ROLEX New Watches 2023

Rolex พิสูจน์ให้เห็นถึงการแสวงหาความเป็นเลิศอย่างไม่ลดละของตัวเองอีกครั้งผ่านการสร้างสรรค์ครั้งใหม่ ความท้าทายครั้งล่าสุดได้แสดงผ่านความตั้งใจของแบรนด์ในการพัฒนาทุกชิ้นส่วนให้ออก มาสมบูรณ์แบบ โดยตั้งคําถามกับทุกก้าวในกระบวนการผลิต และเปี่ยมไปด้วยความรู้ความเชี่ยวชาญของการผลิตนาฬิกาในทุกแง่มุม การเปิดตัวนาฬิกาครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความปรารถนาที่จะ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ โดยก้าวข้ามสิ่งที่เคยทําและรังสรรค์บรรทัดฐานใหม่ๆ พร้อมกับแสดงศักยภาพด้านเทคโนโลยีการผลิตอันหาญกล้า นี่คือสิ่งที่ต้องใช้แรงใจเป็นอย่างสูงเพื่อให้ได้เรือนเวลาที่เป็นต้นแบบและเหนือกว่าเรือนเวลาใดๆ ด้วยการแสดงวิสัยทัศน์ที่ “เหนือชั้น” ในกระบวนการสร้างสรรค์ทั้งหมดไปจนถึงรายละเอียดอันประณีตที่สุด เมื่อเวลาผ่านไปนาฬิกาเหล่านี้จะกลายเป็นไอคอนอันล้ําค่า

Oyster Perpetual Cosmograph Daytona
ไอคอนที่ยังคงยืนยงเหนือกาลเวลา
ประสิทธิภาพทางเทคนิคและสไตล์ที่แตกต่างทําให้ Cosmograph Daytona กลายเป็นที่จดจําอย่างกว้างขวางไม่เฉพาะเพียงในสนามแข่งรถเท่านั้น ในวาระครบรอบ 60 ปีของนาฬิการุ่นนี้ Rolex มุ่งมั่นที่จะสานต่อตําานานผ่านการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ด้วยเทคนิคที่มีความเที่ยงตรงสูง ไล่ตั้งแต่ตัวเรือนและสายไปจนถึงกลไกการทํางาน

Cosmograph Daytona โฉมใหม่นําาเสนอรูปลักษณ์อันงดงามกลมกลืนกว่าเดิมและดูทันสมัยยิ่งขึ้น กราฟิกบนหน้าปัดมีการปรับเปลี่ยนให้ดูลงตัวยิ่งขึ้น เส้นแสงอันงดงามได้สะท้อนขึ้นจากขาสายนาฬิกาและด้านข้างของตัวเรือนตรงกลางที่ผ่านการออกแบบขึ้นใหม่ ส่วนเวอร์ชันที่มีขอบตัวเรือน Cerachrom ขอบหน้าปัดจะเป็นวัสดุโลหะแบบเดียวกับตัวเรือนตรงกลาง กลไกการทํางาน 4131 รุ่นใหม่ทํางานร่วมกับชุดกลไกปล่อยจักร Chronergy ตัวดูดซับแรงกระแทก Paraflex และลูกเหวี่ยงแบบใหม่ที่มีการเพิ่มสมรรถนะของตลับลูกปืนเม็ดกลม กลไกคาลิเบอร์รุ่นนี้มาพร้อมกับการตกแต่งแบบ Rolex Côtes de Genève และลูกเหวี่ยงเจียระไน ลูกเหวี่ยงในนาฬิกาของเวอร์ชันแพลทินัม 950 ทําขึ้นจากทองคํา 18 กะรัต และผู้สวมใส่สามารถมองเห็นได้ผ่านตัวเรือนด้านหลังแบบโปร่งใสที่ผลิตขึ้นเป็นครั้งแรกในคอลเลกชัน Oyster Perpetual การปรับเปลี่ยนและวิวัฒนาการมาหลายต่อหลายครั้งของ Cosmograph Daytona ยังเป็นเครื่องเตือนใจถึงการทะยานสู่ความเป็นเลิศในการแข่งขันที่ไร้จุดสิ้นสุดด้วย

