Last updated: 20 ม.ค. 2566 | 486 จำนวนผู้เข้าชม |
เจิดจรัส น่าหลงใหล เปี่ยมด้วยความสนุกสนาน และเป็นดั่งไอคอนิก! เวลาส่งเสียงเป็นจังหวะของ Bulgari (บุลการี) ด้วยผลงานนาฬิกาประดับอัญมณีของเมซงแห่งโรม ที่ผสานด้วยช่วงเวลาอันล้ำค่าสูงสุดของชีวิต ภายใต้งานออกแบบอันเป็นไอคอนิกและเทคนิคอันกล้าหาญที่แสดงออกว่า “เวลาคืออัญมณี” (“Time is a Jewel”)
เริ่มต้นปี ค.ศ. 2023 นี้ ผลงานสร้างสรรค์อันเป็นสัญลักษณ์ของ Bulgari ได้ประดับตกแต่งด้วยอัญมณีอันแวววาวเจิดจรัสและความกล้าที่จะรังสรรค์ซึ่งโฉมหน้าใหม่ๆ ขณะที่ยังคงไว้ด้วยจิตวิญญาณอันหยั่งรากลึกอยู่ในดีเอ็นเอของแบรนด์ ด้วยความมีสีสัน ภายใต้รูปทรงเรขาคณิต และภาษางานออกแบบสไตล์อิตาเลียนอันเข้มข้น รวมถึงความล้ำค่าที่สืบทอดมาอย่างต่อเนื่องด้วยภาษาเชิงสร้างสรรค์ของ Bulgari ที่วิวัฒนาการมาอย่างมั่นคงนับตั้งแต่แรกเริ่ม เหมือนดั่งเหล่าผลงานชิ้นมรดกของแบรนด์ได้แสดงออกไว้อย่างชัดเจน โดยช่างอัญมณีและช่างนาฬิกาผู้เชี่ยวชาญพิเศษนี้ได้มอบชีวิตให้กับเหล่าผลงานสร้างสรรค์อันไร้กาลเวลาอีกครั้ง และถ่ายทอดซึ่งรหัสแห่งความสวยงามที่กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ด้วยสีสันและความสนุกสนานของ Divas’ Dream (ดีวาส์ ดรีม) ชีวิตอันแสนหวานแห่ง Dolce Vita (โดลเซ วิตา) ได้มอบให้ชั่วโมงต่างๆ นั้นเต้นระบำไปตามท่วงทำนองของช่วงขณะเวลาอันสำคัญสำหรับความเป็นนิจนิรันดร์ Bulgari ได้ร่วมเฉลิมฉลองศิลปะแห่งการใช้ชีวิตสไตล์อิตาเลียน และความสง่างามวิจิตรของยุคทองของโรม ในฐานะ “ผู้เชี่ยวชาญแห่งสีสัน” (“Master of Colours”) ที่ได้รังสรรค์ให้กลีบดอกประดับอัญมณีของ Divas’ Dream สามารถสั่นไหว และนำเสนอซึ่งการไล่เฉดอันสมบูรณ์แบบของแซฟไฟร์สีน้ำเงินและสีชมพูบนเรือนเวลา Divas’ Dream Mosaica (ดีวาส์ ดรีม โมเซกา)
Serpenti (เซอร์เพนติ) อันงดงามสะกดจิตวิญญาณไว้ด้วยความโค้งที่มิอาจเลียนแบบได้ และมอบชีวิตชีวาให้กับชื่อเสียงของ คอลเลกชั่นในฐานะไอคอนอย่างแท้จริง ด้วยสัญลักษณ์แห่งพลัง งูได้ถือกำเนิดขึ้นใหม่ภายใต้รูปลักษณ์อันล้ำค่า ผ่านผลงานรุ่น Serpenti Tubogas Infinity (เซอร์เพนติ ทูโบกาส อินฟินิตี้) กับโครงสร้างแบบโมดูลของสายสร้อยข้อมือที่ได้มาจากความเชี่ยวชาญทางเทคนิคซึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกนับจาก Tubogas (ทูโบกาส) ผู้ประกาศถึงความเป็นไปได้เชิงสร้างสรรค์ที่ไม่มีสิ้นสุด ขณะที่ Serpenti Seduttori (เซอร์เพนติ ซีดัตทอรี) อันสง่างามได้นำเสนอวิสัยทัศน์อันชวนหลงใหลด้วยหน้าปัดแล็กเกอร์สีดำ
