BLANCPAIN Quantième Perpétuel

The Manufacture หรือ สำนักรังสรรค์นวัตกรรมเรือนเวลาของ Blancpain (บลองแปง) ที่ตั้งอยู่ ณ หมู่บ้าน Le Brassus (เลอ บราซูส์) เดินหน้ารังสรรค์เรือนเวลาอันเป็นเลิศทั้งในด้านกลไกและรูปลักษณ์อันงดงามมาอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการฉลองปีอธิกสุรทินหรือปีที่เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วันนั้น The Manufacture มีความยินดีอย่างยิ่งที่จะนำเสนอเรือนเวลา Villeret Quantième Perpétuel (วิลเลอเรต์ ควองเตียม แปร์เปตูแอล) รุ่นใหม่ ในตัวเรือนเรดโกลด์ ซึ่งมาพร้อมกับหน้าปัดโทนสีเขียวอันหรูหราและน่าหลงใหลเป็นครั้งแรก

คอลเลคชั่น Villeret ถ่ายทอดดีเอ็นเอของเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าสนเขียวชอุ่มแห่งนี้ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งเมื่อนำมาประกอบกับความรู้ความเชี่ยวชาญของ Blancpain ทำให้คอลเลคชั่น Villeret กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความคลาสสิคเหนือกาลเวลา โดยสื่อถึงความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันอย่างแน่นแฟ้นระหว่าง the Manufacture กับการประดิษฐ์เรือนเวลาในแบบฉบับสวิสที่เต็มไปด้วยสุดยอดความซับซ้อนอันน่าทึ่ง โดยกลไก perpetual calendar หรือกลไกปฏิทินถาวร ได้ถ่ายทอดจิตวิญญาณดังกล่าวด้วยความสามารถในการแสดงวัน วันที่ เดือน และปีอธิกสุรทินได้อย่างแม่นยำโดยไม่ต้องปรับตั้งใด ๆ จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2100 ซึ่งเป็นเดือนที่ไม่จัดว่าอยู่ในปีอธิกสุรทิน เนื่องจากเป็นปียกเว้นตามระบบปฏิทินแบบ Gregorian หรือปฏิทินแบบตะวันตก ที่จะเกิดขึ้นในทุก ๆ สามศตวรรษจากสี่ศตวรรษ

สำหรับ Blancpain ระบบกลไกนี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่น moon phase แสดงข้างขึ้นข้างแรม ที่โดดเด่นด้วยสีหน้าของพระจันทร์อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งรูปลักษณ์เฉพาะในแบบฉบับของ the Manufacture นี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นฟูนวัตกรรมกลไกแห่งเรือนเวลาและเทคนิคขั้นสูงในช่วงวิกฤตยุค 1970 ที่ Blancpain เฝ้าฟูมฟักด้วยเป้าประสงค์ที่ต้องการจะฟื้นฟูศิลปะกลไกแขนงนี้ด้วยการพิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่มีสิ่งใดที่จะมาแทนที่นาฬิการะบบบกลไกเช่นนี้ได้ ซึ่งการเผยโฉมของกลไก moon phase ได้ให้กำเนิดกลไกซับซ้อนขั้นสูงอีกมากมายในเวลาต่อมา ไม่เพียงแค่กลไก perpetual calendar หรือที่เรียกว่ากลไกปฏิทินถาวรเพียงเท่านั้น และในปี 2024 ซึ่งเป็นปีอธิกสุรทินนี้ the Manufacture ได้ตอกย้ำความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านการผลิตเรือนเวลาที่มาพร้อมกลไกการทำงานอันซับซ้อนอีกครั้ง ด้วยการเผยโฉมเรือนเวลา Villeret Quantième Perpétuel รุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยกลไกขึ้นลานอัตโนมัติรหัส 5954 สามารถสำรองพลังงานได้นาน 72 ชั่วโมง มาพร้อมกับเทคนิคการตกแต่งอันแสนประณีต โดยสามารถชื่นชมความงดงามของโรเตอร์เรดโกลด์ทรงรังผึ้งและบาลานซ์สปริงทำจากซิลิคอนผ่านคริสตัลแซฟไฟร์ได้จากด้านหลังตัวเรือน