Perpetual 1908
โฉมหน้าใหม่ของความเป็นเลิศ
นาฬิกา Rolex Perpetual 1908 ถือเป็นนาฬิการุ่นหนึ่ง ที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความท้าทายที่ยังคงยืนยงเหนือกาลเวลา ด้วยความเรียบหรู คลาสสิก หากแต่ยังคงร่วมสมัยอย่างแท้จริง แนวคิดนี้เป็นผลพวงจากความชํานาญที่แบรนด์มีอย่างเปี่ยมล้นและความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่สู่ความ เป็นเลิศ เรือนเวลาโฉมใหม่นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกา Rolex เรือนแรกที่มาพร้อมกับโรเตอร์ Perpetual อันเป็นเรือนเวลาที่แสดงออกถึงการมาถึงของคอลเลกชัน Perpetual ซึ่งตีความนาฬิกาข้อมือรุ่นดั้งเดิมเสียใหม่ผ่านเลนส์มองโลกที่แปลกแหวกแนวไปจากเดิมของ Rolex

ชื่อ ‘1908’ มาจากปีที่ เครื่องหมายการค้า 'Rolex' ได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มรดกตกทอดในการผลิตนาฬิกาของ Rolex สื่อผ่านรูปทรงของเข็มนาฬิกา เครื่องหมายบอกชั่วโมง ทรงเหลี่ยมเพชร และขอบหน้าปัดนาฬิกาทรงโดมที่ผ่านการเซาะร่องอย่างดี นาฬิการุ่นนี้ยังเล่นแสงและเปล่งประกายอย่างประณีต ณ จุดตกกระทบที่แสงและเงามาบรรจบกัน ทําให้ 1908 นั้นงดงามและหาได้ยาก

นาฬิการุ่น 1908 มีให้เลือกในเวอร์ชันทองคํา 18 กะรัตและทองคําขาว พร้อมหน้าปัดสีขาวเข้มและสีดําเข้ม และตัวเรือนที่เพรียวบาง ตัวเรือนด้านหลังแบบใส เผยให้เห็นมุมมองใหม่ที่งดงาม และกลไกการทําางานที่ตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ ได้รับการรับรอง Superlative Chronometer ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรู้ความชาน าญของ Rolex ในเรื่องเทคโนโลยีและการออกแบบนาฬิกานั้นเพียบพร้อมไปด้วยความงามและสมรรถนะ การทํางานด้วยกลไกคาลิเบอร์ 7140 พร้อมเข็ม วินาทีขนาดเล็ก นอกจากนวัตกรรมที่นําไปสู่การยื่น ขอจดสิทธิบัตร 5 ฉบับแล้ว ยังมีกลไกการทํางาน ดีไชน์และการผลิตที่ออกแบบมาเฉพาะนาฬิการุ่นนี้ โดยมาพร้อมกับการตกแต่งแบบ Rolex Côtes de Genève และลูกเหวี่ยงที่ทําจากทองคํา 18 กะรัต

นาฬิการุ่น 1908 ติดตั้งมาพร้อมสายนาฬิกาหนัง จระเข้เดินขอบสีเขียว และตัวล็อกแบบ Dualclasp รุ่นใหม่ล่าสุด เรือนเวลานี้ ถือเป็นนาฬิกาคลาสสิกที่ยกระดับศิลปะการผลิตนาฬิกาให้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดจุดใหม่ แถมยังกรุยทางให้ Rolex เป็นนาฬิกาที่เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณดั่งเดิม แต่แฝงไว้ซึ่งความทันสมัยและมุ่งหมายที่จะสร้างเส้นทางใหม่สาหรับอนาคต

Oyster Perpetual Yacht-Master 42
เจ้าแห่งความบางเบา
นาฬิกา Yacht-Master 42 โฉมใหม่ มาพร้อมกับไทเทเนียม RLX ที่บางเบาแต่แข็งแรง ถือเป็นเพื่อนรู้ ใจสําหรับผู้ใฝ่หาอิสรภาพ นาฬิการุ่นนี้ได้หลอมรวมความเป็นเลิศของการผลิตนาฬิกาเข้ากับการแข่งขันกีฬาได้อย่างลงตัว จึงเหมาะอย่างยิ่งสําหรับโลกที่เปี่ยมไปด้วยความกดดันและแสวงหาความสําเร็จในการแข่งขันเรือใบ

ไทเทเนียม RLX ที่ใช้ผลิตตัวเรือนและสาย Oyster นั่นเป็นโลหะอัลลอยที่มีน้ําหนักเบาเป็นพิเศษและมาพร้อมคุณสมบัติที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและเหมาะสําหรับกลไกที่แข็งแรง นอกจากนี้ นาฬิการุ่นนี้ยังแสดงศักยภาพชั้นเลิศของแบรนด์ในการแต่งผิวให้มีความเงางามสูงและใช้เทคนิคการแต่งผิวลายชาติน ทําให้นาฬิการุ่นนี้กลายเป็นความลงตัวระหว่างพื้นผิวและการเล่นแสงผ่านพื้นผิวเคลือบเงาบนขอบด้านบนของขาสายนาฬิกาและความแวววาวของขอบป้องกันเม็ดมะยม ซึ่งตัดกับเกล็ดระยิบระยับจากการแต่งผิวลายชาติน