Divas' Dream
ด้วย Divas’ Dream แบรนด์ Bulgari เฉลิมฉลองศิลปะแห่งการใช้ชีวิตของโรมัน กับความมีชีวิตชีวาด้วยสีและอารมณ์ จิตวิญญาณอันสนุกสนานและเปี่ยมด้วยความสุขแห่ง Dolce Vita ได้ฉายประกายผ่านความสวยงามอันล้ำค่าและรุ่มรวยจากภายนอก โดยในยุค 1950s เมซงได้เสริมความโดดเด่นด้วยสไตล์การเจียระไนคาโบชองคัต (cabochon cut) และการผสมผสานอันงดงามของอัญมณีสีสว่างไสว กับเฉดสีรุ้งของอัญมณีที่เบ่งบานภายใต้งานออกแบบอันล้ำเลิศ สะท้อนถึง “เวลาคืออัญมณี” สำหรับ Bulgari ที่ช่างฝีมือได้ดึงแรงบันดาลใจมาจากยุคทองของโรม และรูปทรงพัดของใบแปะก๊วย รวมถึงจำลองสไตล์โมเสกจากพื้นที่ทอดตัวอย่างสง่างาม ณ โรงอาบน้ำคาราคัลลา (Baths of Caracalla) ของโรม ศิลปะแห่งเครื่องประดับอัญมณีและศิลปะแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาได้มาบรรจบและหลอมรวมเป็นหนึ่งรายล้อมลวดลายนี้ ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามอันเป็นไอคอนิก และสะท้อนอ้างอิงถึงความคิดสร้างสรรค์อันแสนวิเศษ ด้วยความแวววาวเหมือนเช่นเคย Dolce Vita แห่ง Divas’ Dream แสดงออกถึงธรรมชาติที่สองของ Buglari นั่นคือ Master of Colours
เครื่องประดับอัญมณี Bulgari นับจากยุค 1980s ถึง 1990s อาทิ เข็มกลัด และสร้อยคอ ล้วนแสดงออกให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของงานฝีมือเฉพาะที่ไม่ธรรมดา ภายใต้รัศมีของความงดงามล้ำเลิศและเต็มเปี่ยมด้วยความสนุกสนาน เมซงแห่งนี้ได้ผสมผสานหลากหลายรูปทรงและเฉดสีไว้ภายใต้สัดส่วนและขนาดที่ผ่านการออกแบบมาอย่างดี และต่อมา ในปี ค.ศ. 1991 เฮาส์ (House) แห่งนี้ยังคงเดินหน้าประกาศถึงงานฝีมืออันแสนวิเศษในการสร้างสรรค์ลวดลายประดับอัญมณีอันซับซ้อนทันสมัย อาทิ ลวดลายซึ่งประดับตกแต่งบนต่างหูรูปปลา Naturalia (เนทูราเลีย) กับความเชี่ยวชาญเดียวกันในการสร้างรูปอัญมณีสู่ความประณีตวิจิตรของงานออกแบบที่ยังคงเดินหน้าด้วยผลงานสร้างสรรค์ใหม่ๆ ของ Divas’ Dream
Divas' Dream
