Last updated: 15 พ.ค. 2566 | 481 จำนวนผู้เข้าชม |
ก้าวสู่โลกแห่งจิตนาการผ่านผลงานการรังสรรค์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Hermès (แอร์เมส ) ซึ่งเป็นมากกว่าเครื่องบอกเวลา สำหรับนาฬิกา Hermès ได้สะท้อนการเล่าเรื่องราวเหนือจินตนาการโดยฝีมืออันเปี่ยมด้วยทักษะของเหล่าศิลปินช่างหัตศิลป์แห่งHermès รวมถึงระยะเวลาและความพิถีถันในการรังสรรค์ผลงานสู่การถ่ายทอดความงดงามหนึ่งเดียวบนหน้าปัดนาฬิกา ทำให้เรือนเวลา Hermès ทั้ง 4 เรือนนี้คงความน่าอัศจรรย์ดั่งภาพวาดขนาดเล็กบนนาฬิกาข้อมือที่ผสมผสานความลงตัวของผลงานศิลปะและความชำนาญของช่างฝีมือ
1 Arceau Wow
เรือนเวลา Arceau Wow คงความคิดสร้างสรรค์แบบดั้งเดิมไว้อย่างต่อเนื่องที่เมื่อสองปีก่อน ศิลปินนักวาดหนังสือการ์ตูน Ugo Bienvenu (อูโก้ เบียนเวนู) ได้ร่วมออกแบบผ้าพันคอไหมอันน่าประทับใจให้กับ Hermès และตั้งชื่อให้ว่า Wow (ว้าว)
เรือนเวลา Wow นับเป็นการนำเอาจิตวิญญาณของนักขี่ม้าที่เป็นสัญลักษณ์ของ Hermès มารังสรรค์ผลงานศิลปะนำพาไปสู่โลกแห่งการ์ตูนได้อย่างน่าอัศจรรย์ นักออกแบบได้ถ่ายทอดท่าทางการกระโดดขึ้นบนอานม้า พร้อมกับการวางเท้าลงบนโกลน เพื่อนำเสนอภาพของรูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดเล็กราวกับช่องภาพสไตล์หนังสือการ์ตูน ที่จัดวางไว้ภายในรูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ของผ้าพันคอไหม ทั้งรูปทรงสี่เหลี่ยม ช่องคำพูด และการเคลื่อนไหว ที่เล่าเรื่องราวผ่านฉากของฮีโร่หญิงผู้เดินทางข้ามกรุงปารีสในชุดเจ็ตสกี รองเท้าสเก็ตบนรถ และแน่นอนว่ารวมไปถึงบนหลังม้าที่ปราฏนักกอล์ฟหญิงผู้มีอารมณ์ขัน
งานออกแบบนั้นเริ่มต้นจากการผลิตขึ้นใหม่ด้วยหมึกสีดำ ที่สามารถมองเห็นได้บนทั้งสองด้าน และเป็นการนำทางไปสู่สัมผัสอันเชี่ยวชาญของศิลปินจวบจนลายเส้นพู่กันสุดท้าย จากนั้นการตกแต่งทั้งหมดของลวดลายเหล่านี้จะถูกวาดขึ้นด้วยมือบนแผ่นชิ้นงานด้านแรก ด้วยเฉดสีพาสเทลหรือสีอ่อนที่ค่อยๆ บรรจงวาดลงทีละสี และด้วยความหนาพอสำหรับมอบมิติความลุ่มลึกให้กับงานออกแบบ ขณะเดียวกันก็บางพอที่จะปล่อยให้แสงส่องผ่านได้ เป็นความสมดุลอันลุ่มลึกละเอียดอ่อนที่ต้องอาศัยงานหัตถศิลป์อันเชี่ยวชาญและประณีตสูงสุด โดยใช้ประมาณ 20 ชั้นของการวาดสีเพื่อนำเอาทุกๆ มิติอันแตกต่างกันแม้เพียงเล็กน้อยของงานออกแบบนี้ให้เผยออกมา แต่ละชั้นยังต้องผ่านการเผาภายในเตาไฟที่อุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส เพื่อสร้างความแข็งแรงและทนทานให้กับเม็ดสีอันล้ำค่า จวบจนผลงานที่น่าอัศจรรย์ผ่านความชำนาญของช่างฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ของนักออกแบบเกิดเป็นเรือนเวลาซึ่งมอบศิลปะแห่งโลกการ์ตูนให้แก่ผู้สวมใส่
2 Arceau Les folies du ciel