นาฬิกา Yacht-Master 42 โฉมใหม่เป็นนาฬิการุ่นที่สองของแบรนด์ที่ผลิตด้วยไทเทเนียม RLX หลังจากรุ่น Oyster Perpetual Deepsea Challenge ก่อนหน้า ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่านํ้าหนักที่เบาของนาฬิกาคือคุณภาพที่ต้องให้ความสําคัญอย่างจริงจัง

Oyster Perpetual Sky-Dweller
สู่ความเป็นที่สุดและเหนือกว่า
นาฬิการุ่น Sky-Dweller ที่มาพร้อมกับหน้าปัดที่แสดงสองเขตเวลาและปฏิทินรายปี Saros ได้กลายมาเป็นคู่หูผู้งดงามและน่าเชื่อถือของนักเดินทางทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา ทางแบรนด์ได้พัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์มากมายที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเลิศของแบรนด์ แม้ในรายละเอียดที่เล็กที่สุดของนาฬิกา ส่วนหนึ่งของการประดับประดาอันงดงามมาในรูปแบบของตัวเลือกและการผสมผสานใหม่ๆ โดยในครั้งนี้ แบรนด์ได้ใช้ทองคําขาว 18 กะรัตในการผลิตตัวเรือนรุ่นนี้อีกครั้ง ทั้งยังจับคู่กับหน้าปัดสีดําสว่างและสาย Oysterflex พร้อมตัวล็อกสายแบบ Oysterclasp และระบบขยายสาย Rolex Glidelock เพื่อความสะดวกสบายในการสวมใส่ นอกจากนี้ Sky-Dweller ยังมาพร้อมหน้าปัดสีใหม่ ได้แก่ สีเขียวมิ้นต์ที่ดูประณีตใน เวอร์ชัน white Rolesor และหน้าปัดคู่สีฟ้า-เขียวสุดหรู บนตัวเรือน Everose gold 18 กะรัต และสายนาฬิกา Oyster

นอกจากนี้ นาฬิกาโฉมใหม่ยังมาพร้อมกับวิวัฒนาการทางเทคนิคในรูปแบบของกลไกการทํางานที่มาพร้อมความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของ Rolex กลไกคาลิ เบอร์ 9002 ทํางานพร้อมชุดกลไกปล่อยจักร Chronergy และลูกเหวี่ยงที่มาพร้อมตลับลูกปืนเม็ดกลมแบบปรับได้เพื่อเพิ่มสมรรถนะของนาฬิกา

Oyster Perpetual GMT-Master Ii
เชื่อมต่อความสัมพันธ์กับโลกทั้งใบ
สําหรับปีนี้ นาฬิการุ่น GMT-Master || เปิดตัวสองเวอร์ชันใหม่ ได้แก่ เวอร์ชันทองคํา 18 กะรัตและ เวอร์ชัน yellow Rolesor โดยมาพร้อมขอบหน้าปัด Cerachrom จากเชรามิกคู่สีใหม่อย่างคู่สีเทาและสีดํางานฝีมืออันเป็นแบบอย่างได้สะท้อนผ่านตัวเลือกวัสดุและความแม่นยําาของพื้นผิว ซึ่งจะเห็นได้ชัดเมื่ออยู่ใต้แสงไฟที่เหมาะสม ความต่างอันลงตัวของทองคําอันแวววาวบนสายนาฬิกา Jubilee และขอบหน้าปัดสองสีที่แสดงเส้นทางของดวงอาทิตย์และการเปลี่ยนผ่านระหว่างกลางวันและกลางคืนผ่านโทนสีที่เข้มขรึม

นอกจากนี้หน้าปัดเคลือบเงาสีดําพร้อมเข็มแสดงเวลา 24 ชั่วโมงจากทองคํา 18 กะรัตนั้น ยิ่งขับเน้น ความเรียบหรูของนาฬิกาเรือนนี้ออกมามากขึ้น จึงเน้นความสัมพันธ์ระหว่างผู้สวมใส่และโลกใบนี้ผ่านการแสดงเขตเวลาที่สองในเสี้ยวนาที