กลีบดอกเคลื่อนไหวอันล้ำค่าที่พลิ้วไหวรอบๆ โฉมหน้าอันแวววาวราวไข่มุกของ Divas’ Dream มอบซึ่งชีวิตชีวาโดยการเคลื่อนไหวของข้อมือ รูปทรงเหล่านี้ยังคล้ายกับใบแปะก๊วยอันเป็นสัญลักษณ์ถึงการหลอมรวมเป็นหนึ่งของสิ่งที่ตรงกันข้าม ภายในรุ่นนี้ Bulgari ได้ผสมผสานความเข้มแข็งของอัญมณีเข้ากับความลื่นไหลของกลีบดอกไม้รูปทรงพัด ทั้งโทแพซ, แทนซาไนต์, อเมทิสต์, ทัวร์มาลีน, ทับทิม และเพชร ที่ล้วนเป็นอัญมณีแห่งสีสันอันสุกสกาวเจิดจรัส เปี่ยมล้นด้วยถ้อยคำสัญญาที่เสริมเสน่ห์ให้กับ Divas’ Dream ใหม่ ถ่ายทอดผ่านเฉดสีน้ำเงินบนรุ่นแรก และสีม่วงอ่อนในรุ่นที่สอง
ความสวยงามของโรสโกลด์ขัดเงา ณ ฐานของกลีบดอกนั้นยังผสมผสานเข้ากับประกายอันแวววาวของเพชร ขณะที่บนรุ่นที่สาม ประดับไว้ด้วยทับทิมสีแดงเข้มแปดเม็ด สีอันเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีและความมั่งคั่งในวัฒนธรรมเอเชียในช่วงเวลาแห่งเทศกาลเฉลิมฉลองตรุษจีน โดยตัดด้วยลวดลายประดับเพชรเต็มพื้นที่ ผลงานแต่ละรุ่นของ Divas’ Dream เหล่านี้ฉายประกายแสงอันเรืองรองบนสายซึ่งจับคู่กันอย่างสมบูรณ์แบบ และมอบงานออกแบบอันบางเบาและสง่างามที่เป็นดั่งหัวใจของการสร้างสรรค์สำหรับ Bulgari
Divas’ Dream Mosaica
เรือนเวลา Divas’ Dream Mosaica สองรุ่นใหม่อันล้ำค่า ได้แสดงออกอย่างแท้จริงถึงความเชี่ยวชาญในเครื่องประดับอัญมณีและการประดิษฐ์นาฬิกาของ Bulgari ด้วยหน้าปัดประดับอัญมณีเต็มพื้นที่กับลวดลายรูปทรงพัดที่เชื้อชวนให้หวนนึกถึงลวดลายโมเสกซึ่งตกแต่งภายในโรงอาบน้ำคาราคัลลา กับการไล่เฉดสีของแซฟไฟร์อย่างลุ่มลึก นับจากสีชมพูอ่อนจนถึงสีแดงม่วงสำหรับเวอร์ชันแรกของโรสโกลด์ และนับจากสีฟ้าสกายบลู (sky blue) จนถึงสีอซัวร์ (azure) สำหรับรุ่นที่สองภายใต้รูปโฉมของไวท์โกลด์ แถบคาดตกแต่งทำจากทองขัดเงายังเสริมขอบอันคมชัดให้กับงานออกแบบนี้ และตัดกับพื้นหลังของการประดับเพชรเจียระไนบริลเลียนต์คัต อัญมณีสีสดใสได้มอบความสว่างไสวให้กับชั่วโมงต่างๆ บนขอบตัวเรือน และเม็ดมะยมที่ประดับด้วยเพชรเจียระไนคาโบชองคัตอันเป็นสัญลักษณ์ของบุลการี
สำหรับ Divas’ Dream Mosaica ในตัวเรือนโรสโกลด์โอบรับข้อมือด้วยสายหนังจระเข้สีม่วง ติดตั้งด้วยตัวพับล็อกสายทำจากทองและประดับเพชรแววาวเจิดจรัส โดยงานออกแบบของหูตัวเรือนเชื่อมสายประดับเพชรของสายสร้อยข้อมือนี้ยังสะท้อนถึงลวดลายเดียวกันของหน้าปัด ขณะที่ Divas’ Dream Mosaica พร้อมด้วยแซฟไฟร์สีน้ำเงินจับคู่มากับสายสร้อยข้อมืออันงดงามที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยช่างทองของบุลการี เหมือนดั่งดวงดาวพร่างพราวมากมาย ที่แต่ละข้อสายรูปทรงพัดนี้ฉายประกายแสงแวววาวด้วยความรุ่มรวยของเพชร