และวัสดุอันล้ำสมัย ทั้ง คาร์บอน, ไทเทเนียม, เซรามิก และแซฟไฟร์ ที่ได้รับการพัฒนาบนนาฬิการุ่นนี้สู่ความเป็นที่สุดทางเทคนิค
การบรรลุถึงคุณภาพระดับสูงอันน่าทึ่งที่นำมาใช้ในการประดิษฐ์รังสรรค์นาฬิกานี้ได้หล่อหลอมภายใต้ปรัชญาอันแน่วแน่ของแบรนด์ นั่นคือ ‘Be First, Unique and Different’ (‘เป็นที่หนึ่ง มีเอกลักษณ์ และแตกต่าง’) และนำไปสู่การสร้างสรรค์คอลเลกชันอื่นๆ อย่างต่อเนื่องด้วยนวัตกรรมการออกแบบมากมาย ทั้งใน Classic Fusion (คลาสสิค ฟิวชั่น), Spirit of Big Bang (สปิริต ออฟ บิ๊ก แบง), Square Bang (สแควร์ แบง) และ Manufacture Pieces (แมนูแฟคเจอร์ พีซ) โดยผลงานเหล่านี้ได้ดึงระดับแห่งงานฝีมือขั้นสูงมาใช้ ทั้งในแง่ของวัสดุอันเป็นที่รักยิ่งของ Hublot (อาทิ Magic Gold (เมจิก โกลด์), เซรามิกสีสดใส และแซฟไฟร์) ตลอดจนกลไกที่ผลิตขึ้นภายในโรงงานของตนเอง (เช่น กลไกโครโนกราฟ Unico (ยูนิโค), Meca-10 (เมกา-10) และกลไกระดับแกรนด์คอมพลิเคชั่นอีกมากมาย อาทิ Tourbillon (ทูร์บิญอง), Cathedral Minute Repeater (คาธีดรัล มินิท รีพีทเตอร์) รวมถึงกลไกที่ผลิตขึ้นเฉพาะสำหรับ Manufacture Pieces)
โลกของ Hublot ยังขยายสู่หลากหลายความร่วมมืออันเปี่ยมด้วยพลัง ซึ่งรวมไปถึงโลกแห่งฟุตบอล ด้วย ‘Hublot Loves Football’ (‘อูโบลท์รักฟุตบอล’) ที่กลายเป็นสโลแกน ณ การแข่งขันกีฬาอันยิ่งใหญ่สูงสุดระดับโลก (เช่น FIFA World CupTM (ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ), Premier League (พรีเมียร์ ลีก), UEFA Champions LeagueTM (ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก), UEFA EUROTM (ยูฟ่า ยูโร)) รวมถึงผ่านเหล่าแอมบาสซาเดอร์ของแบรนด์ ความรักต่อฟุตบอลนี้ยังขยายต่อเนื่องไปยังสาขาแห่งศิลปะ, งานออกแบบ, ดนตรี, กีฬา, สไตล์แห่งอาหารไฟน์ไดนิ่งและการแล่นเรือ ท้ายสุด กับความสัมพันธ์ของ Hublot ภายในโครงการความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ ทั้งร่วมกับ SORAI (โซไร) และ Polar Pod (โพลาร์ พอด) ที่ล้วนสะท้อนถึงความเอาใจใส่ในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมของวันนี้ โดยผ่านเครือข่ายบูติกเกือบ 125 แห่งทั่วโลกที่ได้ร่วมแลกเปลี่ยนซึ่งความมุ่งมั่นศรัทธาอันแรงกล้าและคุณค่าของ Hublot พร้อมด้วยแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ Hublot.com
ติดตามข่าวสารได้ทาง: @Hublot @Hublot_Bangkok #Hublot #HublotBangkok #ClassicFusionOriginal
21 พ.ย. 2567
21 พ.ย. 2567
21 พ.ย. 2567
22 พ.ย. 2567