Oyster Perpetual Explorer 40
การผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Explorer ขยายใหญ่ขึ้นด้วย สมาชิกใหม่ล่าสุดอย่างนาฬิการุ่นที่มีขนาด 40 มม. เรือนเวลานี้มาพร้อมกับความคมชัดที่มากขึ้น ทั้งยังมาพร้อมคุณภาพที่ทําให้ชื่อของ Explorer เป็นที่พูดถึงมานับทศวรรษในฐานะนาฬิกาสําหรับมืออาชีพเรือนแรกของแบรนด์ Explorer 40 โฉมใหม่รังสรรค์ขึ้นจาก Oystersteel ซึ่งเป็นโลหะอัลลอยสูตรเฉพาะของ Rolex ทําให้ได้ตัวเรือนที่เรียบง่าย หากแต่แข็งแรงและทนทานต่อการกัดกร่อน

ตัวเรือนตรงกลาง สายนาฬิกา ไปจนถึงชุดตัวล็อกที่ผ่านการขัดเงาซาติน มาพร้อมกับตัวเรือนเคลือบขอบด้านข้างที่เล่นกับแสงไฟ เป็นการพัฒนาที่เพิ่มความสดใหม่ให้กับนาฬิกาที่เป็นเครื่องมือที่โด่งดังที่สุดรุ่นนี้ นอกจากนี้ สายนาฬิกา Oyster ซึ่งมาพร้อมกับชุดตัวล็อก Oysterlock และระบบขยายความยาวสาย Easylink ยังช่วยให้ขับเน้นดีไซน์ที่กลมกลืนลงตัวและสวมใส่สบายมากขึ้น

Oyster Perpetual
ความเป็นเลิศที่ทอประกายแวววาว
หน้าปัดเคลือบเงาโฉมใหม่ของ Oyster Perpetual 31 มม., 36 มม. และ 41 มม. อันเปี่ยมชีวิตชีวาด้วยสีสันและพลังบวกนั่นแต่งแต้มด้วยจุดที่เคลือบเงาสีสดใสถึงห้าสีที่เปิดตัวในกลุ่มผลิตภัณฑ์เมื่อปี 2020

รูปลักษณ์ที่ดูสดใสมีชีวิตชีวานี้เป็นผลผลิตของเทคนิคที่ เชี่ยวชาญ การเคลือบเงานั้นเกิดขึ้นในสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการควบคุมเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกจากฝุ่น ทั้งยังทําให้การเคลือบ แต่ละสีนั้นมีความแม่นยํามากขึ้น

Oyster Perpetual Day-Date 36
ทุกหน้าปัดเป็นการค้นพบครั้งใหม่
นาฬิกา Day-Date 36 รุ่นใหม่ล่าสุดมาพร้อมหน้าปัด ที่ทําจากหินตบแต่งสีสันแวววาวราวกับจําลองภาพชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนมาไว้บนหน้าปัดนาฬิกาตัวเรือนเอเวอโรส 18 กะรัต ทองคําขาวและ ทองคํานั้นจับคู่กันอย่างลงตัวกับหินอะเวนจูรีนสีเขียวคาร์เนเลียนและเทอร์ควอยซ์ตามลําดับ คริสตัล เมทริกซ์และสายแร่ที่ไม่เหมือนใครของหน้าปัดนาฬิกามาจากหินตกแต่งเหล่านี้ ซึ่งแปรสภาพหน้าปัดให้กลายเป็นงานศิลปะที่เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์

หินเหล่านี้จะแสดงศักยภาพของมันเมื่อได้รับการตบแต่งบนนาฬิกา จากนั้นจึงดําเนินการตกแต่งหน้าปัดแต่ละชิ้นให้ตรง ตามมาตรฐานด้านคุณภาพของแบรนด์ นาฬิกา Day-Date 36 รุ่นใหม่เป็นเครื่องแสดงถึงความรู้ ความเชี่ยวชาญในศาสตร์การทําหน้าปัดของ Rolex ทั้งยังเป็นเครื่องพิสูจน์ฝีมือชั้นหนี่งของแบรนด์ในศิลปะการ ตบแต่งหน้าปัดด้วยการฝังอัญมณีอีกด้วย ส่วนผสมอันลงตัวของหินสีชั้นหนึ่ง อัญมณี และโลหะมีค่าขับเน้นความสง่างามเหนือใครของนาฬิกาอันทรงเกียรตินี้

Oyster Perpetual Day-Date 36
ประทับเวลาด้วยอารมณ์
Rolex นําความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่มีใครคาดถึงมาบรรจุลงนาฬิการุ่นดังแบบ Day-Date 36 ในเวอร์ชันเหล่านี้ นาฬิการุ่นนี้ตอบสนองชีวิตประจําวันที่เปลี่ยนไปในแต่ละวันของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี ทั้งยังเอื้อให้ผู้อ่านสามารถอ่านเวลาได้ในทุกช่วงอารมณ์ ด้วยการแสดงความรู้สึกแบบใหม่ๆ ในทุกวัน หน้าต่างแสดงวันสามารถแสดงค่าพูดสร้างแรงบันดาลใจต่างๆ เช่น 'ความรัก' ความสงบสุข” และ ความหวัง” เป็นต้น