ฟังก์ชั่น perpetual calendar ซึ่งมีกลไกการทำงานอันซับซ้อนนี้ ประกอบด้วยสองคุณสมบัติที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้สวมใส่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย คุณสมบัติแรกคือระบบป้องกันไม่ให้กลไกปฏิทินได้รับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการปรับตั้งนาฬิกาในขณะที่กลไกกำลังทำงาน ส่วนคุณสมบัติที่สองคือ under-lug correctors หรือปุ่มปรับตั้งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ขาตัวเรือนนาฬิกา ซึ่งเป็นระบบที่ Blancpain เป็นผู้คิดค้นขึ้นและเปิดตัวครั้งแรกต่อสาธารณชนในปี 2004 เพื่อใช้กับกลไก perpetual calendar ระบบกลไกสิทธิบัตร under-lug correctors นี้ช่วยให้สามารถปรับตั้งเวลาปฏิทินได้อย่างง่ายดายผ่านคันโยกเล็ก ๆ ใต้ขาตัวเรือน โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือใด ๆ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความงดงามเรียบร้อยให้กับตัวเรือนเนื่องจากปราศจากปุ่มสำหรับจิ้มเพื่อปรับปฏิทิน หมดปัญหาข้างตัวเรือนไม่เรียบเนียนที่เรียกว่า “dimples” หรือ “ลักยิ้ม” และยังลดปัญหาการเผลอกดปุ่มปรับตั้ง ดังเช่นที่มักพบในนาฬิการะบบปฏิทินทั่วๆ ไป องค์ประกอบต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ถูกส่งเสริมด้วยการจัดวางเลย์เอาท์ของการแสดงเวลาบนหน้าปัด ซึ่งถึงแม้ว่ากลไกจะมีระบบการทำงานที่ซับซ้อน (กลไกทั้งหมดถูกคิดค้นและผลิตขึ้นโดย Blancpain) แต่การแสดงข้อมูลต่าง ๆ บนหน้าปัดยังถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบให้สามารถอ่านค่าได้ง่าย ทั้งยังคงไว้ซึ่งความงดงามของงานดีไซน์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สีเขียวบนหน้าปัดขัดแต่งลาย sunburst ถ่ายทอดความเขียวชอุ่มของป่าสนใน Vallée de Joux (วาลเลย์ เดอ ฌู) ที่ซึ่งช่างทำนาฬิกาฝ่ายกลไกขั้นสูง Grandes Complications ได้รังสรรค์กลไกปฏิทินนี้ขึ้น มาพร้อมสายหนังจระเข้สีน้ำตาลสื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ของแคว้นนี้ ที่หล่อเลี้ยงให้การพัฒนาความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมเรือนเวลาเติบโตอย่างงดงามสมบูรณ์มาหลายต่อหลายทศวรรษ นอกจากนี้ตัวนาฬิกายังมาพร้อมกับ ซิกเนเจอร์อันโดดเด่นของคอลเลคชั่น Villeret นั่นคือ ตัวเรือนแบบ double-stepped หรือตัวแบบสองชั้น (ขนาด 40 มม.) รวมถึงเข็มและหลักชั่วโมงที่มาในวัสดุเรดโกลด์ ให้อารมณ์ที่แตกต่างอย่างลงตัวกับความงดงามของเรือนเวลาโทนสีอบอุ่นเรือนนี้

เรือนเวลา Quantième Perpétuel ใหม่นี้ มาพร้อมด้วยกลไกที่ซับซ้อนแต่ทว่าใช้งานได้ง่าย พร้อมดีไซน์ที่ผสมผสานหน้าปัดสีเขียวเข้ากับตัวเรือนเรดโกลด์ได้อย่างลงตัว ทำให้เป็นนาฬิกาที่คู่ควรกับการเฉลิมฉลองปี 2024 ซึ่งเป็นปีอธิกสุรทินนี้