เรือนเวลา Arceau Les folies du ciel (อาร์โซ เล ฟอลี ดู เซียล) ที่ได้ผสมผสานความงดงามของภาพวาด งานแกะสลัก และการเคลื่อนไหวอย่างมีชีวิตชีวา สู่การสร้างสรรค์ องค์ประกอบอันมีเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียว ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากลวดลายโดดเด่นบนผืนผ้าพันคอไหม Les folies du ciel (เล ฟอลี ดู เซียล) ของ Loïc Dubigeon (ลออิก ดูบิเจียน) ซึ่งออกแบบขึ้นในปี ค.ศ. 1984 เพื่อเป็นเกียรติแก่วิทยาศาสตร์และการศึกษาเกี่ยวกับอากาศธาตุ โดยถ่ายทอดถึงช่วงเวลาในยุคแรกเริ่มเหล่านั้น ระหว่างพื้นดินและอากาศ ระหว่างความฝันและความจริง และในที่สุด เมื่อมนุษย์เรานั้นสามารถโบยบินได้ ผ่านการศึกษาวิจัยมากมายถึง 18 โครงการ นับตั้งแต่การศึกษาที่จริงจังและสำคัญที่สุดไปจนถึงการศึกษาอันเหนือจินตนาการ การหลีกหนี การค้นพบและการใฝ่รู้ ล้วนหล่อหลอมในหัวใจของการเดินทางที่ถ่ายทอดผ่าน Les folies du ciel ก่อนที่เครื่องบินจะกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเดินทางข้ามผืนดินและท้องทะเล
เรือนเวลา Arceau Les folies du ciel เผยความงดงามวิจิตรบนหน้าปัดเปลือกหอยมุกด้วยพื้นผิวเหลือบสีที่สามารถมองเห็นได้ผ่านควันอันบางเบาที่ปล่อยออกจากปล่องไฟ รวมถึงภาพของฮอตแอร์บอลลูนสีชมพูนีโอราไลต์และสีเขียวสองลำที่โบยบินไปตามคลื่นสายลม โดยผืนผ้าใบซึ่งผ่านกระบวนการเผาภายในเตาได้รังสรรค์ความโค้งและมีมิตินูนต่ำ เสมือนดั่งภาพของลมร้อนที่ค่อยๆ เติมเข้าไปในบอลลูน และพาบอลลูนให้ค่อยๆลอยลำ พร้อมที่จะบินขึ้นสู่ท้องฟ้า ขณะที่แต่ละพื้นผิวยังผ่านการขัดเงาด้วยมือเพื่อมอบซึ่งรัศมีแห่งประกายแสงอันเจิดจรัส ราวกับล่องลอยเหนือขึ้นไปบนฉากอันมีชีวิตชีวา ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา คือบอลลูนที่เคลื่อนไหวซึ่งวาดขึ้นด้วยมือและนำมาติดบนหน้าปัด ผ่านการออกแบบอย่างสมดุล และสามารถหมุนอยู่บนแกนในจังหวะเดียวกันกับการเคลื่อนไหวของข้อมือผู้สวมใส่ แสดงออกถึงความบางเบา และมอบซึ่งสัมผัสอันเหนือจินตนาการที่เป็นดั่งต้นตำรับในผลงานสร้างสรรค์ของ Hermès
3 Arceau Hermes Story Marquetry
เรือนเวลา Arceau Hermes Story (อาร์โซ แอร์เมส สตอรี) สะท้อนถึงการเดินทางผ่านทุ่งหญ้าสะวันนา และเสียงโจษจันที่กระซิบอย่างแผ่วเบาผ่านพรรณไม้เลื้อย และสายลมโชยซึ่งกวาดกระเพื่อมไปทั่วทั้งผืนหญ้าอันไร้พรมแดน Hermès Horloger เผยโฉมเรือนเวลารุ่นใหม่ที่เชื่อมโยงถึงชีวิต การเล่น และจินตนาการ พร้อมทั้งแสดงออกถึงความเชี่ยวชาญอันแสนพิเศษ กับการผจญภัยครั้งใหม่ในผืนป่าแห่งการประดิษฐ์รังสรรค์เรือนเวลเป็นเวลาเกือบ 45 ปีต่อมา
การบุกเบิกสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่นี้ได้หวนคืนกลับสู่ฉากแห่งความวิเศษเหนือจินตนาการของการประดิษฐ์นาฬิกาครั้งใหม่ โดยผ่านผลงาน Arceau Hermès story ที่เล่นกับเวลาและการก้าวอยู่เหนือแฟชั่นที่โลกแห่งดิจิทัลทั้งหมดได้ล้วนแสดงออกผ่านทักษะเชิงศิลป์อันเก่าแก่ ที่ซึ่งสิ่วสลักและปากกาตัดไม้ได้ครองอำนาจสูงสุด รวมถึงมวลมิติของทองที่สลักรูปด้วยมืออย่างประณีต เรือนเวลา Arceau Hermès story ได้ถ่ายทอดภาพความโดดเด่นอันเป็นหัวใจของเหล่าสัตว์อันแสนวิเศษเหล่านี้ การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะผ่านเสือที่ประกอบขึ้นจากงานต่อลายไม้ มอบความน่าอัศจรรย์ราวกับผลงานที่มีชีวิตพร้อมด้วยดวงตาเทอร์ควอยซ์นี้ได้ผสมผสานขึ้นจากไม้พลัม ทิวลิปวูด มะกอกเทา เมเปิ้ล และไซคามอร์หรือไม้ตระกูลมะเดื่อ รวมแล้วถึง 290 ชิ้นที่ถูกตัดอย่างพิถีพิถัน พร้อมทั้งย้อมสีและประกอบเข้าด้วยกันทีละชิ้นทีละชิ้น โดยเพียงเฉพาะเสือตัวเดียวนั้นจำเป็นต้องใช้เวลาถึงห้าวันของการทำงาน เพื่อมอบซึ่งความเสมือนจริงและความลุ่มลึกมีมิติของรายละเอียดทั้งหมด
4 Arceau Hermès Story Mother of Pearl
เรือนเวลา Arceau Hermès story เรื่องราวนี้ได้ถือกำเนิดขึ้นจากลวดลายดินสอสีของนักออกแบบชาวอังกฤษ จอห์น เบอร์ตัน (John Burton) ผู้ซึ่งได้ออกแบบผ้าพันคอไหม Hermès Story เมื่อไม่นานมานี้ ในคอลเลกชันฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2022 โดยภายในผลงานชิ้นนี้ เขาได้ตีความใหม่ให้กับการใช้โซเชียลมีเดียต่างๆ ด้วยศิลปะหนึ่งเดียวของการสร้างฉากที่นำมาสู่อาณาจักรเหนือจินตนาการ ที่เขาได้พรรณนาผ่านการจ้องมองของบรรดาฝูงสัตว์ประจำถิ่นหลากหลายชนิด ซึ่งสร้างอารมณ์สนุกสนานและขบขันด้วยการที่สัตว์เหล่านั้นกำลังเซลฟีหรือถ่ายภาพของตนเอง เช่น ยีราฟที่ผูกหูกระต่ายอย่างหรูหรา นกทูแคนสวมหมวกทรงสูง และเต่ากับหมวกใบโปรด ซึ่งแน่นอนว่าย่อมเป็นหมวกทรงโบว์เลอร์ที่บ่งบอกความเป็นชาวอังกฤษของ จอห์น เบอร์ตัน และ ณ ใจกลางของฉาก ยังปรากฏภาพของนักขี่ผู้สง่างามบนม้าไม้ประดับอัสสาภรณ์ ซึ่งได้ร่วมถ่ายทอดเป็นภาพการหวนกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของเหล่าสัตว์ และสร้าง “ความชื่นชอบ” หรือ “ไลค์”
เรือนเวลา Arceau Hermès story ที่ถ่ายทอดผ่านการวาดภาพย่อส่วนบนเปลือกหอยมุก ผสมผสานหลากหลายขั้นตอนของการเคลือบเงา ขัดเงา และขัดเรียบด้วยมือ โดยการตกแต่งด้วยชั้นต่างๆ ถึง 20 ชั้นหรือมากกว่าระหว่างสีสันอันหลากหลาย ที่ออกแบบขึ้นเพื่อเผยเฉดสีที่แตกต่างกันแม้เพียงเล็กน้อย และมอบภาพของแสงสะท้อนอันแวววาวระยิบระยับสะกดสายตา จากการทำงานตลอดแปดวัน และตามมาด้วยขั้นตอนของการเผาภายในเตาอีกเล็กน้อย ที่กลวิเศษแห่งงานฝีมือนี้จึงได้เผยขึ้น ผ่านภาพของเจ้าหญิงที่ปรากฏโฉมบนม้าไม้ของเธอ ณ ใจกลางวงล้อมของเหล่าสัตว์ ที่ซึ่งทั้งนกทูแคน เต่า นกยูง นกนางแอ่นและกระต่าย ได้ครองจุดที่ดีที่สุดของฉากสำหรับการถ่ายภาพตนเอง ในบรรยากาศของชานเมืองอันเต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวแห่งความมีชีวิตชีวา
21 พ.ย. 2567
21 พ.ย. 2567
21 พ.ย. 2567
22 พ.ย. 2567