ส่วนฝาหลังโปร่งใสได้เผยให้เห็นกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติที่ตกแต่งอย่างประณีตจากโรงงานการผลิตนาฬิกา Bulgari Watch Manufacture ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นาฬิกาอันล้ำค่าเหล่านี้เชื้อชวนให้หวนนึกถึงต้นกำเนิดของเมซง อย่าง โรมัน เช่นเดียวกับในฐานะช่างอัญมณีและช่างนาฬิกาที่สะท้อนถึงการเป็น “ช่างอัญมณีแห่งเวลาของโรมัน” (“Roman Jeweller of Time”) อย่างแท้จริง
Allegra
สีสันและรูปทรงที่ส่องประกายแสงแวววาวระยิบระยับด้วยความล้ำค่าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนของ Allegra (อัลเลกรา) บุลการีได้หลอมรวมความแวววาวสไตล์ค็อกเทลสดใสด้วยความน่าประหลาดใจ และมอบชีวิตชีวาให้กับแนวคิด “เวลาคืออัญมณี” โดยอัญมณีต่างๆ ทั้ง ทัวร์มาลัน, ซิทริน, โรโดไลท์ และเพอริดอท ได้ถ่ายทอดซึ่งความหลากหลายของรูปทรงอันเปี่ยมด้วยความสนุกสนาน ผสานรวมเข้ากับแซฟไฟร์สีชมพูและสีเหลือง สร้างซึ่งภาพลักษณ์อันเจิดจรัสเป็นครั้งแรกที่เปิดตัวในช่วงฤดูร้อนของปี ค.ศ. 2022 พร้อมทั้งถ่ายทอดเสน่ห์ของดวงอาทิตย์ (Sun) ด้วยความสุขอันสง่างามผ่าเผย
Serpenti
Serpenti Tubogas Infinity
การถือกำเนิดใหม่อย่างไม่สิ้นสุด สติปัญญาและพลัง ได้แสดงออกผ่านความโค้งอันสง่างามและเย้ายวนใจของงู สัตว์แห่งตำนาน พร้อมด้วยเสน่ห์อันเย้ายวนราวกับเครื่องรางนี้คือความหลงใหลของ Bulgari เสมอ โดยผลงานสร้างสรรค์งู หรือ serpenti (เซอร์เพนติ) ในภาษาอิตาลีชิ้นแรกๆ นั้นถ่ายทอดภายใต้รูปทรงเรขาคณิตอันเปี่ยมด้วยสไตล์ในรูปแบบของนาฬิกานับตั้งแต่แรกเริ่มในปี ค.ศ. 1948 ด้วย Tubogas (ทูโบกาส) ที่โอบรับข้อมือด้วยการเคลื่อนไหวราวลูกคลื่น สายที่โอบรับข้อมือนี้นับเป็นผลลัพธ์ของเทคนิคอันซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการรังสรรค์ขึ้นจากขดลวดทองหรือสตีลยาวหลายเมตร โดยในช่วงปลายทศวรรษ 50s Serpenti ได้เปลี่ยนแปลงอีกครั้งกับโฉมหน้าที่มีความเหมือนจริงมากขึ้น และใช้รูปทรงของฝาปิดสำหรับซ่อนตัวเรือนของนาฬิกาสไตล์ secret’ watches ขณะที่ลวดลายเกล็ดงูได้ประยุกต์ใช้การตกแต่งด้วยงานลงยาสีและอัญมณีล้ำค่า โดยในปี ค.ศ. 2010 Bulgari ได้หลอมรวมสองไอคอนไว้ด้วยกันในเวอร์ชันอันร่วมสมัย ด้วยตัวเรือนอันคดเคี้ยวของนาฬิกา Serpenti ซึ่งจัดวางไว้ด้านบนสุดของสายสร้อยข้อมือทูโบกาส ตามมาด้วยในปี ค.