CREDOR Eichi II

นับตั้งแต่ที่ Credor (เครดอร์) ถือกำเนิดขึ้นมาใน ค.ศ.1974 ผลงานสร้างสรรค์แต่ละรุ่นได้แสดงให้ประจักษ์ถึงความงดงามของสุนทรียภาพในแบบฉบับญี่ปุ่น ที่ผสมผสานเข้ากับความเป็นเลิศในการประดิษฐ์นาฬิกา อันเป็นคุณลักษณะที่ทำให้คอลเลกชั่น Credor มีชื่อเสียงโด่งดัง ชื่อ Credor มีที่มาจากคำในภาษาฝรั่งเศสว่า crete d’or (เคทดอร์) หรือ “crest of gold” (เครสต์ ออฟ โกลด์ - ยอดแห่งทองคำ) อันเป็นคำที่บ่งบอกถึงระดับสูงสุดของศิลปะการประดิษฐ์นาฬิกา และเนื่องในโอกาสที่ ค.ศ.2024 เป็นวาระแห่งการครบรอบ 50 ปีของ Credor เอดิชั่นพิเศษของ Eichi II (ไอชิ ทู) อันมีชื่อเสียงโด่งดัง จึงถูกใช้เป็นนาฬิกาสำหรับการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสนี้

Eichi (ไอชิ) รุ่นแรกเมื่อ ค.ศ.2008 และผู้สืบทอดอันได้แก่ Eichi II เป็นนาฬิกาที่ได้รับความชื่นชมอย่างสูงจากทั่วโลก ทั้งในด้านดีไซน์ที่เรียบง่าย การตกแต่งที่พิถีพิถัน เทคโนโลยีที่อยู่ในกลไก และที่สำคัญที่สุดก็คือ ความงดงามแบบเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยความประณีตพิถีพิถันจากหน้าปัดกระเบื้องพอร์ซเลนที่บรรจงลงสีด้วยมือ

นาฬิกาที่ระลึกเอดิชั่นนี้ มากับหน้าปัดกระเบื้องพอร์ซเลนสีน้ำเงินเข้มซึ่งเรียกว่า รูริ อันเป็นคำในภาษาญี่ปุ่นของ ลาพิส ลาซูลี แผ่นหน้าปัดที่มีความโค้งอย่างอ่อนโยน เกิดขึ้นได้จากการเคลือบพอร์ซเลนอย่างพิถีพิถัน เพื่อสร้างแรงตึงผิวและทำให้เกิดรูปทรงโค้งเพียงเล็กน้อย การเคลือบพอร์ซเลนเช่นนี้ยังก่อให้เกิดเอฟเฟกต์ที่ทำให้ผู้สวมใส่สามารถเพลิดเพลินไปกับโทนสีต่าง ๆ ของหน้าปัด ตามแต่มุมมองและความสว่างของสภาพแวดล้อม

หลักชั่วโมงทั้งสิบเอ็ด ตราสัญลักษณ์ Credor ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และตัวอักษร Credor ล้วนถูกเขียนขึ้นด้วยมือโดยช่างฝีมือแห่ง ไมโคร อาร์ติสต์ สตูดิโอ เวิร์กช็อปผลิตนาฬิการะดับสูงที่นาฬิการุ่นนี้ถูกผลิตขึ้น หลังจากที่หน้าปัดถูกเผาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทองจะถูกเขียนลงบนผิวเคลือบของหน้าปัดเพื่อสร้างความอบอุ่นและความงามแบบหลายมิติ ซึ่งมีเพียงงานฝีมือในระดับสูงสุดเท่านั้นที่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ เทคนิคนี้เป็นรูปแบบเดียวกับ ‘รูริ-คินไซ’ ซึ่งเป็นงานฝีมือแบบดั้งเดิมที่มีชื่อเสียงโด่งดังแต่พบเห็นได้ยากและได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในสมัยเอโดะ ที่ทองจะถูกเคลือบทับบนวัสดุที่ถูกเคลือบสีแบบ รูริ อย่างกระเบื้องพอร์ซเลน การลงทองด้วยความอุตสาหะและเทคนิคขั้นสูงบนหน้าปัดเคลือบสีแบบ รูริ ถูกประสานเข้ากับตัวเรือนทองเยลโลว์โกลด์ 18 เค ก่อให้เกิดความงดงามในรูปแบบเฉพาะตัวที่เหมาะสำหรับนาฬิกาที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีของ Credor

นาฬิการุ่นพิเศษขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลาน สปริงไดรฟ์ คาลิเบอร์ 7R14 ซึ่งมีฝาครอบตลับลานที่ตัดฉลุมาในรูปแบบของดอกระฆัง อันเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองชิโอจิริ ซึ่งเป็นถิ่นที่ตั้งของ ไมโคร อาร์ติสต์ สตูดิโอ สะพานจักรทั้ง 2 ชิ้นถูกตกแต่งด้วยมือ และขัดผิวที่แนวขอบมาอย่างเงางาม เพื่อสร้างความแวววาวอันเงียบสงบจากทุกมุมมอง ส่วนเข็มแสดงพลังงานสำรองและสกรูนั้นถูกนำไปผ่านกระบวนการให้ความร้อนด้วยมือเพื่อให้เกิดเป็นสีน้ำเงินสดใส และกลไกคาลิเบอร์นี้ยังมากับ ทอร์ค รีเทิร์น ซิสเต็ม* ระบบส่งกลับแรงบิด ที่ทำให้สามารถสำรองพลังงานได้นานถึง 60 ชั่วโมง

เกี่ยวกับ ไมโคร อาร์ติสต์ สตูดิโอ
ไมโคร อาร์ติสต์ สตูดิโอ เป็นเวิร์กช็อปสร้างนาฬิการะดับลักชัวรี่ ตั้งอยู่ใน ชิโอจิริ ซึ่งอยู่ในภูมิภาคชินชู สตูดิโอแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.2000 เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการ “เปิดเผย ตรวจสอบ ซึ่งฝึกฝนการใช้เทคโนโลยีและทักษะ ที่สืบทอดมาจากคนรุ่นก่อนของเรา เพื่อผลิตนาฬิการะดับลักชัวรี่ออกมา” คณะทำงานของสตูดิโอประกอบไปด้วยช่างฝีมือทั้งชายและหญิงผู้เชี่ยวชาญในเนื้องานตามสาขาของแต่ละคน ซึ่งรวมถึงการออกแบบกลไก การประกอบกลไก รวมไปถึงการขัดตกแต่งกลไกชั้นสูง

*ทอร์ค รีเทิร์น ซิสเต็ม (ระบบส่งกลับแรงบิด): เมื่อสปริงลานถูกขึ้นจนสุดและกำลังแรงบิดอยู่ที่ระดับสูงสุดแล้ว ประมาณ 30% ของพลังงานที่มีอยู่ จะไม่จำเป็นต้องใช้ในการรักษาความเที่ยงตรงของนาฬิกา อันเป็นสิ่งที่สูญเสียไปในกลไกนาฬิกาแบบปกติอีกต่อไป โดยระบบ ทอร์ค รีเทิร์น ซิสเต็ม จะใช้พลังงานนี้กรอกลับไปสู่สปริงลาน เพื่อเพิ่มพลังงานสำรอง

พบกับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
https://www.credor.com/en/lineup/detail/?no=GBLT996
หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ทักษทัศน์ ธรณ์รัชตนันท์ โทร. 063-426-5363