หน้าต่างแสดงวันที่จะแสดงอารมณ์ผ่านอิโมจิ 31 แบบที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะรุ่น หน้าปัดยังแสดงสวดลายที่แปลกใหม่และมีสีสันที่สดใส ภายใต้แนวคิดที่มองว่าชีวิตเป็นเหมือนปริศนาที่ต้องแก้ในทุกวัน โดยแต่ละส่วนประกอบแสดงผ่านสัญลักษณ์แทนช่วงเวลาสําคัญต่างๆ ในชีวิต ผลงานอันประณีตนี้เป็นผลมาจากเทคนิคการเคลือบอีเนาเมลอันเยี่ยมยอดโดยช่างทําหน้าปัดฝีมือเยี่ยมของ Rolex จนกลายมาเป็นหน้าตาหลากหลายแบบที่สะท้อนถึงปริศนาหลากหลายแง่มุมในชีวิตของเรา

***********

เกี่ยวกับ Rolex
เหนือกว่าด้วยคุณสมบัติและความเชี่ยวชาญ
Rolex เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตนาฬิกอิสระสัญชาติสวิส สํานักงาน ใหญ่ของแบรนด์นั้นตั้งอยู่ที่กรุงเจนีวา และได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในเรื่องของความเชี่ยวชาญและคุณภาพอันยอดเยี่ยมของ ผลิตภัณฑ์ ซึ่งแสดงความเหนือชั้นอย่างสง่างามและทรงภูมิ กลไก การทํางานของนาฬิการุ่น Oyster Perpetual และ Perpetual ได้ รับการรับรองโดย COSC ซึ่งเป็นการทดสอบเป็นการภายในเพื่อ วัดคุณสมบัติด้านความเที่ยงตรง ประสิทธิภาพในการทําางาน และ ความน่าเชื่อถือ การรับรอง Superlative Chronometer ที่มีตรา สัญลักษณ์กรีนชลเป็นเครื่องยืนยันว่านาฬิกาได้ผ่านการทดสอบ ภายในห้องปฏิบัติการของ Rolex ตามเกณฑ์ที่บริษัทได้กําหนดขึ้น ซึ่งจะมีการตรวจสอบเป็นระยะโดยองค์กรอิสระจากภายนอก

คําว่า “Perpetual” ได้รับการสลักอยู่บนนาฬิกา Oyster ของ Rolex ทุกเรือน ซึ่งเหนือกว่าคําหนึ่งคําบนหน้าปัดนาฬิกา คํานี้ ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์และค่านิยมของบริษัท Hans Wilsdorf ผู้ก่อตั้ง Rolex ยืนหยัดปลูกฝังแนวคิดเรื่องความเป็นเลิศมาอย่างยาวนาน เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนที่ผลักดันบริษัทให้ไปข้างหน้า สิ่งนี้ ทําให้ Rolex ก้าวสู่การเป็นผู้นําด้านการพัฒนานาฬิกาข้อมือและเป็นต้นกําเนิดของนวัตกรรมในการผลิตนาฬิกาอีกมากมาย เช่น Oyster นาฬิกาที่มีประสิทธิภาพในการกันน้าได้เรือนแรกของโลกที่ เปิดตัวในปี 1926 และ Perpetual นาฬิกาที่มีกลไกขึ้นลานอัตโนมัติ ด้วยโรเตอร์ Perpetual ในปี 1931 Rolex ได้จดทะเบียนสิทธิบัตรไว้ มากกว่า 600 ฉบับตลอดระยะเวลาแห่งประวัติศาสตร์ของแบรนด์

แบรนด์ได้สร้างสี่ไซต์งานในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อออกแบบ พัฒนา และดําเนินกระบวนการผลิตชิ้นส่วนสําคัญของนาฬิกา ทั้งหมดด้วยตัวเอง โดยเริ่มตั้งแต่การหลอมโกลด์อัลลอยู่ ไปจนถึง การตัดด้วยเครื่องจักร การแกะสลัก การประกอบและตกแต่งกลไก การทํางาน ตัวเรือน หน้าปัด และสายนาฬิกา นอกจากนี้ แบรนด์ ยังได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนงานศิลปวัฒนธรรม กีฬาและ การสํารวจ รวมทั้งส่งเสริมเหล่าองค์กรต่างๆ ที่คิดค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาในการทําให้โลกใบนี้ยั่งยืน