ศ. 2022 บุลการีได้เปิดตัวครั้งแรกของกลไกจักรกลทรงกลมที่มีขนาดเล็กที่สุด อย่าง Piccolissimo caliber BVL 100 (พิคโคลิสซิโม คาลิเบอร์ บีวีแอล 100) ซึ่งติดตั้งไว้ภายในเรือนเวลา Serpenti High Jewellery (เซอร์เพนติ ไฮ จิวเวลรี) และสำหรับปี ค.ศ. 2023 นี้ Serpenti ได้สร้างการเปลี่ยนรูปให้กับงูขึ้นอีกครั้ง ที่สะท้อนถึงความเป็นไปได้อันประณีตวิจิตรและหลากหลาย นั่นคือ ผลงานรุ่น Serpenti Tubogas Infinity (เซอร์เพนติ ทูโบกาส อินฟินิตี้) ที่ตอกย้ำถึงสไตล์อิตาเลียนและความเชี่ยวชาญอันเข้มข้นของ Bulgari
งูแห่งตำนานของ Bulgari กล้าที่จะอยู่ภายใต้การเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนรูปครั้งใหม่เสมอ เมื่องูตัวนี้ได้เลื้อยเข้าสู่ผิวอันล้ำค่าและสร้างสรรค์อย่างไม่มีสิ้นสุด ด้วย Serpenti Tubogas Infinity และสำหรับครั้งแรกนี้ โครงร่างของงูยังคงมาจากตัวเรือนนาฬิกาทั้งหมดไล่เรื่อยไปจนจรดสายสร้อยข้อมือ อันเป็นผลลัพธ์มาจากการประดับตกแต่งอัญมณีอย่างประณีตไว้บนโครงสร้างแบบโมดูลของผลงาน ส่วนวงแหวนต่างๆ นั้นถูกขึ้นรูปอย่างวิจิตร ซึ่งแต่ละชิ้นล้วนมีสัดส่วนเฉพาะตัวต่างกัน ก่อนที่จะผ่านการขัดเงา ประดับตกแต่งอัญมณี และประกอบกันบนแผ่นไทเทเนียม ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคือ Serpenti Tubogas Infinity งูตัวใหม่อันเจิดจรัสแวววาวของ Bulgari ด้วยประกายแสงระยิบระยับของเพชรที่ขยายไปยังส่วนหัวของงู พร้อมจุดประกายแสงด้วยการประดับตกแต่งแบบสโนว์เซ็ตติ้งบนหน้าปัด รวมถึงขอบตัวเรือนประดับอัญมณี และเพชรแปดเม็ดบนความโค้งของตัวเรือนทั้งหมดยังจำเป็นต้องอาศัยเพียงความเชี่ยวชาญระดับสูง ขณะที่เมซงจากโรมนี้ยังนำเสนอการแสดงออกครั้งใหม่ของนาฬิกา Serpenti ไว้ในสองเวอร์ชันแรก โดยติดตั้งตามลำดับด้วยสายสร้อยข้อมือแบบพันหนึ่งขดหรือพันสองขด ซึ่งเป็นเทคนิคที่สืบทอดมาจากอิสรภาพแห่งการสร้างสรรค์อย่างไร้พรมแดน ทั้งสองรุ่นใหม่ผ่านการคิดค้นขึ้นเสมือนกับผิวหนังที่สอง และยังคงเดินหน้าเฉลิมฉลองให้กับความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดและแน่นแฟ้นระหว่าง Serpenti และผู้สวมใส่
Serpenti Seduttori
ผลงานอันมิอาจต้านทานของ Serpenti Seduttori (เซอร์เพนติ ซีดัตทอรี) ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 2019 โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก Tubogas อันเป็นไอคอนิก ขณะที่ งู หรือ serpenti ในภาษาอิตาลี กลายเป็นต้นกำเนิดของจินตนาการและงานออกแบบสำหรับบุลการีมานับตั้งแต่เริ่มต้น เปรียบดั่งสัญลักษณ์ของความเข้มแข็ง พลังและการเกิดใหม่ ที่สัตว์แห่งตำนานนี้คือตัวแทนของเสน่ห์อันเย้ายวนใจอย่างแท้จริงและสะท้อนความเป็นผู้หญิงได้อย่างงดงามเจิดจรัสด้วย Serpenti Seduttori กับตัวเรือนโค้งอันเป็นเอกลักษณ์และมิอาจเลียนแบบได้นี้ที่ประยุกต์ใช้มาจากรูปทรงของหัวงู ซึ่งบุลการีได้ขยายความต่อเนื่องไว้ด้วยสายสร้อยข้อมือลาย สแกจลี (scaglie) หรือเกล็ด (scale) ทรงหกเหลี่ยมผสานกันอย่างสมบูรณ์แบบเสมือนผิวหนังที่สองอันเย้ายวนใจ และได้แรงบันดาลใจโดยบรรดานาฬิกา secret’ Serpenti watches ยุค 1960s สายสร้อยข้อมือนี้ยังเชื่อมต่อกันอย่างประณีตวิจิตรภายใต้การใช้รูปทรงเรขาคณิตซ้ำๆ ในการรังสรรค์องค์ประกอบของสายขึ้นอย่างเชี่ยวชาญ เส้นสายอันเป็นไอคอนิกของ Serpenti Seduttori ถ่ายทอดสัมผัสอันมีชีวิตชีวาที่เป็นผลลัพธ์มาจากความเชี่ยวชาญของโรงงานการผลิตนาฬิกา Bulgari ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่วัสดุและอัญมณีล้ำค่าได้นำมาใช้ในแต่ละผลงานสร้างสรรค์ของคอลเลกชั่น พร้อมทั้งผนึกซึ่งพลังแห่งความเย้ายวนดึงดูดใจ และเปลี่ยนรูปเวลาไปสู่ความลื่นไหลของช่วงขณะอันล้ำค่าอย่างไร้สิ้นสุด
นาฬิกา Serpenti Seduttori สองรุ่นใหม่มาพร้อมหน้าปัดแล็กเกอร์สีดำเข้มที่เสริมเสน่ห์อันรุ่มรวยให้กับคอลเลกชั่นซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากงูแห่งตำนาน โดยเฉพาะการตัดกันกับหน้าปัดนาฬิกา ที่ในรุ่นแรกนั้นรังสรรค์ตัวเรือนจากสตีล ขณะที่รุ่นที่สองผสมผสานระหว่างสตีลและความสวยงามของโรสโกลด์ ตัวเรือนคดเคี้ยวอันชวนหลงใหลนี้ยังส่องประกายสว่างไสวบนด้านข้างด้วยเม็ดมะยมซึ่งประดับยอดด้วยรูเบลไลต์สีชมพูอันเป็นดั่งสัญลักษณ์ของช่างอัญมณีแห่งโรมัน ประกอบคู่มากับสายสร้อยข้อมือพร้อมลวดลายเกล็ดสัญลักษณ์ที่ปรากฏเสมือนหลอมรวมอย่างไร้ที่ติสู่ตัวเรือน ส่วนตัวพับล็อกสายสวมใส่สะดวกสบายนี้ยังครองไว้ซึ่งการแสดงออกอันลุ่มลึกของความสง่างามร่วมสมัยที่กระชับรับกับข้อมือได้อย่างสมบูรณ์ ตัวแทนของวิถีอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของการจับและจดจำไว้ซึ่งช่วงขณะเวลาอันทรงคุณค่านี้ได้นำมาซึ่งประกายแสงแวววาวเจิดจรัสให้กับการทุกๆ วันของชีวิต…
21 พ.ย. 2567
21 พ.ย. 2567
21 พ.ย. 2567
21 พ.ย. 2567